สวนสยามทะเลกรุงเทพ - Siam Park City
วันนี้พาหลาน ๆ ไปว่ายน้ำคลายความร้อนกันที่สวนสยาม ทะเล กรุงเทพฯ (Siam Park City) ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน ถ้ารถไม่ติดก็ประมาณ 30 - 40 นาทีเอง ก่อนไปนี้ก็หาแผนที่ในการเดินทางตามเว็บไซด์ แต่เหมือนมันไม่ค่อยชัดเจนในเรื่องของคำอธิบายสำหรับคนที่ไม่ค่อยเจนเส้นทางแถวนั้น เราดูตามแผนที่แล้วมันก็พอเข้าใจว่าไปอย่างไร แต่พอขับไปจริง ๆ มันมีบางจุดที่ทำให้เราสับสนกับถนน เนื่องจากป้ายบอกทางไม่มีความชัดเจน บางจุดไม่มีป้ายแจ้งบอกทาง ทำให้เกือบตัดสินใจขับไปผิดเส้นทางอยู่ 2 จุดด้วยกัน วันนี้เลยถือโอกาสทำแผนที่ขึ้นมา เพื่ออธิบายให้คนที่จะเดินทางไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากถนนบางนา-ตราดไปสวนสยาม เราเดินทางออกจากบ้านประมาณ 9.40 น. หลังจากที่กลับจากตักบาตรที่วัดเสร็จ จริง ๆ แล้วจากบ้านเราสามารถขึ้นทางด่วนตรงช้างสามเศียรได้เลย แต่เนื่องจากความหิวของผู้ร่วมทริปรวมถึงคนขับรถด้วย เลยต้องตัดสินแวะปั้มเพื่อซื้อของทานลองท้องก่อน...ย้ำนะคะว่าแค่ลองท้อง เพราะใช้เวลาในการเดินทางไปไม่นานเลยไม่เกิน 30 นาทีจาก A&W ในปั้มแรกของถนนบางนา-ตราด ยิ่งถ้าใครไปแล้วจะเล่นเครื่องเล่นก่อนที่จะเล่นน้ำ มันจะจุกมากถ้าทานเยอะ ๆ ก่อนไปเล่น ออกจากถนนบางนา-ตราดเข้าเส้นถนนกาญจนาภิเษก ขับไปเรื่อย ๆ ผ่านแยกลงถนนอ่อนนุช ไปจนถึงทางแยกที่สองเพื่อลง ถนนเสรีไทย ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแรกที่ทำให้เราสับสน พอขับรถออกจากถนนกาญจนาภิเษกเล็กน้อย จะเห็นถนนแยกเป็น 2 เส้น (รูปตัว Y) แต่ป้ายจะเขียนระบุ ซ้ายไปถนนเสรีไทย ส่วนขวาจำไม่ได้ ใจเราตอนนั้นจำจากแผนที่ว่าต้องไปถนนเสรีไทย จนเกือบจะไปเส้นทางซ้ายแล้ว แต่โชคดีว่าเห็นรถของญาติที่ไปด้วยขับไปทางเส้นขวา เลยรีบขับตามไป หลังจากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนเสรีไทย (555 จริง ๆ แล้วทั้งสองเส้นมันก็ขับไปลงที่ถนนเสรีไทยแหละเพียงแต่เราจะเข้าไปทางขวาของถนนเสรีไทย) ขับตรงไปเรื่อย ๆ จนถึง ซอยเสรีไทย 75 เตรียมเข้าซ้าย เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสวนหลวง ตรงทางเข้าจะมีป้ายเล็กบอกว่าไปสวนสยาม ขับไปเรื่อย ๆ ไม่ไกลมาก จะเห็นสวนสยามอยู่ด้านขวา แต่เราต้องไปยูเทรินรถกลับมาก่อน จุดยูเทรินอยู่ไม่ไกลมาก ส่วนขากลับก็ระวังแค่หลังจากเลี้ยวซ้ายออกจากถนนเสรีไทย เพื่อเข้าถนนกาญจนาภิเษก ที่พอเราเลี้ยวซ้ายปุ๊ปจะเป็นเป็นทางแยกรูปตัววายอีกแล้ว แต่มันไม่มีป้ายบอกว่าเส้นไหนไปไหน (หรือมีแต่เราไม่เห็น) ให้เข้าเส้นทางขวานะคะ พอเข้าไปในสวนสยามรถทุกคันจะต้องเสียค่าจอดคันละ 10 บาท หลังจากจ่ายเงินไป เจ้าหน้าที่จะให้บัตรเล็ก ๆ เหมือนคูปองอาหาร สีฟ้า (ขนาดน่าจะประมาณ 1.5 x 2 นิ้ว) ขอเตือนนะคะว่าให้เก็บบัตรเอาไว้ดี ๆ เพราะตอนขาออกจะต้องคืนทางเจ้าหน้าที่ตรงทางออกด้วย เราไม่รู้ว่าต้องคืน แต่จำได้ว่าเก็บไว้ในกระเป๋า แต่หาไม่เจอ โชคดีที่เจ้าหน้าที่คงเห็นเราพยายามหาแล้ว ก็เลยเห็นใจปล่อยให้ออกมาได้ พอหาที่จอดรถได้แล้ว ก็เข้าไปที่หน้าปราสาท ถ่ายรูปกันเล็กน้อยก่อนเข้า แต่อากาศร้อนมาก ๆ ค่ะ ไม่ค่อยอยากยืนถ่ายรูปกันนานนัก หลานชายกับพี่สาว ชักภาพกับหลานชายสักหนึ่งรูป เพราะปกติเป็นช่างกล้องให้กับทริปค่ะ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนัก เมื่อมีโอกาสต้องรีบฉวยค่ะ ภาพเดี๋ยวอีกซักรูป แต่เป็นคนที่เวลาถ่ายรูปไม่รู้จะเอามือไปไว้ที่ไหน ถ่ายแบบออกท่าออกท่างเหมือนที่พี่สาวหรือหลานชายทำ ก็ไม่กล้าขัด ๆ เขิน ๆ สุดท้ายก่อนช่างกล้องกดปุ่มชัตเตอร์ นางแบบก็ยกนิ้วขึ้น "สู้ตายค่ะ" ท่าหากินจริง ๆ คนเยอะมาก ผู้คนหนาแน่นจริง ๆ ช่วงของการซื้อบัตรเป็นขั้นตอนที่น่าเบื่อและน่าหงุดหงิดที่สุด ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมทางสวนสยามไม่หามาตราการมาจัดการขั้นตอนในการขายบัตรให้สะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่านี้ ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ลักษณะนี้น่าจะเกิดขึ้นทุกปี คนเข้ามารอด้านในเพื่อซื้อตั๋วเยอะมาก ไม่มีการแยกโซนสำหรับคนรอกับคนเข้าแถวซื้อตั๋ว พอจะเดินเข้าไปซื้อหาหางแถวไม่เจอ เพราะมั่วไปหมด ทั้งคนรอเข้าแถวเพื่อซื้อตั๋วกับญาติพี่น้องเพื่อนของคนที่เข้าไปซื้อตั๋วซึ่งมายืนรอในบริเวณเดียวกับตรงหางแถว ไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดระเบียบแถวคนซื้อเลย มีแต่ใช้ไมค์ตะโกนประกาศ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ควรจะต้องจัดเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาคุมและดูแลการเข้าแถวให้ชัดเจนเลย ที่สำคัญคนเยอะขนาดนี้ ทำไมเปิดช่องขายตั๋วแบบปกติแค่ 3 ช่อง อีก 2 ช่องทำไมไม่เปิด ดังนั้นข้อแนะนำสำหรับคนที่จะไปเที่ยวสวนสยามในวันหยุดพิเศษที่ผู้มากมายขนาดนี้ ขอให้สรุปอายุ และความสูงของคนผู้ร่วมทริป ศึกษาประเภทของบัตรที่จะซื้อให้ละเอียดและคุยกับเพื่อนร่วมทริป ว่าใครจะเล่นอะไรบ้าง เวลาในการเล่นเพียงพอไหม แล้วสั่งซื้อตั๋วทางออนไลน์เลย เพราะแถวของคนที่ซื้ออนไลน์สั้นมาก ๆ อายุและความสูงของผู้ร่วมทริป - ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าตลอดรายการค่ะ แค่นำบัตรประชาชนไปลงทะเบียน ก่อนไปรับบัตรผ่านประตู (2 ขั้นตอน) ในทริปเราคุณแม่อายุเกิน 60 ปี แต่ไม่ได้พกบัตรประชาชนเข้าไปเลยต้องเสียค่าผ่านประตู 330 บาท เป็นบัตร Si-am Water Pass อย่างเดียวเลยค่ะ
