แค่ความอ่อนไหว
บันทึกงานวิ่ง
เรื่องเล่าจากโรงบาล
พัทลุงเมืองน่าเที่ยว..แค่แวะมาเยี่ยวก็ได้นะ
<<
สิงหาคม 2567
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
2 สิงหาคม 2567
ตอนที่หมอป่วย
น้องน้ำมนต์...ผีผู้มีไข้...กับ พยาบาลไสยศาสตร์
เรื่องของเหนียวไก่...กะ..ยายคนนั้น
คาเฟ่ลับ...กับเด็กน้อย
ตอนที่หมอป่วย
น้องน้ำมนต์...ผีผู้มีไข้...กับ พยาบาลไสยศาสตร์
สไปเดอร์แมน
..."พยาบาลเวรยัน"....
เมื่อพยาบาลป่วย
น้องน้ำมนต์...ผีผู้มีไข้...กับ พยาบาลไสยศาสตร์
..."น้องน้ำมนต์"....
วันนี้กุนอนไม่หลับเลยจะมาเล่าเรื่องผีให้ฟัง.... เรื่องมันนานมาแล้วแหละ..เกือบๆสิบปีได้แล้ว
แต่กุยังจำได้ดี เรื่องผีผี ที่เคยเกิดขึ้นกับกุ มันเป็นเรื่องจริงที่กุเพิ่งคิดได้ในวันที่เราอยู่เวร
แล้วไม่มีอะไรทำเลยยกหัวข้อเรื่องผีขึ้นมา discut กันเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพ
ตำแหน่ง ชพ.ด้านไสยศาสตร์และมนต์ดำ รอกุอยู่แล้วแหละ
กุจะเล่าให้ฟังล่ะนะ เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อเวรบ่ายที่ผ่านมา ผ่านมานานมากก็หลายปีแล้แหละ
ตอนเกือบสองทุ่ม คนไข้สักคนเพิ่งกลับออกไป รถกะบะคันหนึ่งวิ่งขึ้นมาจอดหน้า ER
ท้ายกระบะมีชายหญิงวัยห้าสิบถึงหกสิบปี นั่งมาด้วย ห้าถึงหกคน
สักพักน้องพนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้ ก็เข็นเปลนอนเข้ามาบนนั้นมีผู้ป่วยหญิงสาวอายุประมาณสามสิบกว่าปี
รูปร่างผอม สวมชุดดำทั้งชุด ตามมาด้วยคณะญาติที่เห็นบนท้ายรถกระบะ
ทุกคนล้วนแต่งชุดดำเหมือนจะมาจากงานศพที่ไหนสักแห่ง ญาติสักคนร้องบอกมาว่าช่วยต่ะหมอ
อ๊วก!!! แล้วกะเป็นลม ท่าทางญาติทุกคนดูสีหน้ากังวล อินชาร์ตหน้าตาธรรมดาในเวรวันนั้นเดินเข้าไปรับเคส
ญาติที่มาด้วยหลายคนเริ่มกระสับกระส่าย เดินเข้า - เดินออก ในห้อง
บางจะหวะมีกระซิบกระซาบอะไรกันไม่เป็นที่ได้ยิน พยาบาลหน้าตาดีคู่เวรจับพิรุธข้อนี้ได้
เหมือนจะได้ยินเสียงกระซิบจากญาติสักคนถามคนที่มาด้วยกันว่ามีน้ำมนต์ไหม? มึงไปดูน้ำมนต์ในโบสถ์มาต่ะ ,
ญาติบางคนถามหาพระห้อยคอ เผื่อใครใส่มาบ้าง ตอนนี้ผู้ป่วยถูกขังอยู่ในม่านสีเขียวอ่อน
ท่ามกลางหมู่ญาติที่ต่างช่วยกันวินิจฉัยโรค และวางแผนการรักษากันเอง
โดยไม่ได้สนใจว่าที่นี่คือโรงพยาบาล และพยาบาลก็อยู่ตรงนั้นด้วย..
ญาติยังคงเรียกร้องถามหาพระห้อยคอ กับน้ำมนต์สักอย่าง จากญาติที่มาด้วยกัน
เดินเข้าออกกันให้ขวั่ก ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน พยาบาลหน้าตาดีซึ่งไม่ได้เป็นอินชาร์ตในวันนั้นลองเปิดม่านเข้าไปดู
หญิงสาวในชุดดำ ยังคงนอนนิ่ง หายใจเร็ว ตาปิดแต่กรอกไปมา ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ
สอบถามอาการจากญาติได้ความว่า ขณะอยู่ในงานศพผู้ป่วยกำลังกินข้าวอยู่ หลังจากนั้นมีแน่นอก
ผู้ป่วยเดินไปอ้วกที่ข้างหลังโรงครัวอ้วกไปเยอะมาก หลังจากนั้นเป็นลมล้มลง ญาติประคองรับไว้ได้
ไม่มีศีรษะกระแทก หลังจากนั้นนอนนิ่งไป ปลุกไม่ยอมพูดด้วย ญาติจึงพามา รพ.
