~...คอยถักทอความฝัน...และรอจนกว่าวันที่ฝันก้าวออกมาเป็นความจริง...~
 
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
3 มกราคม 2553

ฝากหัวใจไว้ที่กลางภู ภาค2...บทที่9











เสียงเพลงบูมเชียร์ของบรรดาน้องๆ นักศึกษาปีหนึ่งยังคงดังก้องบริเวณหน้าตึกคณะวิทยาการจัดการ หนุ่มสาวเพื่อนซี้ยังคงขยันยิ้มแย้มหรือไม่ก็ทำหน้าตาแปลกๆ ใส่กล้องถ่ายรูปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

“ตากลมๆ ถ่ายรูปคู่กันๆ” ภวินทร์ลากแขนคนตัวเล็กมายังซุ้มดอกไม้หน้าคณะ ก่อนจะยืนยิ้มหน้าบานแฉ่งใส่กล้องถ่ายรูป และเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่ารอยยิ้มที่ออกมานั้น เป็นรอยยิ้มที่ส่งออกมาจากใจเพียงใด

“พ่อครับแม่ครับ...มาๆ ถ่ายรูปกับบัณฑิตใหม่สุดหล่อหน่อยเร้ว” ชายหนุ่มเรียกพ่อวินแม่กานต์ของตัวเองที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ให้เข้ามาด้วย “ตากลม...ไปพาพ่อกับแม่เธอมาด้วยสิเร็ว” คนพูดทำเสียงเหมือนสั่งจนพริมรตาอดจะยู่หน้าใส่เขาสักทีไม่ได้ แต่ก็ยอมเดินไปพาพ่อกับแม่มาถ่ายรูปร่วมกันอยู่ดี

“ยินดีด้วยนะครับคุณวินคุณกานต์ ลูกชายคว้าเกียรตินิยมมาให้ชื่นใจแบบนี้” พ่อวรเชษฐ์ของสาวน้อยตากลมเอ่ยแสดงความยินดีอย่างชื่นชม

“โห่ย...อะไรกันพ่อ ลูกสาวพ่อยืนอยู่ตรงนี้นี่ไม่ชมกันเลยนะ ลูกน้อยใจนะเนี่ย” ท่าทางที่พริมรตาแกล้งงอนคนเป็นพ่อนั้นเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพ่อๆ แม่ๆ ได้มาก

“เอ๊ะ...ยังไงกันไอ้ลูกคนนี้ ทำไมพ่อจะไม่ดีใจล่ะห๊า” คนเป็นพ่อโอบไหล่ลูกสาวเขย่าเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นๆ ของลูกสาวตัวเองอย่างหมั่นไส้

“ออ...จริงสิหนึ่ง บอมไปไหนซะละ?”

“โน่น...น้องกุณยังขอถ่ายรูปแล้วรูปอีกอยู่ตรงนู้น” ภวินทร์ชี้นิ้วไปทางเพื่อนซี้ที่โดนสาวน้อยนามว่ากุณฑิรายืนคล้องแขนยิ้มหวานใส่กล้องอย่างไม่รู้เบื่อ แต่เขาก็ไม่แน่ใจ...ว่าเพื่อนเขาเองหรือเปล่าที่จะเป็นคนเบื่อ!

รอยยิ้มของพริมรตาที่ส่งให้กับภวินทร์นั้นต้องหุบลงทันที เมื่อมองเลยไปทางด้านหลังชายหนุ่มแล้วเห็นรุ่นน้องปีหนึ่งที่เป็นหวานใจของเขา

“ยินดีด้วยนะคะพี่หนึ่ง พี่พิมด้วยนะคะ” รอยยิ้มหวานๆ ของหญิงสาวตรงหน้าเผื่อแผ่มาทางเธอด้วย และคงไม่แปลกนักที่พริมรตาจะยิ้มตอบกลับไป แต่ไม่รู้ทำไม...เธอถึงได้รู้สึกว่ารอยยิ้มที่ส่งกลับไปนั้นมันดูฝืนพิกล

“จู๋จี๋กันสองคนก่อนนะหนึ่ง...เดี๋ยวเราไปถ่ายรูปกับพ่อแม่ก่อน” พริมรตาแสร้งพูดสดใส และส่งยิ้มไปให้น้องใหม่และเพื่อนของเธอ ภวินทร์พยักหน้าเบาๆ แต่...

