Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
แล้วทริปเที่ยว ทริปแรกก็มาถึง ++ Salzburg++

หลังจากนั่งหลับอยู่ในห้องเทรนที่มิวนิค ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทจ่ายตังให้มาที่นี่ ก็เป็นธรรมดาที่วันหยุดเสาร์อาทิตย์จะต้องออกไปหาที่เที่ยวกับฝูงเพื่อนที่มาด้วยกัน
หลังจากวางแผนกันอยู่หนึ่งนาที ก็สรุปได้ว่า เราจะไปกันหลายที่ ไกลบ้าง ใกล้บ้าง แล้วก็สี่คน งั้นเราเช่ารถกันดีกว่า ขับเองท่าจะประหยัดกว่า

รถเช่าที่นี่ถูกมาก (กว่าที่คิด) ปกติจะมีแพ๊กเก็จสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเช่ารถ (มีให้เช่าเฉพาะ Mercedez Benz เท่านั้น) เหมาช่วง weekend เริ่มรับรถได้ตั้งแต่ เที่ยงวันศุกร์ แล้วเอามาคืนได้ถึงเช้าวันจันทร์ ค่าเช่าอยู่ที่ ประมาณ 130 ยูโรเท่านั้น ดูรถซะก่อน อย่าง ไฮโซ เมื่อเทียบกะราคา (รูปนี้ หนุ่มถ่าย)



จำได้ว่าตอนเช่ารถได้ ดีใจแทบแย่ ชีวิตนี้กรูมีโอกาศได้ขับเบนซ์แล้วโว๊ย..... แต่พอเติมน้ำมันถังแรกเข้าให้ หน้าก็เริ่มซีด เพราะน้ำมันในยุโรปราคาลิตรละเกือบยูโร ช่วงนั้นยูโรละ 53 บาท แล้วไอ้เบนซ์เนี่ย ท่านทานน้ำมันเกินกว่าจะเรียกว่า "ทาน" ได้

โชคดีว่าวันศุกร์ สามารถกดดันและข่มขู่ เทรนเนอร์ให้เลิกครึ่งวันได้ (โชค?) ก็เลยรีบไปรับรถแล้วก็ตกลงว่าจะไปทริปใกล้ๆมิวนิค ภายในครึ่งวัน ทางเลือกก็เลยไม่เยอะครับ
ซาลบลวก นี่แหละเหมาะสุด แล้วก็ออกเดินทาง

ผมว่าเสน่ห์ของการขับรถเที่ยวเองเนี่ย มันก็อยู่ตรงที่..
ปวดฉี่ที่ไหนก็จอดแวะได้เลย
ม่ายช่าย !!!! แต่อยู่ที่นี่ครับ... (รูปนี้ หนุ่มก็ถ่าย)


เทือกเขา แอลป์ สวยมากๆ เอาไปอีก..


ขับเวียนวน และหลงอยู่พอสมควร กว่าจะมาถึง.. อันนี้แผนที่เมือง


ซาลบลวกเป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศ ออสเตรีย ไม่ใช่เยอรมัน แต่เป็นจุดที่เข้ามาเที่ยวจากเยอรมันได้ง่ายมาก ไม่มีการผ่าน immigration และแม้แต่ ตั๋วรถไฟ Bayern Ticket ของ DB (การรถไฟเยอรมัน) ก็ครอบคลุมมาถึง ซาลบลวก ด้วย

วิวแรกที่ลงจากรถแล้วเดินผ่านเข้าไปทางสวนสาธารณะ (31 ในแผนที่) ก็อันเนี้ย ถึงจะไม่ได้ตื่นเต้นสุดๆ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่มา แต่ก็ยังประทับใจในความสวยอยู่


เอ้า เพิ่งมาถึง ถ่ายรูปหมู่กันหน่อย หน้าตายัง "สดใส" กันอยู่ (นารายัน ต๋อง ผม รูปนี้ หนุ่มก็ยังถ่ายอีก)



