จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส





Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
สุริยาศศิธร By ปรีดี พิศภูมิวิถี


สุริยาศศิธร
By ปรีดี พิศภูมิวิถี




เล่มนี้เป็นกลอนทั้งเล่มค่ะ เล่าเรื่องราวตำนานการไล่ราหูอมจันทร์-ตะวัน
ในสมัยในสมัยพระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยา ด้วยรูปแบบของ
วรรณคดีค่ะ


เล่าเรื่องของการกำเนิด พระราหู พระอาทิตย์ และพระจันทร์
ไปจนถึงเหตุที่รามสูรไล่ปาขวานใส่นางเมขลาค่ะ ซื้อมานานแล้วค่ะ
และก็หมกไว้นานแล้วเช่นกัน เนื่องด้วยมันเป็นกลอนเลยขี้เกียจ
แต่พออ่านเข้าจริงอ่านไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ ภาษาก็ง่าย แถมยัง
ตลกและสนุกด้วยค่ะ จึงอ่านได้รวดเดียวจบด้วยความเพลิดเพลิน
จำเริญใจ และนี่คงเป็นรีวิวที่ฮาที่สุดที่เคยเขียนมาด้วยมั้งคะ ขำจริงๆ นะ


มีอะไรที่อ่านแล้ว เอ๊ะ...เอ๊ะ เอ๊ะ? มากพอควร มี Y ซ่อนอยู่อีกต่างหากค่ะ
ช่างต่างกับที่เคยเรียนสมัยมัธยมอะไรอย่างนี้ เหอ เหอ อดรนทนไม่ได้
ขอยกตัวอย่างให้ดูนะคะ


และ...เข้าเขตสปอยล์


คิดแล้วราหู ออกจากที่อยู่ วางวู่ออกไป จังองค์พระจันทร์
กระสันรักใคร่ มืดมัวต่ำใต้ กึกก้องโกลา
<--นี่มันดักปล้ำแล้ว !!!

องค์พระจันทร รัศมีสีอ่อน ตกใจนักหนา ยกมือขึ้นไหว้
เถิงไท้ภควา ปกเกล้าเกศา ให้รอดอันตราย

กำสรดโศกี กลัวว่าชีวี จะม้วยฉิบหาย ราหูตัวกล้า
มาทำหยาบคาย ให้ร้อนลงไป ถึงหลักศาสนา


อสุรินทร์ตัวกล้า หยอกพระอนุชา<--( น้องชายจริงๆด้วย) ไม่คร้ามขามใจ
จูบกอดเชยชม ภิรมย์หฤทัย ลางทีเลยไป เข้าเหลี่ยมภูผา
ลางทีถอยหลัง ปล่อยปละละวาง น้องน้อยเสน่หา
บางทีเข้าคร่อม น้อมกายา หนีบรักแร้มา ทำตามสบาย
<--หนีบเข้ารักแร้
คงเหม็นเต่าแย่



ร้อนถึงมนุษย์ก็ช่วยกันแผ่เมตตา คายพระจันทร์ออกมาน้า
แล้ว พระบรมไตรโลกนารถก็ทรงจัดเตรียมพิธีขับราหู

ทรงรู้อยู่สิ้น ราหูตัวกล้า กายาสีนิล ทำเหมือนจะกิน ดวงพระจันทรา
ตรัสโองการพลัน เรียกพระอรหันต์ ชุมนุมเข้ามา
<-- สวดไล่ซะเลย

ในบทคาถา แก้ไขไว้ว่า อสุรินทร์ตัวใหญ่ อย่ามากีดขวาง
หนทางนั้นไว้ เร่งรัดผ่อนให้ ดวงพระจันทรา อย่ามายายี
ดูไม่เห็นดี ชั่วนักชั่วหนา
<--ออกแนวสวดด่ามากกว่าสวดไล่นะคะ


ว่าแล้วก็เสกเป่าพ้วงๆๆ พระราหูก็เลยร้อน...ว้ายอยู่ดีๆ ร้อน
เลยปล่อยพระจันทร์หนีไป ว่าแล้วก็อยู่ไม่ได้ วิ่งไปหลบในถ้ำไพจิตรราสูร
แล้วมารู้อีกทีว่าเสียงโป้งป้างนี่คือ มนุษย์เคาะเกราะไล่ ก็เลยอายเป็น
อันมากท้าวไพจิตรฟังเรื่องว่าหนีอะไรมา พระราหูเล่าว่า



