อวดดี
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
บทวิจารณ์จากนสพ.



จาก post today ครับ





จาก จุดประกาย section กรุงเทพฯ ธุรกิจครับ


Create Date : 18 กรกฎาคม 2550
Last Update : 18 กรกฎาคม 2550 14:07:38 น. 2 comments
Counter : 1400 Pageviews.

 
ตามไปหาอ่านของทั้ง 2 หัวข้อ มันหาอ่านไม่ได้แล้วอ่ะ กดดูก็ตัวเล็กมาก ลูกกระตาแทบจะติดหน้าจอก็ยังอ่านไม่ค่อยออก [สายตามสั้นมาก] ถ้าไม่รบกวนจนเกินไปนัก พิมพ์ให้อ่านได้หรือเปล่าจ๊ะ คุณอวดดี [ชอบชื่อคุณจังเลย ชื่ออวดดี เพราะมีดีจะให้อวด]


โดย: หมูอ้วน (pigarea ) วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:15:25:56 น.  

 
บทวิจารณ์จาก โพสต์ทูเดย์ เสาร์ 16 มิถุนายน 2550
โดยคุณ จรูญพร ปรปักษ์ประลัย
ลิ้นชักแห่งความทรงจำ มากไปก็ไขออก น้อยไปก็ใส่เติม
ถ้ามีกุญแจสักดอกไว้เปิดสมองตัวเองออกมาน่าจะดี หลายคนคงคิดเช่นนี้ หลังจากที่ได้อ่าน... ลิ้นชักแห่งความทรงจำ
หนังสือประกอบภาพของอิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์ ที่บอกเล่าถึงเรื่องราว
ของผู้คนกับสิ่งที่ติดค้างอยู่ในสมองพวกเขา ภาพวาดลายเส้นสะอาดสะอ้าน ระบายสีอ่อนหวานนุ่มนวล ตัวหนังสือ
ประกอบพองาม คือคุณสมบัติของหนังสือเล่มนี้ ที่แค่พลิกเปิด ยังไม่ทัน
ได้อ่าน ก็อาจทำให้ใครต่อใครตกหลุมรักได้แล้ว
เมื่อสัมผัสเรื่องที่อิทธวัฐก์ นำมาเล่า ยิ่งรู้สึกถึงความพิเศษของหนังสือ
ที่นำประเด็นที่ลึกซึ้งมาเสนอด้วยวิธีที่ง่ายแสนง่าย
10 เรื่องราวของคนที่มีปัญหากับหัวตัวเอง สะท้อนให้เราเห็นตัวตนหลายแบบของผู้คนที่รวมกันบนโลกใบนี้
มีทั้งคนที่เต็มไปด้วยความเศร้า คนที่บ้าเงินจนลืมทุกอย่าง คนที่ไร้แม้เงาของความภูมิใจ คนที่มองรอบตัวด้วยสายตาหวาดกลัว
คนที่หมกมุ่นอยู่กับสื่อลามก และอื่นๆอีกมากมาย
ในโลกแห่งความเป็นจริง คนที่จะแก้ปัญหาให้พวกเขาได้
น่าจะเป็นจิตแพทย์ หรือไม่ก็พระนักเทศน์ที่มีวาทศิลป์จูงใจ
แต่ใน ลิ้นชัก.. ผู้ที่ไขปัญหาพร้อมชี้ทางออก กลับเป็นช่างกุญแจ
หน้ามึนๆที่เปิดร้านอยู่ริมถนน รอคอยให้ผู้คนเข้ามาใช้บริการ
คนที่มาหาช่างกุญแจมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่มีสีหน้าอมทุกข์
เหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องแบกไว้ตลอดเวลา ก็คือที่อยู่ในหัวพวกเขานั่นเอง
สิ่งนั้นได้แก่ ความคิดและข้อมูลที่ร้ายกาจในรูปแบบต่างๆ
เมื่อมีคนมาหาช่างกุญแจเพื่อขอความช่วยเหลือ ช่างกุญแจจะเลือก
ลูกกุญแจที่เหมาะกับคนๆนั้นขึ้นมา ไขไปที่รูกุญแจที่ซ่อนอยู่กลาง
หน้าผาก จากนั้นก็ดึงลิ้นชักที่อยู่ตรงนั้นออกมาให้เห็นชัดๆว่ามีอะไร
อยู่ข้างในบ้างเพื่อจะได้หาทางจัดการกับของเหล่านั้นต่อไป
พูดง่ายๆว่าลิ้นชักเปรียบเหมือนสมอง ซึ่งเป็นที่เก็บอะไรต่อมิอะไร
ถ้าเก็บไว้มากเกินไป สมองก็อัดแน่นจนล้นไม่มีที่ว่างสำหรับสิ่งดีๆ
ลงไปได้อีก ถ้าเก็บไว้น้อยเกินไปหัวก็เบาโหวง เหมือนลูกโป่งที่ลอย
ตุ๊บป่องอยู่บนท้องฟ้า
การนำเสนอความคิดนี้โดยใช้ภาษาภาพ ตามแบบฉบับของการตูน
ทำให้สามารถสื่อกับทุกคนได้โดยง่าย ในขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่า