อันนี้ นารายัน หน้าตาดูไม่น่าไว้ใจมากๆ


ปราสาทที่เห็นลิบๆ อยู่บนยอดเขา Hohensalburg Fortress สามารถขึ้นได้โดยนั่งรถราง หรือ ไม่ก็เดิน ด้วยความที่เป็นกลุ่มคนหนุ่ม(ตอนกลางถึงปลาย) เลยตกลงกันว่า เราเดินขึ้นกันดีกว่า (ตอนที่ตัดสินใจว่าจะเดินขึ้น บังเอิญไปยืนตัดสินใจกันได้ตรงหน้าป้ายราคาค่ารถราง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน )
แล้วเราก็เริ่มเดินขึ้นกัน ด้วยหน้าตาที่ยัง "สดใส" เหมือนเดิม (ไม่รู้มีความสุขอะไรกันนักหนา เดินไปยิ้มไป ไอ้พวกนี้มันบร้า)


ระหว่างทางก็แวะมองลงมาในเมือง


ไม่รู้ทำไม ผมชอบทางขึ้นช่วงนี้มาก มาทุกที ถ่ายมุมนี้ทุกที ผมว่ามุมมองมันสวยดี


พอขึ้นมาถึงข้างบน ก็ต้องซื้อตั๋วเข้าปราสาทก่อน 10 ยูโร แต่ที่น่าเขกกะโหลกมากคือ มันมาเขียนบอกไว้ข้างบนว่า ค่าตั๋วเข้าปราสาทเนี่ย รวมค่ารถรางไว้แล้วนะ นั่งขึ้นลงได้ฟรี
ทริปคนหนุ่ม ท่องไว้ ทริปคนหนุ่ม (ไอ้เวร @#$%!%&&# อันนี้ เวอร์ชั่น ในใจ)

พอมาถึงข้างบนก็มีคนรีบตัดพ้อ "พี่ๆ ถ่ายผมมั่งดิ ผมยังไม่มีรูปเลย" (เออๆ เอาๆ ถ่ายก็ถ่าย หล่อตายละมึง ไอ้หนุ่ม อันนี้คิดในใจ)


^
ทำเป็นไปบ่นไอ้หนุ่มมัน แล้วทำไมตัวเองโผล่ไปเป็นหลังฉากคอยคอนโทรลความดูดีของรูปอยู่ได้วะ ไม่ได้เป็นคนถ่ายซะหน่อย

แล้วเราก็เดินเวียนวนกันอยู่บนปราสาท มีมุมสวยๆหลายมุม แต่ส่วนตัวแล้ว มุมที่ชอบที่สุดอยู่ที่ระเบียบปราสาทที่มองออกไปแล้วเห็นเทือกเขา Alps งามแต้ๆ มาทุกครั้งมักจะใช้เวลาป้วนเปี้ยนเก็บภาพมุมนี้นานทุกครั้ง


สัญลักษณ์อย่างนึกที่มักเห็นใน ซาลบลวก บ่อยๆ ในหลายๆที่หลายๆ โอกาศ คือ "วัว" ที่ทาตัวสองสี ด้านซ้ายกับด้านขวาไม่เหมือนกัน ตามประวัติเค้าว่าในสมัยโบราณที่มีสงคราม ชาวเมือง ซาลบลวกถูกห้อมล้อมไว้ในปราสาทบนเขา จน สเบียงร่อยหรอ เหลือแค่วัวตัวสุดท้าย แต่ชาวเมืองก็มีอุบายหลอกข้าศึกว่า สะเบียงยังเหลือเยอะอยู่ โดยเอาสีทาตัววัวสองด้านไม่เหมือนกันแล้วพาเดินรอบปราสาทเพื่อหลอกข้าศึกว่ายังเหลือวัวเป็นอาหารตั้งสองตัว วันนั้นก็เหมือนกัน เราก็ได้เจอ รูปปั้นวัวสองสีบนปราสาท ตอนหนุ่มเข้าไปถ่ายรูปคู่รูปปั้นวัวก็ยังแซวๆ (ปนความจริง) อยู่ว่า ดูไม่ค่อยออกว่าตัวไหนวัว


แล้วเวลาก็เริ่มงวดเข้ามา อย่าลืมว่าทริปนี้แค่ครึ่งวันศุกร์เท่านั่น งั้นเราลงไปดูอะไรข้างล่างกันดีกว่า
ลงมาจากปราสาทอย่างแรกที่ต้องเดินผ่านคือ โบสถ์ Salzburg´s Cathedral (จริงๆ ก็เดินผ่านตั้งแต่ขาขึ้นปราสาทแล้วหละ) อันนี้ภาพภายใน งดงามมาก