เราไปพบพระจันทร น้องบังอรร่วมมารดา<-- บังอร? น้องชายไม่ใช่เหรอ
วิมานงามหนักนา ร่อนลอยมาเราชอบใจรักน้องเราหยอกเล่น
<--ยืนยันว่า
ล้อเล่นแต่น้องหวิดช็อค

น้องเราตกใจ ร้อนไปถึงพระศาสดา พระเจ้าสร้างโพธิญาณ
ฤทธิ์กล้าหาญเป็นนักหนา อ่านเวทเป่าขึ้นมา สัตว์ใต้หล้าพลอยตกใจ
เสียงก้องกัดงไพเราะ ขันแลเกราะตีถวาย แผ่ผลให้มากมาย อื้ออึงไปทั้งชมพู



ท้าวไพจิตรีสูร ฟังที่เล่ามาก็เกิดสงกะสัย


ท่านสิผู้มีฤทธิ์ ท่านชาญชิตเดชศักดา ฝูงเทพเทวา
ใครไม่มาเทียบเปรียบทัน เสียงเกราะเขาเคาะไม้ ยิ่งตกใจตะบึงมา
ราหูผู้ฤทธิ์กล้า อยู่เมืองฟ้ายังคลาไคล คิดมาน่าใคร่หัว มีแต่ตัวของผู้ใด
ตัวท้าวก็เติบใหญ่ ย่อมชาญไชยด้วยศักดา


แล้วพี่ราหูแกก็แก้เก้อด้วย...มนุษย์น่ะเขาเกลียดเราง่ะ รักแต่พระจันทร์
กระซิก(โถ) ว่าแล้วแทนที่จะสำนึกบอกว่าจะแก้ตัวใหม่ด้วยการอม
พระอาทิตย์ดีกว่า เพื่อความเสมอภาคในการรักน้อง(มั้ง)


อสุรินราหู ครั้นว่ามาอยู่ แท่นที่ปรางค์ชัย เธอมาหยุดหย่อน
ค่อยผ่อนหายใจ บนแท่นสุกใส สุขสบายนักหนา

บัดนี้จะไป ตระเวณทางใต้ กลีบเมฆเมฆา จะพบอาทิตย์ เรืองฤทธิ์
แกล้วกล้า แสงเธอนั้นมา ร้อนดังเปลวไฟกับกูครั้งนี้ จะลองดูที
ให้ปรากฏไว้ ดูบุญอนุชา จะมาปานใด ถึงว่าตายไม่รักชีวา



ไม่ได้เข็ดเล้ย...เอ่อ


ออกตระเวณ ตามเกณฑ์เจ้าฟ้า เข้าหว่างเมฆา แล้วเลื่อนลอยไป
เห็นพระอาทิตย์ สำแดงแผงฤทธิ ไม่คร้ามขามใจ

จะหยอกอนุชา ไม่มาคิดร้าย ทีนี้ไม่ตาย ม้วยมอดชีวา
คิดแล้วราหู ออกกางวางวู่ จับดวงสุริยา สนั่นหวั่นไหว ในพื้นเวหา
ปิดบังเข้ามา มืดกลุ้มคลุมไป

สัพยอกน้องยา มิใช่หมายว่า จะให้บรรลัย ชมฤทธิ์อนุชา จะกล้าปานใด
แต่พอรู้ไว้ ขอชมบุญญา ยกมือบังไว้ องค์พระสุริย์ใส ตกใจนักหนา

สะท้านหวั่นไหว ให้มืดมัวตา กลุ้มกลัดคืนมา ทั้งวิมานไชย
องค์พระสุริยา ในใจหมายว่า จะม้วยบรรลัย เราเคยโปรดสัตว์
กลุ้มกลัดพระทัย

แม้เรานี้ไซร้ มอดม้วยมารณา มนุษย์เล่าไซร้า ที่อยู่ต่ำใต้ ในโลกโลกา
จะเกิดมืดมนระคนหนักหนา ใครเลยจะมาเป็นหลักเทียนไชย

