|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
* * ไม่ได้กินข้าวสองจาน มานานเท่าไหร่...* *
จั่วหัวก็ขึ้นเรื่องบ่งบอกการกินทันที แหะ แหะ
ช่วงหยุดที่ผ่านมา ไปบ้านเพื่อนมาค่ะ เพื่อนคนที่อยู่นครนายกนั่นแหละ...
ชอบบ้านเพื่อนคนนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นบ้านแบบท้องทุ่ง โดยรอบๆมีผักหญ้าให้เก็บกินอยู่เต็มไปหมด อารมณ์ชนบทบังเกิด เพราะฝันมานานแล้วว่าอยากมีบ้านแบบนี้ เป็นสวนกว้างๆ ปลูกพวกตำลึง ผักโน่นนี่ให้เต็ม แล้วเก็บมาจิ้มน้ำพริกประสาคนมือบอน แต่อีตายศจังดันไม่ชอบ เค้าชอบบ้านชีวิตเมือง เลยต้องออกไปเติมฝันนานๆหน
ที่ไปก็ใจมุ่งจะไปถวายเทียนพรรษา ที่ชาวแกงค์สมทบทุนกันมาสามหัว (ใครไม่ร่วม ไม่ทันแล้วว๊อย ขอบอก) แถมมีราชรถมารับ คือรถของพี่เพื่อน เอามาขนของที่น้องสาวจะเอากลับบ้าน
เอ่อ... ขอข้ามขั้นตอนการขนของไปเลย เพราะนังเพื่อนตัวดี พี่เอารถกระยะมา แต่มันเอาของกลับยังกะมีรถหกล้อ ขนกันอ่วมอรทัย และแวะซื้อโน่นนี่ไปตลอดทางตามเคย รวมทั้งเทียนพรรษาด้วย
เทียนพรรษา ราคาไม่แพงค่ะ มีหลายขนาด เผื่อท่านทั้งหลาย อยากจะถวายในปีหน้า ขนาด 9 นิ้วที่ซื้อไว้ ตกเล่มละ 180 และฐานบัว อันละ 110 บาท รวมแล้วสองต้นก็ไม่เกิน 600 พร้อมฐานด้วย
แต่ย่อมลงไปกว่านี้ก็มี ศรัทธาไม่เลือกราคาค่ะ เอาตามแต่คิด ที่เลือกใหญ่เพราะตามหุ้น อิอิ
ไปถึงบ้านเพื่อนก็ตกเย็นมาก ทั้งๆวันนี้เมนูของเราคงกะจะเป็น น้ำพริก ปลาย่าง โดยเพื่อนบอกว่าจะขี่แมงกะไซค์ไปคลองที่มีโสนขึ้นเป็นทิวแถว จะได้เก็บกันสมใจอยาก แต่มืดเสียแล้วเลยไม่ได้ทำอะไรมากนัก T^T อยากเก็บดอกโสนสุดๆ
แต่พี่แป๊ด พี่สาวเพื่อนก็ตำน้ำพริกให้ดิบดีไว้รอท่า เราเลยไปตลาดกัน เพื่อจะหาผักมาเสริมน้ำพริก ตามเคยที่ผักพื้นบ้านพวกถั่วพู แตงกวา ถั่วฝักยาวอะไรอย่างนี้ต้องมีแน่ๆ ที่ได้มาเสริมก็ดอกขจรเจ้าเก่า และเจ้า..."ผักพริก"