เป้าหมายต่อไปที่ใกล้ที่สุดก็คือ บ้านเกิด Mozart เมืองซาลบลวก นี้ต้องเรียกได้เลยว่า เป็นเมืองของ Mozart ก็กวีเอกของโลกนี่นะ ชาวออสเตรียก็ต้องภาคภูมิใจเป็นธรรมดา ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ เกี่ยวข้องกับ Mozart ทั้นนั้น คุณไม่มีทางกลับออกจากเมืองนี้ไปโดยไม่รู้จักหน้าตาของ Mozart ได้เลย มันก็คงคล้ายๆกะคนไทยภูมิใจกะบ้านเกิด เขาทราย แกแล๊คซี่ ประมาณนั้น (ว่าแต่มันจังหวัดไหนวะ)
อันนี้รูปหน้าบ้านเกิดของ Mozart


อันที่จริงแล้ว บริเวณบ้านเกิดของ Mozart ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น หนึ่งใน Shopping street ที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งมันก็สวยมากจริงๆ แม้จะเป็นแค่ซอยทางเดินแคบๆ แต่ร้านค้าเค้าตกแต่งประดับด้วยป้ายต่างๆ สวยมากๆ แต่ทริปนี้ใช้แต่กล้องคอมแพค เลยขอติดเอาไว้ทริปหน้า มาเมืองนี้อีกที จะเอารูปเด็ดๆมาฝาก
เดินข้ามสะพานกลับไปฝั่งสวนสาธารณะที่เดินมา ก็จะได้เจอกับ ที่ที่เคยเป็นบ้านพักของ Mozart


ถึงตอนนี้กลุ่มวัยหนุ่มตอนกลางก็เริ่มล้าแล้ว แต่คนวัยหนุ่มตอนปลายเนี่ยสิ ไปซะแล้ว ขอกลับเข้ามาพักที่ในสวนอีกรอบก่อนกลับไปที่รถ

^
Sorry น้า นารายัน แต่สภาพ You มันดูไม่ได้เลยวะ ขำชิปหาย

เริ่มพลบค่ำ ชักหิวกันแล้ว เดินหาภัตตาคารอยู่นาน แต่ก็หาที่ถูกใจไม่ได้ (แน่ละ ลองมีงบกันแค่ มื้อละ 5-6 ยูโร จะไปหาที่ไหนได้ละ) ก็เดินกันต่อมาจนมาเจอ บู๊ทขาย เบอร์เกอร์ เออ เอาอันนี้แหละ มีครบเลย หมู ไก่ เนื้อ แต่มีปัญหาสิ กลุ่มที่มาด้วยกัน มีทั้งคนไม่กินหมู ไม่กินเนื้อ ไม่ชอบไก่ แล้วเมนูก็ภาษาเยอรมัน แล้วจะสั่งยังไงละ ครั้นจะให้ไปทำท่าทางหมู ท่าไก่ เพื่อสั่งเบอร์เกอร์ ผมยอมอดดีกว่าวะ
แล้วฟ้าก็เข้าข้างเรา ประทานฝรั่งขี้เมาที่พอพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง กำลังเมาได้ที่อยู่ที่ร้านเบอร์เกอร์นั่นแหละ เลยไปขอแรงให้เค้าช่วยเขียนภาษาเยอรมันคำว่า หมู ไก่ เนื้อ ให้หน่อย แต่ฝรั่งนั่นก็จะคะยั้นคะยอให้กินเบียร์เป็นเพื่อนท่าเดียว
และแล้ว business deal ข้ามชาติก็เกิดขึ้น ถ้ายูเขียนศัพท์พวกนี้ลงในสมุดโน๊ตของไอ เดี๋ยวจะกินเบียร์กะยู ถึงตอนนี้ชักสนุกแล้ว หันไปบอกพนักงานว่า โค๊กที่สั่งเมื่อกี้ไม่เอาแล้วนะ เอาเบียร์มาแทน
แล้วก็หันไปต่อรองกับฝรั่งเมาคนนั้นว่า ผมจะกินเบียร์กับเค้า แล้วก็จะกินจากขวดในมือเค้าเลย แต่เค้าก็ต้องมากินเบียร์ในขวดผมเหมือนกัน แล้วมิตรภาพก็เกิดขึ้น นานเท่าไหร่ไม่รู้ และก็ตะโกนคำว่า "GOOOWA" ไปกี่ทีไม่รู้ แปลว่าอะไรก็ไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่สำคัญนี่ ว่ามั๊ย
กว่าจะรู้ตัวอีกที เพื่อนๆ ก็ยืนรอกันชั่วโมงกว่าแล้ว เบอร์เกอร์ที่สั่งมาก็ยังไม่ได้แตะ เย็นหมดแล้ว แต่ก็สนุกมากๆ แม้จะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมว่าปัญหาไม่ใช่ภาษาอังกฤษเค้าไม่แข็งแรงหรอก แต่ว่าเมาเกินกว่าจะพูดจารู้เรื่องมากกว่า
จนถึงเวลาต้องลา เพราะสังเกตุได้ว่าเพื่อนๆ รอกันจนเบื่อแล้ว ก่อนกลับ ฝรั่งคนนั้นก็แถมคำศัพท์ในสมุดโน๊ตให้ผมเพิ่ม แต่คราวนี้เป็นประโยคยาวเลย