^
^
^
พระสุริยาเป็นเป็นคนดีจัง...คิดถึงมนุษย์ก่อนตัวเอง


ว่าแล้วเสด็จแม่(ของพระราหู พระอาทิตย์ และพระจันทร์)ก็เห็นเข้า
ว่าอาทิตย์ไม่ส่องแสงเลยอธิษฐาน ขอเดชะโพธิญาณให้ช่วย
ว่าแล้วมนุษย์ก็ใช้มุกเดิมสวดไล่

ในบทนั้นว่า ราหูโตใหญ่ ท่านมากีดขวาง หนทางนั้นไว้ มิหนำไล่
บุกรุกคลุกคลี ทำการหยาบช้า จับดวงสุริยา กระทำยายี
เร่งปล่อยปละเสียบัดนี้ อย่าได้เซ้าซี้ ต่างคนต่างไป
<-- มันขำน่ะค่ะ
เหมือนด่ามากกว่าสวดไล่



ข้างฝ่ายพระราหูก็ปวดแสบปวดร้อนแต่ไม่ยอมปล่อยนะ แถมน้อยใจ...
บ่นตัดพ้อ

องค์ศาสดาต้องการอันใด พี่น้องหยอกกัน มนุษย์ทั้งนั้น ว่าเราอหังการ์
คิดมาน่าอาย ในใจนักหนา มิใช่วาจา จะมาอาธรรม์
<--คนอื่นไม่เข้าใจตุ้ม
เอ้ย ราหูแค่หยอกน้องเอง


พลางโมทนา น้องตูคนรักเยะจริงๆช่างมีบุญนักพี่ดีใจด้วย ไปล่ะ
ว่าแล้วก็ชิ่งไปง่ายๆ ในขณะที่น้องเสียขวัญไปเรียบร้อยแล้ว...


แล้วพวกเทวดาก็ไปฟ้องพระอิศวร ว่าพระราหูปล้ำน้อง พระอิศวรก็
ไกล่เกลี่ยบอกว่าพี่น้องกัน ไม่มีอะไรแค่หยอกกันแรงไหน่อย
แต่องค์ท่านก็แอบเหน็บ...

ว่าคราวก่อนแอบขโมยกินน้ำอำมฤตโดนตัดครึ่งตัวยังไม่วาย แต่พระราหู
ใช้เวทพรางตาคนอื่นให้เห็นว่าแกมีครบทั้งตัว แล้วก็บรรยายว่าพระอิศวร
ท่านว่า รู้นะแต่ไม่อยากพูด เราเป็นความลับในใจท่านชะอิงเงงเงย


หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของรามสูรกับเมขลา ก็ยังขำอีกค่ะ
คือพระราหูหลังถูกเหน็บก็เลยรีบอาสารับใช้พระอิศวร ท่านก็เลยให้ไปตาม
นางเมขลา ทว่านางนี้มีฤทธิ์แรงเป็นที่ลือไป 3 ภพ แต่รับปากไปแล้ว
ขืนถอนคำพูดพวกเทวาต้องนินทาแน่ๆ เลย ก็เลยหลอกไปรามสูรน่ะค่ะ


รามสูรนั้นขอนางเมขลาเป็นภรรยา ส่วนพระราหูขอแค่แก้วมณี
เมื่อฮั้วกันเสร็จรามสูรก็ไปเหาะไปตามหาเมขลาทันที แต่...นางเมขลา
ในเรื่องปากจัดมากค่ะด่าแหลก... มาดูวาจาคุณเธอกันนะคะ


นางฟังอสุรี กล่าวเกลี้ยงพาที ไพเราะนักหนา วาจากหวานฉ่ำ
อย่างน้ำตาลทา ยืดไปภายหน้า จะขมซ้ำตาย
<--เลี่ยนว่างั้นเถอะ

อันน้ำใจชาย เล้าโลมปราศรัย ไพเราะนักหนา ที่ไหนชอบใจ ควรได้เอามา
หญิงมักตัณหา เสียลิ้นลมชาย
<--ฝีปากใช่ย่อย