ข้อความที่ประกอบก็คมคายไม่หยอก
เช่นในตอน ความทุกข์ที่มี ซึ่งช่างกุญแจได้ไขลิ้นชักบนหัวของชายผู้หนึ่ง และพบว่าในนั้นมี
กระดาษบันทึกเรื่องราวความเศร้าอยู่เต็มไปหมด พอรื้อออกมาก็
ได้เศษกระดาษกองพะเนิน จนนึกไม่ออกว่าเข้าไปรวมกันอยู่ในลิ้น
ชักเล็กๆได้อย่างไร
เห็นดังนั้น ช่างกุญแจจึงถามว่า ...แล้วคุณจะทำอย่างไรกับความ
เศร้าพวกนี้
เขา มองมันอย่างเสียดาย
ในเมื่อมันเป็นความเศร้า คุณจะเสียดายไปทำไมกัน
เขาหันมายิ้ม นั่นน่ะสิผมจะเก็บความเศร้าไว้ทำไม
..หน้า14-15
เงื่อนไขหลักๆที่ทำให้คนเรามีปัญหากับหัวตัวเองก็คือ
ถ้าของในนั้นไม่มีมากเกินไป ก็มักจะมีน้อยเกินไป
ในกรณีของสิ่งที่มีอยู่มากเกินไป ก็อย่างเช่นความเศร้าที่ยกอย่างไปแล้ว รวมถึงเรื่องเงินๆทองๆ
ความกลัวที่ไร้เหตุผล การหมกมุ่นกับสื่อลามกอนาจาร เป็นต้น
ส่วนในกรณีของสิ่งที่มีน้อยเกินไป ก็อย่างเช่นความรู้ทางด้านต่างๆ
ความภูมิใจในตัวเอง และความยากจนเป็นต้น
งานชุดนี้ชี้ให้เราเห็นว่า ทางออกของปัญหาต่างๆเป็นเรื่องง่าย อะไรที่มากเกินไป ก็ขจัดออกไปเสียบ้าง อย่างเช่น ชายบ้างานบ้าเงิน ซึ่งวิธีแก้ปัญหาของเขาก็คือการเอาเงินปึกใหญ่ๆออกจากลิ้นชัก
เลิกเอาแต่คิดเรื่องเงิน แล้วไปหาความสุขกับการพักผ่อนริมทะเล
เช่นเดียวกับชายหัวโตที่ในหัวเต็มไปด้วยหนังสือโป๊ ซีดีลามก
และยาเสพติดซึ่งนอกจากต้องกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกไปให้เกลี้ยงแล้ว
ช่างกุญแจยังต้องขัดล้าง ให้สมองกลับมาสะอาดอีกครั้งหนึ่งด้วย
ในทางตรงกันข้าม สำหรับอะไรที่มีน้อยเกินไปก็อย่าคิดท้อใจ
ค่อยๆเติมลงไป สักวันก็จะมีมากพอเอง อย่างเช่นในรายของชายผู้ไร้
ความภูมิใจ ซึ่งช่างกุญแจได้แนะนำว่า ความภูมิใจเกิดได้จากเรื่อ ง
เล็กๆที่ทำในชีวิตประจำวันและหนึ่งในเรื่องเล็กๆที่สร้างความภูมิใจ
ให้แก่เรา ไดแก่ การทำความ ดีต่อผู้อื่นนั่นเอง
เรื่องราวของคนในลิ้นชักทำให้เราต้องมองย้อนกลับมามองดูตัวเอง
หยิบลูกกุญแจในจิตนาการออกมา ไขเข้าไปที่รูกุญแจในจิตนาการ
และเปิดลิ้นชักในจิตนาการดู
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนย่อมมีสิ่งที่ขาดและสิ่งที่เกิน คำถามคือ
เรามองความขาดเกินนี้อย่างไร มองว่ามันเป็นปัญหาที่ไร้ทางออก
หรือมองอย่างมีความหวัง ว่าทุกปัญหามีหนทางที่แก้ไขได้เสมอ
ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า เราจะต้องพิจารณาปัญหานั้นๆอย่างละเอียดถี่
ถ้วน พยายามเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตัว
เองใหม่ วันนี้คุณเปิดลิ้นชักของคุณแล้วหรือยัง...


โดย: อวดดี (auwddee ) วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:21:37:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

auwddee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับสำหรับทุกท่านที่แวะมา เยี่ยมชม bloggdการ์ตูนเล็กๆของผม ทุกๆท่านสามารถติดตามข่าวสารหนังสือการ์ตูนเล่มใหมเก่าและผลงานอื่นๆได้ ้้ติชม ทิ้งความคิดเห็นไว้ได้ ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ
Friends' blogs
[Add auwddee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.