สังขยาในลูกฟักทอง & สังขยาฟักทอง...
สังขยาในลูกฟักทองเป็นเมนูที่อยากทำมานานแล้ว แต่หาวัตถุดิบคือลูกฟักทองผลเล็ก ๆ ขนาดพอเหมาะยากมาก ส่วนใหญ่ที่เห็นจะขนาดใหญ่เกินไปทั้งนั้นเลย ประจวบเหมาะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผ่านไปเห็นฟักทองผลเล็กขนาดพอเหมาะพอดี เลยสอยมา 2 ลูก แต่ปกติเป็นคนที่ชอบทานสังขยาฟักทองแบบที่หั่นเป็นชิ้น ๆ มากกว่า เพราะมีความรู้สึกว่าเวลาทานรสชาติมันเข้าเนื้อดี ก็เลยทำ 2 แบบเลย สูตรที่ทำจะไม่ค่อยหวานจัดนะคะ จะหวานเล็ก ๆ พอทานหลาย ๆ คำก็จะรู้สึกหวานขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราทำหวานพอดีที่คำแรกเลย พอทานไปเรื่อย ๆ มันจะยิ่งหวาน จนกระทั่งหวานเกิน ที่สำคัญที่บ้านไม่ค่อยชอบทานหวานจัด แค่เอาพอดี ๆ ถ้าอย่างไรก่อนที่จะ นำไปนึ่งจริงก็ทดลองนึ่งซักเล็กน้อย แล้วชิมก่อน เพราะเวลาเราเริ่มทดลองสูตรใหม่ก็จะต้องทดลองชิมรสก่อน ส่วนผสมสังขยาในลูกฟักทอง 1. | ฟักทองผลเล็กขนาดประมาณลูกละ 700 - 800 กรัม | 1 ลูก | 2. | ไข่เป็ด | 5 ฟอง | 3. | หัวกะทิ | 1 ถ้วย | 4. | น้ำตาลมะพร้าว (สีเข้ม ๆ) | 170 กรัม (ชอบหวานมากใส่ 200 กรัม) | 5. | เกลือป่น | หยิบมือด้วยปลายนิ้ว | ส่วนผสมสังขยาฟักทอง 1. | ฟักทองหั่นชิ้นเล็ก ๆ | 2 ถ้วย (ถ้าชอบทานสังขยา) หรือ 3 ถ้วย (ถ้าชอบทานฟักทอง) | 2. | ไข่เป็ด | 5 ฟอง | 3. | หัวกะทิ | 1 ถ้วย | 4. | น้ำตาลมะพร้าว (สีเข้ม) | 170 กรัม (ชอบหวานมากใส่ 200 กรัม) | 5. | เกลือป่น | หยิบมือด้วยปลายนิ้ว | หมายเหตุ ถ้าใครอยากได้สังขยาเนื้อนุ่มขึ้นให้ใส่ไข่ไก่ลงผสมด้วยโดยใช้ไข่เป็ด 3 ฟอง ไข่ไก่ 2 ฟอง แทน แต่ตัวสังขยาสีจะอ่อนตามด้วย วิธีทำ วิธีและขั้นตอนการทำของทั้งสองอย่างจะเหมือนกันเลย ดังนั้นขออธิบายรวมกันเลยนะคะ ฟักทองลูกเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 600 - 800 กรัม กำลังดี แต่ค่อนข้างจะหายาก ส่วนใหญ่ตามตลาดจะขายลูกใหญ่ ๆ อย่างน้อยก็ 1.5 กิโลกรัมขึ้น ยิ่งถ้าได้ฟักทองเนื้อสีส้มเข้ม ๆ เวลานึ่งออกมาแล้วจะน่ารับประทานกว่าลูกสีเหลือง ให้ผ่าเอาส่วนบนของฟักทองออก โดยให้ขนาดห่างจากก้านประมาณด้านละ 1 ซ.