"Du bist mein Freund"

ผมไม่เคยรู้ภาษาเยอรมันมาก่อนซักคำ แต่ไม่รู้ทำไม พอเป็นประโยคนี้แล้วเข้าใจทันทีว่ามันแปลว่า

"You are my Friend"

ก่อนจากกัน เค้ายังย้ำอีกว่า ถ้ามีโอกาศกลับมาเที่ยว ซาลบลวกอีกครั้งอย่าลืม กลับมาที่ร้านเบอร์เกอร์นี้อีก เค้ามาดื่มอยู่ที่ร้านนี้ประจำแหละ

^
เบอร์เกอร์ยังไม่ได้แตะ สมุดโน๊ตเล็กๆ อยู่ในมือใต้เบอร์เกอร์


ทริปวันนั้น ถ้าผมไม่เคยไปซาลบลวกมาก่อน ก็คงต้องบอกว่าผมประทับใจในความสวยของเมือง แต่วันนั้นกลับกลายเป็นว่า ไฮไลท์ของทริปนี้ สำหรับผม กลายเป็นไปอยู่ที่ร้านเบอร์เกอร์ ข้างทางซะได้
บางทีชีวิตก็เป็นอย่างงี้จริงๆ "ความสนุกไม่ได้อยู่ที่จุดหมายที่เราไปถึง แต่อยู่ที่ระหว่างทางต่างหาก" อย่างที่ผมอ่านเจอมาจากนักเขียนคนโปรด


Create Date : 02 กรกฎาคม 2550
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 16:29:18 น. 2 comments
Counter : 1495 Pageviews.

 
อ่านจบแล้ว รู้สึกเสียดายรูปแทนพี่หนุ่มจัง


โดย: ก๋อ IP: 203.146.63.183 วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:38:30 น.  

 
กำลังจะไปเที่ยวเยอรมัน สวิส ออสเตรียช่วงคริสต์มาสนี้ค่ะ พอดี search เจอข้อมูล ขออนุญาตเก็บไว้เป็นแนวทางในการเดินทางนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


โดย: บิว (เรือไฟ ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:32:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

~-=AUSFAhRT=-~
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อุทิศบล๊อกให้ชีวิตจรจัดของตัวเอง..

ให้ชีวิตที่ดีขึ้นในแง่การเงิน การงาน

ให้ชีวิตที่ตกต่ำที่สุดในด้านความสุขในบางช่วง

ให้กับทั้งเพื่อนที่อาจจะไม่ได้เวียนวนมาเจอกันอีกในชีวิต และให้กับศัตรูที่ผ่านเข้ามา

ให้กับผลกระทบทั้งบวกและลบที่มีกับชีวิตคู่และครอบครัว
Friends' blogs
[Add ~-=AUSFAhRT=-~'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.