|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เวียงนาคินทร์ ตอนที่ 70
ตอนที่ 70
ถ้าจุมภะไม่สิ้นสุด..จะไม่มีเชียงใหม่ในปัจจุบัน!
สิ้นคำบอกเล่าของวิทยเทพทุกสรรพเสียงเงียบงัน เคียงฟ้านิ่งชะงักไปก่อนจะตะเบ็งเสียงออกมาด้วยความอัดอั้น
ถ้าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ งั้นจะระลึกชาติไปทำไม ฟ้าจะย้อนมาอดีตไปทำไม ทำไมต้องให้ฟ้ารับรู้ด้วยคะ?!! หล่อนซบหน้าลงร้องไห้กับหมอนขวานข้างตัว
อาจารย์รู้ไหม ถ้ารู้แล้วทำอะไรไม่ได้มันเจ็บใจ มันเสียใจยิ่งกว่าไม่รู้เสียอีก
มันเป็นวาระ...เรียกว่าวาระกรรมก็ว่าได้ จะมีสักกี่คนมีโอกาสได้เรียนรู้ ได้แก้ไขในสิ่งที่เคยผิดพลาดไป
แก้ไข...แก้ไขอะไรคะ อาจารย์เพิ่งตัดความหวังของฟ้าไปหยกๆ หล่อนตัดพ้อ
หึ...แก้ไม่ได้ทุกเรื่องแต่ไม่ได้บอกว่าบางเรื่องแก้ไม่ได้นี่ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคายนั้น
มะ...หมายความว่ายังไงคะ? หล่อนผุดลุกขึ้นมาทั้งที่หน้ายังนองไปด้วยน้ำตา
มาเถิดเคียงฟ้า จงเรียนรู้ความผิดพลาดในอดีตให้ถึงที่สุด แล้วเจ้าจะได้คำตอบ
พูดจบกึ่งเทพรูปทองก็ยืนขึ้นเต็มความสูง ร่างนั้นค่อยๆ โปร่งแสงและเลือนรางหายไปก่อนที่เคียงฟ้าจะทันได้ห้ามไว้
อาจารย์คะ! อาจารย์เดี๋ยวก่อน! หล่อนร้องห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว เขาหายไปไม่ตอบรับเสียงเรียกของหล่อนอีก แม้พยายามเพ่งจิตให้เป็นสมาธิเท่าไรก็ไม่อาจมองเห็นหรือสัมผัสถึงตัวตนของวิมุตติได้อีก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เป็นไปตามคาดภูวิษะเจ้าไม่ตอบสาส์นขององค์ชายา มีเพียงราชองครักษ์เท่านั้นที่กลับมารายงานว่าได้ส่งถึงหัตถ์แล้ว ทำเอาเคียงฟ้าร้อนรนนึกโมโหเจ้านาคราชขึ้นมาทันที หล่อนจึงพยายามแต่งสาส์นใหม่ไปถึงเขาว่าด้วยเรื่องสำคัญยิ่งของจุมภะให้เขารีบกลับมาหาทางปรึกษากัน จากนั้นก็นั่งรอชะเง้อคอยาวคอยดูว่าเมื่อใดจะเสด็จกลับมาเสียที แต่ความหวังของหล่อนก็มลายเมื่อมีเพียงคำสั่งว่าไม่ว่างติดราชการ คืนนี้จะค้างที่ตำหนักหลวง อย่าได้รบกวนอีก
เจ้าภู!! ทำไมเป็นคนอย่างนี้นะ คิดว่าฉันงี่เง่าหึงโลกแตกอีกแล้วหรือไง หล่อนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดด้วยความไม่พอใจอยู่คนเดียว แต่ครู่หนึ่งก็ถอนหายใจดังเฮือกบอกตนเองว่า...สงสัยจะใช่
แล้วหล่อนจะทำอย่างไรดี...สุดท้ายก็ได้แต่นั่งรอเวลาอย่างเดียวอย่างนั้นหรือ หญิงสาวกุมขมับนี่ถ้าหล่อนไม่ถูกกักขัง อย่างๆ น้อยก็ยังพอออกไปสืบข่าวคราวได้บ้าง ดูเหมือนหนทางจะคับแคบและต้อนหล่อนจนสู่ทางตันไปเสียหมด
คืนนั้นหล่อนนอนไม่หลับได้แต่เปิดบานบัญชรมองดูแสงดาว บนฝืนฟ้าพราวระยับงามจับตานักแบบที่มองเห็นได้ยากในเมืองใหญ่ แต่กับที่นี่ในกาลเวลาที่ยังไม่มีไฟฟ้ามาบดบังแสงจากแดนไกลดวงดาวจึงพริบพราว หญิงสาวครุ่นคิดอย่างหนัก จะมีใครสักคนไหมหนอรู้ว่าเมืองนี้กำลังจะล่มอีกไม่ช้า ถ้าหากว่าดูจากดวงดาวแล้ว...หล่อนยังไม่เห็นวี่แววเลย ทุกอย่างสงบเหมือนทะเลก่อนเกิดพายุที่ปราศจากคลื่นลม
ไกลออกไปในอุทยานร่างเงาอรชรของหญิงสาวในชุดผ้าซิ่นยกดอกยาวกรอมเท้าสีหมากสุก มีผ้าแถบพันรอบอกข้างกันนั้นมีชายร่างสูงใหญ่ก้าวขึ้นมาเคียงคู่
คิดสิ่งใดอยู่รึแม่หญิง?