ทำไมตากลมต้องทำตาเศร้าขนาดนั้นด้วยนะ...เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย...

การปรากฏตัวของหมอหนุ่มเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าบัณฑิตสาวๆ ที่ชื่นชมพี่หมอปาร์คเป็นทุนเดิม แม้แต่เหล่าบรรดาญาติๆ ของบัณฑิตก็ให้ความสนใจในตัวชายหนุ่มไม่น้อย

“ยินดีด้วยนะครับ...บัณฑิตสาวคนเก่ง” ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ถูกยื่นออกมาตรงหน้าพริมรตา หญิงสาวส่งยิ้มไปให้คนตรงหน้าหวานหยด จนคนที่เพิ่งมีหวานใจมาหาอดจะเคืองกับรอยยิ้มนั้นไม่ได้

ที่แท้ตาเศร้าเพราะว่าไอ้หมอหน้าตี๋นั้นไม่มาหาสักทีใช่มั๊ยล่ะ...โธ่เอ๊ย!!!! ขัดใจวุ๊ย...

“ขอบคุณมากๆ นะคะพี่ปาร์ค แย่จริง...พิมไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้พี่ปาร์คเลย” พริมรตารับช่อดอกไม้ช่อใหญ่นั้นมาไว้ในอ้อมแขน และเหมือนเธอจะสังเกตได้ว่า มีหญิงสาวหลายคนส่งสายตาขุ่นๆ มาทางเธออีกด้วย

หมอปริญญ์ยิ้มกับคำพูดของหญิงสาวตรงหน้าก่อนบอก “แค่น้องพิมยิ้มให้พี่แบบนี้ พี่ก็ดีใจมากแล้วคับ” คำพูดนั้นเรียกเสียงแซวจากบรรดาเพื่อนๆ ของหญิงสาวที่ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย

“โหๆๆๆ พี่หมอครับ...แค่พี่หมอลงทุนพาตัวเองจากหน้าตึกคณะแพทย์มาตึกวิทยาการเนี่ย เพื่อนปอมก็ดีใจจะแย่แล้ว พูดแบบนี้อีก...ก็เขินกันใหญ่สิคร้าบบบบ” คำพูดของนายปอมเพื่อนปากมอมของเธอเสียงเป่าปากวีดวิ้วจากเพื่อนที่เหลือ แถมยังเรียกรอยยิ้มจากบรรดาพ่อแม่ของเธอได้อีกด้วย

“เอ...คุณ สงสัยว่าเราจะได้เขยเป็นคุณหมอเสียแล้วกระมัง” แม่เอมของพริมรตาหันไปพูดกับสามีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม



ภวินทร์คงไม่รู้ตัวว่าหลังจากการปรากฏกายของหมอปริญญ์แล้ว เขาแทบจะไม่ได้ให้ความสนใจกับหญิงสาวตรงหน้าของตัวเองเลยสักนิด สายตาของเขายังคงเหลือบมองไปในทางที่เห็นว่าเพื่อนสาวตากลมของเขายืนอยู่ตลอดเวลา สายตาที่ขุ่นอยู่แล้วขุ่นขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าบรรดาเพื่อนสนิทของเขาพากันเห็นดีเห็นงามกับความเหมาะสมของคู่คุณหมอกับเพื่อนของเขาไม่น้อย

เออ...ก็เหมาะกันดีอยู่หรอก แต่ไม่ชอบโว้ย ใครจะทำไม...
ยิ่งเห็นดอกไม้ช่อใหญ่ที่อยู่ในอ้อมแขนของพริมรตานั้นความขุ่นเคืองยิ่งทวีคูน

เออ...ประคบประหงมเข้าไป ไอ้ดอกไม้ช่อนั้นน่ะ อย่าเผลอเชียว พ่อจะแอบเอาไปทิ้งให้ดู!!!

