นิทานแฝงปรัชญาเต๋าเรื่อง "คุณธรรมสำคัญกว่า"
คัดจากหนังสือ "นิทานแฝงปรัชญาเต๋า " เสถียรพงษ์ วรรณปก แปล
คราวหนึ่งจื้อกุงถามขงจื้อว่า
"จะปกครองรัฐอย่างไรจึงจะดี"
ขงจื้อตอบว่า
"จงปกครองให้ประชาชนมีอาหารบริโภคอุดมสมบูรณ์ ให้ประเทศชาติมีกองทัพเข้มแข็ง และให้ประชาชนมีความเชื่อถือในรัฐบาล"
"ถ้าหากจำเป็นจะตัดออกสักข้อหนึ่ง ควรตัดข้อไหนออก"
"ตัดกองทัพออก"
"ถ้าจำเป็นต้องตัดอีกหนึ่งข้อ จะตัดข้อใดก่อน"
"ควรตัดอาหารออก เพราะนับแต่โบราณกาลมาแล้ว มนุษย์เรามีความตายเป็นธรรมดาทุกคน แม้ประชาชนจะต้องอดอยากบ้างแต่ก็ยังดีกว่ามีรัฐบาลอันประชาชนเขาไม่นิยมนับถือ ประเทศที่มีรัฐบาลอย่างนี้ จักตั้งมั่นได้อย่างไร"
จื้อกุงซักต่อไปว่า
"หมายความว่า รัฐบาลไม่มีคุณธรรม ประชาชนเขาหมดศรัทธา ร้ายแรงยิ่งกว่าเรื่องปากท้องหรือ
ขงจื้อตอบว่า
"ถูกต้อง บัณฑิตย่อมเห็นแก่คุณธรรมยิ่งกว่าจะเห็นแก่ปากท้อง"@
|
พลวัตเศรษฐกิจ:อยู่อย่างขบถบนเส้นทางปฏิรูป
25 พฤษภาคม 2549 18:02 น.
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ //www.ThailandReform.org
การมีสำนึกทางศีลธรรมจริยธรรมที่มั่นคง มีความหวั่นไหวต่อโลกภายนอกน้อย บุคคลเช่นนี้ย่อมมีกลไกทางจิตในการทำให้เกิดความสุขทางใจ แม้จะดำรงอยู่อย่างแปลกแยกจากสังคมก็ตาม หรือ แม้กระทั่งจะมีชีวิตอัตคัดขัดสนในทางโลก อย่างไรก็ตาม เขาจึงอยู่อย่างขบถเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อคนส่วนใหญ่ได้
การขบถนี้ ต้องทำเป็นขบวนการ เพราะหากไม่ทำเป็นขบวนการ ความมุ่งมั่นในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดีงามจะจบลงพร้อมผู้นำ แม้เขาคนนั้นจะเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่ส่งผลสะเทือนต่อรากฐานของระบบอันฉ้อฉลของสังคมอย่างลึกซึ้งก็ตาม
นักปฏิรูปที่แท้จริงย่อมไม่แสวงหาวิธีการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยยุทธวิธีของนักฉวยโอกาส ระยะเวลาและกลไกทางสังคมที่รู้เท่าทันจะเป็นตัวคัดกรอง ระหว่าง "ของจริง" กับ "ของเทียม" (นักฉวยโอกาส)
ความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ โดยกิจกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องย่อมสร้างสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างขบวนการปฏิรูปสังคมกับมวลชนอันไพศาล
การเป็นขบถของเจ้าชายสิทธัตถะต่อสังคมแบ่งชั้นวรรณะของอินเดีย ตลอดจนถึงการเป็นขบถต่อจักรวรรดินิยมอังกฤษของมหาตมะ คานธี การขบถเพื่อการปฏิรูปสังคมจะอ่อนล้าลงหากไม่มีการสืบทอดอุดมการณ์ ผู้ที่สืบทอดหลักธรรมะของพระพุทธเจ้าก็ดี ผู้สืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองของคานธีก็ดี บรรดาสาวกเหล่านี้บางท่านก็ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวคิดของผู้ที่เป็นต้นแบบอย่างจริงจัง
บรรดาผู้ที่อ้างพระพุทธเจ้า อ้างท่านคานธี มักจะอ้างเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่หาได้มีวิถีปฏิบัติที่น่าเคารพศรัทธาไม่ ท่านคานธีได้กล่าวไว้ในวาระสุดท้ายของชีวิต ว่า "คองเกรสจะได้อิสรภาพทางการเมืองสำหรับอินเดีย แต่ก็ยังไม่มีอิสรภาพทางเศรษฐกิจ และยังไร้อิสรภาพทางสังคมและทางศีลธรรม อิสรภาพประเภทหลังๆ นี้ เป็นสิ่งที่ได้มายากกว่า เพียงเพราะว่ามันเป็นงานสร้างสรรค์ที่ตื่นเต้นน้อยกว่า และไม่หวือหวานั่นเอง"
โครงการปฏิรูปประเทศไทยที่ผมและคณะดำเนินการอยู่ จึงตระหนักดีว่าการปฏิรูปต้องกระทำอย่างรอบด้านต่อเนื่อง เราไม่อาจมีประชาธิปไตยทางการเมืองที่แท้จริงได้ หากเราไม่มีประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ
ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย ช่องว่างระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน ยังคงขยายห่างออกไปมากขึ้นกว่าเดิม โลกใบนี้มีเด็กอดอาหารและกำลังจะตายหลายสิบล้านคนในแอฟริกาและเอเชียใต้ ยังมีคนไร้บ้านอยู่จำนวนมากในหลายภูมิภาคของโลก
ปัญหาสำคัญประการหนึ่งของระบบทุนนิยมโลก ก็คือ ความไม่เสมอภาค ไร้สมดุลในระบบเศรษฐกิจ และปัญหาความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ กระแสบริโภคนิยมอันรุนแรงก็กระตุ้นให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