คิดถึงนางคนนั้น...นางจักทำสิ่งใดได้ น้ำเสียงตอบนิ่งสนิทมิได้ดูแคลนอย่างเคย
แค่หญิงนางเดียวหรือจะฝืนชะตาฟ้า...ยิ่งเป็นชะตาที่ผ่านเลยพ้นไปด้วยแล้ว..จะแก้ไขหรือทำสิ่งใดได้ ข้าอดคิดมิได้ท่านให้นางหวนกลับสู่อดีตเพื่อการใด? พูดจบก็หันมามองบุรุษข้างกาย รอยยิ้มคมคายจากใบหน้านั้นยังทำงานอยู่
มีใครแก้ไขอดีตได้บ้าง ผู้คนก็ตายไปแล้ว เมืองก็ล่มสลาย ท่านคิดหรือว่านางจะปลุกเมืองขึ้นมาได้
แม่หญิง...แม่หญิงคิดว่าข้ารอคอยสิ่งใดอยู่
ข้าจักไปรู้ได้อย่างไร? เสียงหวานสะบัดด้วยความไม่พอใจ
แล้วแม่เล่า? รอคอยสิ่งใด ไฉนจึงมายืนด้วยความวิตกอยู่ตรงนี้ คิ้วโก่งงามของผีสาวขมวดมุ่นเข้าหากัน
ข้ามิใช่คนใจไม้ไส้ระกำ กล้าเกรงว่าท่านให้ความหวังนางมากเกินไป ความผิดหวังนั้นวิปโยคนัก นางจะรับได้หรือถ้าหากนางต้องเห็นการล่มสลายของเมืองไปต่อหน้าต่อตา
นั่นเป็นเรื่องของนาง นั่นเป็นเรื่องที่นางสมควรที่จะได้รู้เห็นด้วยตนเอง วิทยเทพหยุดพูดไปชั่วขณะรอยหยักที่มุมปากถูกยกขึ้น แล้วเมื่อนั้นการพิจารณาความที่แท้จริงจึงจะบังเกิดขึ้น
ท่านใจดำนัก เจตนาให้นางชอกช้ำตั้งตัวไม่ติด พอถึงเวลาจะเอาโทษอันใดนางก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เฮ้อ..อ เสียงถอนหายใจดังมาจากกุสุมาลย์
มิใช่...แม่ชอบกล่าวโทษเราเกินกว่าเหตุอยู่ร่ำไป เรารึจะทำเช่นนั้น...เพียงแต่นางผู้นี้มิใช่หรือที่จะไถ่ถอนบาปหรือจะหมุนวงล้อกงกรรมให้เร็วขึ้นทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับตัวนาง
แต่...กรณีนี้...
ใช่..พิเศษ ภูวิษะเจ้าเป็นผู้ขอโอกาสนี้ให้นาง ทีนี้ไม่ว่านางจะสำนึกหรือไม่ หรือแม้แต่ปฏิเสธทุกสิ่งก็ตาม นางจักได้เลือกเอง
ไม่ยุติธรรม!
ไฉน?
