Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
27 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
การถักลาย A: ถักนิต (K-Knit)






ภาพส่วนใหญ่มาจากเว็บไซด์ของ Pinn //www.pinn.co.th/technic_webboard/begin_eazy.htm พอดีเราอยากเขียนอธิบายเพิ่มเติมบางจุด แล้วไม่สามารถทำไปด้วยถ่ายภาพไปด้วย เนื่องจากต้องใช้สองมือในการทำ จึงขอใช้ภาพของ Pinn มาประกอบ และจากประสบการณ์ในการเริ่มต้นเรียนรู้การถัก ถึงแม้จะเรียนรู้จากเว็บไซด์ของ Pinn มีหนังสือของ Pinn แต่บางขั้นตอนมันก็ยังงงอยู่ ไม่ค่อยเข้าใจ เลยอยากจะอธิบายในจุดที่เราคิดว่ามันค่อนข้างสับสนให้เข้าใจมากขึ้น

ขั้นตอนการถักนิต: K-Knit (ลาย A)

1. ประกอบแผ่น Easy Knit ตามจำนวนและขนาดที่แพทเทิร์นระบุไว้แล้ว (ดูรายละเอียดได้ที่หัวข้อ ขนาดของแผ่นเฟรมและวิธีการประกอบ)



2. ขั้นต่อมาหลังจากที่ประกอบแผ่นเฟรมเสร็จแล้วก็คือ ขั้นตอนการพันฐานก่อนถักลาย

ขั้นตอนนี้จะมี 2 แบบคือ

การถักแบบรูดปลาย ซึ่งต้องใช้ไหมสีเดียวกันกับไหมที่ใช้กับชิ้นงานในการพันฐาน ตัวอย่างชิ้นงานถักแบบรูดปลายคือหมวกข้างล่าง



การถักแบบไม่รูดปลาย ให้เลือกสีของไหมพรมให้มีความแตกต่างกับสีของไหมพรมที่จะใช้ถักชิ้นงาน เพื่อความง่ายในการเก็บห่วงปลดชิ้นงาน

ทั้ง 2 แบบจะมีวิธีการถักเก็บชิ้นงานไม่เหมือนกัน แต่ทั้งสองแบบจะมีวิธีการขึ้นต้นพันฐานเหมือนกัน คือ ให้เหน็บไหมพันฐานเข้าที่ด้านในของรอยต่อของแผ่นเฟรม โดยให้เผื่อปลายไหมไว้นิดหน่อย หลังจากนั้นให้อ้อมตัวไหมพันสลับฟันปลา ไปตามซี่ของแผ่นเฟรม อย่าดึงไหมตึงหรือหย่อนเกินไป เพราะจะทำให้ถักลำบาก จะทำให้ไหมหลุดจากแผ่นเฟรมได้ง่าย

การพันไหมสามารถพันจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้ายก็ได้ แล้วแต่ความถนัดของแต่ละท่าน



3. เมื่อพันฐานไหมไปจนถึงซี่สุดท้าย ให้พันอ้อมกลับสลับกับตอนแรกแล้วพันสลับฟันปลากลับไปที่หลักที่หนึ่ง (ตามภาพประกอบ)



4. เมื่อพันฐานไหมกลับมาถึงซี่แรกแล้วให้เหน็บปลายไหมไว้ที่รอยต่อในจุดเดียวกันกับจุดเริ่มต้น



5. เริ่มถักแถวที่หนึ่งโดยใช้ไหมที่ใช้ถักชิ้นงาน (สีชมพู) เหน็บปลายไหมที่ด้านในจุดเดียวกับที่เหน็บไหมพันฐาน (สีเหลือง) แล้วให้อ้อมออกมาด้านนอก (ลายเดียวกับพันไหมพันฐานรอบแรก) โดยให้ไหมชิ้นงาน (สีชมพู) วางพาดเหนือเส้นไหมพันฐาน (สีเหลือง) (ดูภาพประกอบ)



