... หนุ่มหัวรั้นกับยัยดึงดัน ... คนละยุค คนละแนว แต่ไหงถึงคล้ายกันได้ซะขนาดนี้ละเนี่ยย...
ฮ่า ฮ่า.. จั่วหัวเรื่องซะยังกับหนังเกาหลีเชียวนิ
ที่จั่วหัวอย่างนี้ก็เพราะว่าหนังสือ 2 เรื่องที่เราเพิ่งจะอ่านจบไป มันเป็นคนละแนว คนละยุค และก็คนละคนเขียน แต่ว่าพล๊อตเรื่องกลับละม้ายคล้ายกันเสียนี่กระไร แถมชื่อพระเอกยังเหมือนกันซะอีกด้วย (อะไรมันจะตรงกันปานน้านน....อุอุ... )
แต่อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะที่พล๊อตจะคล้าย เพราะว่าพล๊อตของ 2 เรื่องนี้ก็เป็นพล๊อตหนึ่งในบรรดาพล๊อตยอดนิยมของนิยายโรมานซ์ ที่พวกนักเขียนชอบหยิบเอามาเขียนกัน แต่ว่าพอดี๊ พอดี ที่เราดันมาอ่านเจอแบบติด ๆ กันเข้า ก็เลยต้องเอามาเมาท์กันซะหน่อย เพราะ 2 เรื่องนี้เป็นนิยายของนักเขียนที่เราค่อนข้างจะชอบมากซะด้วยค่ะ
สองเรื่องที่ว่านี้ก็คือ..........
******************************
= คมสวาทสัญชาตญาณเถื่อน =
แปลมาจาก Edge of Hunger เล่มที่ 1 ในชุด Primal Instinct ของ Rhyannon Byrd โดย นีลนารา สนพ.สมใจบุ๊คส์
มอลลี่ สแตรตตัน มีพลังพิเศษที่เธอไม่เคยต้องการเลยแม้แต่น้อย นั่นก็คือการได้ยินเสียงของคนที่ตายไปแล้ว หญิงสาวพยายามใช้ชีวิตอย่างปกติกับพลังพิเศษนี้ จนกระทั่งถึงวันที่เธอได้ยินเสียงกระซิบเร่งเร้าจากวิญญาณดวงหนึ่ง ให้ช่วยตามหาชายผู้หนึ่ง
เพียงแวบแรกที่ เอียน บูคานัน เห็นมอลลี่ เขาก็สรุปได้ว่าเธอคือตัวปัญหา และเมื่อเขาได้ฟังคำบอกเล่าจากหญิงสาว เอียนก็ยิ่งต่อต้านเธอ เพราะสิ่งที่เธอบอก มันเป็นคำเตือนที่มาจากแม่ที่ตายไปแล้วของเขา
และเหตุการณ์ร้ายแรงก็เกิดขึ้น คนที่ใกล้ชิดกับเอียนต้องตายอย่างสยดสยองตามคำเตือนนั้น สิ่งซ่อนเร้นภายในกายของเอียน ที่เขาพยายามสะกดกั้นมันไว้ ต้องการที่จะเปิดเผยตัวตนออกมา เพื่อจะเผชิญหน้ากับเจ้าฆาตกรจอมโหด
แต่เอียนหวาดกลัวเจ้าสิ่งนั้น เขากลัวว่าจะไม่สามารถควบคุมมันได้หากเขาปลดปล่อยมันออกมา และชายหนุ่มก็ยิ่งกลัวมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาค้นพบว่าเจ้าสิ่งนั้นจำเป็นต้องอาศัยมอลลี่ในการเพิ่มความเข้มแข็งของมัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มยอมไม่ได้หากจะต้องแลกกับชีวิตของหญิงที่เขาแคร์
******************************
สำหรับคนที่เป็นแฟนโรมานซ์ อาจจะคุ้นหูคุ้นตากับชื่อ Rhyannon Byrd มามั่งแล้วก็ได้ เพราะเธอเป็นคนที่เขียนชุด Blood Runners ที่แก้วกานต์เคยเอามาทำอยู่เล่มนึงไงคะ (แต่แก้วกานต์คงจะไม่ทำต่อแล้วล่ะ เพราะอะไรก็รู้ ๆ กันอยู่เนอะ )
สำหรับชุดนี้ก็เป็นแนวพารานอร์มอลตามสไตล์ของเธอค่ะ แต่จะมีพวกตัวประหลาดอยู่ 2 จำพวกคือ Werewolf มนุษย์หมาป่า กับ Shapeshifter มนุษย์แปลงร่างเป็นสัตว์ เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่าสองอย่างนี้ม้นแตกต่างกันยังไง มนุษย์หมาป่าทำไมไม่เหมือนกับพวกแปลงร่างเป็นสัตว์ล่ะ เราเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ เลยไปลองค้นดู ก็ได้ความมาว่า
Werewolf คือ มนุษย์หมาป่า ตรงตามตัวอักษรเป๊ะ ๆ เลย ที่ตอนปกติก็เป็นคน แต่พอแปลงร่าง เค้าไม่ได้กลายเป็นหมาป่าค่ะ แต่เป็นอสุรกายครึ่งคนครึ่งหมาป่า แบบที่เราเคยเห็น ๆ กันในหนังฮอลลีวูดนั่นแหละ
ส่วน Shapeshifter คือ มนุษย์ที่แปลงร่างเป็นสัตว์ได้ ตรงตามตัวอักษรเป๊ะ ๆ เหมือนกันค่ะ อิอิ..
