บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
นิทรา





นิทรา - พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ


"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

บล็อกที่แล้ว คลิก --->//www.bloggang.com/mainblog.php?id=balanceofsociety&month=01-01-2009&group=2&gblog=2


Create Date : 05 มกราคม 2552
Last Update : 5 มกราคม 2552 8:43:04 น. 2 comments
Counter : 790 Pageviews.

 
จากกรุงเทพธุรกิจ

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์

ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท

"3 x 3 : สูตรความสำเร็จ"
By thongma

การ ที่สินค้าใดสินค้าหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยความสามารถใน 3 มิติ และจะต้องใช้ 3 หลักการที่ทำให้ 3 มิติดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นได้ ผมจึงขอเสนอสูตรแห่งความสำเร็จของการดำเนินงานด้านการตลาด



ความสามารถ 3 หลักการ คือ Brand Equity Building, Value Creation และ Excellence นั่นหมายความว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการตลาดจะต้องสามารถทำให้ Brand มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นสินค้าที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน อาจจะเป็นความไม่เหมือนทางกายภาพที่มีอยู่จริง หรืออาจจะเป็นความไม่เหมือนที่เกิดจากการสื่อสารเรื่องราวของบริบทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Brand องค์ประกอบของบริบทของสินค้าสร้างความโดดเด่นให้ Brand ได้แก่



1. แนวความคิดอันเป็นที่มาของสินค้า (The Genesis of the Product Concept)



2. กระบวนการผลิตของสินค้า (Production Process)



3. คุณสมบัติต่างๆ ของสินค้า (Attributes)



4. จุดเด่นของสินค้า (Features)



5. คุณประโยชน์ของสินค้า (Benefits)



6. คุณค่าของสินค้า (Values)



7. ความสำเร็จของสินค้าด้านรางวัล ด้านความนิยม ด้านยอดขาย (Achievements)



8. บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง การวิจัยค้นคว้าที่อยู่เบื้องหลัง (Backgrounders)



9. ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของ Brand ดังกล่าว (Symbolic Meaning of the Brand)



10. การทำดีเพื่อสังคมขององค์กรที่เป็นเจ้าของ Brand (Social Contribution of the Brand)



การตลาดสามารถสร้าง Brand ได้สำเร็จ สินค้าภายใต้ Brand นั้นจะต้องมีคุณค่า (Value) ในสายตาของผู้บริโภค หมายความว่าคุณประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับจากสินค้านั้น จะต้องมากกว่าต้นทุนชีวิตที่ผู้บริโภคต้องใช้จ่ายไปในการตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งต้นทุนชีวิตของผู้บริโภคที่จะใช้เปรียบเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้จาก สินค้าคือ ต้นทุนทางการเงิน (Monetary Cost) ต้นทุนด้านเวลา (Time Cost) ต้นทุนด้านความพยายาม (Energy Cost) และต้นทุนทางใจ (Psychic Cost)



เมื่อใดก็ตามที่ผู้บริโภคได้รับคุณประโยชน์จากสินค้ามากกว่าต้นทุนชีวิต ทั้งสี่ด้านที่จะต้องใช้ไป สินค้านั้นก็มีคุณค่าในสายตาของเขา ซึ่งสิ่งที่นักการตลาดสามารถใช้สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภคได้ ก็จะมีคุณภาพของสินค้าที่คุ้มกับราคา การบริการที่ให้ความสะดวกสบายและความพึงพอใจแก่ผู้บริโภค คุณภาพของบุคลากรที่มีทักษะมนุษย์ที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้ ผู้บริโภค และภาพลักษณ์ของ Brand ที่สามารถสร้างความภูมิใจให้ผู้บริโภค