“พี่หนึ่งคะ” กัณยากรจำได้ว่าเธอเรียกชายหนุ่มตรงหน้าเป็นครั้งที่สามแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ยิน เมื่อมองตามสายตาเขาไปแล้วเธอก็เกิดความสงสัย

สายตาแบบนี้...สายตาแห่งความไม่พอใจ

พี่หนึ่งไม่พอใจที่พี่พิมยืนคุยกับรุ่นพี่คนนั้นหรอกหรือ...


เอาน่า...ลองเรียกอีกสักครั้ง “พี่หนะ...หนึ่ง” เสียงเรียกชื่อตอนท้ายนั้นถูกกลืนเบาจนแทบไม่ได้ยิน เพราะจู่ๆ ภวินทร์ก็เดินเข้าไปหาพริมรตาอย่างรวดเร็ว

กัณยากรยืนมองภาพที่ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเธอเดินเข้าไปดึงพริมรตาให้ห่างออกจากคุณหมอหนุ่มและพาไปถ่ายรูปคู่อย่างช้ำใจและเข้าใจ...

ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง...หวังว่าเวลาของเธอคงไม่หมดเร็วเกินไป กว่าที่เขาจะรู้ว่า ที่จริงแล้วคนที่นั่งอยู่ในหัวใจเขามาโดยตลอดนั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นรุ่นพี่หญิงสาวตากลมน่ารักคนนั้นต่างหาก ที่อยู่ในหัวใจเขาโดยตลอดมา...





“เย้...” เสียงเฮพร้อมเสียงกระทบแก้วดังขึ้นลั่นบริเวณลานสนามกว้างแห่งรีสอร์ทภูฟ้า หลังจากผ่านวันรับพระราชทานปริญญาบัตร พ่อกวินทร์และแม่ณัฐกานต์ของภวินทร์ก็ยินดีที่จะให้หนุ่มสาวที่เปรียบเสมือนเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเองกลุ่มนี้ มาพักฉลองหลังจากต้องคร่ำเครียดอ่านหนังสือเพื่อสอบในปีสุดท้ายกันอย่างเต็มที่

“ในที่สุดพวกเราก็จบกันสักทีเนอะ” ป้อม หนุ่มทะเล้นประจำกลุ่มพูดขึ้นเสียงดัง

“นี่แน่ะ” พูดไปพลางตบหัวเพื่อนไปหนึ่งที “มีอย่างที่ไหนวะไอ้ป้อม บอกว่าพวกเราจะจบกัน ฟังดูแย่พิลึก ต้องบอกว่า...ในที่สุดพวกเราก็สำเร็จการศึกษาแล้ว ต่างหาก” ภวินทร์เถียงเสียงดัง เพราะไม่ว่าเขาลองทวนประโยคที่เพื่อนรักเอ่ยมาเมื่อครู่สักกี่รอบ ก็ยังไม่ค่อยเข้าหูเขาอยู่ดี

“เอาล่ะๆ พวกแกอย่าเพิ่งทะเลาะกันได้รึป่าววะ เสียบรรยากาศหมด” พริมรตาแย้งขึ้นบ้าง พลางยกแก้วที่บรรจุโค้กผสมแอลกอฮอล์อยู่กรอกใส่ปาก
“อะแฮ่มๆ เอาละๆ เป็นการเป็นงานกันหน่อย” พริมรตาที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่อง
แอลกอฮอล์เริ่มเกิดอาการตึงๆ แม้ว่าจะดื่มไปในปริมาณเล็กน้อยก็ตาม “ในฐานะที่พิมเป็นตัวแทนทุกคนละกันนะ พิมขอขอบคุณพ่อวินกับแม่กานต์มากนะคะ ที่อุตส่าห์ให้พวกเรามาพักที่รีสอร์ทฟรี อีกทั้งยังใจดีให้พวกพิมพาครอบครัวมาพักผ่อนได้ตามอัธยาศัยอีกด้วย ขอบคุณมากๆ จริงๆ นะคะ”

