นมัสการรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ
ทริปนี้เป็นทริปแสวงบุญ ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งประสบการณ์ และความสนุก จุดหมายปลายทางของทริปเราคือ นมัสการรอยพระพุทธบาท บนยอดเขาคิชฌกูฏ
ประเดิมรูปแรกด้วย ท้องฟ้าสีชมพู ในเย็นของวันเดินทาง
ออกเดินทางจากศรีราชา ตอน 4 ทุ่มครึ่ง ไปกันแบบไม่รู้เส้นทาง เดาเอา ถึงวัดพลวงประมาณ ตี 3 หลังจากกินข้าว ก็เตรียมสิ่งของที่จะนำติดตัวไปด้วย อันได้แก่ ไฟฉาย 2 กระบอก น้ำเปล่าขวดใหญ่ 2 ขวด ยาดม และกระดาษทิชชู เหตุที่เตรียมเพราะ เพื่อนๆ มีศรัทธามาก เดินค่ะ เดิน...เดินกันตั้งแต่วัดนั่นแหละ ไม่มีการขึ้นรถ เริ่มเดินจากวัด ประมาณ ตี 3 ถึงชั้นที่หนึ่งตอน เกือบตี 5 ความรู้สึกตอนนั้นคือ เหนื่อยมากๆ เพราะต้องคอยวิ่งหลบรถตลอด แล้วก็ดีใจมากที่ถึงขั้นหนึ่งแล้ว มีคนขึ้นมั้งวันทั้งคืนจริงๆ
พวกเราพักไหว้พระ ทำธุระส่วนตัว หุหุ แล้วก็เตรียมของกินสำหรับเดินทางอีกครั้ง ระหว่างรอสว่าง เราก็กินข้าวกัน จำได้ว่าข้าวมื้อนั้นเป็นข้าวเช้าที่อร่อยที่สุดเลย พี่เจ้าของร้านก็ใจดี มีแถมๆ พอเช้าเราก็เดินกันต่อ...คราวนี้เป็นทางป่า ทางนี้ไม่ใช่ทางหลักที่เค้าเดินกัน นานเป็นชั่วโมงกว่าจะมีคนเดินสวนทางลงมา
เมื่อมองกลับไป...
ป่ายังคงเป็นป่า 8 โมงกว่าแล้ว แสงแดดยังส่องลงมาไม่ค่อยถึงเลย ต้นไม้ขึ้นหนามากๆ สัญญาณโทรศัพท์ไม่มี หรือมีแต่เข้าไม่ถึง... และในที่สุด พวกเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง
เกือบๆ 7 โมง จากชึ้นที่หนึ่งถึงรอยพระพุทธบาท เกือบ 10 โมง มายืน ณ จุดนั้นแล้วมองไป เห็นไอเมฆ ลอยไปลอยมา...บอกกับตัวเองว่าสุดยอดเลยนะเนี่ย ในที่สุดก็มาถึง หลังจากที่นมัสการรอยพระพุทธบาทกันเสร็จเรียบร้อย ก็หาอะไรกินกันอีกรอบ นั่งพักประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็ลงกัน คราวนี้เราลงในทางปกติก็เลยได้เจอน้องหมาวีโก้ น่ารักสุดๆ เลยร่วมทำบุญไปกับเค้าด้วย
ระหว่างทางก็ตีระฆังกันไป สำหรับเราและใครอีกหลายๆคน เสียงระฆังที่นี่มีความหมาย เป็นเหมือนเสียงที่ให้กำลังใจ ว่าอีกไม่นานก็จะถึงแล้ว...ทำให้มีกำลังใจในการเดินต่อ ขากลับเรานั่งรถกลับกัน เพราะเหนื่อยมาก กับไม่ได้นอนกันมาตั้งแต่เมื่อคืน แล้วก็อยากไปเล่นน้ำตกเย็นๆที่น้ำตกกระทิง ปีหน้าเพื่อนๆ คุยกันว่าจะเดินทั้วขึ้นและลง หุหุ ได้อยู่แล้วแต่ขอฟิตร่างกายสัก 2 เดือนก่อนวันไปแล้วกัน
เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงจุดขึ้นรถ ค่ารถต่อละ 50 บาท/คน ตอนนั่งรถความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนสนุก หวาดเสียวกับเส้นทาง แล้วก็โดนคนช้างหลังเบียด แต่ก็สนุกดีอยากนั่งอีก คนขับรถเก่งมากๆ เลยเราว่า
จากนั้นเราก็ขับรถไปนอนเต็นท์ที่น้ำตกกระทิง เห็นแล้วหายเหนื่อยๆ น้องปลาสวาย ว่ายมาทักทาย (จริงๆ แล้วมาดูว่ามีอะไรกิน มั่ง) พวกเราไปเล่นน้ำตกกัน เล่นกันอยู่หลายชั่วโมงมากๆ ประมาณว่าโหยหาการอาบน้ำมาก ไม่ได้อาบมานาน เกรงใจปลาในน้ำตกเหมือนกัน กลัวจะตายกัน ยังไงก็ขอโทษนะน้องปลา คืนนั้นหลับสนิท รวดเดียวยันเช้า เลย เช้าๆ กับวิวสวยๆ เต็นท์ 2 เต็นท์นั้นคือเต็นท์พวกเราเอง ก่อนกลับก็ไปถ่ายรูป กับช่วยเจ้าหน้าที่อุทยานเค้าทาสีป้ายใหม่ เราทา "ว" ล่ะ ส่วนเพื่อนเจนทา "ก" เพื่อนหน่อยทา "ุ" แต๊กทา "า"
พี่เจ้าหน้าที่เค้าคงคิด พวกกะนี้ยุ่งจริงๆ เลยวุ๊ย
จบทริปนี้ด้วย เมล็ดพันธุ์ แห่งการเริ่มต้นใหม่
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมบ้านหลังนี้นะคะ
Create Date : 22 มีนาคม 2553 |
Last Update : 22 มีนาคม 2553 5:34:36 น. |
|
5 comments
|
Counter : 625 Pageviews. |
|
|
ตามมาเที่ยวและยิ้มไปกับเรื่องเล่า
ว่าแต่...น้องปลายังอยู่ดีกันใช่มั้ยคะ