ความคิดอิสระ ของคนอิสระ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมบล็อกของเมเปิลนะคะ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
3 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
เมื่อวันที่ฉันป่วยจึงรู้ว่าใครกันแน่ที่รักฉัน

2/กรกฎาคม/2553

วันนี้ฉันตื่นมาสายมาก ทุกทีจะตื่นไม่เกิน ตี 5.30 น.
แต่วันนี้ปาไป 06.15 น. โอ้แม่เจ้า รีบอาบน้ำ-แต่งตัว-ทานข้าว
เพื่อให้ทันรถตู้มารับไปโรงเรียน

ตอนเช้า-เข้าแถวเคารพธงชาติ อาการปกติ สดใสร่าเริงเช่นทุกวัน
เข้าเรียนคาบแรกภาษาอังกฤษกับครูฝรั่ง หัวเราะเฮอา เหมือนทุกวัน
พอหมดคาบแรก เริ่มไอ และรู้สึกปวดหัว ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เพราะคิดอาจจะเครียดก็ได้ ถึงแม้ว่า ณ ตอนนั้นจะไม่ได้เครียดอะไรก็ตาม

คาบ 2 เรียนภาษาไทย เริ่มปวดตา ดีนะที่ครูไม่ได้สอน แต่สั่งแบบฝึกหัดไว้
ท้ายคาบ 2 เริ่มตัวร้อน เพื่อนก็ชวนไปห้องพยาบาล แต่เมเปิลไม่อยากไป
เดี๋ยวจะเรียนไม่ทันเพื่อน

คาบ 3 เรียนสังคม ครูไม่ได้สอนเช่นกัน แต่เฉลยแบบฝึกหัดที่ครูสั่งให้ทำ

คาบ 4 เรียนคณิตศาสตร์ คาบนี้ครูสอน แต่ก็เข้าใจอยู่ เพราะตั้งใจเรียน
ถ้าไม่เข้าใจเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่

คาบ 5 พักเที่ยง อาการตัวร้อนยังไม่หาย คิดในใจ ต้องไม่สะบายแน่ ๆ
ไม่อยากกินอะไรเลย เห็นแล้วนึกได้อยากเดี๋ยวว่า
กินแล้วต้องอ้วกออกมาแน่ ๆ สรุปกินขนมปังปิ้งนมเนย

คาบ 6-7 คาบนี้เรียนเคมี 2 คาบรวด ไอเกือบตลอดเวลา สงสัยเป็นเพราะเนย
แต่ดีหน่อยที่ 2 คาบนี้ไม่ได้เรียนเครียดอะไร ประมาณว่าเล่นซะมากกว่า
แต่ก็ไม่ความรู้สอดแทรก
คาบนี้เริ่มปวดเอว เอ๊ะ อะไรหว่า งงจัง ?? สงสัยนั่งนานไม่ได้ขยับ

คาบ 8 เรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติ พอดีครูไปเชียงใหม่
ดีใจที่ไม่ได้เรียน เพราะครูนี้น่ากลัว พูดไทยก็ไม่ได้ น้ำเสียงน่ากลัว
ถ้าเรียนด้วย คงปวดหัวเพิ่มอีกแน่ ๆ

บรรยากาศตอนเย็นตอนที่ยังไม่เลิกเรียน ลมพัดตลอดเวลา
แถวตรงประตูห้องเป็นบริเวณที่ลมเข้ามาพอดิบพอดี
บอกให้เพื่อนช่วยปิดประตูให้หน่อย เพื่อนก็ไม่ปิด บอกว่าเย็นดี
โอ๊ยย...คิดทางบวก ช่างเขาเหอะ ความสุขของเขา
เลยโทรหาแม่ บอกว่าถ้าแม่เลิกงานแล้วส่งไปหาหมอหน่อย
แม่ก็บอกว่าทำไมไม่ให้พ่อไปส่ง พ่อเลิกงานเร็วกว่าแม่
เมเปิลก็ไม่ยอม อยากให้แม่ไปส่ง (ง้อนแม่ว่าังั้น)
แม่ก็เลยตกลง ดีใจจัง
(ที่ไม่อยากให้พ่อไปส่ง เพราะ งอนพ่อนิดหน่อย)

