Group Blog
มกราคม 2555

1
7
8
9
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
กำเนิดผู้สร้างโลก
กำเนิดผู้สร้างโลก
มนุษย์คือ..ผู้สร้างโลกและผู้ทำลายโลก




“ลูกพ่อผู้มีจิตเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ ในการยึดติดรูปร่างกายของสิ่งมีชีวิต พวกเจ้าก็คือ พระผู้สร้างโลกที่แท้จริงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจ้าทั้งหลาย ลองกำหนดจิตทบทวนความรู้ด้วยความเป็นจริง ให้รู้จักตัวตนของตนเองว่า พวกเจ้าคือพระผู้สร้างโลกได้อย่างไร พวกเจ้าลงมายังโลกสมมุตินี้ เพื่อเรียนรู้ว่าโลกนี้ไม่เที่ยง สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีจิตครอง รวมทั้งธรรมชาติทั้งหลายในโลกนี้ ล้วนไม่แน่นอน มีอาการเปลี่ยนแปลงแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา พวกเจ้าทำไมยังพากันหลง นำจิตรู้ของพวกเจ้าเข้าไปซ้อนสถิตเป็นชีวิตเดียวกันกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกนี้ ทำให้พวกเจ้าออกจากร่างสมมุตินั้นไม่ได้อีกต่อไป..
พวกเจ้าคือพระผู้สร้างโลก เริ่มจากการสร้างเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่มีจิตวิญญาณครอง เจ้าสร้างครอบครัวจากหนึ่งเป็นสอง มีชาย-มีหญิง มีดี-มีเลว มีสรรเสริญ-นินทา มียศ-เสื่อมยศ มีลาภ-เสื่อมลาภ มีเกิด-มีดับ เมื่อมีสุขก็ต้องมีทุกข์ เป็นอยู่เช่นนี้ตลอดไปของโลกสมมุติ....
กาลเวลาที่ผันผ่านมาอย่างเนินนาน นับล้านๆๆๆๆ ๆๆ ๆ ๆๆ ชาติ พวกเจ้าผู้ยึดติดในตัวตนของคำว่ามนุษย์ หลงคิดว่าตนนั้นเป็นสัตว์ประเสริฐ จนไม่ยอมเข้าใจคำว่า จิตเดิมจิตแท้คือจิตรู้ จิตคือตัวรู้ รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าจิตของพวกเจ้าไม่ปล่อยให้ความรู้ของโลก เข้าครอบครองห่อหุ้มจิตของพวกเจ้าไว้เสียทั้งหมด จิตรู้ของเจ้าก็ยังคงมีความดีของจิตรู้ที่แท้จริงอยู่ แต่เวลานี้จิตรู้ของเจ้าสั่งสมทั้งความดีและความไม่ดีเอาไว้มากมาย ข้ามภพข้ามชาติยาวนานเหลือเกิน จนจิตของพวกเจ้าไม่หลงเหลือคำว่า จิตรู้อีกต่อไป แม้แต่สัญญาณความรู้ตามความเป็นจริงจากพ่อ ที่ส่งลงมาในครั้งนี้ยุคนี้เท่านั้น พวกเจ้าก็ยังพากันลังเลสงสัย ต่างคนต่างจิตต่างก็คิดว่าผิดเพี้ยน ทั้งๆ ที่เป็นสัญญาณความรู้ตามธรรมชาติ เต็มไปด้วยเหตุและผล พวกเจ้าก็ยังหาว่าผิดเพี้ยนจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มา อย่างนี้พ่อน่าจะลงโทษพวกเจ้า โดยการปล่อยให้หลงทางต่อไปอีกนานแสนนานถ้าจะดี เพราะพวกเจ้าชอบยึดติด ชอบเล่นละครเป็นตัวพระผู้สร้าง และผู้ทำลายกันอยู่ตลอดเวลา....
จิตพ่อ..คือจิตรู้ ผู้เป็นเจ้าแห่งสรรพชีวิต ได้ส่งสัญญาณความรู้ลงมายังมนุษย์ ผู้มีจิตดีจิตบริสุทธิ์สามารถรับสัญญาณจากพ่อได้ ก็เพียงเพื่อถ่ายทอดสัญญาณความรู้นี้ เข้าสู่จิตพวกเจ้าผู้เป็นมนุษย์ ที่ยังไม่สามารถรับสัญญาณความรู้จากพ่อได้โดยตรง พวกเจ้าต้องเรียนรู้และปรับปรุงจิตตนเองใหม่ทั้งหมด ตามสัญญาณความรู้ ที่พ่อส่งลงมาสู่จิตของเจ้าในเวลานี้ เจ้าต้องลิขิตชีวิต ลิขิตจิตวิญญาณของตนเอง ให้อยู่ในกรอบสัญญาณความดีเสียใหม่ เพราะพวกเจ้าเป็นสัตว์สังคม จะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก ความสงบสันติสุขก็จะบังเกิดขึ้นได้ในชุมชนบนโลกใบนี้...