หญิงสาวยิ้มหวานให้กับกลุ่มพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้ ก่อนจะหันมาทางเพื่อนๆ ในกลุ่ม “แล้วฉันก็ขอบใจพวกแกทุกคนด้วยนะ ป้อม บอม หนุ่ม หนึ่ง แล้วก็น้ำฝน ที่เป็นเพื่อนรักของพิมมาตลอด รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกแกมีให้กันด้วย พิมรักทุกคนเลย” พูดจบเจ้าแม่บ่อน้ำตาตื้นอย่างพริมรตาก็ปล่อยโฮออกมาทั้งรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองเพื่อนทุกคน แต่เหมือนว่าเธอจะพลาดที่ทิ้งสายตาไว้ที่ภวินทร์นานเป็นพิเศษ เพราะพบว่าเขาก็มองมาที่เธอเหมือนกัน และไม่รู้ว่าเธอจะคิดเข้าข้างตัวเองไปหรือไม่ เมื่ออยู่ๆ เธอก็รู้สึกว่า ภายใต้ดวงตาคู่คมนั้นของเขา มันซ่อนแววหวานลึกซึ้งต่างจาก
ที่เคยเป็นมา

งานเลี้ยงยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากลุ่มพ่อแม่จะพากันกลับเข้าไปพักผ่อนยังบ้านไม้หลังใหญ่บนเนินเขาแล้ว กลุ่มเพื่อนซี้กลุ่มนี้ก็ยังคงยึดพื้นที่บนเสื่อผืนเล็กที่ปูกลางสนามหญ้าเป็นที่สังสรรกันอย่างต่อเนื่อง บทเพลงแห่งความผูกพันยังคงถูกถ่ายทอดออกมาจากบรรดาหนุ่มสาวไม่ได้ขาด โดยยึดทำนองจากกีตาร์โปร่งฝีมือของภวินทร์และกรพัฒน์สลับกันมิได้ขาด แต่งานเลี้ยงก็ต้องย่อมมีวันเลิกรา ต่างคนต่างมีหน้าที่จะต้องแยกย้ายกันไปทำตามที่ได้วาดฝันเอาไว้

“เฮ้ย...พวกเอ็ง ชนว้อย วันนี้ขอเมาเต็มที่ก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกันไป” ป้อมชูแก้วเหล้าขึ้นมา ก่อนเพื่อนๆ ในกลุ่มจะยกตาม

“เออ...แก้วนี้ขอสัญญาว่า พวกเราจะไม่ลืมกัน จะร่วมทุกข์ปันสุขกันไปตลอดชีวิต เอ้า...ชน” สิ้นเสียงของหนุ่มเสียงกร่องแกร๊งกระทบแก้วก็ดังขึ้น
พร้อมคำมั่นสัญญาที่ผูกพันในใจของทั้งหกหนุ่มสาวอย่างมั่นคง

ภวินทร์มองพริมรตาที่ยกหลังมือปาดน้ำตาออกจากแก้มใสยิ้มๆ เพราะรู้ดีว่ายัยตากลมของเขานั้น บ่อน้ำตาตื้นเพียงใด อะไรนิดอะไรหน่อยก็ร้องไห้ ยิ่งยามที่แอลกอฮอล์เข้าเส้นเลือดในยามนี้ การควบคุมตัวย่อมลดลง แม้เธอจะ
ดื่มไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม

“โอ๊ย...ไอ้ฝนทำไมแกหนักงี้วะ” ภวินทร์หันไปมองหนุ่มที่พยุงน้ำฝนขึ้นอย่าง
ทุลักทุกเล เนื่องจากสาวตัวอวบคนนี้เป็นโรค “เมาโค้ก” อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น จากปกติสาวเจ้าเนื้อคนนี้จะพูดน้อยคำ แต่พอ “โค้ก” เข้าปากเมื่อไหร่...จากคนพูดน้อยก็จะกลายเป็นคนพูดมาก และเกิดอาการมึนขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะค่อยๆ พยุงร่างบางของพริมรตาขึ้นมาบ้าง ส่วนกรพัฒน์ก็ต้องรับดูแลป้อมคอทองแดงประจำกลุ่มไปโดยปริยาย

