โลหิตจางบอกโรค
คนทั่วไปมักเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าโลหิตจางเป็นโรคอย่างหนึ่ง
แต่ในความเป็นจริงแล้วโลหิตจางเป็นภาวะอย่างหนึ่ง
ซึ่งเป็นเครื่องบอกเหตุว่ามีโรคบางอย่างซ่อนอยู่
ภาวะโลหิตจางเกิดจากร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดแดงลดลง
ปรกติคนแต่ละเพศแต่ละวัยจะมีจำนวนเม็ดเลือดแดงแตกต่างกัน
เมื่อไรที่พบว่าค่าของเม็ดเลือดแดงต่ำกว่าพิกัดต่ำสุดของคนวัยนั้นเพศนั้นก็
ถือว่ามีภาวะโลหิตจาง
ส่วนใหญ่คนที่มีภาวะนี้มักจะหน้าซีดๆ ผิวซีดๆ ไม่ค่อยมีแรง
อ่อนเพลียง่าย หน้ามืดเหมือนจะเป็นลมบ่อยๆ หรือเวียนศีรษะ ถ้าเป็นมาก
แค่เดินระยะทางใกล้ๆก็เหนื่อยแล้ว เวลาเหนื่อยอาจมีอาการใจสั่นร่วมด้วย
ส่วนคนที่เป็นรุนแรงจะมีอาการของโรคหัวใจวาย คือเหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ
เป็นต้น นอกจากนั้นอาจจะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น เบื่ออาหาร
ท้องอืด เป็นต้น
สาเหตุ
- การขาดธาตุเหล็ก มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ
หรือผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร
ผู้ที่เพิ่งแท้งบุตรหรือหญิงหลังคลอด
- การเสียเลือด เช่น เสียเลือดจากระบบทางเดินอาหาร
เนื่องจากเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
สังเกตได้จากอุจจาระที่เป็นสีดำและเหนียวคล้ายยางมะตอย
ผู้ที่มีพยาธิปากขออยู่ในลำไส้ ผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร
รวมทั้งผู้หญิงที่ประจำเดือนมามากหรือบ่อย
- โลหิตจางจากโรคทางพันธุกรรม
ที่พบบ่อยในประเทศไทยคือโรคทาลัสซีเมีย
เกิดจากเม็ดเลือดแดงแตกง่ายผิดปรกติ
ซึ่งโรคนี้สามารถติดต่อได้ทางพันธุกรรม
- โลหิตจางจากโรคอื่นๆ เช่น โรคเอสแอลดี มะเร็งเม็ดเลือด โรคตับ โรคไต
- โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ
เนื่องจากไขกระดูกมีหน้าที่สร้างเม็ดเลือด
หากมีความผิดปรกติของไขกระดูกทำให้สร้างเม็ดเลือดได้น้อยลง
ก็จะเกิดภาวะโลหิตจางขึ้น
- โลหิตจางจากร่างกายไม่ดูดซึมวิตามินบี 12
นอกจากนั้นภาวะโลหิตจางยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
- โลหิตจางเฉียบพลัน หมายถึงมีอาการของโลหิตจางเกิดขึ้นใน 7 - 10 วัน ซึ่งเกิดจากการเสียเลือดเฉียบพลัน เป็นต้น
- โลหิตจางเรื้อรัง หมายถึงมีอาการของโลหิตจางเกิดขึ้นนานกว่า 10 วัน อาจเป็นเดือนๆก็ได้
หลักสำคัญในการดูแลรักษา
แนวทางการรักษาประกอบด้วยการรักษาทั่วไป
เป็นการบำบัดอาการของโลหิตจาง เช่น รักษาภาวะหัวใจวาย ลดการออกแรง
ให้ออกซิเจน ให้เลือดทดแทน เป็นต้น
ส่วนการรักษาจำเพาะเป็นการรักษาที่สาเหตุนั้นๆ เช่น
ถ้าเลือดจางเพราะเป็นริดสีดวงทวารก็ต้องรักษาโรคริดสีดวงทวาร เป็นต้น
การป้องกัน
รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก เช่น ผักใบเขียวต่างๆ ปลา เป็นต้น
ที่สำคัญ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี เช่น สลัดผักสดหรือน้ำส้มคั้นสด
จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากพืชได้ดีขึ้น
ภาวะโลหิตจางบางอย่างสามารถรักษาให้หายขาดได้
หากพบว่าเป็นโลหิตจางชนิดใดก็ตาม ควรไปพบแพทย์
ซึ่งจะให้ธาตุเหล็กและโฟเลตเสริมในรูปเม็ดยา หรือวิตามินบี 12 ในรูปยาฉีด
คนที่มีอาการวิงเวียนศีรษะอยู่บ่อยๆ
และอ่อนเพลียง่ายต้องเฝ้าสังเกตร่างกายตัวเองอยู่เสมอ
ทางที่ดีควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
เพราะหากมีภาวะโลหิตจางก็ต้องรักษาตามสาเหตุนั้นๆ ที่สำคัญ
ถ้ายิ่งปล่อยไว้นานๆ จะทำให้อาการรุนแรงและรักษาได้ยากขึ้นกว่าเดิม