กฎแห่งกระจก
วันนี้ได้ใช้เวลาว่างๆในตอนเย็นอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เดี๋ยวนี้เครียดๆ เลยยิ่งมีหนังสือเยอะขึ้น ซื้อระบายความเครียดค่ะ ตอนนี้มีเป็นกองเลยที่ยังอ่านไม่หมด ก็ขนซื้อซะ ก็ตั้งแต่บ้า Twilight ก็หยุดอ่านเล่มอื่น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อมากองนี่ตามประสาหนอน เห็นหนังสือหน้าอ่านที่ไรอดใจไม่ได้ทุกที แต่ก่อนสมัยเรียนม.ปลาย - ป.ตรี เราก็อ่านแค่พวกนิยาย กับวรรณกรรมแปล แต่พอเริ่มทำงาน+เรียนโท ก็อ่านหลากหลายขึ้น เพราะต้องหาข้อมูลด้วยมั้ง เริ่มอ่านหนังสือแนวเครียดๆ สาระมากๆ ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนชอบอ่านแนว HOW TO ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ตัว มารู้อีกทีบนหิ้งมีหลายเล่มแล้วเหมือนกันนะเนี่ย มันเหมือนกับบางทีเป็นที่พึ่งนะ แต่ถ้าเครียดมากๆ เราจะอ่านธรรมะตอนนี้เต็มหิ้งแล้วเหมือนกัน จิตตก ตอนนี้ถึงขั้นพกหนังสือธรรมะพกติดตัวด้วย วันก่อนแดดร่มลมตก เครียดๆ เลยไปเดิน se-ed ไปสะดุดตากับหนังสือเล่มหนึ่ง แอบๆ อยู่ในหมวดธรรมะ แปลกแฮะ....ตอนหยิบขึ้นมามันเป็น HOW TO ด้วยไฉนมาอยู่ตรงนี้แฮะ....คุณพนักงาน ปกสีแสด แปลกตา มีรูปกระจกอยู่กลางปก แถมพิมพ์ครั้งที่ 11 แล้วด้วย แอบคิดในใจว่าขายดีเหมือนกันนะ เล่มนี้... พอดูชื่อหนังสือชื่อแปลกดี ชื่อว่า กฎแห่งกระจก เขียนโดย โยชิโนริ โนงุจิ (ปกติไม่ค่อยอ่านหนังสือจากฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่จะอ่านแต่ฝั่งตะวันตก (เว้นการ์ตูนญี่ปุ่นนะอันนี้ของชอบ) แต่เคยอ่านเล่มหนึ่งเหมือนกัน ชื่อว่า ไม่ครบห้า เขียนโดย โอโตทาเกะ ฮิโรทาเดะ เจ้าตัวเค้านั่นแหละเขียนถึงชีวิตเค้าเองตั้งแต่วัยเด็กจนโต ตอนนั้นอยู่ ม.ปลาย อาจารย์ชาวญี่ปุ่นที่สอนภาษาญี่ปุ่นให้เรา เอาฉบับแปลไทยมาให้อ่าน เพราะเห็นว่าเราชอบอ่านหนังสือ อ่านแล้วได้กำลังใจดีมากๆ เค้ามีไม่ครบ ต้องนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้าแต่ยังต่อสู้ฝ่าฟัน แล้วเราครบหมดจะไม่สู้ได้ไง อาจารย์เล่าให้ฟังว่าเค้าแต่งงานมีครอบครัวด้วย เราว่าเค้าปกติมาก ถ้ามองข้ามร่างกายอ่ะ บางคนมีร่างกายปกติ แต่ใจไม่ปกติอ่ะ น่ากลัว....!) (มาต่อเถอะชักจะออกเรื่องเกินไปละ) ที่สะดุดที่สุดสำหรับเรานะ เพราะเห็นข้อความนี้บนปกต่างหาก กฎมหัศจรรย์ที่จะช่วยแก้ไขทุกปัญหาในชีวิตของคุณ ซื้อทันทีเลย คือแบบว่ามันเข้ากับอารมณ์อิฉันในตอนนั้นมากๆ แบบคนกำลังมีปัญหาอ่ะ ค่ะ คือแบบว่าดูซิเจ้าเล่มนี้จะให้อะไรกับเราบ้าง
(เอาภาพมาให้ดูจาก google อันนี้พิมพ์ครั้งที่ 5 แต่ที่เราซื้อ ครั้งที่ 11 แล้วนะจ๊ะ) พอกลับบ้านมาเหนื่อยไม่ได้อ่านแต่แอบเปิดๆดูคำนำสำนักพิมพ์ อ่านแบบลวกๆ น่าสนใจดีแฮะ แต่ เพราะติดเล่นเนตอ่ะ พอมองนาฬิกาอีกทีดึกมากไม่ไหวหลับเลยดีกว่า เลยไม่ได้อ่าน และแล้วเมื่อเย็นฤกษ์ดีก็มาถึงหลังคิดอะไรเพลินๆ เหลือบมา เออ เกือบลืมว่าจะอ่านซะหน่อย นั่งอ่านไปคิดไป น้ำตาไหลไปพลาง เหมือนมันกระแทกอ่ะ มันโดน