ม. ใช้มีดปลายแหลงแทงลงไปตรง ๆ เลย แล้วค่อย ๆ ดังฝาออก ใช้ช้อนแซะเอาเม็ดและเยื่อข้างในฟักทองออกให้หมด แล้วล้างน้ำให้สะอาด พักไว้ ส่วนสังขยาฟักทอง ให้หั่นฟักทองเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดเท่ากัน ๆ อย่าเล็กมากเกินไป เนื้อฟักทองจะเละเวลานำไปนึ่ง ส่วนผสมทั้งหมดของสังขยา ปกติเวลาทำอาหารไทย หรือ ขนมไทยเราจะใช้เกลือแบบถุง ส่วนน้ำตาล พอดีฝากน้องที่ทำงานซื้อน้ำตาลมะพร้าวมาให้ เขาซื้อแบบสีอ่อนมาให้ ก็เลยต้องใช้ แต่ถ้าจะทำสังขยา ควรจะใช้น้ำตาลสีเข้ม ๆ สังขยาที่ได้จะสีเข้มน่าทานกว่ากัน ตอกไข่ทีละใบใส่ชามใบเล็กเพื่อตรวจสอบว่าไข่เสียหรือไม่ ถ้าไม่เสียก็เทใส่ชามผสมใบใหญ่ อย่าตอกไข่ลงโดยตรงที่ชามผสมใบใหญ่เลย เพราะถ้าไข่เสีย จะทำให้เสียทั้งหมดไปด้วย (รอบนี้แจ๊คพ๊อต ได้ไข่แฝดมา 1 ฟอง) ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไป แล้วใช้ใบตอง 5-6 ใบขยำส่วนผสมให้เข้ากันดี หลังจากนั้นกรองส่วนผสมด้วยกระชอบตาถี่ หรือ ด้วยผ้าขาวบาง เพื่อกรองเอาเศษออก การนึ่งสังขยาเป็นลูกจะต้องเอาชามที่มีขนาดพอเหมาะมารองที่ก้นสังขยา เพราะบางครั้งขณะที่นึ่งลูกฟักทองอาจจะแตกได้ ดังนั้นต้องใช้ชามมาประคองลูกฟักทองไม่ให้แตกตัวได้ กรองส่วนผสมแล้วก็เทส่วนผสมลงไปในลูกฟักทอง ไม่ต้องเต็มมากเพราะสังขยาจะขยายตัวขึ้นมาอีก พอดีวันนี้ใช้ถาดใบเล็กเลยเหลือสังขยาอยู่ เลยเอาถ้วยทำไข่ตุ๋นมาทำเป็นถ้วยเล็ก ๆ อีก นำสังขยาไปนึ่งไปแรงค่อนไปทางอ่อน เพื่อให้เนื้อสังขยาเนียน แต่ถ้าเป็นการนึ่งแบบโบราณจะนึ่งด้วยไฟกลางค่อนไปทางแรง จะได้สังขยาเนื้อไม่ค่อยเนียน ผิวจะเป็นคลื่น สมัยก่อนตอนที่คุณยายทำขนมพวกนี้ในวันทำบุญใหญ่ จะต้องมีการทำสังขยาเป็นถาด ๆ ผิวของสังขยาจะเป็นคลื่น ๆ ไม่เนียน เพราะใช้ไฟแรง แต่เราอยากให้ผิวสังขยาเนียนเลยใช้ไฟอ่อนในการนึ่ง ใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 45 นาที หรือ จนกระทั่งสุก ให้ตรวจสอบว่าสุกหรือยังโดยการใช้ไม้ปลายแหลมแทงลงไปตรงกลาง ถ้าไม่มีเศษไข่ติดขึ้นมาก็แสดงว่าสุกดีแล้ว (เหมือนกันการทดสอบเค้ก) ถ้าใช้ไฟอ่อนจะได้เนื้อสังขยาเนียนแบบในรูปจ้า ตอนที่สุกใหม่ ๆ ตัวฟักทองและสังขยาที่ได้จะสีค่อนข้างอ่อนนะคะ แต่พอทิ้งไว้ให้สังขยาเซ็ทตัวสักพักสีก็จะเข้มขึ้นเอง
Create Date : 24 มิถุนายน 2556 |
|
6 comments |
Last Update : 24 มิถุนายน 2556 21:09:32 น. |
Counter : 67324 Pageviews. |
|
|
|
เนื้อสังขยาในลูกฟักทองช่างเนียมมั่กมาก
แต่แบบใส่ถาดก็น่าอร่อยเหมือนกัน
ขอทั้งสอบแบบเลยได้ไหมค่ะ