“เฮ้ย...ก็บอกแล้วไงว่าเดินเองได้ๆ ทำไมแกไม่เชื่อฉันวะ มีอย่างที่ไหนมาหาว่าเราเมาโค้ก บ้าแล้ว...ไม่มีใครในโลกเค้าเมาโค้กกันหรอก” น้ำฝนที่ชักจะเริ่มรำคาญหนุ่มขึ้นมาตะหงิดๆ แอบฉุนเล็กน้อยที่เขาพยุงเธอไม่ขึ้นเสียที และใครจะยอมรับกันง่ายๆ ว่า “เมาโค้ก” เพราะตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบสองตัวเธอเองยังไม่เคยเห็นใครมีอาการเหมือนเธอเลยสักคน

“โห...ก็แกนี่ไง เมาโค้ก มีอย่างที่ไหนวะ กินโค้กแล้วลุกขึ้นเต้นได้ขนาดนี้ เพลงช้าที่ว่าฟังยังไงก็น้ำตาไหล แกยังลุกขึ้นหัวเราะไปเต้นไปด้วยได้เลยนะไอ้ฝน” พริมรตาเถียงเสียงดัง ก่อนจะหัวเราะออกมาประหนึ่งว่าอาการของเพื่อนเป็นเรื่องที่สุดขำ ทั้งๆ ที่อาการของตัวเองนำหน้าเพื่อนสาวสุดซี้ไปหลายขุม จนภวินทร์ต้องใช้ความสามารถอย่างสูงสุดเพื่อที่จะประคองร่างของเธอไว้ไม่ให้ล้มลุกคลุกคลานลงไปกองกับสนามหญ้าของรีสอร์ทอีกครั้งในขณะที่ถูกพยุงเดินขึ้นไปยังบ้านพักได้เกือบครึ่งทางแล้ว

ภวินทร์วางร่างเล็กลงบนที่นอนอย่างทุลักทุเล เขารู้ดีว่าเมื่อใดที่พริมรตาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป เขาจะต้องเป็นคนดูแลเธอเสมอ จึงไม่แปลกที่ภวินทร์เลือกที่จะดื่มเพียงน้อยนิดเท่านั้น เมื่อจัดการให้สาวตากลมนอนลงกับเตียงนอนได้ เขาก็ต้องตกใจเพราะจู่ๆ ร่างเล็กที่ทำท่าว่าจะหลับไปแล้วนั้นกลับลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งก่อนจะพยายามลืมตาขึ้นมามองเขา

“หนึ่ง....” เสียงยานคางของพริมรตาเรียกชื่อเขา

“ว่าไง...แม่สาวคออ่อน เอาผ้าเย็นหน่อยไหม?” ภวินทร์ถามยิ้มๆ

พริมรตาไม่ตอบหากแต่พยักหน้านิดๆ ผมเผ้าที่มัดเกล้าไว้บนหัวหลุดลุ่ยดูไม่เข้าท่า แต่หากตากลมที่ว่าหวานแล้วในเวลาปกติกลับหวานกว่าเคยที่เธอมองเขาแบบนี้ หากแต่ภวินทร์ต้องสะดุ้งในใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองจะจ้องหน้าหวานๆ นี่นานเกินไปแล้ว ก่อนจะทำท่าจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อไปหาผ้าชุบน้ำมาให้เธอ เพราะไม่รู้ว่าทำไม...จู่ๆ เขาถึงนึกไม่ไว้ใจตัวเองขึ้นมามากขนาดนี้ กลัวเหลือเกิน...ว่าถ้านานกว่านี้อาจมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก็เป็นได้
ภวินทร์กลับเข้าห้องมาอีกครั้งก็พบว่าพริมรตาหลับปุ๋ยไปแล้ว เขานั่งลงข้างๆ พิศมองหน้าหวานของเพื่อนรักด้วยความเอ็นดู เขาสาบานได้...ว่าพริมรตาเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่จะยอมดูแลเธอแบบนี้