กล่าวจบก็เชิดใส่ไม่พอแถมด่าถอนรากถอนโคนว่าชาติก่อนเป็นแค่ยักษ์
ตัดไม้ ชาตินี้ได้ดีเลยริมาจีบไม่เจียมบอดี้ ฉันเนี่ยไฮโซนะยะ พระธิดา
ท้าวมังกรการ ไม่เจียมๆ เมขลาเวอร์ชันนี้จ๊าบมากค่ะ แรงสุดๆ


รามสูรถูกด่าไฟแล่บ เลยโมโหเขวี้ยงขวานใส่ เธอก็ต๊ายคิดว่าเขวี้ยงแล้ว
โดนก็เอาสิยะ รำล่อแก้วหลอกล่อด้วยซ้ำ ว่าแล้วพระอิศวรก็พึมพำออกมา
...เจอคู่สร้างคู่สมแล้วเนอะ ว่าแล้วก็ล่อแก้วกันยันบัดนี้คาดว่าสิ้นภัทรกัป
ถึงเลิกตีกันน่ะ



เจ้าแก้วไม่คิดว่ามันจะตลกขนาดนี้ คาดว่าสมัยพระบรมไตรโลกนาถ
ท่านคงกลัวประชาชนเครียดเรื่องราหูอมนั่นอมนี่ เดี๋ยวประชาชนจะคิดว่า
เกิดลางร้าย ก็เลยแต่งวรรณคดีแล้วชวนประชาชนมาร่วมพิธีเคาะไม้ไล่
ราหู เคาะแล้วไปชาวบ้านเลยฮา ไล่เสร็จรำเซิ้งกินเลี้ยงกันต่อ เรียกว่า
ทำขวัญพระจันทร์-อาทิตย์


แสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยสุขภาพจิตดี ชอบไรฮาๆ มาแต่สมัยโบราณ
แถมแอบวายเล็กน้อย จุดที่ชอบที่สุดคือแต่งเสียพระราหูน่ารักไปเลยค่ะ


ฉบับนี้เขาว่าเป็นของสมัยรัตนโกสินทร์ ที่นำมาทำใหม่โดยใช้เรื่องราว
สมัยครั้งกรุงเก่ามาบอกเล่า เป็นการความผสมผสานกันระหว่างความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์และคติพุทธศาสนา ด้วยการประพันธ์แบบกาพย์
3 ประเภท คือ

1 กาพย์สุรางคนางค์ 28
2 กาพย์ฉบัง 16
3 กาพย์ยานี 11


สรุปแล้ววรรณคดีอ่านไม่ยากอกย่างที่คิดค่ะ แถมสนุกด้วย







Create Date : 18 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2552 16:05:07 น. 6 comments
Counter : 1666 Pageviews.

 
เรายังดองอยู่เลย ซื้อมาทั้งแบบกลอนและแบบความเรียงธรรมดา
อ่านรีวิวแล้วฮา..น่าลัดคิวหยิบมาอ่าน


โดย: นัทธ์ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:17:02 น.  

 
555 อ่านรีวิวแล้วฮาค่ะ เล่มนี้ยังไม่ได้อ่านเลย เอาไว้ไปลองหามาอ่านมั่ง


โดย: ฯคีตกาล วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:25:55 น.  

 
5555 สมเป็นคนไทยแต่งเนอะ

อ่านแล้วสนุกดีอ่ะ

แต่คนจับประเด็นไม่ธรรมดาจริงๆ



โดย: fuku IP: 61.90.74.53 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:21:59 น.  

 
ใครเป็นคนหาเจอเนี่ย ช่างสังเกตุจริงๆ ถ้ามีคนเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่แบบที่ดัมเบิ้ลดอร์ก็วายเนี่ย จะเกิดอะไรขึ้นน้อ


โดย: เสกสรร IP: 10.33.44.205, 203.152.37.194 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:24:30 น.  

 
แวะมาอ่านคุณแก้วกังไส รีวิวไป แซวไป ขำดีค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:57:03 น.  

 
รีวิวได้ฮาดีค่ะ เพิ่มอีกเรื่องสินะที่อยากอ่าน


โดย: รินบุญญา วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:0:32:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แก้วกังไส
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]







ผลงานเขียนที่ผ่านมาค่ะ

รักนี้(แค้น)ต้องชำระ


Amethyst Sonata
เพลงรัก..ลิขิตหัวใจ



บาปปาริชาต

Friends' blogs
[Add แก้วกังไส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.