เลิกเรียนมารอรถ ลมยังพัดไม่หยุด หนาวก็หนาว
พอรถมาถึง ขึ้นรถ โอ๊ยย.. ปกติรถนี้จะเปิดแอร์ ยิ่งหนาวเข้าไปอีก
ไม่ไหว ๆ ก็หลับ(ตา)หน่อยแล้วกัน

พอถึงปากซอย เปิดประตู ลงรถ ปิดประตูรถ ขณะที่ปิดประตูก็เกือบล้ม!
โอ้.. ทำไมโลกมันเอีงอย่างนี้ ค่อย ๆ ตั้งสติ เดินไปบ้าน (อย่างช้า ๆ)
โลกมันก็ช่างเอียงได้ใจจริง ๆ

ถึงบ้านปุ๊บ รีบเอากระเป๋าวาง ถอดถุงเท้า รีบเข้าห้องน้ำ เพราะไม่ทันเข้าที่ร.ร
รีบเข้าห้องนอน มุดหัวนอน ร้อนไปหมด แต่ก็หนาวต้องห่มผ้า
เสียงใน(สมอง)หัวดัง ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ มันตือเสียงการเต้นของหัวใจ
แต่ก็ไม่รู้ว่ามันไปดังที่สมองได้ยังไง
ตัวร้อนจนผ้าที่ห่มร้อนตามไปด้วย แต่เหงื่อไม่ออกสักเม็ดเดียว

นอนไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ปวดหัวก็ปวด ได้ยินเสียงรถของแม่มาถึงบ้านแล้ว
แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุก ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไปหมด

พอแม่ทำอาหารเย็นเสร็จ แม่ก็มาปลุก เมเปิลก็ไม่อยากลุก เพราะไม่มีแรง
แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปหาหมอกัน เมเปิลก็พยายามลุกให้ได้ โลกก็ยังเอียง
ถอดเข็มขัดนักเรียนออก ดึงชายเสื้อออก ล้างหน้า
ผมเผ้าไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว เลยหัวยุ่งไปหาหมอแบบนั้น

ไปถึงลงจากรถก็เกาะแม่ตลอด เพราะโลกมันเอียง เดี๋ยวจะล้ม
ณ ตอนนี้ปวดหัวบริเวณท้ายทอย (บริเวณนี้เกี่ยวก็สายตา ถึงว่าโลกเอียง ๆ)

ไปนั่งบนเตียงผู้ปวด คุณหมอก็เอาปรอทมาวัดไข้
ระหว่างนี้แม่ก็บอกว่า ฉีดยานะ เมเปิลก็ตอบ(ด้วยเสียงอันแหบแห้ง) ว่า
อยากฉีดยาเหมือนกัน(ถึงแม้ว่าปกติจะกลัวเข็ม แต่วันนี้กลับไม่รู้สึกกลัวเลย)

ปรอทประมวลผล ได้ 38.7 องศาเซลเซียส โอ้โห อย่างนี้ไข้สูงหรือป่าวคะนี่
หมอก็บอกว่าผู้ใหญ่ที่ไม่สบายมาวัดไข้ ได้ 36 กว่า ๆ ก็ไม่เป็นอันอยู่ดีแล้ว
แต่เด็กไข้สูงขนาดนี้ คงแย่น่าดู (คิดได้ในใจ ใช่แล้วค่ะคุณหมอ)
จากนั้นหมอก็เอาไฟฉายมาส่อง แลบลิ้น โอ้โหคอแดงมากเลย
(คิดในใจไม่เห็นเจ็บคอเลยนี่ แม่ก็บอกอาจจะเป็นเพราะไอเยอะมั้ง)
หมอพูด ฉีดยานะคะ เมเปิลพูดตอบ ค่ะ ฉีดยาค่ะ

สักครู่ คุณหมอก็เอาเข็มฉีดยามา คิดในใจ มันจะเจ็บแค่ในกันเชียว
เมื่อหลายปีก่อน โดนฉีดยา เกือบเดินไม่ไหว เจ็บมาก

