ปลูกผักหวานป่าให้โตเร็ว
การปลูกผักหวานป่าไม่ว่าจะเป็น ปลูกด้วยเมล็ด ต้นกล้า หรือกิ่งตอน จะมีการเตรียมพื้นที่ปลูกที่ไม่แตกต่างกัน แบ่งเป็น 2 กรณี ดังต่อไปนี้
1 ปลูกบนพื้นที่ปลูกที่เป็นพื้นที่โลง การที่จะปลูกอะไรสักอย่างจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของพืชชนิดนั้นๆ ผักหวานป่าเป็นไม้ยืนต้นที่โตช้า เราจะเห็นว่าต้นผักหวานป่าตามธรรมชาติ จะอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว โดยพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ในป่าตามธรรมชาติ ต้นผักหวานป่าจะไม่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่แสงจากดวงอาทิตย์จะลอดผ่านใบของต้นไม้ใหญ่ที่สูงกว่า ดังนั้นต้นผักหวานป่าจึงไม่ชอบแดดจัดโดยธรรมชาติ แค่แสงลอดผ่านก็พอที่จะทำให้พืชชนิดนี้เจริญเติบโต เราจึงควรพรางแสงด้วยใบของต้นไม้ใหญ่ ดังนั้นปริมาณแสง ร่มเงาของต้นไม้ชนิดอื่นที่โตกว่าจึงมีมีอิทธิพลต่อความอยู่รอดของต้นผักหวานป่า เพราะนี่คือธรรมชาติของมัน การปลูกผักหวานป่าให้ประสบความสำเร็จ จึงไม่ใช่การฝืนธรรมชาติ แต่เป็นการเข้าใกล้ธรรมชาติ โดยการเลียนแบบตามธรรมชาติ การสังเกตุ เรียนรู้จากต้นผักหวานป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในป่า ดังนั้นต้นผักหวานป่าไม่อาจโตได้ในสภาพที่มีแดดจัด 100% ตลอดทั้งวัน เพราะไม่ใช่สภาวะที่ชอบ ถ้าต้องการให้ต้นผักหวานป่าอยู่รอดจะต้องปรับสภาพแวดดล้อมให้เหมาะสม เพราะพื้นที่โล่งไม่มีต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงาพรางแสง ผักหวานป่าก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ สำหรับพื้นที่โล่งแล้วก่อนนำพันธุ์ผักหวานมาปลูกควรมีกการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาที่พอดี คนในวงการผักหวานป่า จะเรียกว่า ต้นไม้พี่เลี้ยง การเลือกต้นไม้พี่เลี้ยงที่เหมาะสมไม่ได้ช่วยให้ผักหวานป่ารอดตายเพียงเท่านั้นแต่ยังข่วยส่งเสริมให้ต้นผักหวานป่าโตเร็วกว่าปกติอีกด้วย
สรุปแล้วสำหรับพื้นที่โล่งก่อนที่จะนำพันธุ์ผักหวานป่าไปปลูกจำเป็นต้อง ปลูกไม้พี่เลี้ยงรอ และเช่นเดียวกับการปลูกต้นไม้ชนิดอื่น จำเป็นต้อง บำรุ่งดินให้สมบูรณ์ และที่ขาดไม่ได้ก็คือการวางระบบน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสปริงเกอร์หรือระบบน้ำหยด
2 พื้นบนที่ปลูกที่มีต้นไม้ชนิดอื่นขึ้นอยู่แล้ว จากข้อแรกจะเห็นว่าต้นผักหวานป่าต้องปลูกภายใต้ร่มเงาของตันไม้พี่เลี้ยง และต้นไม้พี่เลี้ยงที่ดีก็ต้องพรางแสงได้ในปริมาณที่เหมาะสม แปลงปลูกของบางท่านนั้นมีต้นไม้ชนิดอื่นอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น สวนลำใย สวนมะม่วง สวนทุเรียน หรือ แม้แต่สวนกล้วย ก็ปลูกผักหวานป่าแซมลงไปได้ แต่การวางแผนการปลูก และการเตรียมการจะแตกต่างจากพื้นที่โล่ง เนื่องจากขนาดใบของต้นไม้แต่ละชนิดที่ยกตัวอย่าง มีใบขนาดใหญ่ จึงทำให้แสงจะลอดผ่านได้ในปริมาณที่น้อย มีผลทำให้การปลูกผักหวานป่านั้น จะได้ผลดีเฉพาะตำแหน่งระหว่างทรงพุ่มเท่านั้น เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่แสงลอดผ่านได้ ตำแหน่งใต้ทรงพุ่มแสงลอดผ่านได้น้อย ปลูกแล้วไม่ตายก็จริงแต่จะโตช้า บางต้นอายุเกิน 5 ปี แล้วสูงแค่ศอก เก็บยอดไม่ได้ก็ไม่คุ้มค่ากับการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ย ต้นผักหวานป่าในป่าเลือกต้นไม้พี่เลี้ยงให้ตัวเองไม่ได้ กว่าจะโตและเก็บยอดได้ก็อาจจะใช้เวลานานเกิน 10 ปี แต่การปลูกในแปลงปลูกของเราเอง ท่านนักปลูกสามารถเลือกความเหมาะสมและสิ่งที่ดีที่สุดให้ต้นผักหวานป่าของท่านได้ โดยการเตรียมพื้นที่ปลูกให้เหมาะสมและเลือกต้นไม้พี่เลี้ยงที่ดีเกื้อกูลให้โตเร็ว ถ้าปลูกถูกวิธีและดูแลถูกต้อง โดยเฉลี่ยและจะใช้เวลาปลูกเพียง 3 ปีก็จะสามารถให้ยอดเก็บแกง เก็บขายได้ บางแปลงดินอุดมสมบูรณ์มีระบบน้ำที่ดี 2 ปีก็เริ่มให้ยอดแล้ว แปลงปลูกที่เดิมทีเป็นสวนผลไม้มีการวางระบบน้ำอยู่แล้ว ก็เพียงแค่เอาพันธุ์ผักหวานป่าไปลงปลูก ดูแลให้ถูกวิธี ปลูกให้ถูกตำแหน่ง ก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้สวนของตัวเองได้ สวนผลไม้บางปีอากาศไม่ดีไม่ติดดอกออกลูกก็มี ทำให้ในปีนั้นๆ ขาดรายได้ แต่ถ้ามีต้นผักหวานป่าแซมลงไปด้วย ต้นผักหวานป่าเก็บยอดขาย ไม่ได้เก็บเก็บลูก เก็บผลขาย ไม่มีทางทรยศเจ้านายผู้ให้น้ำให้ปุ๋ยอย่างแน่นอน
ธรรมชาติของพืชที่เรียกว่าผักหวานจะเป็นการเรียนแบบธรรมชาติให้มากที่สุดไม่ใช่ว่าจะทำเหมือนพืชอื่นปลูกเป็บแถวแล้วได้ผล ผักหวานเป็นพืชพิเศาที่เมื่อคุณว่าแผนดีๆ จะได้ขายทั้งผักหวานและพืชพี่เลี้ยงเป็นรายได้สองทางกันเลยที่เดียว
Create Date : 11 มกราคม 2562 |
Last Update : 11 มกราคม 2562 10:40:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1199 Pageviews. |
|
|