เรื่องนี้เราอ่านแล้วเฉย ๆ นะ เพราะว่าไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่เลยสำหรับหนังสือแนวนี้ เนื้อเรื่องก็ประมาณที่เราย่อไว้นั่นแหละค่ะ และที่อ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยจะชอบ ก็คือการที่คนเขียนเน้นประเด็นความกลัวของพระเอกมากซะเหลือเกิน ความกลัวที่ทำให้อีตาเอียนเป็นคนดื้อด้านหัวรั้นที่น่ารำคาญที่สุด อ่านแล้วอยากจะเบิ๊ดกระโหลกหนา ๆ ของอีตานี่ซะจริง ๆ ให้ยอมรับเจ้าสิ่งนั้นมันไปซะเหอะ เพราะพอถึงที่สุดแล้วยังไง ๆ พี่แกก็ต้องรับอยู่ดี จะยื้อให้มันน่ารำคาญไปทำไมกัน ชิ..
ส่วนตัวนางเอกในเมื่อเจอพระเอกดื้อด้านอย่างนี้ เธอก็ต้องดึงดันให้สมกันด้วยค่ะ ชีช่างเข้าอกเข้าใจพระเอกซะเหลือเกินนน... ยอมทุกอย่าง ถึงพระเอกจะผลักไสยังไง ชีก็ยังตะกายเข้าหา สมกับเป็นนางเอกดีงดันผู้แสนดีซะจริง ๆ เรยยย.......
สำนวนการแปลของเรื่องนี้โอสำหรับเรานะคะ อ่านได้ไม่สะดุด แต่ก็แรงตามสไตล์ของ สนพ.นี้ แต่ว่ามีอยู่ 2 คำที่เราคิดว่าทาง สนพ.น่าจะต้องแก้นะ เพราะเจอหลายครั้งแล้ว
คำแรกก็คือ เม่ง อ่า... มันคือไรเนี่ยยย........ เราเดาว่ามันน่าจะเป็นคำสบถว่า แม่ง ที่ย่อมาจากคำว่า แม่..มรึง (ขออำภัยที่ไม่สุภาพค่ะ ) เพราะงั้นมันก็ต้องสะกดด้วยสระแอ ไม่ใช่สระเอ ชิมิคะ
ส่วนอีกคำคือคำว่า ริยำ คำนี้ไม่ผิดค่ะ แต่ว่ามันอ่านแล้วให้ความรู้สึกโบราณอ่ะ และสำหรับ สนพ.ที่สำนวนออกจะเดิ้นน...ซ้า.... ก็น่าจะเปลี่ยนเป็น ระยำ มากกว่าจะได้ดูสมสมัยหน่อย
อ้อ.. มีอีกคำนึงที่เราไม่แน่ใจว่า ทางผู้แปลเค้าสะกดถูกหรือเปล่า คือชื่อของน้องพระเอกค่ะ ภาษาอังกฤษสะกดว่า Saige ส่วนภาษาไทยผู้แปลสะกดว่า ไซเก แต่เราคิดว่าน่าจะเป็น เซจ แล้วตกลงว่าชื่อของเธอออกเสียงยังไงกันละเนี่ยย.... เพื่อน ๆ คนไหนพอจะรู้ก็ช่วยบอกหน่อยเถอะค่ะ เราอยากรู้จริง ๆ อ่ะ
สำหรับชุดนี้ตอนนี้ฉบับอิงออกมาแล้ว 7 เล่มค่ะ ส่วนฉบับไทยเราก็ว่าจะติดตามต่อนะ ถ้าคนแปลยังเป็นคุณนีลนาราอยู่ แต่ถ้าเปลี่ยนคน ก็คงจะต้องคิดดูก่อนอ่า.....
