คนขุดสุสาน นิยายสืบสวนที่เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ
ตั้งชื่อ blog ให้น่าหมั่นไส้เล่นๆงั้นล่ะค่ะ จริงๆแล้วหัวข้อ blog ที่อยากจะตั้งคือ ในความคิดเห็นเรา หนังสือเล่มนี้มีสิ่งที่นิยายสืบสวนที่ดีและอ่านสนุกควรจะมีอย่างครบถ้วนเลยทีเดียว ***************************************************** คนขุดสุสาน ทาคาโนะ คะซุอากิ เขียน บัณฑิต ประดิษฐานุวงษ์ แปล สำนักพิมพ์ JBooK เรื่องย่อจากปกหลัง ยางามิเป็นสิบแปดมงกุฎใบหน้าดูร้ายกาจเหมือนอาชญากร เขานึกอยากทำความดีสักครั้งด้วยการบริจาคไขกระดูกแก่ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่ระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาลกลับมีเหตุการณ์แปลลกประหลาดเกิดขึ้น จู่ยางามิก็ถูกตามล่าด้วยกลุ่มบุคคลปริศนา หนำซ้ำยังถูกตำรวจทั้งเมืองไล่จับด้วยข้อหาฆาตกรรมต่อเนื่องอำมหิต บางรายถูกเผาทั้งเป็น บางรายถูกต้มในน้ำเดือด บางรายถูกถ่วงจนแขนขาแทบขาดจากร่าง ซึ่งเป็นวิธีฆ่าที่ตรงกับตำนานเกรฟดิกเกอร์หรือคนขุดสุสานในยุโรปยุคกลาง ยางามิมึนงงว่าเหตุไฉนจึงเกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องใช้ไหวพริบเพื่อหลบหนีไปทำความดีครั้งแรกในชีวิตให้สำเร็จ ***************************************************** นิยายเล่มแรกของทาคาโนะ คะซุอากิที่เราได้อ่าน(และเป็นผลงานเล่มแรกของเจ้าตัวด้วย)คือเรื่องบันได 13 ขั้น ปริศนาจากแดนประหาร ค่ะ ว่าด้วยเรื่องของอดีตนักโทษคนหนึ่งที่ต้องมาสืบสวนหาความจริงในคดีฆาตกรรมเพื่อช่วยเหลือนักโทษที่กำลังจะถูกประหารชีวิต อ่านนานมากแล้วค่ะ แต่เท่าที่จำได้คือเรื่องนี้พล็อตดีและซับซ้อนเดายากทีเดียว ที่สำคัญคือนำเสนอประเด็นว่าด้วยเรื่องโทษประหารชีวิตได้น่าสนใจและกระทบใจมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่าเล่มนี้ขาดความกลมกล่อมบางอย่างไปบ้าง คนขุดสุสาน นี้เป็นผลงานเล่มที่สองที่เราชอบมากกว่าเล่มแรกและรู้สึกว่ามีองค์ประกอบที่ควรจะมีในนิยายสืบสวนอย่างครบถ้วนทีเดียวค่ะ ซึ่งก็คือ พล็อตเรื่องและปมปริศนาซับซ้อนและน่าสนใจมาก เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีการเลียนแบบตำนานในยุโรปยุคกลาง ระหว่างดำเนินเรื่องก็ยิ่งมีปริศนามากขึ้นเรื่อยๆ และจบลงด้วยการคลี่คลายทุกอย่างได้น่าพอใจ ฉากแอ๊คชั่นและความตื่นเต้นเร้าใจ โดยดำเนินเรื่องควบคู่ 2 ฝั่งคือ ฝั่งหนึ่งเป็นตำรวจที่พยายามไขคดีฆาตกรรม กับอีกฝ่ายเป็นการไล่ล่าระหว่างตัวเอกกับผู้ร้าย ซึ่งตัดสลับช็อตได้สนุกและเหมาะสมดีค่ะ ฉากไล่ล่าและหลบหนีก็บรรยายได้ตื่นเต้นดี แถมเหตุการณ์ต่างๆยังเกิดในช่วงเวลาจำกัดเพียง 1 คืนเท่านั้น แอบคิดว่าถ้าผู้เขียนใช้เทคนิคระบุเวลาเป็นชั่วโมง นาที แบบที่นักเขียนจากฝั่งอเมริกาชอบใช้ น่าจะยิ่งระทึกใจมากขึ้นไปอีกค่ะ การตีแผ่ประเด็นทางสังคม ซึ่งเราว่าเป็นจุดเด่นของนักเขียนคนนี้เลยค่ะ จากเล่มแรกที่ยกเอาเรื่องโทษประหารชีวิตมาพูด เล่มนี้เน้นไปที่ระบบงานของตำรวจญี่ปุ่นและการคอร์รัปชั่น ชอบที่เค้าเขียนถึงปัญหาสังคมได้อย่างกระทบใจ และไม่ได้ยัดเยียดข้อสรุปของตัวเองลงไป แต่ปล่อยให้ผู้อ่านหาคำตอบของแต่ละคนเอาเอง ซึ่งทำให้ผลงานของเค้าดูแตกต่างออกไปจากนักเขียนญี่ปุ่นคนอื่นๆที่มีแปลมา ที่มักจะเน้นไปที่เรื่องใกล้ตัวมากกว่า(เช่น ฮิงาชิโนะ เคโงะเน้นเรื่องความรัก, โอตสึ อิจิชอบเขียนเกี่ยวกับเด็ก, มิยาเบะ มิยูกิก็เขียนถึงวัยรุ่นและครอบครัว เป็นต้นค่ะ) และทำให้หนังสือเล่มนี้มีดีมากไปกว่าแค่นิยายที่อ่านสนุกเล่มหนึ่ง บุคลิกตัวละคร อ่านแล้วเห็นภาพพจน์ชัดเจน มีความเป็นคนธรรมดาที่มีทั้งดีและเลว (จริงๆอาจจะค่อนไปทางเลวมากกว่าดีค่ะ อย่างเล่มแรกพระเอกก็เป็นอดีตนักโทษ ส่วนเล่ม่นี้ก็เป็นสิบแปดมงกุฎ) มีตัวละครเด่นหลายตัวที่มีบุคลิกแตกต่างกันดีค่ะ อารมณ์ขัน เป็นจุดที่เพิ่มขึ้นมาอย่างชัดเจนจากเล่มแรก และทำให้เล่มนี้กลมกล่อมมากขึ้นเยอะเลยค่ะ จุดที่เราไม่ชอบอยู่บ้างในเล่มนี้คือ ตัวฆาตกรเดาได้ค่อนข้างง่ายค่ะ(คือปมน่ะซับซ้อน แต่ตัวคนร้ายนี่ทายง่ายชะมัด ) กับความไม่สมจริงบ้างในบางจุด แต่ก็มีไม่มากอะไรค่ะ สรุปอีกทีคือ แนะนำอย่างยิ่งสำหรับคอนิยายสืบสวน โดยเฉพาะคนที่ชอบงานจากฝั่งญี่ปุ่นค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 12 ธันวาคม 2551 |
|
13 comments |
Last Update : 12 ธันวาคม 2551 1:01:50 น. |
Counter : 1781 Pageviews. |
|
|
|
งานทางฝั่งของญี่ปุ่นคะ และอ่านแล้วก็ไม่ผิดหวัง
เพราะว่าอ่านไปลุ้นไป ก็ด้วยเพราะพล็อตของเค้า
ที่อ่านแล้วน่าติดตามนี่ล่ะคะ ...