ในการสร้าง Brand Equity และสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในสายตาของผู้บริโภคนั้น นักการตลาดต้องมุ่งมั่นให้ทั้ง Brand Equity และคุณค่าดังกล่าวมีความเป็นเลิศ (Excellence) ในสายตาของผู้บริโภค ทั้งนี้เพราะการทำการตลาดนั้นมีการแข่งขัน ผู้บริโภคมีทางเลือกมาก ดังนั้น Brand ที่ผู้บริโภคเลือกจะต้องมีความเป็นเลิศในสายตาของเขา เพราะเมื่อผู้บริโภคได้เปรียบเทียบคุณลักษณะ คุณประโยชน์ จุดเด่นของ Brand ตลอดจนองค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นบริบทของ Brand แล้ว เขามั่นใจว่า Brand ที่เขาจะตัดสินใจเลือกนั้น มีความดีงามในระดับเป็นเลิศ อยู่เหนือกว่าสินค้าภายใต้ Brand อื่นๆ ที่เขาไม่ได้เลือก ด้วยเหตุนี้เอง นักการตลาดจึงต้องมีความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง จะได้รู้ว่าต้องพัฒนาสินค้าอย่างไร ต้องนำเสนอบริการแบบไหน ต้องสร้างภาพลักษณ์ของ Brand อย่างไร ต้องจัดจำหน่ายอย่างไร ต้องสื่อสารเรื่องราวของ Brand อย่างไร จึงจะทำให้ Brand มีความเป็นเลิศในสายตาของผู้บริโภคจนทำให้เขาตัดสินใจที่จะเลือก Brand ดังกล่าวแทนที่จะเลือก Brand อื่นๆ



นั่นคือ 3 หลักการที่เป็น 3 แรกของสูตรแห่งความสำเร็จ ส่วนอีก 3 มิติที่เป็น 3 หลังของสูตรก็คือ การพัฒนาผลิตภาพ (Productivity) การบริหารห่วงโซ่แห่งอุปทาน (Supply Chain) และคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource) ทั้ง 3 มิตินี้จะต้องได้รับการใส่ใจเพื่อให้ 3 หลักการข้างต้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ในการสร้าง Brand สินค้าต้องดี และสินค้าจะดีระดับความเป็นเลิศได้ต้องมีการบริหารห่วงโซ่แห่งอุปทานที่ดี จะซื้อวัตถุดิบที่ใด ซื้อวัตถุดิบเวลาใด เงื่อนไขในการซื้อควรเป็นแบบไหน จะมีระเบียบและขั้นตอนในการสั่งซื้อเป็นอย่างไร การจัดส่งดำเนินการอย่างไร จึงจะทำให้ได้สินค้าที่ดีในระดับเป็นเลิศสำหรับผู้บริโภค



เมื่อมีการบริหารห่วงโซ่แห่งอุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มิติที่ 2 ของความสำเร็จคือการเพิ่มผลิตภาพ นั่นหมายถึงการทำงานที่ได้ผลผลิตในระดับสูง ด้วยเวลาที่รวดเร็วที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ของพนักงาน และความเร็วในการปฏิบัติหน้าที่ (Economy of Knowledge and Economy of Speed) ที่สำคัญผลผลิตที่ออกมาจะมีทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ คือผลิตได้มากด้วยความมีประสิทธิภาพในการบริหารการผลิต และมีพนักงานที่มีความรู้และทักษะที่เหมาะสมในการมีส่วนในการผลิต ต้องมีความใส่ใจของพนักงานที่มีทัศนคติที่ดี มุ่งมั่นสร้างผลงานในระดับที่เป็นเลิศ ไม่ใช่ระดับเพียงแค่ให้ผ่านเกณฑ์หรือระดับที่พอรับได้เท่านั้น และทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการภายใต้แผนงานด้านการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน เพื่อให้ระดับของความผิดพลาดเกือบเป็นศูนย์ตามหลักการของ Six Sigma
ไม่ ว่าจะเป็นการบริหารจัดการห่วงโซ่แห่งอุปทาน หรือการเพิ่มผลิตภาพจะต้องอาศัยทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ทำงานให้ได้ผลลัพธ์ดัง กล่าว ดังนั้นการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้องค์กรมีพนักงานที่มีความรู้หลัก และทักษะที่จำเป็นในการทำงาน ครบถ้วนตามแนวทางของการบริหารสมัยใหม่ที่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการ จัดการความรู้ การพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่ทำให้พนักงานทุกคนมีความสามารถในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ขณะเดียวกันต้องถือว่าทรัพยากรมนุษย์เป็น Soft Factor ของสูตรแห่งความสำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจะต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นคนที่มีทั้งความรู้ ทักษะ วิญญาณบริการ มนุษยสัมพันธ์ บุคลิกภาพ ทัศนคติที่ถูกต้อง ค่านิยมที่ดีงาม และที่สำคัญต้องมีความสามารถด้านปฏิสัมพันธ์ที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้ บริโภค และความภักดีในองค์กรเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำงานให้กับองค์กรด้วย ความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มศักยภาพ ทำให้ได้ผลงานที่โดดเด่นทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ
การจัดการธุรกิจสมัย ใหม่นั้น สูตร 3 x 3 ที่กล่าวมาข้างต้นถือได้ว่าเป็นกระบวนทัศน์ใหม่ที่ทำให้โอกาสแห่งความสำเร็จ ของธุรกิจมีมากขึ้น เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน.