ผักพริกนี่หน้าตาเหมือน "ผักตบไทย" ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึงใบบอนขนาดย่อมๆ แต่เขียวจัด โคนใบกลม ปลายใบแหลมเรียว ขึ้นเป็นกอเล็กๆ ราวคืบกว่า เป็นผักอวบน้ำ แม่ค้าเก็บมาขายเป็นกำๆ กำละห้าบาท พอซื้อก็จะแถมมะระขี้นกมาให้ แต่เราไม่เอา
เพราะเก็บจากหน้าบ้านมาแล้ว อิอิ
ซื้ออะไรที่นี่ พวกผักเก็บมา จะได้แถมบานตะไท แถมนี่ นู่นนั่น โน่น จนขนไม่ไหว
ได้ปลาดุกย่าง ปลาทู นู่นนี่ (ประสาคนปากบอน พอเข้าตลาดละจะกินแหลก) รวมทั้งขนมดอกโสนก็ครบสำรับ อิอิ ไม่ได้กินดอกโสนผัด ขอขนมดอกโสนก็ยังดี ที่อยากกินอีกอย่างคือขนมดอกดิน และหอยหอม (ใครเห็นที่ไหนบอกด้วย)
กลับบ้านจัดแจงเตรียมผักสด ผักลวก แม่เพื่อนเก็บผักบุ้งนาให้สองกำใหญ่ ทั้งผัดน้ำมัน และกินสด เป็นสำรับคับค้อนที่บริบูรณ์ดีแท้ แกงคั่วหน่อไม้กับไก่ ที่กันส่วนใส่บาตรไว้แล้ว ปลาทู ปลาดุกย่าง กับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกแมงดา ไข่เจียวเจ้าเก่า ผักสดก็ทั้งถั่วพู แตงกวา ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว มะระขี้นก มะเขือเปาะ จานผักลวกก็ไม่น้อยหน้า ผักพริกผัดน้ำมัน (วันนี้เป็นนางเอก) ดอกขจรลวก (วันนี้เป็นนางรอง) ผักบุ้งผัดน้ำ อร่อยไปอีกแบบ เข้ากั๊นนนนนนน~ เข้ากันกับน้ำพริก... ข้าวสองจานค่ะ แหะ แหะ
ไม่ได้ตะกละตะกลามอะไร เพราะตอนแรกที่เขาตักให้ ก็พูนจานเสียจนมากกว่าที่เคยกินปกติ แต่พ่อแม่เพื่อนไปจนถึงญาติๆจะพยายามเติมข้าวให้จนได้ ถ้าไม่เติมก็คะยั้นคะยออีกนั่นแหละ พอเติมข้าวไป ดูพ่อแม่จะมีความสุขมาก
ยอมท้องแตก อิอิ
อิ่มแล้ว เก็บสำรับคับค้อน คลุกข้าวแมวหมา แล้วมานั่งแต่งเทียนพรรษากันให้สวยงาม มีญาติๆเพื่อนมุงดู เพราะแถวบ้านเพิ่งจะมีแบบนี้เป็นเจ้าแรก ตอนต้นป้ากะว่าจะตัดกระดาษทองมาแปะทำลายกนกสวยๆ แต่ร้านขายกระดาษในเมืองปิดไปแล้ว จำต้องแต่งด้วยดอกไม้เทียม ซึ่งก็สวยไปอีกแบบ
ห้องที่นั่งแต่งเทียน คือห้องนอนแม่เพื่อน มีลูกหลานปูที่นอนนอนดูทีวีกันเต็มไปหมด เมื่อกินข้าวก็ห้องนี้แหละ สารพัดประโยชน์ อบอุ่น ทำอะไรก็ร่วมด้วยช่วยกัน มีแมวมาเคล้าขาไป ทำดอกไม้ไป คุยไป เพลินดี
จนเสร็จก็ขึ้นนอนค่ะ พรุ่งนี้ว่ากันต่อ...
