เมื่อฝรั่งสอนลูกไทยเรื่องเพศศึกษา

เอ่อ ไม่ใช่สิบแปดบวกจ้า

เซ็กซ์ ใครว่าไม่สำคัญ ในประเทศไทย การเรียนรู้เรื่องเซ็กซ์ ส่วนมากผู้ปกครอง มักจะ คิดว่าเป็นหน้าที่ของโรงเรียน ที่ต้องสอนเด็ก มีน้อยมากที่พ่อแม่ จะพูดคุยกับลูก แบบจริงๆจังๆ จึงทำให้ มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ขวนขวาย หาคำตอบด้วยตัวเอง

ตอนที่ยังอยู่ที่ไทย สำหรับเราก้อมองว่า เรื่องแบบนี้ มันพูดยาก และลำบากใจ เพราะถ้าเริ่มต้นพูด คนจะมองว่า อีนี้ ลามก คิดแต่เรื่องแบบนี้ แต่เราก้ออายนะ จำได้ว่า สมัยสาวรุ่น อายมากตอนที่หน้าอกกำลังเริ่มโต จนต้องหา ผ้ายางยืดมารัดให้มันแบน มันถึงแบนมาจนทุกวันนี้ไง

ไม่กล้าซื้อ ชุดชั้นในเอง จะตากก้อต้องหลบๆซ่อนๆ พยายามทำตัวเป็นผู้ชาย (อยู่กับพี่ชาย) จนเกือบจะกลายไปเป็นทอม ฮ่าๆๆ เพราะรู้สึกว่าเป็นผู้หญิง แล้วมันมีแต่เรื่องน่าอาย วันที่มีปจด. ครั้งแรก อิฉันวิ่งหน้าตั้งไปหา พี่เพื่อนบ้าน ตกใจ มาาก แล้วก้อไม่กล้าไปซื้อผ้าอนามัยจะซื้อตอ้งรอลูกค้าออกจากร้านหมด เพราะด้วยที่ แม่สอนมาให้รักนวลสงวนตัว ใครมาจับมือจับไม้แม่ ตั้งการ์ดทัีนที

แต่พอมองกลับไปตอนนี้แล้วขำตัวเอง และเข้าใจ ความรู้สึกของเด็กๆมากขึ้น พอโตมา โลกก้อกว้างขึ้น ยิ่งพอมาอยู่ที่นี่ ซึ่งในสายตาคนไทยมักจะมองว่า เรื่องเซ็กซ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดในครอบครัวและเป็นเรื่องลามก แม้แต่ สามีภรรยา บาวครอบครัว ก้ออยู่กันแบบ สถานะตามทะเบียนสมรส แต่เรื่องบนเตียงแทบไม่ต้องพูดถึง และมักจะพูดกันว่าแก่แล้ว ก้อจงเข้าวัดไปเถิด และมองว่าฝรั่ง อิสระเรื่องเซ็กซ์ บางคน คิดเลยว่าฝรั่งนี่ มีแต่คนลามก การเห็นฝรั่งแต่งกายนุ่งน้อยห่มน้อย โดยเฉพาะชุดว่ายน้ำ คนไทยมองกัน เลิ่กลั่ก

ยอมรับว่ามุมมองเปลี่ยนไป เมื่อได้มาอยู่ที่นี่ ความจริงก้อคือ ฝรั่งไม่ได้ คิดแต่เรื่องเซ็กซ์ ในทางลามก เขาคิดว่ามันคือเรื่องธรรมชาติ จริงๆ แล้ว เขาก้อมีความขี้อาย เหมือนๆคนไทย แต่การที่ เขาเปิดเผย กันในเรื่องเซ็กซ์ ทำให้มุมมองของการพูดคุย มีสาระ และให้ประโยชน์ การแก้ผ้าในร้านสปา เขาคิดว่ามันก้อเป็นเรื่องธรรมดา ร่างกายทุกคนก้อมี อะไรๆเหมือนกัน แล้วพวกเขาแยกแยะว่า ในที่ไหน ควรหรือไม่ควร (แต่ก้อมีบ้างคนบ้าๆ ที่ชอบโชว์ คนพวกนี้ มีอยู่ทุกมุมในโลก)