หากดีก็ดีเหลือแสน หากร้ายก็ร้ายเหลือทน พวกท่านคิดสิ่งใดกัน ทำไมไม่ปล่อยให้ไปตามกงเกวียนกรรมเกวียน ผีสาวทำหน้าราวกับจะร้องไห้
แล้วแม่เล่า...ไยไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกงเกวียนกรรมเกวียน ไฉนมาตามพยาบาทนางอยู่เช่นนี้... ประโยคยอกย้อนยังกล่าวไม่ทันจบ ฝ่ามือเรียวก็ฟาดผัวะลงบนท่อนแขนแข็งแรงนั้นทันที
หาเรื่องนัก ผู้ชายกระไร! คำตัดพ้อต่อว่ากลับกลายเป็นเรียกเสียงขบขันจากคู่สนทนา
นี่มิใช่เรื่องชวนหัว! เสียงหวานตวาดห้วน
อภัยให้เราเถิดแม่คุณ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่ก็ยังไม่ได้หยุดหัวเราะ
เราไม่ได้มาให้ท่านหยอกเอินดอกนะ หากไม่มีธุระกระไรอีกก็ขอลากันแค่ตรงนี้
เดี๋ยวสิ! อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน อาจมีสิ่งใดที่มิได้คาดคิดเกิดขึ้นได้ นัยน์ตาสีน้ำตาลใสคู่นั้นเป็นประกายเจิดจ้าขึ้นมา ราวกับมีความเชื่อมั่นบางประการ
ท่านคิดว่าหญิงนางนั้น...จักทำสิ่งใดได้กระนั้นรึ?
เรื่องนั้นหามีผู้ใดรู้ไม่...แต่ เคียงฟ้ามิใช่หญิงที่จะละทิ้งโอกาสของตน
กุสุมาลย์มองไปยังโฉมงามซึ่งประทับอยู่ตรงบานบัญชร ใจหนึ่งนึกเวทนาอีกใจหนึ่งก็มิได้อยากเกี่ยวข้องกับหญิงที่สร้างตราบาปไว้แก่ตน
วิมุตติ...ท่านอยากให้นางเห็นสิ่งใด
สิ่งที่ภูวิษะเจ้าเห็นในเวลานั้น
ความวิบัติพินาศของเมืองอย่างนั้นรึ?
มิใช่...
แล้วเป็นสิ่งใด...
แม่หญิง... บุรุษรูปทองแย้มยิ้มให้วิญญาณหญิงงามข้างกาย ก่อนจะเอ่ยต่อ อย่างไร...ข้าก็เป็นสหายของภูวิษะ ทว่ารอยยิ้มนั้นลึกลับยากยิ่งแก่ความเข้าใจ
วิมุตติ ท่าน....
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เคียงฟ้าพยายามลำดับเหตุการณ์ หญิงสาวคิดหัวแทบแตกใครได้ประโยชน์หากเมืองนี้ล่มสลาย...พะโครึ? เมืองอื่นๆ รึ? ต่างก็ได้ประโยชน์คนละนิดคนละหน่อย แต่หาว่าจุมภะอยู่ยงย่อมเอื้อประโยชน์ให้มากกว่าเมืองที่ดับสลายไป มหิตาก็เช่นกันต่อให้โกรธเจ้านาคราชมากเพียงใด นางคงไม่มีเจตนาทำลายจุมภะลงเป็นแน่น...
สิ่งใดที่เร้นอยู่ในความมืดดำ มีสิ่งใดที่ซ้อนทับอยู่ในความสงบสุขของจุมภะปุระ เป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่เข้าใจ และไม่อาจคำนวณถึง บางทีวาสนาของจุมภะอาจจะสิ้นสุดลงโดยที่หล่อนไม่อาจไขปริศนาออกก็เป็นได้...