* * *
รุ่งเช้า เริ่มที่ลุกอุ่นสำรับตั้งแต่ยังไม่หกโมง อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวไปวัดพร้อมสำรับและเทียน พี่สาวอีกคนของเพื่อนมาจากอยุธยา มาถวายอาหารเช้าในวันเข้าพรรษาให้พระลูกชายด้วย
วัดอบอุ่นมากค่ะ สังคมชนบทไทยแท้จริงๆ ยกสำรับมา ทักทายกันถ้วนหน้า ฉันไหว้คนแก่ๆที่คุ้นเคย แกมองหน้าแล้วว่า "อีหนูนี่หน้าคุ้นๆ ลูกใครน่ะ" ฉันหัวเราะ จะลูกใครละคะ ไม่ใช่คนบ้านนี้นี่นา เลยรีบล้วงกล้องถ่ายรูปขึ้นมากดแชะๆ ทำเอาคุณยายสองคนหัวเราะร่วน จำ "ตากล้อง" วันงานบวชได้แล้ว
คนเต็มศาลาตามเคยค่ะวันนี้ แต่พระมีแค่ 9 องค์เท่านั้น เพราะวัดเล็ก ชาวบ้านทยอยกันขึ้นใส่บาตร โดยมีบาตรมาตั้งให้ใส่ข้าว ชาวบ้านจะตักข้าวใส่บาตร แล้วมัคนายกก็จะเทจากบาตรใส่กะละมังอีกที คนใจบุญกันมากมาย เสียจนลุงมัคนายกเทข้าวมือเป็นระวิง พวกกับข้าว ก็จะตักจากปิ่นโตใส่สำรับ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ตักแล้วใส่ถาด 9 ใบที่เตรียมไว้ ให้กับข้าวอย่าซ้ำกัน เหลียวดูแล้ว...โอย น้ำลายไหล แกงเลียงเอย แกงบอนเอย แกงคั่วหน่อไม้ แกงไก่แกงแบบแกงป่า ผัดเผ็ดปลาดุก นำพริกปลาย่าง ฯลฯ อูย จัดเป็นถ้วยเล็กๆน่ากินชะมัด
ตักข้าวตักแกงเสร็จ ก็ไหว้พระพุทธ แล้วมานั่งรวมกลุ่ม รอเวลา พระจะขึ้นฉันอาหาร ก็ได้เห็นสังคมอันอบอุ่น ทักทายกันทั่ว ประเภท "ไอ้นี่ลูกใครนะ...อ๋อ ที่แต่งปีกลายโน่น แมะ...ลูกหน้าตาเหมือนพ่อนะ..." "นาปีนี้น้ำไม่ค่อยมี แต่พอไถได้ นี่ก็หว่านไปแล้ว...." "ลูกบ้านยาย...ไปโดนรถชนมาตรงหัวโค้ง ระวังไว้นา..."ฯลฯ เรียกว่าเป็นการ "สื่อสารข่าวสังคม" แบบย่อยๆ
พอได้เวลามัคนายกนำกล่าวถวาย พุทธศาสนิกชนก็พร้อมใจกันกล่าวตาม ระหว่างพระฉันก็เม๊าธ์แหลก กินขนมข้าวต้มเหลือติดสำรับไปพลางอย่างเพลิดเพลินใจ อิอิ
จนพระฉันเสร็จ สวด ให้พร รับพร กรวดน้ำ ถวายดอกไม้ ผ้าอาบน้ำฝน และเทียนพรรษากันเรียบร้อย ชาวบ้านก็ทยอยกันกลับวัด ไม่อยากจะคุย (แต่ขอคุยหน่อย อิอิ) เทียนพรรษาอย่างสวยประดิษฐ์ ได้ถูกหิ้วเข้าไปวางเด่นเป็นสง่าอยู่ในโบสถ์เพราะความงาม ฮี่ ฮี่ (จริงๆก็หิ้วเข้าไปหมดแหละ เพราะจะใช้จุด แต่ของเราเอาไปวางประดับรอเวลาไปก่อน อิอิ)
กลับบ้านกันละค่ะ พอถึงบ้าน ก็ตั้งวงข้าวหน้าบ้านเลย หน้าบ้านเพื่อนจะทำเป็นที่นั่งเล่น รับแขก มีครบทั้งแคร่ใหญ่ นอนได้ เปลไม้ไผ่ขนาดใหญ่ เปลแขวนเล็กๆ โต๊ะม้าหินนั่งทำกับข้าว กินข้าวมีถึงสองโต๊ะ ทั้งหมดนี่ตั้งใต้ถุนบ้านบ้าง ในซุ้มใต้ร่มมไ ที่มีดอกไม้พวกนมแมว รสสุคนธ์ สายหยุด จำปี แก้ว โมก ไปจนถึงไม้ผลพวกลำใย ส้มโอ ให้ร่มและความหอม
เราก็ตั้งสำรับ กับข้าวเหลือจากถวายพระนั่นแล ทั้งแกงคั่วหน่อไม้ ซึ่งพอผ่านการค้างคืนไปแล้ว น้ำแกงจะเข้ารสดีอย่าบอกใคร ผัดสะตอกับกุ้ง แกงป่าไก่ที่ยายคนในวัดตักให้มา (เค้าอยากได้แกงบอนอ่ะ) พี่สาวเพื่อนไปตำน้ำพริกกะปิมาเพิ่ม เพราะยังมีผักพริกเหลือ ส่วนพี่ทิด พี่เขยเพื่อนจัดแจงทำ "น้ำพริกแมงดาปลาดุก" เล่นง่ายๆดังนี้... ปลาดุกอุยย่างแกะแต่เนื้อ ขยำพอแหลก แมงดาย่างไฟพอหอมๆ ตามชอบ เด็ดปีกออกฉีกเป็นชิ้น สองอย่างนี้ขยำเข้าด้วยกัน แล้วบีบมะนาว เติมน้ำปลาดีหน่อย คลุกเคล้าพอเข้าเนื้อ แล้วตามด้วยพริกขี้หนูสดเด็ดจากต้น บี้ด้วยช้อนให้พอแหลก กลิ่นขึ้นกระจาย กินได้เลย....
