Group Blog All Blog
|
Ayutthaya ไหว้พระ ล่องเรือ พาซุปตาร์ไปตากแดด ตากลม แค่ชื่อเรื่องก็เหมือนจะดูสมบุกสมบันซะแล้ว ทริปนี้มีซุปตาร์ไปด้วย 1 คนจริงๆค่ะ ไปพบกับเขากันเลย แต่น แต๊น ท่านพี่ นาวิน ต้าร์!!  เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า กลุ่มนาวินต้าร์แฟนคลับ เกิดอยากจะหาเรื่องไปเที่ยวกับพี่ต้าร์ขึ้นมา ก็เลยจัดแจงช่วยกันจัดตารางคิวให้พี่ต้าร์ (เฉยเลย) แล้วก็ช่วยกันสรรหา รถ ร้านอาหาร และสถานที่เที่ยวต่าง ๆ เพื่อรองรับทริปพิเศษนี้โดยเฉพาะ โดยตั้งชื่อทริปนี้ว่า "Blessing Valentine with Navin Tar" สรุปความกันได้ลงตัวว่าพวกเราจะไปไหว้พระ 9 วัด และล่องเรือชมเมืองอยุธยายามค่ำคืนกันเรียบร้อย พวกเราก็ทำการนัดพี่ต้าร์ (และนัดกันเอง) มาขึ้นพร้อมกันที่ ข้างๆ เซ็นทรัลลาดพร้าว หน้าโรงเรียนหอวังค่ะ สภาพแต่ละคนก็มีดังนี้ค่ะ
หลังจากรับทุกคนในภาพขึ้นมาเรียบร้อย ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังวัดที่ 1 ตามแผนคือ วัดหน้าพระเมรุค่ะ คณะเดินทางของเรานอกจากจะไหว้พระแล้ว ยังถนัดไปทางถ่ายภาพซะเยอะด้วยสิ อิอิ  และแล้ว พระเอกที่เรารอคอยก็นั่งรถตู้ตามมาติดๆค่ะ ถึงจนได้ และนี่คือภาพแรก ที่เราได้เจอซุปตาร์ค่ะ  เอิ่ม...ท่านพี่คะ ร่มใหญ่มว๊ากกกก เมื่อพี่ต้าร์ตามมาสมทบเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไหว้พระกันต่อไป จนพักเที่ยง แฟนคลับผู้รับหน้าที่ดูแลเรื่องร้านอาหารก็พาเราไปที่ "ร้านก๋วยเตี๋ยวผักหวาน"  ภาพด้านบนคือภาพแห่งความทรงจำ เหล่าแฟนคลับเป็นปลื้ม เพราะก๋วยเตี๋ยวและน้ำที่ได้ทานมื้อนี้ เสิร์ฟโดย ดร. นาวิน ต้าร์ (เป็นเกียรติน่าดู อิอิ) หลังจากอิ่มอร่อยมื้อกลางวันกันไปแล้ว เราก็เดินทางกันต่อค่ะ ไปที่วัดถัดไป  รอบวัดมีศิลปะวัตถุ และภาพเขียนที่เกี่ยวกับพุทธประวัติมากมาย ท่าทางพี่ต้าร์จะสนใจเป็นพิเศษ   ออกจากวัดหนึ่ง จะไปอีกวัด ก็แวะไปเจอตรงนี้เข้าค่ะ ระหว่างทาง มีแวะทำบุญให้อาหารช้าง และได้ถ่ายรูปเล่นกับช้างด้วย  พี่ต้าร์กำลังยกช้างเสี่ยงทาย ไม่รู้ท่านพี่ขออะไร..แต่สุดท้ายยกได้สำเร็จค่ะ  บ่ายแก่ๆแล้ว อากาศเริ่มร้อนมากขึ้น พี่ต้าร์ซื้อไอติมแจกทุกคน แล้วซื้อกินเองด้วย งับ!  กินหมดแล้วยังคาบไม้ไว้ ไม่ยอมทิ้งแฮะ  ท่านพี่นำทีมเดินทางต่อ มุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนอุทยานประวัติศาสตร์ค่ะ  ภาพสวยๆ ที่ขึ้นไปถ่ายบนปราสาทโบราณ แล้วถ่ายย้อนลงมามองเห็นข้างล่าง ดูจากภาพแล้วพอรู้ไหมว่าใครเป็นคนปีนขึ้นไปถ่าย (เค้าเอง ><)  แวะอ่านรายละเอียดนิดหน่อยค่ะ   ในอุทยานมีส่วนนี้ด้วยค่ะ คือ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ในประวัติเขียนไว้ว่า ส่วนองค์พระนั้นหายไป คงเหลือไว้แต่เศียรอยู่ในรากโพธิ์ ข้างวิหารทรายค่ะ  แฟนคลับพุ่งตัวเข้าไปถ่ายรูปกันใหญ่เลยค่ะ ส่วนท่านพี่นั้นท่าทางเหมือนไม่สนเท่าไรค่ะ แต่หันไปเห็นทำหน้าตาครุ่นคิดอะไรสักอย่าง  ถึงตรงนี้เหมือนจะคิดออกค่ะ พี่ต้าร์สันนิษฐานว่า การที่เศียรพระพุทธรูปเข้าไปอยู่ในรากโพธิ์ได้นั้น น่าจะเป็นเพราะการใช้ช่วงเวลานาน ที่ทำให้รากโพธิ์โตขึ้น จนปกคลุมเศียรนี้ไว้ พี่ต้าร์บอกว่า "ถ้าน้องเอามือถือทิ้งไว้ในต้นไม้แบบนี้นานๆ หลายปี เดี๋ยวรากมันก็ยาวออกมาคลุมมือถือน้องเหมือนกัน" แฟนคลับส่ายหน้า เถียงว่า "ถ้าหนูวางมือถือทิ้งไว้ ไม่ทันรากโพธิ์ยาว มันก็คงหายไปแล้วล่ะค่ะพี่" ท่านด๊อกเตอร์ ฮา ก๊ากออกมาเลย ณ จุดนี้ค่ะ 5555  ไปกันต่อในอุทยานประวัติศาสตร์ค่ะ มือพี่ต้าร์ยังไม่ยอมทิ้งไม้ไอติม มองหาถังขยะอยู่นานแล้ว   พี่ต้าร์เดินผ่านตรงกำแพงนี้ พวกเราเห็นว่า ฉากสวยดี เลยเรียกให้แกหันมาถ่ายรูป พี่แกก็หันมายิ้มอย่างที่เห็นค่ะ  สักพัก พอพวกเราเผลอ หันไปอีกที เห็นพี่แก แกะอะไรจากกำแพงอยู่ไม่รู้ พอพวกเราถามว่า แกะอะไร เดี๋ยวของโบราณพัง พี่แกหันมาบอกหน้าตาเฉยว่า "พี่ต้าร์วิเคราะห์ว่ากำแพงหินนี้อยู่มากี่ปีแล้ว" โถ...พ่อคุณ ตกลงเป็นนักเศรษฐศาสตร์ หรือ นักโบราณคดีคะ มือซนจริงๆ   แล้วตะวันก็เริ่มตกดินอย่างที่เห็นค่ะ ภาพ Silhoutte นี้ได้มาไม่ยากค่ะ มุมกล้องดีๆ ที่นั่นมีเยอะมาก ถึงเวลานี้ พวกเราก็ได้ฤกษ์ย้ายขบวนกันสักที ออกจากอุทยาน มุ่งหน้าไปล่องเรือ และทานอาหารเย็นกันบนเรือค่ะ   เราไปล่องเรือทานอาหารเย็นกันที่ร้านชื่อ คุ้มกรุงศรี ค่ะ เสียดายภาพบรรยากาศยามค่ำคืน ของจริงสวยกว่านี้มากค่ะ มีแต่ บีบี เลยถ่ายมาได้แค่นี้เอง ไปดูเมนูอาหารกันบ้างค่ะ  อาหารน่าตาน่าทาน และรสชาติอร่อยด้วยค่ะ เมนูก็เหมือนร้านอาหารทั่วไปค่ะ  จานนี้กุ้งแม่น้ำ สั่งพิเศษ เพื่อ ดร.นาวินค่ะ  ภาพประทับใจ หลังจากที่ทุกคนเหนื่อยมาทั้งวัน ได้ทานอาหารร่วมกันเป็นความรู้สึกที่ดีมากค่ะ ถึงตอนนี้ แฟนคลับเซอร์ไพร้ส์พี่ต้าร์ด้วยการร้องเพลง "หลับตา" ให้พี่ต้าร์เป็นของขวัญ (แอบเห็นพี่ต้าร์ถ่ายวีดีโอไว้ด้วย) และเราก็ถือโอกาสนี้ขอลายเซ็นและมอบของให้พี่ต้าร์ กันค่ะ  ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่ประทับใจสุดๆ สถานที่สวย อาหารอร่อย พี่ต้าร์ก็น่ารัก ทั้งร้อน ทั้งเดิน ไม่บ่นเลย ดีใจมากๆค่ะ สุดท้ายหลังจากจบช่วงมื้อเย็น และเรือล่องกลับมาถึงฝั่งแล้ว พวกเราก็บอกลาพี่ต้าร์ และแยกย้ายกันกลับ ถึงตอนนี้ บางคนร้องไห้เลยค่ะ ไม่อยากแยกจากพี่ต้าร์เลย แง๊ T.T แล้วพวกเราก็นั่งรถทัวร์เดินทางกลับกรุงเทพฯ กันอย่างประทับใจและมีความสุข แต่ละคนเหนื่อยจนหลับเลย แต่ก็เป็นทริปที่แสนจะคุ้มค่าค่ะ สนนค่าเสียหายทริปนี้ หารกันแล้ว ไม่เกิน 800 บาท ทั้งค่าเช่ารถ+ค่าอาหาร (ค่าตัวนาวินไม่เสียค่ะ ใช้ใจล้วนๆ อิอิ) ก่อนจบ ขอปิดท้ายด้วย ภาพประทับใจอีกหนึ่งภาพ ขอตั้งชื่อภาพนี้แบบซึ้งๆว่า "ดวงตะวันของโลก กับ ดวงตะวันของใจ"  จิ้มที่รูปแล้วกดติดตามได้เลยฮับ   
thx u crab
โดย: Kavanich96
 วันที่: 28 กันยายน 2556 เวลา:5:21:12 น. |
BabyInk
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
||||||||||||||||