- ความสูง ถ้าความสูงไม่เกิน 100 ซม. ฟรี
- ความสูงเกิน 100 ซ.ม. แต่ไม่เกิน 130 ซ.ม. เสีย 120 บาท เป็นบัตร Si-am Kids Pass อย่างเดียวเลยค่ะ
- ความสูงตั้งแต่ 131 ซ.ม. ขึ้นไปเป็นบัตรผู้ใหญ่ ก็ต้องมาจำแนกความต้องการในการเล่นแทนว่าต้องการเล่นอะไรบ้าง เพื่อจะใช้ในการซื้อประเภทบัตรที่ต้องการ
หมายเหตุ สามประเภทแรกไม่มีปัญหาในการเลือกซื้อบัตรค่ะ เพราะมันโดนบังคับไปในตัวในการเลือกอยู่แล้ว ยกเว้นกลุ่มสุดท้าย พวกที่เกิน 131 ซ.ม. ทั้งหลาย จำแนกบัตรตามประเภทความต้องการเล่น เมื่อตัดผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เด็กที่ความสูงไม่เกิน 130 ออกแล้ว ก็ถึงกลุ่มพวกที่เกิน 130 แล้วค่ะว่าจะซื้อบัตรอะไรบ้าง รายละเอียดแนะนำให้เข้าไปศึกษาที่เว็บไซด์ของสวนสยามเลยค่ะ เว็บตามลิงค์ข้างล่างนี้นะคะ //www.siamparkcity.com/park.php แต่ขอแนะนำว่า ก่อนตัดสินใจซื้อตั๋วให้คำนวณเวลาในการเล่นด้วยว่าเพียงพอต่อการเล่นหรือไม่ เพราะของเล่นแต่ละอย่างที่น่าสนใจนั้นใช้เวลาในการเข้าแถวรอนานมากค่ะ ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปกับค่าตั๋ว แต่ไม่ได้เล่น ที่สำคัญไม่มีการขายตั๋วแยกสำหรับแต่ละเครื่องเล่นต่าง ๆ ข้างในที่หน้าเครื่องเล่นอีกแล้ว ดังนั้นถ้าจะเล่นอะไร ต้องตัดสินใจนะตอนที่ซื้อตั๋วเลย กลุ่มเราที่ความสูงเกิน 130 ซ.ม. ซื้อตั๋ว 420 บาท (Si-am Fantacy Pass) ทุกคน (7 คน) แต่เล่นเครื่องเล่นใน Fantacy Zone แค่ 2 คน คือเรากับหลานคนโต นอกนั้นต้องคอยดูแลลูก ๆ ซึ่งทำให้ไม่มีเวลามาเล่นในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แค่พาลูก ๆ หลาน ๆ ไปเล่นเครื่องเล่นของเด็ก ก็หมดเวลาแล้วค่ะ ของเราเล่นได้แค่อย่างเดียวเอง คือ Log Flume เป็นล่องแก่ง ซึ่งอยู่ในส่วนของ Family Zone ก็หมดเวลาแล้ว ถ้าอยากเล่นให้คุ้มทั้งว่ายน้ำ และ เครื่องเล่น อาจจะต้องแบ่งเวลาเป็นครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว แต่ถ้าได้เข้าไป Water Park Zone แล้ว ออกมายากค่ะ มันมีพื้นที่หลายส่วนมากในการเล่น กว่าจะเล่นให้ครบ เดินให้ทั่ว เล่นจนเบื่อ โดยเฉพาะ ถ้าใครพาเด็กเล็ก ๆ ไปด้วยแล้ว ดึงออกจากน้ำยากมากค่ะ กว่าจะออกมาจากโซน Water Park ได้ก็บ่ายแก่ ๆ แล้วค่ะ เห็นมีบางกลุ่มเล่นเครื่องเล่นก่อน แล้วค่อยเข้าไปเล่นน้ำ เราก็เห็นมีการต่อคิวเพื่อเล่นเครื่องเล่นยอดนิยมแต่ละชนิดยาวเหมือนกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเล่นเครื่องเล่นก่อน หรือ เล่นน้ำก่อน ก็ไม่ค่อยคุ้มทั้งสองอย่าง จริง ๆ แล้ว ถ้าต้องการไปสวนสยามก็น่าจะไปเล่นน้ำให้เต็มที่ แต่ถ้าอยากไปเล่นเครื่องเล่น แนะนำให้ไปที่ Dream World เลยค่ะ หลังจากแยกประเภทได้แล้วก็สั่งซื้อออนไลน์เลยค่ะ สะดวกดี พอเดินเข้าไปจุดแรกก็เห็นเครื่องเล่นสุดคลาสสิคมาแต่ไกลเลยค่ะ ม้าหมุนนั่นเอง ตรงด้านหน้ามีบริการรถไฟ กับ คนกอร์ฟบริการไปถึง Water Park Zone เลย ซึ่งค่าบริการคิด 20 บาท ต่อ คนค่ะ เครื่องเล่นที่ใกล้ทางเข้าที่สุด อยู่ติดกับตัวปราสาทเลยค่ะ เสียงดังมาก ทั้งเสียงของตัวรถไฟเสียดสีกับราง พร้อมทั้งเสียงกรี๋ดร้องของผู้เล่น เครื่องเล่นเยอะมากเลยค่ะ ถ่ายรูปไม่ไหว ที่สำคัญอากาศร้อนมาก ๆ และหลาน ๆ รวมถึงญาติ ๆ ที่ไปก็อยากไปให้ถึง Water Park Zone เร็ว ๆ ดังนั้นไปดูรูปเครื่องเล่นแต่ละชนิดตามเว็บไซด์ที่ให้ไปด้านบนเลยค่ะ ระหว่างทางผมขอถ่ายรูปกับฮิโร่หน่อยครับ "สู้ตายครับ" ระหว่างทางเดินไป Water Park Zone ก็จะเห็นร้านค้าขายเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายเปิดเรียงรายเลยค่ะ ในที่สุดเราก็มาถึง Water Park Zone แล้วค่ะ พอเข้าไปก็เห็นร้านขายชุดว่ายน้ำ อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเล่นน้ำ ซึ่งราคาที่ดูจากวัตถุดิบของผ้าแล้ว ซื้อจากข้างนอกมาดีกว่าค่ะ เพราะราคาค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับคุณภาพและแบบเสื้อ ตอนแรกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาเล่นน้ำ เพราะว่ายน้ำไม่เป็นเลยไม่ค่อยสนใจจะเล่นนัก ที่สำคัญไม่ค่อยกล้าใส่ชุดว่ายน้ำโชว์...5555 แต่เพราะหลานสาวคนโต อยากเล่น ขอให้เล่นเป็นเพื่อน สุดท้ายก็ต้องยอม แต่ถ้าจะให้ไปเช่าชุดที่มีใครตั้งไม่รู้กี่คนเคยใส่มาแล้ว มันทำใจไม่ได้ แบบชุดก็รับไม่ได้จริง ๆ ดังนั้นเลยต้องอุดหนุนที่ร้านข้างบนนี่แหละค่ะ แต่ก็อย่างที่บอก แบบไม่ค่อยเยอะ ลายที่ชอบก็ไม่ค่อยมาก แต่ก็ดีกว่าเช่าเขา ติด ๆ กันก็เป็น zone ขายอาหาร ซึ่งราคาก็อยู่ที่ 55 บาทต่อรายการ และมีอาหารให้เลือกไม่มากนัก ที่สำคัญ ถ้าใครจะซื้อคูปอง ให้จำไว้ด้วยว่า มันเป็นคูปองชนิดที่ซื้อแล้ว ไม่รับคืน ดังนั้นก่อนที่จะแลกคูปอง แนะนำให้รวมราคาของที่จะซื้อก่อน แล้วค่อยไปซื้อคูปองให้พอดีกับราคาอาหารค่ะ อาหารโดยส่วนใหญ่ที่ขายใน Water Park Zone จะเป็นอาหารทานเล่น และเป็นอาหาร Junk Food จำพวกพิซซา ลูกชิ้น แฮมเบอเกอร์ ไส้กรอก ซะเป็นส่วนใหญ่ และราคาค่อนข้างแพง ถ้าใครไม่อยากหิ้วมาเองจากบ้าน ก็ต้องทำใจกับราคาอาหาร ถือซะว่านานทีปีหน แต่บอกตรง ๆ อาหารรสชาติไม่ค่อยอร่อยเลย มีให้เลือกน้อยมากด้วย อัตราค่าบริการให้เช่าห่วงยาง ส่วนค่าเช่าชุด ลืมถ่ายมาเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้เช่า แต่ซื้อเอา ก่อนที่นั่งบนเก้าอี้ผ้าใบที่เขาวางเรียงรายอยู่รอบ ๆ ให้ดูที่ป้ายด้วยนะคะ ว่ามันราคาต่อตัวอยู่ที่ 10 บาท เราไปทั้งหมด 12 คน เช่าเก้าอี้ 10 ตัว เป็นเงิน 100 บาท ที่สำคัญ ต้องมีคนคอยเฝ้าที่ซุ้มที่เราจองไว้นะคะ มิฉะบั้น เก้าอี้ที่คุณอุตสาห์จ่ายเงินเป็นค่าเช่าไปแล้ว จะมีผู้หวังดีมายกออกไปใช้โดยที่เราไม่รู้ตัวค่ะ เหมือนอยู่ชายทะเลกันเลย ถ้าใครจะไปสวนสยามแนะนำให้ไปแต่เช้าเลยนะคะ กว่าจะลงเล่นน้ำก็เกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว มีเวลาในการเล่นน้ำน้อยลงไปอีก ตรงนี้เป็นโซนทะเลจำลองค่ะ คนเยอะมากเพราะถ่ายตอนที่เขามีการเต้นแอโรบิคในน้ำกัน แดดตรงทะเลจำลองจะค่อนข้างร้อน เล่นตรงนี้นี่ ร้อนจนแทบจะเป็นลม ครูนำเต้นแอโรบิคค่ะ มีสามท่าน ใช้เวลาในการเต้นนานมากเลย โซนน้ำวน เป็นอีกครั้งที่เห็นเราสามัคคีกันค่ะ ต้องเล่นน้ำไปในทิศทางเดียวกัน.. เพราะแรงน้ำวนมันบังคับ....ฮิฮิฮิ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ถ่ายภาพตอนเล่นน้ำกันเลยค่ะ ขอเล่นน้ำก่อน กว่าจะออกมาจาก Water Park Zone ก็ร่วมบ่าย 3 เข้าไปแล้ว พอออกมาก็จะเจอ บ้านผีสิงก่อนเลย อันนี้คนก็เข้าคิวรอเข้าไปยาวพอสมควรเลย เราไม่เข้าค่ะ...กลัวผี ไม่ชอบอะไรที่เป็นความมืด น่ากลัว อันนี้คนก็เข้าแถวยาวเลยเหมือนกัน "ผจญภัยแดนไดโนเสาร์" เราไม่ได้เข้าอันนี้เหมือนกัน แต่ลองส่องเข้าไปดูด้านในเล็กน้อย เราว่าสำหรับคนที่โตแล้ว มันไม่ค่อยน่าสนใจ มันเล็ก เป็นแค่การนั่งรถจิ๊ปไปตามถนนลูกรัง จำลองป่า ไม่หนาทึบมาก เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ไม่ได้เข้า ก็ขอถ่ายภาพไดโนเสาร์ข้างนอกไปแล้วกัน มีของเล่นด้านนอกอีกหลายจุดเลยที่เราไม่ได้ไป มันเหนื่อยจริง ๆ แถมอากาศร้อนอย่างสูงเลย เดินแล้วจะเป็นลม หมดอารมณ์ถ่ายภาพเลย หลังจากที่เข้าแถวด้วยความอดทนเพื่อจะได้เล่น Log Flume แล้ว เราก็ตัดสินใจกลับบ้านกันแล้ว เหนือยมากขอบอก....
Create Date : 13 เมษายน 2556 |
|
12 comments |
Last Update : 14 เมษายน 2556 0:17:47 น. |
Counter : 44845 Pageviews. |
|
|
|