ห่างไกลกันอีกด้านตำหนักของพินทุมณีเทวีสว่างไสวไปด้วยแสงเทียนฉาบฉายจนนวลลออไปทั่ว หาได้เงียบเหงาเหมือนตำหนักของพระขนิษฐา นางเทวีเจ้าของตำหนักทอดวรกายประทับกึ่งนั่งกึ่งนอนให้นางกำนัลนวดเฟ้น แต่ครู่ต่อมาก็รีบผุดลุกขึ้นรับเสด็จพระสวามี
เสด็จพี่ มีเรื่องดีอันใดหรือเพคะ ถึงได้ยิ้มแย้มเช่นนี้
พินทุมณีเทวีตรัสถาม เมื่อเห็นพระพักตร์พระสวามีประดับไปด้วยรอยแย้มสรวลอย่างมีเลศนัย สวามีแห่งนางยังมิได้ตอบในทันทีชยาทัตเพียงแต่เสด็จมาประทับลงบนแท่น ทำให้นางเทวีต้องประทับนั่งตาม แล้วจึงส่งถ้วยทองบรรจุน้ำให้เสวยด้วยกิริยาเอาพระทัย
เป็นข่าวมงคล แต่คงมิใช่เรื่องดีสำหรับน้องสาวของเจ้า หลังจากเสวยน้ำแล้วจึงหันมาตอบด้วยแววเนตรเปล่งประกาย
น้องสาว?...หมายถึงมหิตาหรือเพคะ ดวงเนตรเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความใคร่รู้ทันที พระสวามีแย้มสรวลแทนคำตอบ
แล้วมหิตารู้เรื่องนี้แล้วหรือยังเพคะ
ยังดอก นี่เป็นข่าวที่พี่สืบมาได้ เรื่องการเตรียมตัวส่งเจ้าหญิงเมืองปาลปุระมาที่นี่
ปุดโธ่เอ๋ย...นางน้องที่น่าชัง อีกไม่กี่เพลาคงจะอกแตก เสียงสรวลดังขึ้นเบาๆ แล้วสืบได้ความกระไรมาเพคะ
เจ้าหญิงน้อยแห่งเมืองปาล...นางเพิ่งจะอายุ 13-14 เท่านั้น ยังละอ่อนนัก ต้องมาเป็นหมากทางการเมือง...เฮ้อ
อย่าได้สงสารเด็กนั่นเลยเพคะ นางสิเป็นมหาลาภของเมืองปาลเลยทีเดียว จากส่งหญิงงามมาต่อไปก็คงเรียกร้องสิ่งอื่นๆ ตามมาเรื่อยๆ
ใช่..นางเป็นมหาลาภของเมืองปาล ปาลปุระจึงพยายามเพิ่มพูนยศศักดิ์ให้นาง มิให้ทางเราดูแคลน แก้วตาราเทวีเพิ่งจะได้รับการเถลิงยศขึ้นเป็น ศรียศาเทวี [1] พินทุมณีเทวีฟังแล้วเบิ่งพระเนตรค้าง
อุ๊..แม่เจ้า! ตระเตรียมการใหญ่โตถึงขั้นเถลิงยศ ให้เป็นเจ้าหญิงที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูงที่สุดในปาลปุระกระนั้นเลยรึ ฮะ ฮะ
ใช่ เห็นทีการณ์นี้ภูวิษะคงบิดพลิ้วได้ยาก เมื่อเล่าจบกระบวนความทั้งสองสบเนตรนอยู่ครู่หนึ่งจึงประสานเสียงสรวลออกมาแทบจะพร้อมกัน
ฮะ ฮะ อยากรู้นักเจ้าคนยโสนั่นจะทำเยี่ยงไร หากไม่รับเจ้าหญิงเมืองปาลเข้าร่วมเรือนก็เท่ากับผิดคำสั่งเสด็จพ่อ ถ้ารับก็ผิดสัตย์สาบานที่ให้ไว้กับมหิตา
เห็นทีงานนี้มหิตาเจ้ามิได้ครอบครองชายผู้รักษาสัตย์เพียงผู้เดียวเสียแล้ว