โดย: คนเดินดินฯ IP: 58.8.154.220 วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:9:41:02 น.  

 
จากฐานเศรษฐกิจ

ช่องรวยด้วยเงิน 5 หมื่น >ฟังเจ้าของธุรกิจตัวจริงเสียงจริงพูด อยากเป็นเถ้าแก่พันธุ์ใหม่ทำได้อย่างไร
พลิก วิกฤติคนตกงาน สู่เส้นทางเถ้าแก่พันธุ์ใหม่ กำเงินล้านในพริบตา ฟังนักธุรกิจตัวจริงเสียงจริงผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ บอกแนวทางเลือกโอกาสที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ-ว่างงาน ระบุยังมีหลากธุรกิจรอรับทรัพย์ พร้อมชี้ช่องรวย เสกเงิน50,000 บาท ลงทุนอะไรดี ทำได้ง่าย เติบโตมั่นคง ต่อเนื่องไร้ความเสี่ยง สร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง หน่วยงานภาครัฐระดมแผนอัดฉีดเต็มที่ ชุบชีวิตคนตกงาน





ความฝันประการหนึ่ง ซึ่งแทรกอยู่ในความคิดของหลายๆคนคือความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง ด้วยเหตุผลนานัปการ อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นโอกาสมากกว่ากัน และถ้าหากมีเงิน 50,000 บาท จะลงทุนอะไรดี ที่ทำได้ง่ายๆเติบโตอย่างต่อเนื่องมั่นคง และไร้ความเสี่ยง ลองมาฟังเคล็ดลับจากนักธุรกิจตัวจริง ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ชี้ช่องหาเงินล้านที่เขาทำกันแล้วรวย ผ่าน"ฐานเศรษฐกิจ"ฉบับนี้ ซึ่งไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์คว้าโอกาสนี้

++ ตู้เติมเงินออนไลน์ เสือนอนกิน

นายกิตติ์ธนา ประเสริฐสุนทร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ธนทัต โซลูชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายตู้เติมเงินมือถืออัตโนมัติ แบรนด์ "Feel Top" เปิดเผยว่า จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์ประเภทเติมเงินในประเทศไทยของผู้ให้บริการรายใหญ่ อย่าง บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส ,บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน)หรือดีแทค และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ที่มีรวมกันกว่า 40 ล้านเลขหมาย โดย 90% นั้นเป็นผู้ใช้บริการแบบเติมเงินคิดเป็นมูลค่ารวมกันไม่น้อยกว่า 7 0,000 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่ายิ่งเศรษฐกิจไม่ดี จะทำให้คนไทยเติมเงินผ่านตู้ออนไลน์มากขึ้น

"จากที่กล่าวมาข้างต้นถือเป็นโอกาสทำเงินของธุรกิจตู้เติมเงินมือถือออนไลน์ ในขณะที่ใช้เงินลงทุนเพียง 29,000 - 59,000 บาทเท่านั้นแต่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทั้งนี้เจ้าของตู้เติมเงินออนไลน์ จะมีรายได้ 2 ส่วน คือ รายได้ส่วนที่ 1 ได้จากค่าบริการครั้งละ 3 บาท (เจ้าของตู้สามารถตั้งค่าได้ตามต้องการ) รายได้ส่วนที่ 2 ได้จากการซื้อค่าโทร. เพื่อนำไปขาย ในอัตราร้อยละ 3.5% ของยอดการซื้อค่าโทร.ในแต่ละครั้ง รวมๆ แล้ว ถ้ามีลูกค้าใช้ประมาณ วันละ 50 - 100 คน เจ้าของตู้ จะคืนทุนได้ 6 - 9 เดือน ขึ้นอยู่กับการเลือกทำเลเป็นสำคัญ"

++ตู้ล้างรถหยอดเหรียญก็รวยได้

ขณะที่ นายชยพล สำเภาจันทร์ ผู้บริหารบริษัท วินเซนท์ เซ็นเตอร์ เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจตู้ล้างรถหยอดเหรียญ ถือเป็นอีกทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการอาชีพเสริมหรือผู้ที่ตกงานได้เป็น อย่างดี และถือเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงเช่นกัน ซึ่งตู้ล้างรถหยอดเหรียญนี้ สามารถใช้ล้างรถได้ทุกแบบ จุดเด่นคือไม่ต้องจ้างพนักงาน สามารถเลือกลงทุนได้ทั้งเงินสดและระบบเช่า