พ่อผู้เป็นเจ้าแห่งจักรวาล และเป็นผู้สร้างจิตรู้ของพวกเจ้าขึ้นมา แล้วส่งจิตของพวกเจ้าเข้าไปอาศัยอยู่กับรูปร่างกายของมนุษย์ ที่ต้องอาศัยอยู่กับธรรมชาติที่มีอยู่ในโลกในจักรวาลนี้ รูปร่างกายที่พวกเจ้ามาอาศัยอยู่นั้นมีดวงตา จึงทำให้จิตของพวกเจ้ามองเห็นโลก เห็นธรรมชาติตามความเป็นจริง หูของพวกเจ้าเอาไว้ฟังเสียง จมูกของเจ้าเอาไว้ดมกลิ่น ปากและลิ้นของเจ้า มีเอาไว้สัมผัสกับรสของอาหาร ร่างกายของพวกเจ้ามีเอาไว้สัมผัสในธรรมชาติทั้งสิ้น จิตรู้ของพวกเจ้าที่เป็นนาย ในรูปร่างกายที่อาศัยอยู่ มีจิตรู้ปรุงแต่งคิดพิจารณาได้ตลอดเวลา อากาศร้อนจิตเจ้าก็รู้ อากาศเย็นจิตเจ้าก็รู้ ร่างกายมันหิวจิตเจ้าก็รู้ พวกเจ้าลืมไปเสียสิ้นว่า จิตเดิมเป็นจิตรู้ รู้ทุกเรื่องในโลกในจักรวาล แต่ตอนนี้จิตรู้ของพวกเจ้า ถูกครอบงำเสียสิ้นแล้ว ด้วยความสุขและความทุกข์ สิ่งไหนที่เข้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ สิ่งใดๆ ที่สร้างความพึงพอใจให้เกิดแก่จิต พวกเจ้าก็ปรุงแต่งว่า สิ่งนั้นดีสิ่งนั้นชอบ สิ่งไหนที่จิตของพวกเจ้าสัมผัสแล้วไม่พึงพอใจก็ปรุงแต่งจิตว่า สิ่งนั้นไม่ดีสิ่งนั้นไม่ชอบ สรุปแล้วตลอดชีวิตของพวกเจ้าในชาตินี้ มีเพียงสองสิ่งนั่นคือ ชอบกับไม่ชอบ หรือเรียกว่ารักและชัง เจ้าสองสิ่งเหล่านี้ จึงเป็นเหตุผลดลบันดาลให้จิตของพวกเจ้า แปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปจากจิตเดิมจิตรู้ เพราะอาศัยเพียงแค่เหตุแห่งรักและชัง อันเป็นเหตุผลให้พวกเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ สร้างเหตุให้เกิดทั้งความสุขและความทุกข์ไปพร้อมๆ กัน สิ่งไหนที่ชอบก็ทำให้พวกเจ้าเป็นสุข จิตใจก็เบิกบานแช่มชื่น สิ่งไหนที่พวกเจ้าเกลียดชังทำให้เป็นทุกข์ จิตใจก็ท้อแท้อ่อนแอสิ้นหวัง เกลียดชังคับแค้นใจไม่ห่างหาย ความทุกข์รุมเร้าแผ่ซ่านไปทั่วจิตกายตลอดกาล..
มาบัดนี้เวลานี้ พ่อได้ส่งสัญญาณความรู้ตามความเป็นจริงเข้าสู่จิตของพวกเจ้า เพื่อที่จะเตือนให้เจ้าได้รับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของตนเองว่า พวกเจ้าเป็นใคร มาจากไหน มาทำไมยังโลกใบนี้ ได้เรียนรู้อะไรจากการมีรูปร่างกายของมนุษย์ ทั้งรูปร่างกายของเจ้าเอง รูปร่างกายของบุคคลอื่น ผู้เป็นที่รักและผู้ที่เกลียดชัง ความสุขและความทุกข์ รวมทั้งต้นเหตุแห่งความสุขความทุกข์ คือรูปร่างกายของพวกเจ้า เมื่อถึงเวลามันก็สิ้นสุด ทุกอย่างก็พังสลายไปหมดสิ้น...
บัดนี้พวกเจ้าจะมัวมาสร้างเหตุ ถกเถียงกันอย่างคนไร้สติไร้ปัญญาอยู่อีกมนุษย์เอ๋ย.. พวกเจ้าก็คือ พระผู้สร้างโลกและผู้ทำลายโลก ที่มีจิตยึดเกาะแต่เหตุและผลของตนเอง เกาะตำรา เกาะคัมภีร์ เกาะเชื้อชาติ เกาะศาสนา เกาะความดี เกาะความไม่ดี จนไม่มีที่สิ้นสุดแห่งการกระทำ...และสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้นั่นก็คือ มนุษย์..ชื่นชอบการนินทา และสรรเสริญผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา และมีจิตยึดเกาะในสองสิ่งสมมุติในโลก นั่นก็คือ ความดี..และความไม่ดีนั่นเอง
พวกเจ้าผู้ใดไม่ยึดเกาะตำราเล่มไหนๆ จงทำลายความไม่รู้ในองค์ความรู้ ที่พวกเจ้าเคยจดจำกันมาเป็นนกแก้วนกขุนทอง บัดนี้จงเปิดจิตรับสัญญาณความรู้นี้ แล้วจงสอนตัวเองให้ได้ ทำความเข้าใจในเจตนาความรู้ในความรู้ รู้แจ้งด้วยตนเองให้ได้นะลูกเอ้ย...”




Create Date : 04 มกราคม 2555
Last Update : 4 มกราคม 2555 0:13:55 น.
Counter : 348 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ใบไม้เบาหวิว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



Friends Blog
[Add ใบไม้เบาหวิว's blog to your weblog]