นั่นสิเพคะ อันที่จริงการรับนางไว้ในครอบครองก็มิใช่เรื่องเสียหาย นางเด็กนั่นยังละอ่อนนัก หากมหิตาจักดูแลให้นางอยู่ใต้อำนาจก็มิใช่เรื่องยาก ที่สำคัญที่นี่เป็นจุมภะนางคนนั้นรึจะกล้ากระด้างกระเดื่อง รับไว้ก่อนค่อยๆ จัดการไปก็ยังไม่สาย หากรับมาแล้วไม่ให้ภูวิษะเข้าหอเสียอย่าง นางคนเมืองปาลจะทำกระไรได้
มหิตามิได้เฉลียวฉลาดเช่นเจ้า นางเป็นแค่หญิงที่ซื่อตรงกับความรักหากแต่เป็นความรักที่ตามแต่ใจตนเองเท่านั้น จึงไม่อาจปัดเป่าเรื่องทุกข์ร้อนให้เบาบางลง เนตรคู่นั้นฉายแววหยาดเยิ้มมายังองค์ชายา ซึ่งได้รับรอยแย้มสรวลตอบกลับอย่างชื่นชม
เสด็จพี่...อย่าได้ชมน้องกระนั้นเลย หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้องบางทีพินทุมณีผู้นี้อาจจะแก้ไขเรื่องนี้มิได้เช่นกัน เพราะในเวลานั้นทั้งน้องทั้งมหิตาต่างเป็นเพียงหญิงที่จงรักต่อสวามีของตนเองเท่านั้น ตลอดทั้งกายใจต่างหายใจเข้าออกเป็นสวามีที่รักยิ่ง จนไม่เหลือความคิดอื่นใดอีกแล้ว ในหทัยก็หวนเวทนาพระขนิษฐาขึ้นมา สิ่งที่ตรัสออกไปนั้นจึงเป็นความจริงในพระทัยทุกประการ
การเป็นหญิงที่โง่งมในความรัก...มันยากยิ่งจะพ้นความเจ็บปวด แต่หญิงเราหามีสวามีแล้วไซร้...ใครเล่าจะไม่ทุ่มเทความรักให้ชายผู้สมควรเป็นที่รักกันบ้าง จะว่าไปเสด็จพ่อ...มิได้เห็นใจมหิตาเลย ข้าไม่เข้าใจ...แค่เมืองเล็กที่บังเอิญได้ชัยเพียงครั้งเดียว ไฉนเราต้องยอมทำตามเงื่อนไขที่เสนอมา แต่งทัพไปตีอีกรอบก็สิ้นเรื่อง ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ยามที่ตรัสนั้นวงพักตร์แนบอิงอยู่แทบอุระพระสวามี
เจ้าเป็นหญิงคงไม่เข้าใจกลทางเมือง การจะตีเมืองปาลเป็นระลอกสองนั้นมิใช่เรื่องยาก หากแต่ว่า...ที่ราชทูตเมืองปาลเสนอให้สองเมืองนั้นดองญาติกันและยังเร่งรัดให้มีพิธีอภิเษกสมรสขึ้นโดยเร็วนั้นก็เพราะว่า...
เพราะว่า? ตรัสพลางทอดพระเนตรไปยังพระสวามี
หากช้านักจักไม่ทันการณ์ หาไม่แล้วจะแผ่นดินจะเดือดทั้งสองเมือง พินทุมณีเทวีสดับแล้วถึงกับลุกขึ้นมาประทับนั่งประจันหน้ากับชยาทัต
ทำไมเล่าเพคะ?
หากตัดสินใจช้า เราจะเตรียมรับศึกไม่ทัน พะโคจะใช้ชัยชนะของปาลปุระเป็นข้ออ้างมีส่วนในจุมภะ หากเราไม่ยอมทั้งเมืองปาลทั้งพะโคคงและเมืองประเทศราชอื่นๆ ของพะโคคงจะยกทัพมาตีจุมภะ แต่ถ้ายอมรับการผูกสนิทเข้าเป็นเมืองพี่น้องกับปาลปุระก็จะเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายเรามากกว่า