ถ้าเราเล่าเนื้อหาเอง อาจออกมาไม่ดีเท่าไร่ เราเอาเนื้อหาโดยย่อจากเว็ป se-ed มาให้อ่านละกัน พบกับเรื่องจริงที่เป็นดั่งเวทมนต์ที่จะทำให้คุณหันมามองย้อนและสำรวจตัวเองและแก้ไขปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และหากคุณกำลัง โกรธ เกลียด ไม่พอใจใคร หนังสือเล่มนี้จะบอกให้คุณรู้ถึงขั้นตอนแห่งการให้อภัย ที่สั้นๆ ง่ายๆ และนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมาแล้วมากมาย กับหนังสือ how to เล่มนี้ที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ที่ 9 ใน 10 คนอ่านแล้วจะต้องร้องให้ และยังได้รับรางวัลหนังสือ non - fiction ที่ทุกคนควรได้อ่าน อ่านเรื่องย่อพอสนใจกันบ้างแล้วใช่ม่ะ แบบว่าเข้ากับอารมณ์เราตอนนี้มากๆ แบบ ว่าทั้งโกรธ ทั้งเกลียด อ่ะนะ หนังสือเล่มนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กฎแห่งกระจก และบทส่งท้าย ประกอบด้วย นำพาความสุขสู่ชีวิตของคุณ , ชีวิตคือกระจกส่งสะท้อนจิตใจ , ความสบายใจจาการให้อภัย , 8 ขั้นตอนสู่การให้อภัย , นำพาสุขสู่ชีวิตของคุณ หลังอ่านจบอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งชั่วโมง ระหว่างอ่านบทแรก เรียกน้ำตาเรามากเจ้าค่ะ ส่วนบทส่งท้าย คนเขียนเค้าให้แนวทางนะค่ะ ที่อ่านมามันก็เข้าหลักของชาวพุทธเรานะ คงจะพอได้ยินคำพูดที่ว่า ถ้าเราทำไม่ดีกับพ่อแม่ เมื่อเรามีลูก ลูกของเราก็จะทำไม่ดีกับเราอย่างนั้นเหมือนกัน อ่านจบบทแรกคิดถึงเรื่องนี้เลย ว่ามันเหมือนเวรกรรมอ่ะ เรื่องการกระทำ กรรมมันเหมือนลูกโซ่นะ แบบว่าใครทำฉันท์ใดก็ได้ฉันท์นั้น มันมีผลสะท้อนกลับในตัวเองไม่ว่าจะช้าหรือเร็วอ่ะ คือบทแรกเค้ากล่าวถึงชีวิตของแม่บ้านคนหนึ่งที่เป็นกังวลเพราะลูกชายโดนกลั่นแกล้ง เข้ากับเพื่อไม่ได้ แล้วแบบว่าลูกเค้าก็ไม่เคยเอามาปรึกษาแม่ หรือบอกกล่าวแม่เลย แต่แม่เค้ารับรู้ตลอดว่าลูกเจออะไรบ้าง แม่ก็ร้อนรน ทนไม่ได้เป็นทุกข์เพราะห่วงลูก สามีขอเค้าเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษารุ่นพี่ที่รู้จักกัน เค้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและที่ปรึกษา แม่บ้านคนนี้ก็เลยไปปรึกษา (ตอนแรกเหมือนจะไม่ยอมอ่ะ) รุ่นพี่คนนี้เค้าก็ช่วยเค้าบอกวิธีแก้ไขทำให้แม่บ้านคนนี้รู้ว่าปัญหาทั้งหมดมาจากตัวของเธอเอง สืบเนื่องมาจากการที่เธอไม่ชอบพ่อของตัวเอง โกรธพ่อของตัวเอง และไม่เคารพสามี เค้าจึงสอนวิธีให้เธอให้อภัย และให้ขอบคุณ พอเธอทำตาม ชีวิตเธอเปลี่ยน ทุกสิ่งคลี่คลายไปในทางที่ดี ว่าจะไม่เล่านะเนี่ยอดไม่ได้อีก ถ้าอยากรุ้ว่าวิธีนั้นเป็นอย่างไร ก็ต้องอ่านเองค่ะ และพิสูจน์เองค่ะ ว่าถ้าทำตามจะเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า ปัญหาของคุณจะถูกแก้ไขไหม เราว่าน่าสนใจนะ เราชอบวิธีการถ่ายทอดของหนังสือเล่มนี้มันเข้าใจง่าย มีอย่างหลายอย่างที่ได้คิดหลังจากอ่านจบค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2552 17:17:27 น. |
|
3 comments
|
Counter : 475 Pageviews. |
|
|