แล้วหมอก็เอาแอลกอฮอล์มาเช็ด (บริเวณก้นที่เลยจากเอวมานิดหน่อย)
คิดในใจ เอาละสิ งานเข้าแล้ว เริ่มเกร็งหมอบอกไม่ต้องเกร็งค่ะ
หมอบอก หายใจเข้า-ออกลึก ๆ นะคะ เมเปิลก็ทำตาม จับมือแม่ตลอดเวลา
เสร็จแล้วค่ะ คุณหมอก็นวด ๆ ให้ยามันแพร่(มั่ง) งงเลยค่ะ
ฉีดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่เห็นรูปสึก หรือว่าก้นมีไขมันเยอะ 555

หมอจัดยาให้ รวมแล้ว 70 บาท ได้วิตามินซีมาทานเล่นด้วย ฮ่า ๆๆ

ระหว่างที่แม่ลงไปซื้อโจ็กแบบซองมาต้มเองพ่อก็พูดอยู่นั้นแหละ
ว่าฉีดยาเดี่ยวจะเจ็บก้น
เชอะ เจ็บ แต่หายป่วย ก็ไม่เลวนะคะ

แม่ซื้อเสร็จก็มุ่งไปที่บ้าน บอกแม่ว่าไปนอนก่อนได้ไหม
แล้วค่อยมาทานยาก่อนอาหาร แม่ก็บอกว่ากินก่อนแล้วค่อยไปนอน
เมเปิลก็ทานยาเสร็จก็รีบไปนอน


ตื่นมาอีกที แม่มาปลุก ดูนาฬิกา 21.00 น. โอ้ว รีบไปอาบน้ำทันที
เสร็จรีบเข้านอน แถมยังง้อนแม่อีกว่า นอนด้วยกันนะแม่
แม่ก็โอเค เย้ ๆ ดีใจ

แล้วแม่ก็มาปลุก (ล็อคกลอน) แม่ก็บอกว่าเปิดประตูหน่อย
เมเปิลก็เปิดประตู แล้วก็นอนต่อ แม่ก็มาปลุก บอกว่ากินข้าว
เมเปิลก็บอกว่า ไม่กินได้ไหม อยากอ้วก
แม่ก็บอกไม่กินแล้วตัวจะกินยาหลังอาหารได้ไง
(ขอบอกว่าน้ำเสียงเป็นห่วงยิ่งนัก ไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้มาหลายปีแล้ว)

แม่ก็บอกว่าค่อย ๆ กินนะ โจ๊กที่แม่ทำ(ต้มเอง แต่ซื้อเอา)มันช่างอร่อยยิ่งนัก
กินไปได้สัก 3 คำบอกว่า ไม่ไหวแล้วแม่ แม่ก็เอายาให้กิน 3 เม็ด
เม็ดหนึ่งสีค่อยเป็นธรรมชาติหน่อย แต่อีก 2 สี สีมันช่างฉูดฉาดมาก
ชมพูเข้มซะน่ากลัว กลัวว่าสีมันจะไปตกค้างในร่างกาย

พอทานยาเสร็จ อุ๊บ รีบเอามือปิดปาก แม่รู้เลยว่าจะต้องอ้วกแน่ ๆ
เอามือทำท่าเท้าสะเอวข้างหนึ่ง มืออีกข้างชี้มา ประมาณว่าฮั่นแน่
แต่ก้มหน้าเล็กน้อย แบบจ้องหน้า ทำหน้าประมาณว่า ห้ามอ้วกออกมานะ

แต่แล้วมันก็กลั้นอะไรไม่ไหว รีบวิ่งไปอ้วก พรวด.....
มีแต่น้ำกับโจ๊กที่ออกมา ยาที่ทานไปก็น่าจะออกมาด้วย
แต่ก็งงว่าทำไมน้ำที่อ้วกออกมามันเยอะจัง ทั้งที่ก็ไม่ได้ดื่มน้ำเยอะ
แถมตอนอ้วกก็ไม่ขมด้วย ปกติถ้ามันจะเพราะน้ำดีมันออกมาด้วยมิใช่หรอ