วิถีชีวิตแบบบริโภคนิยมและการผลิตแบบ Mass Production ในช่วงเวลาเป็นร้อยๆ ปีของระบบทุนนิยมโลกได้ก่อให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมขนานใหญ่ จนสภาวะธรรมชาติเสียสมดุล
ช่วง 20-50 ปีที่แล้ว มีคนจำนวนหนึ่งเชื่อว่าสังคมนิยม คือ ทางออก เนื่องจากพลังของชนชั้นกรรมาชีพยังเข้มแข็งมาก พวกเขาลุกขึ้นมาสร้างแรงเสียดทานต่อระบบทุนนิยมสุดโต่งที่ครอบงำโดยบรรษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ เกิดการเผชิญหน้าของทั้งสองพลัง จนเกิดดุลยภาพทางสังคมและดุลอำนาจใหม่ ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า ประชาธิปไตยแบบรัฐสวัสดิการ รวมทั้งทุนนิยมที่ต้องมีจริยธรรมกำกับมากขึ้น
แต่ภาวะดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากกระบวนการผลิตสมัยใหม่มีพัฒนาการเรื่อยๆ โดยมีการใช้เทคโนโลยีแทนแรงงานคน นำไปสู่การลดจำนวนคน มีการใช้หุ่นยนต์ทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ ฐานอำนาจของผู้ใช้แรงงานอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง จึงไม่สามารถออกมาท้าทายทุนนิยมยุคใหม่ได้
ศาสตราจารย์เดวิด ซี คอร์เตน แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้เขียนหนังสือ The Post-Corporate World : Life after Capitalism ได้ศึกษาเรื่องโลกทุนนิยมยุคใหม่และพบว่า ทุนนิยมยุคใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากโลกาภิวัตน์นั้น เป็นทุนนิยมที่ไม่ได้เพียงแต่จะทำการผลิตตามปกติเท่านั้น แต่กลับมีธุรกรรมเก็งกำไรไร้พรมแดนจำนวนมากในตลาดเงินตลาดทุน เกิดการเล่นเงินและปั่นหุ้น ปั่นราคาทองคำ ปั่นราคาน้ำมัน เป็นขบวนการในการปั่นราคาสร้างราคาในตลาดการเงินที่ไม่เชื่อมโยงกับมูลค่าเศรษฐกิจที่แท้จริง
สิ่งเหล่านี้ สร้างความร่ำรวยมหาศาลให้กับคนจำนวนหนึ่ง เกิดชนชั้นที่เรียกว่า Super Super Rich ขึ้นมา คนเหล่านี้ก็เอาเงินมาลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตรา ตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุนหรือตลาดหุ้นทั่วโลกผ่านกองทุนและเฮดจ์ฟันด์ต่างๆ การเคลื่อนย้ายของเงินทุนระยะสั้นมากมายจึงเกิดขึ้น ยิ่งภาวะไร้พรมแดนเกิดมากขึ้นเท่าไร ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นมากเท่าไร เราก็จะเห็นปรากฏการณ์เหล่านี้มากขึ้น ความผันผวนของค่าเงินและตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นประจักษ์พยานอย่างดี
การจัดระเบียบการเงินโลกใหม่เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในภาวะไร้ระเบียบเช่นนี้
ศาสตราจารย์คอร์เตนพยายามเอากระบวนทัศน์ใหม่มาอธิบาย และมาจินตนาการภาพสังคมหลังยุคทุนนิยมว่าจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เราจะเห็นแน่ๆ น่าจะเป็นสภาพโกลาหลของการเมืองและเศรษฐกิจโลก หลังสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่สอง ซึ่งพอจะหลับตานึกภาพเห็นความวุ่นวายของการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นทั่วโลก
หากเราต้องการเห็นโลกเปลี่ยนแปลง เห็นประเทศเปลี่ยนแปลง รวมทั้งอยากเห็นระบบทุนนิยมเปลี่ยนแปลง เราต้องยอมอยู่อย่างขบถ ไม่จำเป็นต้องทำตามกระแส สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแสการปฏิรูป
ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมจนถึงธันวาคมศกนี้ สำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะและเครือข่ายจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการปฏิรูปประเทศไทย และเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมกำหนดนโยบายสาธารณะ
ผมก็หวังว่า โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการจุดกระแสสังคมให้ตื่นตัวกับการลุกขึ้นมาเป็นขบถกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และร่วมกันปฏิรูปประเทศไทยเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของทุกคนครับ