"หนุกหนานตลอดวันแอบสร้างสรรค์สาระ(แน)"
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
๐...ชอนไช...ไปในลาว...๐ [ 02 ]

สวัสดีค่ะ
ต้อนรับเข้าสู่การเดินทางสูสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว...


วันพฤหัสที่ 17 พฤศจิกายน 2548



เรามุ่งหน้าเชียงของแต่เช้า แบกเป้ออกมาอย่างสบาย นี่แหละข้อดี
ของการพักใกล้ๆสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เมื่อวานเดินมาถาม
เรื่องรถไว้แล้ว ว่ามีออกเวลานั้น เวลานี้
เป็นรถ 99 โอเพ่นแอร์ คนน้อยมาก นั่ง นอน อย่างสบาย มีฝรั่งร่วมรถ
ไปสองสามคน คนหนึ่งคือคุณเยอรมันที่ตอนหลังไปเจอกันที่
หลวงพระบางโดยสารไปด้วย
ฝรั่งที่มาแวะเชียงรายก่อน นิยมนั่งรถสายนี้ไปเชียงของกันมาก
และรถเหล่านี้มีออกทุก 2 ชั่วโมง จนถึงสี่โมงเย็น

วิวรอบข้างข้าวกำลังจวนสุก เขียวกลั้วเหลืองอย่างสวย เสียดาย
ไม่ได้ถ่ายมา เพราะปีที่ไปนั้นป้าไปเชียงของติดๆกันหลายหน คุ้นตา
จนขี้เกียจยกกล้อง นั่งชมวิวอย่างเดียวเพลินใจ อากาศก็ดีจนไม่รู้สึก
ว่ารถต้องมีแอร์เลย ใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมงก็ถึงเชียงของ...


เราสองคนเรียกสามล้อ เพราะดูท่ายัยพี่อ้อแบกเป้ไม่รอดแน่ เพราะ
“ตำมิละ” ที่เราจะไปพัก อยู่ห่างท่ารถเกือบสองกิโลได้ แต่ป้าอ่ะ เคย
เดินแบกกับเพื่อนมาแล้ว หลังลงจากผาตั้งด้วย
ถึงไอ้คุณเพื่อน ถ้าได้มาอ่านละก็ขอบอกว่า
“รู้ว่าไกลชิป เลยไม่อยากทรมานคนอื่นเหมือนเอ็ง...”



พอไปถึงป้าก็กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~
พระเจ้าทรงโปรดข้าน้อยแย๊วววว~

เพราะว่าห้องพักเดี่ยวริมสุด ราคา 400 ที่อยากนอนมาตั้งนานแล้ว
ว่างซะที ปกติมาทีไรจะมีฝรั่งตัดหน้าจับจองอยู่เสมอ เสร็จตู เย๊
ป้าและพี่อ้อ พุ่งเข้าห้องระดับ “เด๋อลุก” ของตำมิละทันที
(ตำมิละไม่แพงค่ะ ห้องราคา 250 -400 และสะอาด เป็นกันเองมาก
มีน้ำอุ่น แต่ไม่มีแอร์)






เนื้อที่โฆษณามากๆ หน้าห้องเป็นระเบียงไม้เก่าเดินเท้าเปล่าน่าสบาย
เป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัว ที่มีวิวเป็นสายน้ำโขงทอดยาวตรงหน้า
(โปรดมองข้ามความรกของโต๊ะ)




“ตำมิละ” เป็นบ้านพักเล็กๆ ราวๆ 15 ห้องซ่อนตัวอยู่ในหมู่ไม้ริมโขง
มีเรือนแถวสองชั้น ราวๆ 10 ห้อง อยู่ด้านติดกับร้านอาหาร และมีห้อง
“เดอลุกซ์” (เรียกให้หรู อิอิ) เป็นเรือนไม้แยกต่างหาก 3 ห้อง

ซึ่งห้องที่ป้าไม่เคยนอนเลย คืออีห้องริมน้ำนี่แหละ ห้องที่อยู่ถัดมา
เคยมาพักแล้ว ส่วนอีกห้องอยู่ด้านหน้าไม่สน อิอิ ห้องที่ใฝ่ฝันนี่มัน
จะเป็นอะไรที่ส่วนตัวมากๆ
เคยคิดว่าจะมานอนเขียนหนังสือที่นี่ซักอาทิตย์เมื่อนานมาแล้วด้วย
(ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่น้า)

ที่นี่จะมีจักรยานเสือภูเขาด้วย เพราะเจ้าของ (ดันจำชื่อไม่ได้ซะงั้น)
(เนื่องจากป้า มีเพื่อนบ้าปั่นจักรยานแนวปั่นข้ามโลก 2-3 คนอยู่)
เป็นนักปั่นเสือภูเขาตัวยง เคยปั่นจากลาวไปจีนมาแล้ว ป้าเกือบ
ร่วมทริปไปกับเค้าด้วยหนนึง ดีว่าตอนนั้นโดนคนอื่นแซงคิวไปก่อน หุหุ





น่านอน บ่ (นี่คือเตียงวิวาห์ ของป้าและคุณพี่อ้อค่ะ อิอิ)



บันไดไม้เล็กๆ สามสี่ขั้นตรงทางขึ้น ทอดมายังเก้าอี้ไม้ให้วางของ
ตอนนี้ต้นตีนตุ๊กแกขึ้น ดูชุ่มชื้น...




เก้าอี้ที่มีต้นตีนตุ๊กแก และมีแมว...





ตำมิละขึ้นชื่อเรื่องมีแมวมาสิงกับแขกมาก จะมีแมวเนียนๆหลายตัว
ที่มองเห็นแขกปั๊บก็จะเข้ามาหา มาเคล้าคอ ขอเกาคาง ขอขนม
ขอมานอนเกลือกกลิ้งบนเตียง ยังกับมันเป็นแมวของเราเมื่อชาติก่อน

ซึ่งอิแมวนี่พอกลั่นแกล้งเข้า ก็ตื่นขึ้นมาหน้าหงิก “แง๊ว” ใส่
โดยไม่ได้สนใจว่าใครจ่ายค่าห้อง...





แล้วมันก็นอนหงายท้อง ผึ่งแดดต่อไป...
น่าจับมากินตับมาก อ้วนปี๋เชียวแก





หลังรังแกยังไง เจ้าแมวก็ไม่ถอย เพียงแต่เปลี่ยนที่เท่านั้น
พี่อ้อ และป้าเลิกตื่นเต้นห้อง จัดแจงออกไปหาจักรยานชมเมืองทันที
น่านั่งเล่นกับแมวโคตรๆ แต่ บ่ ได้ ต้องไปผ่อเมืองจั๊กหน่อย...



ที่น่าชมของเชียงของก็มีหลายจุด มีวัดต่างๆ วัดหนึ่งเป็นวัดต้นกำเนิด
การศึกษาพระธรรมของพระนักเทศน์ชื่อดังอย่างท่าน ว. วชิรเมธี
(ขณะนี้กำลังรับบริจาคหนังสืออยู่)
ตอนเขียนนี่ ท่าน ว. ยังไม่ได้เอียงข้างเข้ารัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด
ปานตอนนี้... (ขณะนี้ป้าเปลี่ยนชื่อเป็นท่าน "นิวกิติวุฒโธ" )

สถานที่ดังๆ ก็มีท่าจับปลาบึก และร้านอาหารริมน้ำแถวนั้น ซึ่งขาย
อาหารจากปลาบึกเยอะมาก ขึ้นป้ายเป็นแถว ถ้ายังไม่อยากกิน
ปลาบึกก็ไปกินอย่างอื่นได้
แต่แบ็คแพ็คแก่ผู้รอบคอบ ย่อมจรลีไปดูท่าเรือเพื่อพาตัวโกอินเตอร์
พรุ่งนี้เช้าก่อน ท่าเรืออยู่เลยตำมิละไปไม่เท่าไหร่นัก ขี่พอเหงื่อซ่ก
เรายืนเมียงมองดูพิธีการข้ามแดนแล้วค่อยออกมา

พรุ่งนี้...พี่น้องเมืองลาวป๊ะกัน ท่าข้อยแน้...
(พรุ่งนี้ พี่น้องเมืองลาวเจอกัน รอข้าพเจ้าด้วย)

ขออภัย ป้าไปเชียงของทุกปีเลยช่วงนั้น เลยไม่ได้ถ่ายท่า
จับปลาบึกมา กะเล่นของเก่า แต่ดันหาไม่เจอซะงั้น เอาภาพ
มะละกอสีทอง ที่ท่าจับปลาบึกไปแล้วกัน อยากได้เม็ดมาลองเพาะจัง





ไอ้ต้นมะละกอนี่ป้าก็โรคจิตมาก ต้องไปดู ไปทีไรมักจะใกล้มืด
เพิ่งได้ถ่ายรูปคราวนี้



หลังขี่จักรยานอย่างบ้าคลั่ง (ป้าคลั่งขี่ ส่วนพี่อ้อจะเป็นบ้ากับ
ความคลั่งของป้า) ก็มาวี๊ดวิ๊ว ติ๋วติ้ว กับวิวหน้าระเบียงห้องตัวเอง
(มันจะขี่ไปไกลทำไมเนี่ย...)
ตำมิละยังมีบึงน้ำขนาดย่อม มีนกน้ำหลายชนิด อยู่นอกเมืองออกไป
อีกราวๆ 10 กว่ากิโล ติดว่ามืดแล้วจะไปไหนไกลก็ไม่ดีนัก
จากนั้นก็ บลาๆๆ (คือขี่วนเวียนดูโน่นนี่) ค่อยกลับมากินข้าว
เมื่อห้องอาหารเค้าปิดแล้ว หุหุ
กะจะนั่งเอื่อยตรงระเบียงเค้า แล้วกินข้าวไปดูน้ำไป...อด

แต่ตำมิละดีนะคะ ถ้าใครไม่กินข้าวของเค้า (เพราะมาไม่ทัน)
ก็สามารถไปซื้อมากิน โดยใช้ถ้วย-ชาม-จาน-ช้อนของเขา
ได้ตามสะดวก เราสองจึงปั่นไปหาอะไรมากินกันที่ระเบียง
สุดโรแม๊ง (โรแม๊งแต่ระเบียงกะวิวเท่านั้น)
กินไป มองวิวห้วยทรายฝั่งตรงข้ามไป แถวนั้นก็มีบ้านคน
มองเห็นไฟเป็นจุดๆ ได้ยินเสียงเพลงแว่วมาตามลม...






ท่ามกลางพระจันทร์อันงดงามของคืนหลังลอยกระทง สายน้ำ
ยังมีไฟจากเครื่องไหว้พระแม่คงคาวอมแวม แต่ที่งามสุดคือ
จันทราดวงโตบนท้องฟ้า สุกสว่างกว่ามวลอัญมณีใดๆในโลก
(อารมณ์กวีบรรเจิด อิอิ)

วุ๊ย... กับข้าวพื้นเมืองของสองเฮา ช่างลำแต๊ ลำว่า ลำจ๊าดนัก
(อร่อยแท้ อร่อยจริง อร่อยมั่กๆ)

ได้เวลานอนแว้ววววว~




Create Date : 02 ตุลาคม 2551
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 2:29:13 น. 7 comments
Counter : 1398 Pageviews.

 
ไม่มีปลาบึกมีมะละกอสีทองมาแทน อืมมม์ พอได้ค่ะป้าหนอน


โดย: ณ มน วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:11:20:07 น.  

 
วางแผนไปหลวงพระบางทางเชียงของ วันที่ 8 ตุลาคม 51 นี้ อยากให้ป้าหนอนเล่าขั้นตอนผ่านแดนของไทยและการเข้าไปในลาวเสียค่าใช้จ่ายเท่าไรค่าเรือตลอดการเดินทางจนถึงหลวงพระบาง ติดตามอ่านทุกวันค่ะ


โดย: Arsi IP: 222.123.131.91 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:16:16:32 น.  

 
* * * ณ มน
ป้าก็ไม่เคยไปเชียงของ หน้าจับปลาบึกนะ ว่าจะไปซักหน
อยากเป็นไทมุง อิอิ
แต่ท่าจับปลาบึกมันห่างจากตำมิละหลายกิโลเลยแหละ


* * * Arsi
ค่าผ่านด่าน รู้สึกจะ 20 บาทนะคะ พอดีตอนป้าไปเนี่ย
จะมีการรวมกองกลาง พี่อ้อเป็นคนจัดการ แต่ไม่เกิน 100 อ่ะ

ค่าเรือข้ามฟากไปคนละ 20

ค่าสามล้อจากด่าน ไปท่าเรืออีกคนละ 20

ส่วนค่าเรือ ณ วันนั้นป้าเขียนไว้ในไดอารี่ว่า แสนเจ็ด !!!
10000 กีบ = 40 บาท ก็ตก คนละเกือบ 700 บาทค่ะ

ค่าอาหารง่ายๆ เช่นบาแกตต์ เฝอ ตกที่ 20000 กีบ+
น้ำดื่ม ที่ 5000 กีบขึ้นไปค่ะ อันนี้ก็เอาคูณไปตามจำนวนมื้อ

ค่าที่พัก ที่ปากแบง GH 80 บาท
อย่างสบาย มีห้องน้ำในตัว ที่ 300 ขึ้นไป
นอกนั้นก็ไม่ได้จ่ายอะไรค่ะ นอกจากค่าสามล้อไปหาที่พัก
ตอนขึ้นที่ท่าหลวงพระบางแล้ว อีกคนละ 20

ราคา ณ ปี 2548 นะคะ ตอนนี้ก็ขึ้นบ้างแต่ไม่มากนัก

หลักการคือ
พอถึงด่านให้แลกเงินกีบไว้ก่อนเลย เพราะเราใช้ค่าเงินเค้า
จะได้ส่วนต่างจากเศษกีบค่ะ เช่นแลก 2000 บาท ก็จะ
ได้ ห้าแสนสอง ตอนนั้นบาทนึง 260 กีบ บางที่ 265
ก็ได้จาก เศษ 5 กีบ นี่แหละ แลก 1000 บาทก็ได้ 5000 กีบ
หรือ 20 บาท แล้ว
แต่ถ้าเราใช้เงินไทย เรามักจะถูกคิดที่ 20 บาท = 5000 กีบ
ซึ่งเราขาดทุนอ่ะ 4 บาท = 1000 กีบ หายไป 40 กีบ
หรือที่ 10 กีบ ต่อ 1 บาท 20 บาท มันดูไม่เยอะ
แต่ถ้าเราแลกที 3000 (ป้ากะพี่อ้อ บ้าแลกเงินล้าน ฮ่าฮ่า)
มันหายไป 30000 กีบ คือ ร้อยกว่าบาทไทยอ่ะ !!!


ตอนนี้ไม่รู้ค่าเงินเท่าไหร่แล้ว แต่ใช้สนุกดีค่ะ
ป้ากับพี่อ้อไปกินอาหารฝรั่งเศสฟูลคอร์สกัน ไม่มีไวน์
ล่อไปเกือบสองแสน จ่ายแบบไม่สะดุ้ง จิ๊บๆ อิอิ ดูรวยมั่กๆ
ดังนั้น ไปวันแรกๆ ควรแลกเงินลาวใช้ซะ และอย่านำ
กลับมาไทย นอกจากต้องการเป็นที่ระลึกนะคะ


การข้ามแดนไม่ยากค่ะ เค้าจะมีเอกสารให้เรากรอกราย
ละเอียดเช่น อายุ ชื่อ อาชีพ ที่อยู่ ไปไหน อยู่กี่วัน ฯลฯ
แล้วก็ยื่นเข้าไปพร้อมพาสปอร์ตของเรา
เจ้าหน้าที่จะตรวจรับ เย็บใบกรอกส่วนหลังไว้ (ยื่นขาออก)
แล้วแสตมป์ตราเข้าประเทศ เป็นอันเสร็จพิธี ยกเว้นเราจะ
มีของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักร ก็อีกเรื่อง

จากนั้นก็เดินไปขึ้นเรือข้ามฟาก ไปด่านห้วยทรายได้เลยค่ะ
เห็นว่าตอนนี้สะพานเสร็จแล้วนะคะ ไม่รู้จะเปิดวันไหน

สงสัยถามได้นะคะ ยินดีตอบจะได้เที่ยวสนุกนะ


โดย: ป้าหนอน IP: 124.120.162.76 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:18:40:27 น.  

 
เสริมป้าหนอนค่ะ

ค่าผ่านแดนฝั่งไทย ห้าบาทหรือสิบบาทเองค่ะ
ส่วนฝั่งลาวเหมือนจะไม่ได้เสียมั้งคะ ตอนนี้ไม่แน่ใจว่า
คิดค่าธรรมเนียมเท่าไร แต่ถูกมากๆ

นอกนั้นก็ตามที่ป้าว่าค่ะ


โดย: O-HO วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:10:27:16 น.  

 
ศึกษาๆๆ จะไปเที่ยวลาวด้วย


โดย: soda IP: 125.24.79.220 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:16:54:22 น.  

 
* * * พี่อ้อ
เนอะ ไม่แพงอ่ะ เพราะเราไปตามเวลาเป๊ะๆเลย


* * * โซดา
เหมาะแก่การ "หันหนีมูล" มาก ขอบอก


โดย: ป้าหนอน วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:6:05:03 น.  

 
แวะมาอ่านต่อจ้า

ป้าเป็นนักเขียนเหรอ
อยากไปเที่ยวสบายๆ ไม่เร่งรีบแบบนี้บ้างจัง


โดย: ืีืีืีnudee IP: 58.147.21.42 วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:17:37:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ป้าหนอน
Location :
อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทในหลวง Svalbard and Jan Mayen

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




๐ คนข้างโลก อยู่เงียบๆ อย่างเรียบร้อย
พูดไม่น้อย จึงเขียนมาก แก้ปากหมา
สนใจสิ่ง รอบตัว ทั่วโลกา
จักสรรหา มาสัมผัส วัดด้วยตน
ขอเก็บความ-คิดไว้ ในบันทึก
สนุกนึก ย้อนมาอ่าน กันอีกหน
ได้รำลึก ความคิด ในจิตตน
คงได้ยล ยิ้มบ้าง ในบางวัน...
Friends' blogs
[Add ป้าหนอน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.