6. ใช้ไม้ถักเกี่ยวไหมพันฐาน (สีเหลือง) ข้ามไหมชิ้นงาน (สีชมพู) อ้อมไปด้านหลังของซี่เฟรม อย่าดึงไหมชิ้นงาน (สีชมพู) ให้ตึงมากไปจะทำให้ถักยาก และหลุดง่าย



7. พาดไหมชิ้นงาน (สีชมพู) เหนือเส้นไหมพันฐาน (สีเหลือง) ในซี่ที่ 2 แล้วใช้ไม้ถักเกี่ยวไหมเส้นล่าง (สีเหลือง) ข้ามซี่เฟรมไปด้านหลัง



8. ทำซ้ำข้อ 7 ไปเรื่อย ๆ จนถึงซี่สุดท้าย



9. เมื่อถักมาถึงซี่สุดท้าย ถ้าต้องการให้ชิ้นงานออกมาเป็นวงกลมให้ถักชิ้นงานวนไปเรื่อย ๆ (เช่น จากซี่สุดท้ายคือ 24 ให้ถักต่อไปที่ซี่ที่ 1 ได้เลย โดยไม่ต้องกลับไหมเหมือนตอนพันไหมพันฐาน) ให้ถักวนไปจนกระทั่งได้จำนวนแถวที่ต้องการ

แต่ถ้าต้องการถักชิ้นงานเป็นผืน พอถักซึ่สุดท้ายเสร็จให้ดึงไหมย้อนกลับมาด้านหน้าแล้ววนออกขวา แล้วถักเกี่ยวไหมเส้นล่างข้ามซี่เฟรมไปด้านหลัง (ไม่วนเป็นเลขแปด เหมือนตอนพันไหมพันฐาน) ดูความแตกต่างจากรูปด้านล่าง

จุดนี้เป็นสุดที่ทำให้เรางงอย่างมากตอนที่หัดทำครั้งแรก เพราะไม่เข้าใจว่าต้องวางไหมลักษณะไหน หวังว่าจากรูปด้านล่างจะทำให้เข้าใจมากขึ้น



ลักษณะการวนของเส้นไหมเพื่อพันฐานจะเป็นรูปเลขแปด



จากรูปด้านบน เส้นไหมสีม่วงจะถูกดึงย้อนกลับ แล้ววางเส้นไหมพาดเหนือเส้นเดิม แล้วให้เกี่ยวเส้นไหมด้านล่างข้ามขึ้นไปหลังซี่เฟรม



10. ถักแถวต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง ชิ้นงานมีความยาวได้ประมาณ 3-4 นิ้ว ให้ปลดปลายไหมของทั้งไหมพันฐาน กับไหมชิ้นงานที่เหน็บไว้กับเฟรมตอนเริ่มต้นออกมา เพื่อไม่ให้ไหมรั้งชิ้นงานเอาไว้ จะทำให้ถักไม่สะดวก (ตามรูปข้างล่าง)





11. จากวงกลมด้านใน จะสามารถนับแถวที่ถักได้ตามภาพ ซึ่งถักไปได้แล้ว 2 แถว (สีชมพู)




Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 25 กันยายน 2555 21:31:21 น. 3 comments
Counter : 6488 Pageviews.

 
แล้วจะลองทำดูบ้างนะคะ อยากทำงานถักมานานละ


โดย: made by pum วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:16:26 น.  

 
คุณ made by pum ลองถักดูซิค่ะ เพลินดีคะ และเป็นการสร้างสมาธิที่ดีอีกวิธีหนึ่งเลย


โดย: EskimoPie วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:38:38 น.  

 
เอ ถ้าจะถักหมวก ต้องใช้เฟรมกี่แผ่นคะ


โดย: FMR_Woodyinho วันที่: 12 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:26:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

LcWitch
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add LcWitch's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.