“ทำไมเค้าไม่ชอบเราบ้าง...ชอบเราสักนิดก็ยังดี...” เสียงเบาราวกับละเมอดังออกมาจากริมฝีปากบางสวย จนภวินทร์ต้องเงี่ยหูฟังว่าพริมรตาพูดอะไรกันแน่

“อะไรตากลม...บ่นอะไร นอนได้แล้ว” ภวินทร์เอ็ดอย่างไม่จริงใจนัก ร่างบางส่งเสียงประท้วงอย่างขัดใจกับเสียงเอ็ดนั้น มือบางไขว่คว้าสะเปะสะปะจนภวินทร์ต้องรวบมาไว้ให้อยู่กับที่อย่างที่เคยทำ พริมรตาเป็นเช่นนี้เสมอ...

“ทำไมนายไม่ชอบเราบ้าง...ฮะ?” เสียงที่ภวินทร์ว่าละเมอนั้นดังขึ้นจนภวินทร์อดคิดตามกับคำพูดนั้นไม่ได้ ตากลมเธอหมายถึงใคร...

“ฮึฮึ...” พริมรตาหัวเราะ ทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา “พิมล่ะอยากตะโกนให้ก้องฟ้าไปเลย ว่า...รัก รัก แล้วก็รัก เผื่อจะได้ยินไปถึงเขาบ้าง...”

อ๋อ...คงคิดจะบอกรักไอ้พี่หมอหน้าหล่อนั่นน่ะสิ เหอะ...ฝันไปเถอะ นายนั่นไม่มีทางจะได้ยินคำบอกรักของเธอหรอก ให้ตาย!! ภวินทร์คิดอย่างพาลๆ ด้วยความโมโห รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่หัวใจโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่ทันสังเกต แต่สิ่งที่รู้ตอนนี้คือ...โกรธ

“นี่...” ภวินทร์ตีแขนหญิงสาวแรงๆ แทนการตั้งใจจะให้เธอนอนหลับไปในตอนแรก “ถ้าจะบอกรักใครก็ตื่นขึ้นมามองหน่อยได้ไหม...ตากลม ว่าไอ้คนที่อยู่เนี่ย มันใช่ไอ้หมอหน้าหล่อนั้นหรือเปล่า บอกให้ฉันฟังน่ะ ไม่ถึงไอ้นั่นหรอกนะจะบอกให้”

“คนบ้า...” พริมรตาพูดออกมาอย่างไร้สติอีกครั้ง

“ห๊ะ...เธอว่าฉันบ้าหรือไงตากลม ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้...” ภวินทร์พยายามปลุกคนบนเตียงให้ตื่น อารมณ์โกรธเริ่มพุ่งขึ้นเรื่อยๆ

บอกรักไอ้หมอต่อหน้าต่อตายังไม่พอ ยังด่าเขาอีกงั้นหรือ...มากไปแล้วพริมรตา

“ฮือๆๆๆ” จู่ๆ พริมรตาก็ร้องไห้ออกมาทั้งยังหลับ

“เฮ้ย...ร้องไห้ทำไม?”

“คนบ้า...คนบ้าคนนั้น...ไม่ยอมรักพิม ไม่ยอมรักพิมเสียที...” ร่างบางยังคงพูดออกมาไม่หยุด

“อะไรกัน...ฉันก็เห็นมันรักเธอดีนี่...” ภวินทร์เถียง จากที่นั่งอยู่ขอบเตียงเริ่มจะลุกขึ้นมายืนเท้าเอวมองคนบนเตียง ว่าเมื่อไหร่จะหยุดพูดสักที เขาเบื่อจะฟังเต็มทน

“พิมรักเขา...” พริมรตายังคงพูดอีก...