เอ้า โม้ยาวอีกและ นี้ต่อ ก้อเรื่องเซ็กซ์ในวัยเด็ก บางคนยังไม่รู้ว่าจะเริ่มสอนลูกเรื่องเพศศึกษา ตอนอายุเท่าไหร่





คุณชายใหญ่ หาหนังสือมาอ่าน แล้วยังหาข้อมูลจากเวบไซต์ต่างๆ แล้วก้อเอามาคุยกันก่อนว่าจะคุยตอนไหน จะคุยยังไง

แล้วเมื่อวานก้อเพิ่งจะได้รับ หนังสือ เด็กและวัยรุ่น ซึ่งครอบครัวเราสั่งเป็นสมาชิก รับประจำทุกเดือน บางคนอาจจะมองว่าไร้สาระ แต่สำหรับพวกเรา คิดว่าทุกเรื่องที่เกี่ยงกับลูกตั้งแต่เด็กจนกว่าเขาจะบรรลุนิติภาวะ สำคัญมากๆ และเราก้ออยากได้ ข้อมูลใหม่ๆ ซึ่ง ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีในหนังสือตำรา เพราะข้อมูลมันก้อเก่าลงทุกปี

ในหนังสือเล่มนี้ มีการทำวิจัยและพบว่า ผู้ปกครองในเนเธอร์แลนด์ ยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้วเด็กที่นี่ อยากรู้อยากเห็น และมีพฤติกรรมเรื่องเพศ ไปไกลกว่าที่พวกเขาคิด เป็นการสอบถาม ทั้งสองกลุ่มคือ กลุ่มผู้ปกครองและ กลุ่มเด็กในวัยต่างๆ ในคำถามหัวข้อเดียวกัน

ในหนังสือบอกว่า
เด็กในวัย
4-6 ขวบ
-พวกเขาก้อเริ่มให้ความสนใจในเพศของตนเอง อยากรู้อยากเห็น หรือแม้แต่ ค้นพบ ความรู้สึก ตืื่นเต้น จากการสัมผัส อวัยวะของตนเอง (เพราะตรงส่วนนั้นมีเส้นประสาทเยอะ จึงไวต่อการสัมผัส)
-เด็กๆค้นพบว่าตัวเองเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย(ร่างกาย) รู้ว่าผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันอย่างไร
เกิดการเรียนรู้ และเล่น ในรูปแบบต่างๆ เช่นเล่นเป็นหมอ ,เล่นกับตุ๊กตา และการเล่นแบบนี้แหละคือจุดเริ่มต้น ที่ผู้ปกครองจะสอดแทรกความรู้ให้เด็กๆเข้าใจด้วยตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นที่จะให้ความรู้และทำให้เขาไม่รู้สึกเขินอายในภายหลัง การที่เราให้เขารู้ในสิ่งที่เขาอยากรู้ และเมื่อรู้แล้วเขาจะหมดความตื่เต้นและสนุกในการค้นหาด้วยตัวเอง (เพราะรู้แล้ว) แต่ก้อควรให้เขารู้ในสิ่งที่เหมาะกับวัย เช่น รู้ว่า ร่างกาย มีอะไรบ้าง , มีหน้าที่อะไร (คร่าวๆ)

ต่อมาในวัย 7-9
-วัยนี้จะเริ่มเขินอาย กับการที่ใครมาเห็นเขาในร่างกายที่เปลือยเปล่าเด็กบางคนอาจจะเริ่มตั้งแต่หกขวบก้อมี
-เริ่มให้ความสนใจเพศตรงข้าม เริ่มค้นหาคำว่าความรัก โดยจะให้ความสนใจกับฝ่ายตรงข้ามเป็นพิเศษ และเรียกความรู้สึกแบบนั้นว่า ความรัก

อ้อ ถึงตรงนี้จะเล่าวิธีสอนลูกของเรา นิดนึง

เราเริ่มพูดคุยกับลูกตั้งแต่ สี่ขวบ เรื่องร่างกาย ส่วนต่างๆ โดยใช้รูปภาพประกอบ และเล่าเรื่องตอนคลอดให้เขาฟังให้เขารู้ว่า เขาเคยอาศัยอยู่ในท้องแม่ ตรงนี้ นะ ทำเป็นเรื่องราวสนุกสนาน ต่อมาก้อ เล่าถึงวันคลอดให้เขาฟัง ว่าเขาออกมาจากท้องแม่ ทาง นี้นะ อาจจะใช้ คำเรียกน่ารักๆๆ ตอนนี้ เราเล่าให้เขาฟังแค่ว่า นางฟ้า เอาเขามาใส่ในท้องแม่ เพราะพ่อกับแม่รักกัน แค่นี้พอ คือต้องการแค่ให้เขารู้ว่า ถ้าผู้หญิงกับผู้ชายรักกัน และอยู่ด้วยกัน กอดกัน บ่อยๆ ก้อจะมีนางฟ้า เอาลูกมาใส่ท้องให้ แล้วเขาก้อจะชอบฟังเรื่องราว นี้บ่อยๆ จากตอนแรกที่ กลัวว่า เมืองฝรั่งเรื่องเซ็กซ์ ค่อนข้างเปิดเผย พวกเขายอมได้แม้แต่ถ้าลูกจะไปมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน แต่ ต้องป้องกัน เล่นเอาเราเหงื่อตก จะป้องกันลูกยังไง จะให้มานั่งทำใจ ฉันรับไม่ได้ ยิ่งลูกเราเป็นผู้หญิงด้วย

แต่ พอได้ชายใหญ่มาช่วย ทำให้ อุ่นใจขึ้นเยอะ และที่สำคัญ อย่าทำอะไร ที่ไม่เหมาะไม่ควรให้ลูกเห็น แต่อย่าให้เขากลัว ให้เขารู้จักคำว่าส่วนตัว นั่นคือขอบเขตที่ลูกจะเริ่มเรียนรู้ เรื่องเพศศึกษา คืออะไรควรทำในที่ส่วนตัวและไม่ควรทำในที่สาธารณะ หมายถึง ภายในห้องนอน เป็นห้องส่วนตัว ที่จะทำอะไรก้อได้ ต้องเคาะประตูก่อนทุกครั้ง และอย่าปฏิเสธถ้าลูกจะเข้ามาเล่นกับเราบ้างเช่นตอนเช้าหลังจากตื่นนอนเจ้าหยกจะเข้ามาหอมแก้มแม่และปาป๊าที่เตียงทุกวัน จนห้าขวบก้อเริ่ม ห่างไปแต่จะลงไปเจอกันที่ห้องนั่งเล่นแทน พอหกขวบ ถ้าตื่นก่อนเขาก้อจะลงไปรอที่ห้องนั่งเล่นไม่เข้ามาที่ห้องนอน หรือถ้าจะเข้าก้อเคาะประตูก่อนทุกครั้ง แต่ ถ้าแยกห้องนอนแล้ว ไม่ควรให้เขามานอนด้วยบ่อยๆ เพราะ ในวัยที่ลูกโตขึ้นเรื่อยๆ ลูกจะเริ่มอยากรู้อยากเห็นว่าพ่อแม่ อยู่ในห้องทำอะไร มีอะไร แล้วถ้าวันนึงเราห้ามเขาแบบเด็ดขาด เขาจะยิ่งอยากรู้ และรู้สึกเหมือน ถูกปฎิเสธแบบกีดกัน เพราะ อะไรเขาไม่เข้าใจ อาจเกิดเหตการณ์ แอบมอง หรือแม้แต่ ตั้งกล้อง โดยที่พ่อกับแม่ไม่รู้ตัว

