.° จากเหตุการณ์ที่ต้องจำไม่รู้ลืม หรือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะจดจำวันนั้นเป็นวันคล้ายวันครบ 60ปี ของม๊าจึงนัดม๊ากะน้องๆหลานๆไปเลี้ยงกัน25 ธันวาคม 2553 วันแห่งความสุขของคนอื่นแต่เป็นวันทำลายล้างของบ้านเราออกจากบ้านตอนเที่ยง ม๊ามาถึงก้อล้างหน้าออกเดินทางถึงห้างก้อตรงดิ่งเลย. . .เสร็จเกือบบ่ายสาม ยังมีเวลาเดินเล่นข้ามไปต่ออีกที่ เดินเล่นซื้อของและมือถือก้อดังขึ้น "บ้านคุณไฟไหม้".★
หลังจากวันนั้น สภาพจิตใจไม่ต้องถามถึง เพราะไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่โทษใครด้วยใจที่เงียบสงบ เย็นชา หมดความรู้สึกใดใดไม่คิดแม้กระทั่ง จะทำยังไงต่อไปผ่านไปไม่กี่วัน แต่อะไรอะไรผ่านเข้ามามากมายรับรู้อะไรอะไร และเข้าใจอะไรอะไรคน เหน่อ คน . . .สุดท้ายก้อเท่านี้ . . .คนไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง แต่กลับอยู่เพื่อคนอื่นจริงๆการเข้ามาช่วยเหลือ รับรู้และซึ้งในจิตสำนึกการตอบแทนไม่ได้มีค่าเท่ากับการให้จริงๆจากที่เป็นนี้ ทำให้จิตสูงขึ้นและเกิดอีกสามเรื่องที่น่าภาคภูมิเรื่องที่หนึ่ง รู้ค่าคนของคนคนทุกคนมีค่าเท่ากัน ไม่ว่ามีหรือไม่มีเมื่อไม่เหลืออะไร ไม่มีอะไรเหลือค่าของคนจะถูกรับรู้จากคนอื่นรอบตัวเขา คือ คนรอบข้างที่มีน้ำใจ ไมตรีจิตเรื่องที่สอง รู้ค่าของคนใกล้ตัวเมื่อเราไม่เหลืออะไร เขายังไม่หนีหายเขาจะอยู่เคียงข้าง เป็นทุกข์เป็นร้อนแทนเขา คือ คนที่เราสามารถฝากชีวิตได้จริงๆเรื่องที่สาม รู้ค่าความเป็นแม่เมื่อเราไม่เหลือแม้กระทั่ง จิตใจแม่คือคนที่อยู่ใกล้ๆคอยมองคอยประคองและคอยให้ " คำยกโทษ " กับลูกที่เป็นไม่ได้อย่างที่แม่ต้องการให้เป็น, จากสิ่งหนึ่ง สู่อีกสิ่งหนึ่งกลับทำให้เรารับรู้ถึงสิ่งดีดีได้มากขึ้นถึงสามเรื่อง แลกกับเรื่องร้ายๆเพียงเรื่องเดียว...แต่ถึงแม้จะมีสิ่งดีดีเกิดขึ้น แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ..คงต้องแลกด้วยความอดทนอีกมากการเฝ้ารอ เป็นอีกหนึ่งที่ใช้ตอบแทนความชั่วที่ทำไป..