พะโคอยู่ไกลคงต้องชั่งน้ำหนักให้ดีถึงได้ผลเสียที่เร่งแต่งทัพตีทั้งสองเมืองพร้อมๆ กัน และเรายังมีโอกาสประวิงเวลาเรียกเมืองลูกหลวงเข้าร่วมต้านเป็นกำแพงด่านอีกที ดูรูปการแล้วการผูกญาติของสองเมืองนั้นเป็นผลดีแก่จุมภะมากกว่า เราเพียงแค่...ต้องยอมให้เจ้าหญิงเมืองปาลมีศักดิ์ทัดเทียมกับเจ้าหญิงเมืองเรา เป็นการเสียสละส่วนน้อยที่ได้ผลรวมมากกว่า
อย่างนี้นี่เอง...มิน่าเล่าถึงได้เร่งรัดอยากให้มีงานอภิเษกสมรสนักหนา พินทุมณีเทวียกหัตถ์ขึ้นทาบพระอุระ
แบบนี้ก็ยิ่งมิมีทางเลี่ยง...จะด้วยเหตุผลกลใด หากภูวิษะปฏิเสธเท่ากับทรยศบ้านเมืองเป็นครั้งที่สอง ฮ่า ฮ่า
ใช่...ชะตานี้จะว่าดีก็ดี จะว่าร้ายก็ร้าย ล้วนอยู่ในมือภูวิษะ สุดแล้วแต่จะพลิกไปทางไหน หากมหิตายอมรับได้ เรื่องร้ายจะกลายกลับเป็นดี....แต่ ชยาทัตชะลอการวิพากษ์ลงกะทันหัน และแสดงสีพักตร์ไม่สู้จะดีนักจนพินทุมณีเทวีพลอยกังวลพระทัยไปด้วย
แต่...กระไรเพคะ? ดวงหทัยผู้เป็นชายาพลอยหวั่นไหวไปด้วย
ถ้าเรื่องนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี...พระบาทเจ้าหายกริ้วแล้ว ข้าเชื่อว่าอีกไม่กี่เพลาอำนาจและบารมีของภูวิษะจะเพิ่มพูนขึ้นอีกมากทีเดียว
กระไรกัน...คนทำผิดมิต้องรับโทษ แต่กลับได้อำนาจราชศักดิ์มาครอบครอง แล้วผู้อื่นเล่า...เสด็จพี่ก็ไปร่วมรบครั้งนี้ จะผิดพลาดก็เพราะภูวิษะผู้เดียว แต่ไยโชคลาภจึงหันมาสู่ชายผู้นั้นเพียงผู้เดียว น้องไม่ยอม!! สุรเสียงที่เคยหวานบัดนี้เกรี้ยวกราดยิ่งนัก
จะทำอย่างไรได้เล่า.... ชยาทัตทอดสุรเสียงอ่อนลงและเจือไปด้วยความท้อแท้ พี่เคยเล่าให้เจ้าฟังแล้ว...ตัวพี่นั้นอาภัพนัก หากไปรบครั้งนี้กลับมามือเปล่าไม่ได้ความดีความชอบอย่างไรก็คงได้แต่ปลง...ในความอับโชคของตนเอง
เสด็จพี่ไม่นะเพคะ...น้องยอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ น้องจะไปเข้าเฝ้าทูนขอบำเหน็จให้เสด็จพี่ ตรัสจบก็ทำท่าจะเสด็จไปตำหนักหลวงทันที
พินทุมณี! ไม่ได้นะ บ้านเมืองเรากำลังอยู่ในความวุ่นวาย เจ้าอย่าไปกวนพระทัยพระบาทเจ้า และนี่ฟ้าก็มืดมิดแล้วอย่าได้บุ่มบ่าม
ถ้าอย่างนั้นน้องจะไปเข้าเฝ้าแต่หัวรุ่ง
อย่าได้ทำอย่างนั้น...มันไม่ใช่กาลเทศะอันเหมาะสม ประเดี๋ยวจะถูกกริ้ว
แต่ว่า...