******************************
= ยั่ววิวาห์อสูรร้าย =
แปลมาจาก Highland Wedding (หรือ Promised Passion) เล่มที่ 2 ในชุด Highland Brides ของ Hannah Howell โดย สุมนทิพย์ บรรณาธิการ อัสสรา สนพ.คริสตัล
(คำโปรยจากปกหลังค่ะ)
แผลเป็นที่พาดเด่นอยู่บนแก้มของเซอร์เอียน แม็คลาแกน เป็นเครื่องเตือนใจทุกเมื่อเชื่อวันถึงภรรยาที่สูญเสียไป... และศัตรูที่ยังไล่ล่าเขาอยู่ เมื่อได้รับพระบรมราชโองการจากองค์กษัตริย์ให้แต่งงานใหม่ เพื่อดองสองตระกูลชายแดนที่ทรงอำนาจเข้าด้วยกัน เอียนจึงต้องแต่งงานกับไอส์ลีน แม็คร็อธอย่างไม่เต็มใจ รูปลักษณ์ที่แบบบางของนางขัดแย้งกับธรรมชาติขี้เล่นและยวนยั่ว ซึ่งดึงดูดบุรุษผู้สาบานว่าจะไม่ยอมให้หัวใจหรือคนที่เขารักต้องเสี่ยงอีกแล้ว
เพราะถูกเลี้ยงให้เติบโตมากับพี่ชายที่ร่าเริงสิบเอ็ดคน ไอส์ลีนไม่มีเวลาให้กับเรื่องโรแมนติกไร้สาระเท่าใดนัก แม้กระนั้นหล่อนก็ยังคาดหวังมากกว่าการแต่งงานที่ถูกมัดมือชก และกับชายที่ร่วมเตียงแต่ไม่เคยร่วมชีวิต ไอส์ลีนวางแผนทำลายแนวป้องกันของเอียนทีละขั้น แต่สามีผู้หล่อเหลาห้าวหาญของหล่อนนี่สิ จะรู้จักเรียนรู้เพื่อมอบความรักให้อย่างไม่เหนี่ยวรั้งใจ แบบเดียวกับที่มอบความพิศวาสหรือไม่ก็ไม่รู้
******************************
สำหรับชุดนี้แก้วกานต์เคยเอาเล่ม 1 Amber Flame (หรือ His Bonnie Bride) มาแปลแล้วค่ะ ใช้ชื่อว่า แรงรักรอยแค้น เก่ามากกก....... ถ้าใครสนใจอ่านต้องไปตามล่าหาในร้านมือสองสถานเดียวค่ะ เพราะเราว่าที่แก้วกานต์ก็คงจงหมดแล้วล่ะมั๊ง
เราชอบ ฮันนาห์ โฮเวล ค่ะ นิยายของเธอดำเนินเรื่องไม่ซับซ้อน เดาได้ง่าย แต่ว่าตื่นเต้น สนุกแล้วก็มีอารมณ์ขันแบบน่ารัก ๆ ดีค่ะ
อย่างเรื่องนี้ก็เหมือนกัน แค่อ่านคำโปรยก็เดาได้แล้วล่ะว่าเรื่องจะเป็นยังไง แต่ว่าที่ทำให้เรื่องนี้สนุกก็คือบุคคลิกของนางเอกกับพระเอก รวมทั้งตัวละครอื่น ๆ และก็บทสนทนาค่ะ
นางเอกของฮันนาห์มักจะเป็นคนที่ฉลาด เข้มแข็ง สดใสร่าเริง เปิดเผย แล้วก็เก่ง (บุคคลิกนางเอ๊กก..นางเอก จริง ๆ เลยนะเนี่ยย... ) ส่วนพระเอกก็จะหล่อ เก่ง ฉลาด แต่บางครั้งก็แอบซื่อบื้อนิด ๆ ประมาณอีตาเอียนพระเอกเรื่องนี้นี่แหละค่ะ
เรื่องนี้พระเอกก็กลัวอีกนั่นแหละ แถมยังเป็นความกลัวแบบเดียวกับอีตาเอียนเรื่องโน้น นั่นก็คือกลัวว่านางเอกจะเป็นอันตรายจากตัวเอง เพราะว่าตัวเองมีคนคอยปองร้ายอยู่ ก็เลยพยายามผลักไสนางเอกออกไปอยู่นั่นแหละ ดื้อด้านไม่แพ้อีตาเอียนนู่น...เลย
และในเมื่อพระเอกดื้อด้านเยี่ยงนี้ นางเอกผู้แสนดีของเราก็ต้องดึงดันที่จะพยายามตีฝ่าความกลัวของพระเอกให้เข้าไปอยู่ในหัวใจของตาดื้อด้านนี่ให้ได้ และสุดท้ายย..... นางเอกของเราก็ชนะเลิศศศศ...... อีกแล้วครับทั่น ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แต่เรื่องนี้ก็มีจุดอ่อนอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือตัวร้าย ตัวร้ายในเรื่องนี้แต่ละคน มันช่างไม่ได้เรื่องซะเล้ยยย....... ร้ายแบบไม่มีสมองอ่ะ อ่านแล้วไม่ได้ดั่งใจ เพราะไม่มีลุ้นเลยซักกะนิด ยิ่งตอนจบที่ให้พระเอกนางเอกออกไปอย่างนั้น แล้วไปเจอตัวร้าย ก็เป็นวิธีที่สิ้นคิดไปนิดนึง อ่านแล้วรู้สึกว่าคนเขียนจงใจไปหน่อยค่ะ
