|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ประโยชน์ของถั่วเหลือง และนมถั่วเหลือง
ประโยชน์ของถั่วเหลือง และนมถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองมีทั้งคาร์โบฮัยเดรทเชิงซ้อน และโปรตีนที่ไม่ปนไขมันอิ่มตัวสายโมเลกุลยาวแบบเนื้อสัตว์ ไม่มีสารอดรีนาลีนที่สัตว์มักหลั่งด้วยความตกใจขณะถูกฆ่า ไม่มีฮอร์โมนเร่งโต หรือปฏิชีวนะจากการเลี้ยงสัตว์ มีแคลเซียมในสัดส่วนที่ไม่ล้นเกินแมกนีเซียมแบบนมวัว มีวิตามินแร่ธาตุมากหลาย…ที่สำคัญคือมีฮอร์โมนพืช...คือ..ไอโซฟลาโวน ซึ่ง ไอโซฟลาโวนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนจากพืชธรรมชาติ (Phytoestrogen) นอกจากช่วยในการดูดซึมแคลเซียม บรรเทาภาวะกระดูกพรุนแล้ว การได้รับแต่เนิ่นๆ ยังช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมในหญิง และมะเร็งต่อมลูกหมากในชาย ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการฉีดหรือกินฮอร์โมนสังเคราะห์
ถั่วเหลืองกับสารอาหารที่มากกว่า
- คาร์โบฮัยเดรทเชิงซ้อน เป็นอาหารสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนัก เพราะให้ความรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ให้พลังงานที่เผาผลาญช้าๆแต่ทนนานสม่ำเสมอ - เส้นใยชนิดไม่ละลายน้ำ ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ช่วยให้อาหารผ่านระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้น เมื่อของเสียไม่หมักหมม การดูดซึมสารพิษไม่เกิด ลดความระคายเคืองต่อเยื่อบุลำไส้ จึงลดความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ - เส้นใยชนิดละลายน้ำ เป็นตัวแปรสำคัญในการผลิตโคเลสเตอรอลดี ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ลดระดับกลูโคสในเลือด จัดเป็นอาหารทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน - ซาโปนิน ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลเลว LDL - โฟเลท จำเป็นต่อการพัฒนาตัวอ่อน ลดระดับโฮโมซิสเทอีน อันเป็นสารอันตรายต่อระบบหัวใจหลอดเลือด - เลซิทิน มีผลในการลดไขมัน เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ - ลิกแนน สารยับยั้งโปรทิเอส เอนไซม์ ป้องกันมะเร็ง
ถั่วเหลือง ดีอย่างไร
- ฮอร์โมนพืชทำงานคล้ายๆ ฮอร์โมนเอสโตรเจนของคน จึงเรียกไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) มีข้อเด่นคือ เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ปกติ พร้อมยับยั้งเซลล์เนื้องอก ในขณะที่ estrogen ของคนหรือจากการสังเคราะห์ที่นำมาผลิตเป็นยา กระตุ้นทั้งเซลล์ปกติและเนื้องอกมะเร็ง โดยพบว่าการใช้ยาฮอร์โมนเพื่อทดแทน (Hormone Replacement Therapy–HRT) ที่คิดว่าใช้ได้ผลดีสำหรับสตรีวัยทอง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 80% ในปีแรก และเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม 26% สมองขาดเลือด 41% หัวใจวาย 29% - ไฟโตเอสโตรเจนมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงจับคู่กับ “ตัวรับเอสโตรเจน” ในเซลล์ได้ ไฟโตเอสโตรเจนไม่ทำให้ระดับเอสโตรเจนในเลือดเปลี่ยนแปลง (ถ้าร่างกายมีเอสโตรเจนต่ำ) แต่จะต้านฤทธิ์ของเอสโตรเจนหากร่างกายมีเอสโตรเจนมากเกินไป จึงเป็นการลดความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม และมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน - ผู้ชายมีฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่จำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากมีมากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก ไฟโตเอสโตรเจนจากพืชจึงป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้ - ส่วนหญิงวัยทอง จะมีเอสโตรเจนน้อยลง เชื่อกันว่าไฟโตเอสโตรเจนจากพืช สามารถทดแทนเอสโตรเจนได้ จึงช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบหรือผิวแห้ง อีกทั้งป้องกันภาวะกระดูกพรุนในวัยนี้ด้วย ทำให้พบอาการเหล่านี้น้อยในหญิงชาวเอเชีย ซึ่งบริโภคถั่วเหลืองเป็นประจำ - มีการตรวจปัสสาวะพบว่า หญิงญี่ปุ่นขับเอสโตรเจนออกทางปัสสาวะ มากกว่าหญิงชาวตะวันตก 100 – 1000 เท่า - มีการวิจัยในปี 1998 พบว่าหญิงวัยหมดประจำเดือนที่ได้ไอโซฟลาโวนเพิ่มวันละ 40 กรัม จากโปรตีนถั่วเหลือง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ มีอาการร้อนวูบวาบลดลง 45% -ไอโซฟลาโวน เป็นไฟโตเอสโตรเจนชนิดหนึ่ง ซึ่งยังมีหลายรูปแบบ เช่น daidzein genistein และ glycitein - ถั่วเหลือง เป็นแหล่งอาหารที่มีปริมาณของไอโซฟลาโวนอยู่มากกว่าอาหารอื่นๆ โดยเจนิสตินเป็นชนิดของไอโซฟลาโวนที่พบในถั่วเหลือง
ประโยชน์ที่ได้จาก ถั่วเหลือง
- ภาวะหมดประจำเดือน ไฟโตเอสโตรเจนในถั่วเหลือง ช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของภาวะหมดประจำเดือน ลดอาการร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง ขนาดที่แนะนำคือ วันละ 60 มก. เทียบเท่าเต้าหู้ 200 มก. -ป้องกันกระดูกพรุน วิธีหนึ่งคือ การกินอาหารที่มีไอโซฟลาโวนหญิงเอเชียพบภาวะนี้น้อยกว่าชาวตะวันตก ทั้งที่โครงกระดูกเล็กกว่า กินนมและแคลเซียมน้อยกว่า ผลการศึกษาพบว่า การได้รับไอโซฟลาโวนวันละ 90 มก. จากโปรตีนถั่วเหลือง ทำให้ความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ - กันมะเร็ง ไอโซฟลาโวน ป้องกันการเติบโตของเนื้องอก และขัดขวางการกระตุ้นเซลล์มะเร็งโดยฮอร์โมนเพศ (เช่น เอสโตรเจน และเทสโตสเตอโรน) - ป้องกันโรคหัวใจ หลอดเลือดอุดตัน ป้องกันได้ด้วย ฟลาโวนอยด์อย่างโอพีซี เช่นเดียวกับไอโซฟลาโวนก็ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็ง มีงานวิจัยพบว่า การได้ไอโซฟลาโวนวันละ 62 มก. จากโปรตีนถั่วเหลือง ช่วยลดแอลดีแอลโคเลสเตอรอลลง 10% น้ำมันถั่วเหลือง มีประโยชน์จริงไหม
น้ำมันที่สกัดจากถั่วเหลืองมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ถูกนำไปใช้ในกระบวนการชีวเคมีต่างๆ เช่น ใช้สร้างผนังเซลล์ได้ความไม่อิ่มตัวทำให้รับออกซิเจน หรือต้านอนุมูลอิสระได้ แต่เมื่อถูกเติมออกซิเจนแล้ว ก็กลายเป็นไขมันอิ่มตัวที่ด้อยคุณภาพ ยิ่งหากถูกความร้อนรุนแรง ยังอาจแปรสภาพเป็นไขมันทรานส์ได้ จึงไม่สมควรใช้ปรุงร้อน และควรได้สารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอ เพิ่มเติมพร้อมการบริโภคด้วยอีกทั้งการเป็นกรดไขมันสายโมเลกุลยาว ทำให้เกิดการเผาผลาญช้า
จะเห็นว่า ถั่วเหลือง มีประโยชน์มากมาย ซึ่งถ้าเราได้รับทานทุกวันจะดีขนาดไหน นมถั่วเหลือง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่รักสุขภาพ น้ำเต้าหู้ที่ทำจากถั่วเหลือง ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มเสริมสุขภาพที่มีประโยชน์ไม่น้อย เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวหาซื้อได้ง่ายและราคายังราคาถูกด้วยครับ
Create Date : 06 กันยายน 2555 |
Last Update : 6 กันยายน 2555 16:45:10 น. |
|
1 comments
|
Counter : 4626 Pageviews. |
|
|
|
โดย: elle_famous วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:15:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
//นมถั่วเหลือง.blogspot.com/