โดยบริษัทตั้งราคาขายไว้ที่ตู้ละ 53,000 บาท

"ตู้ล้างรถหยอดเหรียญนี้ สร้างรายได้ 15 บาทต่อครั้ง ต้นทุนมีเพียง 2 บาท คือค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโฟม ส่วนต่างที่เจ้าของตู้ได้รับ 13 บาทต่อครั้ง หากจะให้ดีควรเลือกสถานที่ตั้งใกล้กับย่านชุมชน หรือย่านที่มี

วินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ เงินจะไหลเข้ากระเป๋าไม่ขาดสายอย่างแน่นอน"

++ ชาไข่มุกลด 50% ช่วยคนตกงาน

นายไพจิตร จิรเรืองกุล ผู้จัดการแฟรนไชส์บริษัท พีแอนด์พี ชานมไข่มุกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทมีเงื่อนไขพิเศษสำหรับผู้ตกงาน หรือบัณฑิตที่จบใหม่ ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเองและมีรายได้อย่างมั่นคง ด้วยการลดค่าแฟรนไชส์ลง 50% จากเดิมคิดที่ 50,000 บาท เหลือ 25,000 บาท โดยสิ่งต่างๆ ที่แฟรนไชซีจะได้รับคือ คีออส( รถเข็น) ขนาด 1.4 เมตร พร้อมป้ายครบชุด,อุปกรณ์ ,เรียนรู้สูตรการทำฟรี 2 วัน รับรองคืนทุนภายใน 1 สัปดาห์ ช้าสุด 30 วัน ทั้งนี้บัณฑิตจบใหม่ จะอบรมเกี่ยวกับระบบแฟรนไชส์ ศัพท์ที่ใช้ และแถมซีดีเพิ่มให้อีกด้วย

++แฟรนไชส์ผัดไทยมาแรง

ขณะที่นายพศวัต ไชยาพรพรรณ เจ้าของแฟรนไชส์ ผัดไทยบ้านทางเกวียน กล่าวเช่นกันว่าช่วงนี้อยู่ระหว่างจัดโปรโมชันให้กับซื้อแฟรนไชส์เช่นกัน โดยรับส่วนลดทันที 3,000 บาท จากราคา 19,000 บาท เหลือเพียง 16,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2552 เฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้น ทั้งนี้ผู้ที่จะซื้อต้องรักอาชีพพ่อค้าแม่ค้า ส่วนอุปกรณ์สามารถใช้ของเดิมที่มีอยู่ในบ้านได้ ไม่ต้องซื้อเพิ่มเติม แต่ถ้าหากอยากได้ของใหม่ทั้งชุด คิดราคาแค่ราคา 39,000 บาทเท่านั้น

++"ร้อยรส"ไม่มีเงิน ก็ขายได้

ศุภกิตติ์ พิชญากร เจ้าของ "ร้อยรส" แฟรนไชส์ไอติมโบราณ เจ้าดังอีกรายหนึ่งกล่าวว่า หากผู้ที่มาซื้อแฟรน์ไชส์ไม่มีเงิน ก็สามารถเข็นรถไอติมโบราณร้อยรส ไปขายได้ โดยรถไอติมคันหนึ่งบรรจุ 200 แท่ง ขายแท่งละ10 บาท ผู้ขายจะได้ 20% จากยอดขาย หรือถ้ามีเงินเพียง 2,000 บาท จะถือว่าค่าประกันที่นำรถพ่วง นำไปขายได้อีก

อย่างไรก็ดีหากผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ไม่แน่ใจว่าจะขายได้ สามารถเช่าไปทดลองขายก่อน ใน 3 เดือน หากทดลองตลาดแล้วไปไม่ไหว สามารถนำตู้มาคืน รับเงินที่จ่ายเป็นค่าประกันคืนได้ โดยอาจจะบวกลบค่าเสื่อม 2,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะวิน-วิน ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ทำเลที่ขายไอติมได้ดีและได้เงินนั้น ต้องจำหน่ายให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อาทิ ตลาดนัด ย่านชุมชน หรือหน้าโรงเรียน"

