Warszawa : Polska (Jul-Sep 2004)
โปรเจค PTC Poland นี้เป็นโปรเจคแรกที่รับงาน 3G Optimization เองเต็มตัว เพราะไม่ได้มี buddy เป็นคนเยอรมัน เหมือนตอนโปรเจค OJT งานนี้เป็นการหาเงินเข้าแผนกที่เมืองไทย โดยถูก assigned ให้มากรุง Warsaw Poland เป็นเวลาถึงสองเดือนเครื่องลงวันอาทิตย์ เราก็เข้าเช็คอินที่โรงแรม Ibiz แล้ววันจันทร์ก็ต้องขนของออกไปออฟฟิศ เพราะทางโปรเจคที่นี่ เตรียม เช่าอพาร์ตเม้นท์รายเดือนไว้ให้แล้วFirst impression กับ โปรเจคนี้ไม่ดีเอาซะเลย อพาร์ทเม้นท์ที่โปรเจคหาให้ ไม่มีคนนำทางมาด้วยซ้ำ แค่ให้ที่อยู่มา แล้วให้ไปบอกแท๊กซี่เอาเอง ซึ่งก็เวียนวนอยู่พอสมควรกว่าจะหาเจอ แต่นั่นยังไม่แย่...จนกระทั่งเดินเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์กว่าจะผ่านเข้ามาในตัวตึกได้ เราต้องไขกุญแจกันสองสามชั้น แล้วก็มาเห็นภาพประทับใจแรก คือ ลิฟท์..^อืม... ก็เหมือนจะไม่เลวร้ายมาก ก็แค่ ไม่ "สมบูรณ์แบบ" เท่านั้น พอก้าวออกจากลิฟท์ ก็ออกมาเจอทางเดินแคบๆ มืด อับ ความรู้สึกเริ่มไม่ดีแล้ว แล้วก็ยิ่งแย่ไปใหญ่เมื่อมาเห็นประตูห้องไม่รู้ทำไม ความจริงแล้วจำนวนกลอนที่ประตูห้อง ยิ่งเยอะ น่าจะยิ่งทำให้เรารู้สึกป่ลอดภัย แต่ผมว่าอะไรก็ตามถ้ามันขาดความพอดี ก็ดูออกจะน่าสงสัย อย่างจำนวนกลอนที่เยอะเกินความพอดี แต่ว่าคุณภาพของแต่ละกลอนนั้นดูเหมือนของตกค้างมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะไอ้ดอกที่ยาวๆนั่นหนะ (ลองนึกภาพคุณกลับบ้านแล้วต้องไขกุญแจถึง 6 ดอกกว่าจะผ่านเข้าไปถึงในห้องได้)แล้วความเส้นความอดทนก็ขาดลงเมื่อเห็นสภาพห้อง.... ไม่มีแม้แต่เตียงนอน มีโซฟาโทรม(มากๆ) วางอยู่หนึ่งตัวถึงตอนนี้เราก็ไม่ไหวแล้ว ต้องโทรเรียก โปรเจคเมเนเจอร์ (Bartlomiej ชื่อยากจนเราไม่สามารถออกเสียงได้ เลยต้องเรียกว่า Bart เฉยๆ) มาถึงที่อพาร์ทเมนต์ ตอนเย็นนั้นเลย..Bart ดูจะเฉยชากับ complaint ของเราเกี่ยวกับห้อง แล้วยังอุตส่าห์ พยายาม โน้มน้าวให้เราเห็นว่ามันเป็นห้องที่ดีให้ได้ แล้วเตียงละ จะนอนยังไง ผมก็ถาม อันนี้ก็เป็นภาพที่ Bart พยายามทำโซฟานั่นให้ดูใกล้เคียงกับคำว่า "เตียง" มากที่สุด แต่ดีที่สุดทำได้เท่านี้ผมไม่นอนเตียงนุ่มๆ อันนี้ไปอีกสองเดือนแน่ๆ ไม่มีทาง เราก็เลยตกลงกันว่า ย้ายกลับไป Ibiz ก่อน ถ้าพรุ่งนี้ตกลงเรื่อง หาห้องนอนดีกว่านี้ไม่ได้ บินกลับทันทีสุดท้ายก็จบลงตรงที่ผมอยู่ Ibiz ตลอดทั้งสองเดือนPoland เป็นประเทศยุโรปตะวันออกจนๆ เนื่องจากเป็นประเทศที่ถูกทำลายมากที่สุดประเทศนึง ในยุคสงครามโลก การเดินทางในเมืองมีแค่สองตัวเลือก คือ รถราง หรือ รถเมล์น่าแปลกใจกับระบบรถรางและรถเมล์ของที่นี่ตรงที่ ใช้ระบบเดียวกับเยอรมัน คือ ไม่มีการตรวจตั๋ว หรือ จ่ายเงินตอนขึ้นรถ คุณสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ โดยไม่ต้องซื้อตั๋ว แต่จะมีนายตรวจคอยสุ่มตรวจนานๆครั้ง (ผมอยู่สองเดือน เคยเจอนายตรวจแค่สองครั้ง) แต่ถ้าเค้าขอตรวจแล้วคุณไม่มีตั๋วก็จะโดนปรับหนักแต่รถเมล์ที่นี่แปลกมากตรงที่ คุณไม่สามารถหาซื้อตั๋วได้จากในรถ ถ้าต้องการเดินทางโดยรถเมล์ จะต้องไปหาซื้อตั๋วมาก่อน โดยทั่วๆไปแล้ว ตั๋วรถเมล์จะมีขายที่บู๊ทขายหนังสือ เล็กๆ ที่อยู่ตามป้ายรถเมล์ แต่ก็ไม่ได้มีทุกป้าย หรือไม่ก็ ที่ทำการไปรษณีย์ ที่อยู่ตาม shopping mall อันนี้เป็นภาพ สะพานลอยที่อยู่ด้านหน้า shopping mall ใหญ่ที่สุดที่เห็นใน Warsaw เห็นสภาพความเก่าและโทรมของสะพานลอยที่นี่แล้ว ก็เห็นภาพความจนของประเทศนี้ได้ชัดเจนช่วงที่ไปอยู่ Warsaw ช่วงนั้น ตรงกับ ช่วงครบรอบรำลึกถึงเหตุการณ์ The Warsaw Ghetto Uprising ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มยิวกลุ่มใหญ่ที่สุดในยุโรปรวมตัวกันต่อต้าน ทหารเยอรมันในช่วงสงครามโลก โดยใช้อาวุธทำเอง ต่อสู้แบบ ขบวนการใต้ดิน เพราะงั้น ผมเลยเลี่ยงไม่พ้นที่จะเจอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรำลึก กลุ่มคนในช่วงสงครามโลกอยู่ทั่วไปทั้งเมืองมีโอกาศเดินเที่ยวเมืองช่วงเสาร์อาทิตย์ อันนี้เป็น Landmark ที่สำคัญที่สุดของ Warsaw คงประมาณ City hall หรืออะไรซักอย่างภาพตรงนี้ในมุมอื่นLandmark ที่สำคัญอีกอันคือ ตึกนี้ ซึ่งเป็นตึกทีใหญ่ และ สูงที่สุดใน Warsawส่วนตรงนี้เป็น The Tomb of the unknown soldiers เพื่อไว้อาลัยทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลก จากภาพที่ผมเห็นในพิพิธภัณฑ์ ตรงนี้เคยเป็นตึกใหญ่และมีความสำคัญในอดีต แต่โดนระเบิดทำลายจนเหลือแค่ระเบียง เค้าก็เลยตกแต่งซากที่เหลืออยู่และทำเป็นอนุสาวรีย์โบสถ์สวยๆ ก็มีให้เห็นได้ทั่วไป ตามปกติของประเทศในยุโรปภาพชุดนี้ก็จะเกี่ยวกับ การรำลึกถึง The Warsaw Ghetto Uprising ที่พบเห็นทั่วไปในเมืองอันนี้มีการปิดถนนเป็นบริเวณกว้างหลายสี่แยก เพื่อจัดการแสดงจำลองเหตุการณ์ การต่อสู้กับทหารเยอรมัน ในเหตุการณ์สงครามโลกจุดเทียน ไว้อาลัย..ตามบ้านเรือนก็ติดภาพอดีต ร่วมไว้อาลัยภาพแบบนี้เห็นได้ทุกที่Warsaw โดนทำลายแบบ ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆแต่ในความหดหู่ของบรรยากาศงาน ก็ยังมีกิจกรรมสาธารณะในแบบคนยุโรป ให้เห็นได้ทั่วไปเหมือนกัน ซึ่งก็ช่วยลดบรรยากาศความหดหู่ของภาพสงครามโลกได้ไม่น้อยวงดนตรีกลางแจ้ง..เครื่องดนตรีท้องถิ่นสอนเต้นรำกลางแจ้ง ใครสนใจโดดเข้าไปแจมได้เลยแล้วก็ไหนๆ ก็แวะเวียนอยู่ห้องแมวบ่อยๆ ก็เอาแมว โปแลนด์มาฝากผมนั่งเล่นแจมไปกับเด็กและแมว รวมทั้งแม่เด็กที่เล่นกีต้าร์เรี่ยไรเงินจากนักท่องเที่ยวอยู่นาน แต่ก็ไม่ได้มีส่วนแบ่งอะไรกับเงินในกระเป๋ากีต้าร์นั่นหรอกนะ