แม่ก็มาลูบหลังให้ เอาน้ำมาให้ล้างปาก
จากนั้นก็ถามแม่ว่า กินยาอีกไหม แม่ก็บอกว่า ไม่ต้องกินแล้ว
เมเปิลก็ไปล้างปาก สวดมนต์ไหวพระ ไม่ต้องเขียนมันแล้ว ไดอารง ไดอารี่
รีบนอนทันที ไม่ลืมที่จะบอกรักแม่ก่อนนอนด้วย
(รักจังแม่คนนี้ น้ำเสียงที่พูดด้วยเวลาเป็นไข้น่ารักมาก ๆ
แถมพ่อไม่มาสนใจ แม่เลยได้หัวใจเมเปิลไปเต็ม ๆ เล้ยยย)

3/กรกฎาคม/2553
ตื่นขึ้นมาตอน ตี 2.14 น. กระหายน้ำ จึงเอาน้ำมาดื่มพยายามนั่งสักครู่
แล้วค่อยนอน เพราะถ้านอนเลยเดี๋ยวมันจะอ้วกเอา

ตี 3 คุณแม่ตื่นมา เตรียมของไปขายที่ตลาด
เมเปิลก็ตื่นด้วยแต่ไปเข้าห้องน้ำแล้วก็นอนต่อ

06.40 น. ตื่นมา อาการปวดหัวเริ่มหายไปแล้ว
ตัวก็ไม่ร้อนแล้ว ไอก็ไม่ไอแล้ว ดีใจมาก ๆ

พอบ่าย 2 แม่ก็โทรมา ถามว่าทานข้าว-ทานยา แล้วหรือยัง
พอดีเมเปิลทานเสจ็จพอดี ก็เลยตอบไปว่าทานแล้ว
ตอนนั้นอยากกินโยเกิร์ต เลยบอกให้แม่ซื้อมา
ณ ตอนนั้นอยากกินรสมะพร้าว แต่ก็บอกไปว่ารสอะไรก็ได้
ในคิดว่าแม่ต้องซื้อรสสตอเบอร์รี่มาแน่ ๆ

สรุปแม่กลับมาถึงบ้าน ซื้อมาทั้ง 2 รสเลย ฮ่า ๆๆ

เมนูอาหารเย็นคือข้าว รสชาติเหมือนที่แม่ทำทุกวัน
ก็อร่อยอยู่ พอทานเสร็จไอยิ่งกว่าเพราะว่ามันมัน อ๊ากกก

ทานยาหลังอาหารแล้ว ง่วงและปวดหัวจัง แถมและเจ็บคอด้วย แย้ ๆ

ขอตัวไปอาบน้ำและเข้านอนก่อนนะคะ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมหนูเมเปิลค่ะ
สวัสดีค่ะ

รักแม่จัง

-+-+-+-+-+เกือบ 3 อาทิตย์ หนูเมเปิลหายไปไหนมา-+-+-+-+-+
พอดีอินเตอร์เน็ตมีปัญหานิดหน่อยค่ะ
วันนี้กลับมาใช้ได้เป็นปกติแล้ว เย้ ๆ

ขอบคุณของตกแต่งบล็อกจาก...
เพื่อนๆ ชาวบล็อกแก็งค์นะคะ




























Create Date : 03 กรกฎาคม 2553
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 21:47:16 น. 5 comments
Counter : 717 Pageviews.

 
หายเร็ว ๆ นะคะ หนูเมเปิ้ล


โดย: teddybear@LB วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:54:45 น.  

 
สวัสดีครับ
แวะมาเยี่ยม ขอให้หนูเมเปิลสุขภาพแข็งแรงนะ
นอนหลับฝันดีครับ


โดย: kitpooh22 IP: 119.31.65.28 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:33:05 น.  

 
แวะมาทักทาย..
ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ


โดย: kithe วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:44:41 น.  

 
แล้วนี่หายดีแล้วหรือยังจ้ะหนูเมเปิล

รักษาสุขภาพด้วย ..จ้า



โดย: พี่อุ๊ (นึกว่าคัย ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:12:59 น.  

 
ก๊อกก๊อก...สาวน้อย..เป็นไงบ้าง..เงียบไปเลยนะคะ...หายป่วยไวไวนะคะ

รูปตรงโปรไฟล์..เมเปิ้ลตอนเด็กหรอคะ



โดย: Calla Lily วันที่: 8 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:55:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูเมเปิล
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เมื่อเรามี "น้ำตา" ไม่ได้หมายความว่าเราพ่ายแพ้


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาทักทายกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ ^__^
Friends' blogs
[Add หนูเมเปิล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.