โอย อร่อยอย่าบอกใคร ตอนแรกป้าไม่ชอบแมงดา เพราะเกลียดกลิ่นเกินๆของมัน แต่วันนี้ พอย่างแล้ว อูย... เข้ากันดีสุดๆ หอมพริกสด เปิบข้าวตุ้ยๆ ผักสดตามเข้าปาก ยิ่งพี่ทิดมีหน่อไม้หวาน เพียงลวกน้ำเดียวก็ไม่มีแม้แต่ความขมสักนิดมาเทียบสำรับ แถมหั่นชิ้นพอหยิบใส่ปากสะดวก เคี้ยวกรุบกรอบ
แหะ แหะ...ข้าวสองจาน อีกแล้วอ่ะ ลืมตัว...
ขึ้นไปนอนผึ่งพุง เพราะตื่นเช้ามาก บ้านเงียบค่ะ หลังตื่นก็ลงมือเก็บนู่นนี่ เช่นยอดฟักทองของพ่อ จะเอามาลวกจิ้มน้ำพริก เสียดายที่แตงอ่อนยังไม่โตนัก และมีน้อยลูก ไม่งั้น...เสร็จ อิอิ ผักหวาน หน่อข่า ดอกข่า ผักเสม็ด ยอดกระถิน แค มะระขี้นก หน่อไม้ไผ่รวก เอามาต้มหลายๆน้ำ ผักบุ้งนางเอกเจ้าประจำ เป็นผักบุ้งขาว ส่วนผักบุ้งแดงก็พอมีบ้าง
เก็บผักเสร็จ ล้าง จัดใส่จาน เพื่อนของเพื่อนอีกคนก็ตามมา มีมังคุด ลองกอง และสะตอจากปักษ์ใต้มาฝาก กินกันอีกรอบ แต่ขอแค่ผลไม้ เพราะอิ่มมื้อรวมเมื่อเช้าไม่หาย ขอตัวเดินซนรอบบ้าน ทำไม้สอยจำปี พุด สารพัดดอก มีมะกล่ำตาหนูเสียด้วยแน่ะ...เพลินใจคนช่างเก็บ อิอิ
พอตกบ่าย ก็ซ้อนแมงกะไซค์ไปคลองสามสิบ หวังไปเก็บโสน แต่ไม่มี...แหะ แหะ ปีนี้ฝนมาล่า ต้องรอไปอีกนานหน่อย เลยไปตลาด ได้โสนสมใจ ขีดละ 10 บาท !!!
เอาวะ...ขอกินให้หายอยาก แล้วพระยาหนอนญาติพระยาน้อยก็ออกชมตลาดอีกรอบ กินแหลก ซื้อแหลก ผักสด กุ้งฝอยที่เอามาทำกุ้งหวาน ห่อหมกพุงปลา แกงหน่อข่าไก่ ผักดอง ขนมขี้หนู น้ำพริกปลาร้า ซื้อๆๆๆ ทั้งๆที่บ้านก็มีกับข้าวอีกเพียบ อิอิ ไหนๆจะท้องแตกแล้ว ก็แตกไปเลย จะได้ดังเป็น "ชูชก 2" กันงานนี้ อิอิ
กลับบ้าน จัดแจงเอาโสนผัดน้ำมัน ผักพริก ผักบุ้ง ผัดแบบตีกระเทียมหมด ไม่มีอะไรรอด ผักอะไรลวกได้ลวก แทบเอาสะตอย่างไฟ เพราะถ้าย่างพอเปลือกไหม้จะหอมมากทีเดียว ขอบอก สำรับเต็มตามเคย แกงไก่ ห่อหมก กุ้งหวาน เนื้อทอด ไข่เจียว น้ำพริกปลาร้า และน้ำพริกกะปิ ผักเพียบบบบ~
ข้าวสองจาน...ตามเคย แหะ แหะ จริงๆคือไม่ได้ตั้งใจจะสองจาน แต่พอพ่อ แม่ พี่เพื่อน น้องสะใภ้เพื่อน ร้องให้เติมข้าว จนสุดท้ายมาดึงจานไป ก็ใจอ่อนจนได้ อิอิ
อิ่มจัง...