เพราะฉะนั้นในวัยเด็กแบบนี้ ควรเริ่มจากการสอนให้รู้เกี่ยวกับอวัยวะต่างๆ

และค่อยๆ กำหนดขอบเขตให้เขา จะทำให้ เรื่องที่เราคิดว่ายาก กลับกลายเป็นง่าย

บลอคต่อไปจะนำเสนอในวัยรุ่นค่ะและพฤติกรรม ต่างๆของเด็กเกี่ยวกับเพศศึกษา


Create Date : 24 สิงหาคม 2556
Last Update : 24 สิงหาคม 2556 1:43:58 น. 1 comments
Counter : 4526 Pageviews.

 
วันนี้ มาเป็นวิชาการ ได้ความรู่เพิ่มเลยพี่..


โดย: simplyusana วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:3:53:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Ikbenvrij52
Location :
กรุงเทพฯ Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




บล็อคนี้เป็นบลอคคนบ้า อาการก่อนเป็นบ้า ถูกกระทบกระเทือนทางใจอย่างรุนแรง ไม่ได้เป็นง่ายๆนะ กรุณาอย่าถือสา เพราะยังหายาที่ควบคุมอาการไม่ได้

เขียนบลอคเพื่อระบายตัณหา อารมณ์รัก,โลภ,โกรธ, หลง ของตัวเอง บางอารมณ์
ก็ไร้สาระ เนื้อหาส่วนใหญ่เขียนเกี่ยวกับครอบครัว และสังคมบ้าง กับเรื่องของการเมือง บ้าง ไรบ้าง

ที่เกลียดที่สุดคือ ความไม่ยุติธรรม และการดูถูกคน
ไม่ชอบอย่างมากคือ ละครน้ำเน่าบ้านเรา ประเภทตบตี แย่งผัวชาวบ้านแล้วก็ไอ้ที่พระเอกปัญญาอ่อนนางเอกเจ้าน้ำตาอะไรประมาณนั้น แต่ชอบดู ตลกที่ไม่ลามกมากกว่าแล้วก็พวกหนังมดเอ๊กมดแดง ซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายอิๆๆ อ้อ อีกอย่าง ไม่ชอบคำสบถหยาบๆด้วย

เคารพสิทธิส่วนบุคคลเท่ากับสิทธิส่วนตนค่ะ
ทุกวันนี้บ้าเขียนมากกว่าอ่าน มาใหม่ๆอ่านมากกว่าเขียน ตอนนี้รู้สึกว่าการเขียนช่วยให้ระบายความรู้สึกนึกคิดออกมา ดีกว่าไประบายใส่คนอื่น อาจมีผิดถูกในสายตาคนอื่นบ้างแต่ มันคือ ตัวตนของฉัน

ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมา ใครที่ทิ้งคอมเมนท์ไว้ก็ขอบคุณมากค่ะ แต่คงไม่ได้ตามไปทักทายทุกครั้ง วันไหนมีเวลา ถึงจะได้แวะไป เพราะเวลาส่วนใหญ่คือให้ครอบครัว ค่ะ ถึงเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน แต่ถ้ามีแล้วไม่เคยทำร้าย หรือทรยศ เพื่อน

ปล.ใครที่เม้นท์แล้วมีผลกระทบทางใจขั้นรุนแรงแก่จบข. จะลบทิ้งทันทีและอาจมีการ ตามไปเมนท์ตอบหรือไม่ก็นัดเจอหลังวัดอิๆๆเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกันจ้า


Weersverwachting
Scheemda
Meer weer in Scheemda
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2556
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ikbenvrij52's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.