“พอเถอะพิม...ไม่อยากฟัง หลับซะเดี๋ยวนี้” ภวินทร์เริ่มเสียงดัง

“พิมรักเขามากๆ เลยนะ”

เมื่อเห็นว่าร่างบางยังคงพร่ำบอกรักนายแพทย์หนุ่มไม่หยุดภวินทร์ถึงกับโวยเสียงดัง ก่อนจะกระแทกเท้าออกจากห้องนอนไป









ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ตัวเล็ก-ตากลม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...ฉันไม่ใช่คนหน้าตาดี...
หลายคนบอกว่าตาฉันกลมตัวฉันเล็ก
ฉันเลยตั้งฉายาให้ตัวเองอย่างน่ารักน่าหยิกว่า
"ตัวเล็กตากลม"






Host for Free Uppic.NET!!


Pic=new Array("http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/anibfly13.gif", "http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/anibfly12.gif", "http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/anibfly11.gif") MaxSpeed=4; MinSpeed=2; /************************ Nothing needs altering below ************************/ load = new Array() for(i=0; i < Pic.length; i++) { load[i] = new Image(); load[i].src = Pic[i]; } n=Pic.length; n6=(document.getElementById&&!document.all); ns=(document.layers); ie=(document.all); d=(ns||ie)?'document.':'document.getElementById("'; a=(ns||n6)?'':'all.'; n6r=(n6)?'")':''; s=(ns)?'':'.style'; if (ns){ for (i=0; i < n; i++) document.write(""); } if (ie||n6){ for (i=0; i < n; i++) document.write("
"); } VB=0; HB=0; R=new Array(); PB=new Array(); RD=new Array(); Y=new Array(); X=new Array(); D=new Array(); SP=new Array(); BY=new Array(); BX=new Array(); for (i=0; i < n; i++){ Y[i]=10; X[i]=10; D[i]=Math.floor(Math.random()*70+10); SP[i]=Math.floor(Math.random()*MaxSpeed+MinSpeed); } function Curve(){ plusMinus=new Array(1,-1,2,-2,3,-3,0,1,-1,0,5,-5) for (i=0; i < n; i++){ R[i]=Math.floor(Math.random()*plusMinus.length); RD[i]=plusMinus[R[i]]; } setTimeout('Curve()',1500); } function MoveRandom(){ var H=(ns||n6)?window.innerHeight:document.body.clientHeight; var W=(ns||n6)?window.innerWidth:document.body.clientWidth; var YS=(ns||n6)?window.pageYOffset:document.body.scrollTop; var XS=(ns||n6)?window.pageXOffset:document.body.scrollLeft; for (i=0; i < n; i++){ BY[i]=-load[i].height; BX[i]=-load[i].width; PB[i]=D[i]+=RD[i]; y = SP[i]*Math.sin(PB[i]*Math.PI/180); x = SP[i]*Math.cos(PB[i]*Math.PI/180); if (D[i] < 0) D[i]+=360; Y[i]+=y; X[i]+=x; VB=180-D[i]; HB=0-D[i]; //Corner rebounds! not necessary but looks nice. if ((Y[i] < 1) && (X[i] < 1)) {Y[i]=1;X[i]=1;D[i]=45;} if ((Y[i] < 1) && (X[i] > W+BX[i])) {Y[i]=1;X[i]=W+BX[i];D[i]=135;} if ((Y[i] > H+BY[i]) && (X[i] < 1)) {Y[i]=H+BY[i];X[i]=1;D[i]=315;} if ((Y[i] > H+BY[i]) && (X[i] > W+BX[i])) {Y[i]=H+BY[i];X[i]=W+BX[i];D[i]=225;} //Edge rebounds! if (Y[i] < 1) {Y[i]=1;D[i]=HB;} if (Y[i] > H+BY[i]) {Y[i]=H+BY[i];D[i]=HB;} if (X[i] < 1) {X[i]=1;D[i]=VB;} if (X[i] > W+BX[i]) {X[i]=W+BX[i];D[i]=VB;} var temp=eval(d+a+"pics"+i+n6r+s); temp.top=Y[i]+YS; temp.left=X[i]+XS; } setTimeout('MoveRandom()',70); } Curve(); MoveRandom(); //-->
[Add ตัวเล็ก-ตากลม's blog to your web]