นี่ยังไม่บรรยายถึงมื้อเช้าอีกวัน ซึ่งก็เป็นกับข้าวแบบพื้นบ้านเหมือนเคย เพื่อนเล่าให้ฟังว่า พอหน้าฝนแบบนี้ น้ำในนาหน้าบ้านประมาณตาตุ่ม เธอจะลงไปลุย จับปูนาตัวขนาดหัวแม่มือมาทอด ...ลดประชากรปูนานักทำลายข้าวไปในตัว อิอิ คราวหน้าๆ รอน้ำขึ้นก่อน
สรุปงานนี้ กินข้าวไปมากกว่า ที่กินมาตลอดเดือนนี้เสียอีก...
คุณละคะ ไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับทางบ้าน ที่มีคนคอยพูดคุย คะยั้นคะยอจนต้องตักข้าวเติมจานสอง มานานเท่าไหร่แล้ว...
Create Date : 25 กรกฎาคม 2548 |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2548 1:27:39 น. |
|
26 comments
|
Counter : 774 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:40:22 น. |
|
|
|
โดย: บู้บี้ (boobiebaba ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:45:27 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:10:40 น. |
|
|
|
โดย: บู้บี้ (boobiebaba ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:19:37 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:7:00:07 น. |
|
|
|
โดย: err_or วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:8:17:45 น. |
|
|
|
โดย: ลูกน้ำ IP: 210.86.130.66 วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:45:12 น. |
|
|
|
โดย: หญิง:ซอมพอแดง IP: 203.151.140.114 วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:26:54 น. |
|
|
|
โดย: zaesun วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:14:26:44 น. |
|
|
|
โดย: O-HO วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:32:57 น. |
|
|
|
โดย: ป้ามด วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:17:06:56 น. |
|
|
|
โดย: ครีเอถีบ วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:58:29 น. |
|
|
|
โดย: นายนินจา IP: 203.130.159.3 วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:21:05:47 น. |
|
|
|
โดย: น้องเล็ก (Unfair ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:15:46 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 26 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:17:19 น. |
|
|
|
โดย: นิรนาม IP: 202.129.6.178 วันที่: 30 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:54:17 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 31 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:34:33 น. |
|
|
|
โดย: บุษ IP: 203.144.187.62 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:9:43:09 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 1 ตุลาคม 2548 เวลา:1:48:13 น. |
|
|
|
โดย: อุรังอุตัง (เมฆทอง ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:46:04 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหนอน วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:2:36:35 น. |
|
|
|
โดย: กิ๊กก๊อก IP: 58.147.91.251 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:40:28 น. |
|
|
|
โดย: ตูลตุด IP: 58.147.91.251 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:43:17 น. |
|
|
|
โดย: ติ๊งต๊อง IP: 58.147.91.251 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:46:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทในหลวง Svalbard and Jan Mayen
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]
|
๐ คนข้างโลก อยู่เงียบๆ อย่างเรียบร้อย พูดไม่น้อย จึงเขียนมาก แก้ปากหมา สนใจสิ่ง รอบตัว ทั่วโลกา จักสรรหา มาสัมผัส วัดด้วยตน ขอเก็บความ-คิดไว้ ในบันทึก สนุกนึก ย้อนมาอ่าน กันอีกหน ได้รำลึก ความคิด ในจิตตน คงได้ยล ยิ้มบ้าง ในบางวัน...
|
|
|
|
|
|
|