แต่ที่ชอบมาก ๆ ก็คืออารมณ์ขันในเรื่องค่ะ อย่างตอนที่นางเอกมาสารภาพความพิกลพิการของตัวเองกับพระเอก อ่านแล้วฮาค่อดดด......อ่ะ ยิ่งตอนที่พ่อกับพี่ชายนางเอกมาเจอเข้า ยิ่งฮา...เข้าไปใหญ่ เรางี้หลุดหัวเราะออกมาดัง ๆ เลยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า อยากรู้ว่าทำไมถึงได้ฮาขนาดนี้ ต้องไปลองอ่านเองตั้งแต่หน้า 56 ขึ้นไปนะคะ อ่านเลยค่ะ รับประกันความฮา
และส่วนที่ไม่ชอบเลยก็คือสำนวนในเรื่องนี้ค่ะ เราว่าเรื่องนี้สำนวนบางประโยคมันแหม่ง ๆ อ่ะ อ่านแล้วพิลึก ๆ อย่างคำ เอร็ดอร่อย ในนี้ใช้ อร่อยเอร็ด ซึ่งมันก็ไม่ผิด แต่ว่ามันดูไม่เหมาะอ่ะค่ะ หรืออย่างประโยคที่ว่า ความประชดประชันของสถานการณ์ทำให้หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น เราว่ามันดูแปลก ๆ นะ
และอีกเรื่องนึงที่ไม่ชอบบบ...มากถึงมากกกกก........ที่สุดดด........ก็คือการใช้คำแสลงของสมัยนี้กับเรื่องนี้ เรื่องนี้มันอยู่ในดินแดนสกอต ยุคกลาง แต่ผู้แปลใช้คำว่า จ๊าบ, จิ๊บ ๆ เอ้ง, จิ๊บจ๊อย, สะแมนแตน, ง่ะ, ดิ, มั่ก ๆ , คุณน้อง, รมณ์บ่จอย, พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ฯลฯ กับเรื่องนี้อ่ะนะ เรื่องที่ดำเนินอยู่ในยุคกลาง ยุคที่มีอัศวินกับเลดี้ ขี่ม้าฮี้ ก่อบ ๆ ฟันดาบกันโช๊งเช๊ง ๆ
อ๊ากกกกกกกก........................ อ่านแล้วอะฮั้นอยากจะร้องกรี๊ดด..กรี๊ดด..... จริง ๆ เรยยยยยยย................
ได้โปรดดดดด.......เถอะค่ะ พลีสสสสสสส........... ครั้งหน้าถ้าเป็นเรื่องแนวประวัติศาสตร์ละก็ ขอได้โปรดอย่าใส่คำพวกนี้เข้าไปเชียว มันทำให้หนังสือดี ๆ เล่มนึง ต้องมีมลทินไปอย่างน่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ
เล่มนี้ยังพลาดได้อีกที่ปกรอง ซึ่งปกติจะมีการโปรยข้อความของหนังสือ แต่เรื่องนี้เนื้อความของปกรอง กับเนื้อเรื่องข้างในมันคนละเรื่องกันเลยค่ะ เอาไปอีก 1 เฮ้ออออออออ...............
แต่ถึงยังไงถ้ามีการแปลเล่ม 3 ออกมา เราก็คงจะยังตามอ่านอยู่ดีล่ะค่ะ (หลาย ๆ คนคงบอกว่ายังไม่เข็ดอีกเรอะ อุอุ... ) ที่ต้องตามก็เพราะว่าเล่ม 3 เป็นเรื่องของ อเล็กซานเดอร์ แม็คดับห์ สุดหล่อที่เราแอบชอบอยู่ เป็นพระรองมา 2 เรื่องแล้ว เรื่องที่ 3 นี่พี่แกได้เป็นพระเอกซักที.. อย่างนี้ไม่ตามได้ไงคะ
แต่ก็คงต้องทำใจก่อนอ่านเยอะเหมือนกันละเนอะ.....
Create Date : 06 พฤษภาคม 2554 |
|
10 comments |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2554 23:04:21 น. |
Counter : 1511 Pageviews. |
|
|
|
ยิ่งคุณเมย์บอกว่าชุดนี้สนุกเล่มสี่โน่นแนะ
ยิ่งเซ็งเลยไม่อยากอ่านต่อแล้วค่ะ อิ อิ
กะไว้ว่ารอ่านเล่มสี่ทีเดียวเลยละกันจะดีกว่าไหม๊เนี๊ยะ