++"โดนัทเค้กเสียบไม้"น่าลุ้น

นางสาวศิวารักษ์ แข่งเพ็ญแข เจ้าของรองด์ รองด์ โดนัท สติ๊กต้นตำรับโดนัทเค้กเสียบไม้ กล่าวว่า โดนัทเค้กเสียบไม้เปิดดำเนินกิจการสาขาแรกที่ตลาดนัดสวนจตุจักร เมื่อปี 2546 โดยมีเอกลักษณ์ที่ความหอมกรุ่น สดใหม่ของเนื้อเค้กหลากรส ขนาดเล็กพอดีคำมีให้เลือกหลากรส อาทิ บราวนี่, เนยสด, ชาเขียว, มอคค่า, โอวัลติน-ไวต์มอลต์, กล้วยหอม และสตรอว์เบอร์รี่

สำหรับผู้ลงทุนมีใจรักในธุรกิจเบเกอรี่ สนใจซื้อแฟรนไชส์ในช่วงนี้ คิดราคาแค่ 22,900 บาท โดยทางเราจะดูแลไม่ให้เกิดการซ้อนทับของพื้นที่แฟรนไชส์รายอื่น โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และสิ่งที่แฟรนไชซี่ จะได้รับ คือ เตาโดนัท 3 เครื่อง ,ป้ายร้าน 2 ชุด ,ผ้ากันเปื้อน หรือเสื้อ (ปักโลโก) 2 ชุด ,วัตถุดิบ 20 ชุด (คละรส)

++อีกธุรกิจทำเงิน"ไอศกรีมทอด"

นายสันติ รัตนกรรภิรมย์ เจ้าของแฟรนไชส์ไอศกรีมทอดแซนต้า เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ราคาแฟรนไชส์ไอศกรีมทอดแซนต้า ที่กำหนดไว้มีด้วยกัน 2 แบบ คือ ราคา 3,900 บาทจะเป็นการสอนสูตรเพียงอย่างเดียวแล้วผู้ประกอบการไปซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง ส่วนแฟรนไชส์ราคา 29,000 บาทนั้นเป็นการสอนสูตรทั้งหมดพร้อมอุปกรณ์ในการขายครบชุด อาทิ เตาทอดไอศกรีมไฟฟ้า 1 ชุด , ภาชนะขาย 50 ชุด , อุปกรณ์ในการทอดขาย 1 ชุด , ชุด TOPPING แต่งหน้า 1 ชุด

"จากนั้นทางบริษัทจะมีการอบรมให้กับสมาชิกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอบรม เพิ่มแต่อย่างใด เรียกว่าต้องการเข้ามาอบรมหรือปรึกษาปัญหาเมื่อไร ก็เข้ามาที่บริษัทได้ทุกเมื่อ"

++หลากโอกาสท่ามกลางวิกฤติ

นอกจากนี้จากการสำรวจตัวอย่างจากพฤติกรรมการประหยัดค่าใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ โดยบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ในช่วงภาวะเศรษฐกิจซบเซา ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ปรับพฤติกรรมการบริโภคโดยเน้นการระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นนั้นก่อ ให้เกิดอานิสงส์สำหรับหลากหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจให้บริการข่าวสารผ่านมือถือและอินเตอร์เน็ต จากการปรับพฤติกรรมลดการซื้อหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยหันไปใช้บริการติดตามข่าวจากโทรศัพท์มือถือหรือทางอินเตอร์เน็ตแทน

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจจำหน่ายสินค้ามือสอง ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา นับว่าเป็นการส่งเสริมโอกาสการจำหน่ายของสินค้ามือสอง ถ้ารู้จักแหล่งที่จะซื้อ มีความสามารถในการเลือกซื้อ ก็จะทำให้มีโอกาสได้ใช้ของดีราคาประหยัด

ธุรกิจรับซ่อมแซมข้าวของเครื่องใช้ สำหรับคนที่เน้นประหยัด จะเลือกซ่อมแซมมากกว่าการซื้อใหม่ โดยเฉพาะเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นในช่วงนี้ธุรกิจรับซ่อมแซมข้าวของเครื่องใช้จึงมีงานไม่ขาดมือ โดยเฉพาะร้านที่มีฝีมือ และลูกค้าไว้วางใจก็จะมีงานมากเป็นพิเศษในช่วงเศรษฐกิจซบเซา