แค่เจ้าทุกข์ร้อนแทนพี่ เพียงแค่นี้ความทุกข์ในอกก็พลอยบรรเทาไปมากแล้ว
เสด็จพี่...อย่าเพิ่งตัดใจสิเพคะ พินทุมณีร้อนไปด้วยแรงสงสารที่มีให้ต่อพระสวามียิ่งนัก จึงมิได้รู้องค์เลยว่ากำลังถูกลมปากอันหอมหวานชี้นำทางให้ดำริตาม ยิ่งเมื่อถูกพาหาแข็งแกร่งรอบวรกายอ้อนแอ้นเข้ามาสวมกอดปลอบประโลมด้วยแล้วละก็
เชื่อพี่เถิด..พระบาทเจ้าจะพิโรธหากเจ้าไปร้องขอในเวลานี้ รอให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปก่อน พี่คงจะมีโอกาสสร้างความดีความชอบอีกมาก หากว่าได้รับพระเมตตาให้ทำงานใหญ่
เฮอะ...น้องกลัวแต่ถ้าการวิวาห์นี้ผ่านไปแล้ว ต่อไปจะไม่ทันการณ์ ภูวิษะคงจะฉวยโอกาสนี้ขยายฐานอำนาจให้ตนเอง
ก็เป็นไปได้ ตอนนี้ได้ขุนพลมหัทธนะมาอยู่ใต้อาณัติแล้ว เท่ากับมีกองทัพอยู่ในมือ
เมื่อไรกัน ทำไมน้องไม่รู้เรื่อง
มหัทธนะไม่มีวันยอมเป็นข้าของผู้ใด ขุนพลเฒ่านั่นมีบารมีมากด้วยว่ารับราชการมานาน มีความดีความชอบมากนัก ปรกติก็ถือตนวางท่าไม้ก้มหัวให้ผู้ใดแม้จะเป็นราชบุตรเขยหรือเจ้าชายใด ก็เพียงแต่ทำความเคารพตามทำเนียมเท่านั้น หากไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น...มหัทธนะไม่มีทางยอมเป็นคนของภูวิษะดอก
เรื่องนั้น..เรื่องอันใด...? พินทุมณีเทวีสดับแล้วตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเบิกเนตรกว้าง
ศรีดารา!! พระสวามีพยักพักตร์รับ พระนางยกหัตถ์ขึ้นปิดโอษฐ์ตนเองด้วยความตระหนก
จริงด้วย..ข้าลืมไปเลย! ศรีดาราเป็นลูกสาวของมหัทธนะ เมื่อดำริแล้วก็ทรงเวียนเศียรเป็นอันมาก
บ้าจริง...ที่เป็นอย่างนี้เพราะข้าเอง...เสด็จพี่น้องมิได้ตั้งใจให้เป็นดังนี้ น้องเพียงแต่....ไม่คิดว่าเรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องดีแก่ภูวิษะไปได้ ทรงสะอื้นไห้ออกมาด้วยความคาดไม่ถึง ให้ร้ายผู้อื่นผลนั้นจะย้อนเข้าสู่ตนเองอย่างแยบยล
อย่าร้องไห้ไปพินทุมณี ไม่เป็นไรพี่ไม่ว่าเจ้าดอก... ตรัสพลางยกนิ้วพระหัตถ์ขึ้นปาดหยาดอัสสุชลออกจากดวงพักตร์องค์ชายา
เสด็จพี่...ข้า...ข้าขอโทษ น้องจะหาทางแก้ไขเรื่องนี้เอง
เจ้าจะทำกระไร ? เพียงแวบเดียวเท่านั้นที่ประกายไฟแห่งความลิงโลดปรากฏขึ้นบนดวงเนตรบุรุษเบื้องหน้าแต่พระนางมิทันได้สังเกตเห็น
ด้วยวิธีของสตรีเพคะ! นางเทวีเงยพระพักตร์ขึ้นสบเนตรพระสวามี แววเนตรนั้นสุกสกาวไปด้วยเพลิงร้อนที่หมายมาดจะเผาผลาญทุกผู้คนที่ขวางทางบุรุษอันเป็นที่รัก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
[1]ศรียศาเทวี -นางเทวีผู้มียศเป็นเกียรติแห่งตน หรือ หมายถึงเทวีผู้มียศสูงกว่าสตรีทั้งมวล
Create Date : 10 มกราคม 2558 |
|
10 comments |
Last Update : 10 มกราคม 2558 1:20:31 น. |
Counter : 5385 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 12 มกราคม 2558 19:49:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: Rose IP: 124.120.152.99 15 มกราคม 2558 14:56:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ๋Jen IP: 114.109.186.81 10 กุมภาพันธ์ 2558 13:11:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: yu IP: 171.101.162.181 11 กุมภาพันธ์ 2558 18:54:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: อลิซ IP: 58.8.98.164 17 กุมภาพันธ์ 2558 18:18:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: เจ้คนไกล IP: 110.164.21.8 19 มีนาคม 2558 11:49:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: aree IP: 61.19.206.254 21 สิงหาคม 2558 13:56:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: cho IP: 49.49.249.194 9 ตุลาคม 2558 0:26:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: Rose IP: 192.99.14.36 3 ธันวาคม 2558 13:18:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tyra IP: 94.23.252.21 31 ธันวาคม 2558 1:04:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
รอลุ้นว่า เคียงฟ้าจะทำอะไรได้ ว่าแต่นาคเจ้าไม่ออกหลายตอนแล้ว คิดถึง