++รวยด้วย ข้าวแกง/ดีลิเวอรี

ร้านขายของชำหรือโชวห่วยที่จำหน่ายวัตถุดิบสำหรับการปรุงอาหาร เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างหันไปเน้นการปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้าน ดังนั้นร้านขายของชำโดยเฉพาะร้านที่อยู่ในแหล่งชุมชนจะมียอดจำหน่ายเพิ่ม ขึ้น ทำให้การจับจ่ายสินค้าวัตถุดิบในการปรุงอาหารที่ร้านใกล้บ้าน/ใกล้ที่ทำงาน รวมไปถึงยอดจำหน่ายเครื่องปรุงรสประเภทต่างๆที่จะมีแนวโน้มสูงขึ้นตาม พฤติกรรมของคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่จะหันไปปรุงอาหารรับประทานเอง มากขึ้น

ร้านจำหน่ายอาหารราคาประหยัด ร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จที่ราคาไม่แพง ร้านค้าปลีกที่จำหน่ายอาหาร/บะหมี่สำเร็จรูป ซึ่งคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างหันมานิยมรับประทานมากขึ้น เนื่องจากราคาไม่แพง สะดวก และยังไม่มีการปรับราคาขึ้นไปมากเท่ากับการรับประทานอาหารประเภทตักขาย

ร้านจำหน่ายอาหารที่มีบริการจัดส่งนอกสถานที่หรือดีลิเวอรี ก็เป็นธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์แม้ว่าในบางครั้งราคาจะอยู่ในเกณฑ์สูง เมื่อเทียบกับการปรุงอาหารรับประทานเอง แต่ก็นับว่าเป็นการประหยัดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับประทาน อาหารนอกบ้าน

สุดท้ายธุรกิจสอนการประกอบอาหาร นอกจากมีคนสนใจไปเรียนเพื่อประกอบอาหารให้กับตัวเองและคนในบ้านรับประทาน แล้ว ยังเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพเสริมต่อไปในอนาคตอีกด้วย

++สสว.ร่วมหนุนให้ทุนธุรกิจ

นอกจากนั้นหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐได้ระดมความช่วยเหลืออุ้มคนตกงาน จากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์

แหล่งข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า มีแผนมาตรการช่วยพลิกวิกฤติคนตกงานเป็นเถ้าแก่ใหม่ เช่นธุรกิจอาหาร,เครื่องดื่ม หรือแฟรนไชส์ต่างๆ ทั้งนี้ รูปแบบโครงการเป็นลักษณะร่วมทุน โดย สสว. ออกทุนให้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนผู้เข้าร่วมโครงการต้องออกเอง โดยจะช่วยเหลือในลักษณะของอุปกรณ์ เครื่องมือประกอบการอาชีพ หรือสิทธิ์แฟรนไชส์ เป็นต้น รวมถึงให้ความรู้ ผ่านการอบรมในธุรกิจนั้น ๆ เพื่อให้มีความพร้อมที่สุด ก่อนออกตลาดจริง คาดว่าจะเริ่มโครงการได้จริงในช่วงต้นปีนี้

"โครงการครั้งนี้ ตั้งงบประมาณไว้ราว 200 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยเหลือผู้ตกงาน และก่อให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ ประมาณ 10,000 - 20,000 ราย"

++ก.อุตฯจัดอบรมฟรี

เช่นเดียวกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีรายงานว่า อยู่ระหว่างเตรียมการจัดอบรม "NEC" โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ ปี 2552 ฟรี (ตุลาคม 2551 - กันยายน 2552) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการใหม่และ เพิ่มความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดเล็กในช่วงก่อตั้งกิจการ (3 ปีแรก) ให้สามารถอยู่รอดและ รักษาสถานภาพการจ้างงานไว้ได้ นอกจากนี้ยังจัดทำหลักสูตรให้แก่ "ทายาทธุรกิจ" ในการสืบทอดกิจการให้สามารถรักษาสถานภาพการจ้างงานและ สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจต่อไป

++จัดงานแฟร์/อบรม ตลอดปี

ส่วนกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จากการตรวจสอบข้อมูลของ"ฐานเศรษฐกิจ" พบว่าเตรียมจัดงานแฟร์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันจะให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในคราวเดียวกันเพื่อเสริมศักยภาพให้ มีความแข็งแกร่งสามารถต่อสู้ตลาดโลกได้

โดยในปี 2552 มีแผนเปิดอบรมเรื่องการคำนวณต้นทุน ฝึกอบรม "การคำนวณต้นทุน และการตั้งราคาสินค้าเพื่อการส่งออก" เพื่อให้นักธุรกิจ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน 80 คน ค่าสมัครเข้ารับการฝึกอบรม คนละ 2,000 บาท ปิดรับสมัครเมื่อที่นั่งเต็ม ระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม 2552 นี้


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:5:28:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.