ขณะเข้าไปเพื่อสอบถามอาการคนไข้ ญาติสักคนมากระซิบข้างหูบอกว่า “ผีแอบนิหมอ”
พยาบาลหน้าตาดี ดูไม่ค่อยสนใจกับคำบอกเล่านั้นเท่าไหร่ ทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้
ปริญญาพยาบาลศาสตร์บัณฑิตบอกมาแบบนั้น แมร่งงงง.!!!! น่าจะอาการทางจิตอะไรสักอย่าง
“คนไข้ชื่ออะไรคะ?” ไม่มีเสียงตอบ หญิงสาวยังคงนอนนิ่ง ตากรอกไปมา
จังหวะหายใจลดลงแล้ว แต่ยังดูหายใจลึกๆ อยู่ V/S ตัวอื่นดูปกติดี พยาบาลคนเดิมถามซ้ำอยู่สองสามรอบ
ไม่เป็นผล ลองเอามือกดหน้าอกเบาๆ และแรงขึ้น ได้ผล คนไข้ร้องออกมาท่าทางเจ็บ
ลืมตาขึ้นมามองอย่างมีคำถามว่ากดทำไม แล้วก็หลับตาต่อ ถามชื่ออีกรอบ ทุกอย่างเหมือนเดิม
ลองกดใหม่แรงกว่าเดิมคราวนี้คนไข้ร้อง โอ๊ยยยย!!!!!!! และตื่นดี ลืมตาขึ้นมา
มองอย่างไร้จุดหมาย พยาบาลสังเกตแววตานั้นอย่างไม่คุ้นเคย ไม่มีความรู้สึกใดๆออกมาจากตาคู่นั้น
ลองกล่อมอีกรอบ “คนไข้คุยกับพยาบาลหน่อยนะจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวอีก” “คนไข้ชื่ออะไรคะ”
พยาบาลหน้าตาดีถามซ้ำอีกรอบ คราวนี้เป็นผล “ชื่อน้องน้ำมนต์”
เสียงที่ออกมาจากหญิงสาวอายุราวๆสามสิบกว่าปีนั้นเป็นเสียงที่ถูกบีบจนเล็กเหมือนเสียงเด็กน้อยสักสี่ห้าขวบ
ฟังยังไงก็เป็นเสียงเด็ก “เจอเคสยากแล้วกุ” พยาบาลคิดในใจ นึกถึงโรคทางจิตเวชสักอย่าง
เออเอาคนไข้ทำได้ก็ทำไปเดี๋ยวเหนื่อยก็กลับมาพูดเสียงปกติเองแหละ ไม่ก็คงหลุดพูดปกติมาบ้างแหละ
พยาบาลยังคงปลอบใจตัวเอง หันหน้าไปถามญาติสักคนว่าคนไข้ตอบชื่อตัวเองถูกหรือเปล่า
ญาติสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก สั่นหน้า พยาบาลถามอีกรอบ คนไข้ยังตอบด้วยเสียงเล็กแบบเสียงเด็กด้วยคำตอบเดิม
“น้องชื่อน้องน้ำมนต์” พยาบาลหันไปหาญาติ “คนไข้เปลี่ยนชื่ออะไรมั่งมั้ยคะ”
ญาติท่าทางเลิ่กลั่กเหมือนเดิม “ม่าย ไอ้เอ (นามสมมติ) ไม่หอนเปลี่ยนชื่อ เบ่อเรียกกันอยู่นิ”
ญาติสักคนบอกมาแบบนั้น...สักพักญาติอีกคนดึงตัวพยาบาลหน้าตาดีออกจากม่านด้วยท่าทางแปลกๆ
แล้วเล่าให้ฟังว่า “ก่อนหน้านี้คนไข้อยู่ต่างจังหวัด แถวภาคเหนือหรืออีสานก็ไม่แน่ใจแล้วและเคยเลี้ยงลูกกรอกเอาไว้บูชา
หลังจากนั้นหลายปีก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านไม่ได้ชวนลูกกรอกกลับมาด้วยและไม่เคยได้บูชา
ที่สำคัญคือลูกกรอกที่คนไข้เลี้ยงไว้ตั้งชื่อว่า....น้องน้ำมนต์” ส่วนคนไข้เองนั้นชื่อเอ(นามสมมติ)
แมร่งงงงงง ความเชื่อมั่นในความเป็นวิทยาศาสตร์ในตัวพยาบาลลดลงแล้ว แปดสิบเปอร์เซ็นต์
ใจนึกไปถึงปู่ถึงย่าที่เสียชีวิตมาหลายปีและเคยมาเข้าทรงญาติพี่น้องให้เห็นอยู่บ่อยๆ
หรือนี่จะเป็นของจริงแล้ว แผนการพยาบาลถูกเขียนขึ้นในหัวอย่างเร่งด่วน
ลูกกรอกก็คือเด็กสักคนแหละ พยาบาลคงต้องทำใจดีสู้ผีกันหน่อยต้องไปตามน้ำ
เปิดม่านเดินกลับเข้าไปอีกรอบ หญิงสาวยังคงนอนอยู่ท่าทางเพลียๆ หลับตา “น้องอยากน้ำ”
เสียงเล็กๆจากปากหญิงสาวชุดดำบอกมาแบบนั้นพยาบาลขอน้ำจากน้องคู่เวรส่งให้น้องน้ำมนต์
เธอลุกนั่งและดื่มน้ำหลังจากกินน้ำเสร็จพยาบาลเดินไปข้างเตียงอีกรอบ “บ้านน้องอยู่ไหน?”
...พยาบาลถาม “น้องไม่รู้” เสียงเล็กๆตอบออกมา แล้วอีกหลายคำถามเพื่อยืนยันให้แน่นใจว่านี่ไม่ใช่หญิงสาวในชุดดำ
แต่เป็นลูกกรอกที่ชื่อน้องน้ำมนต์ “น้องมาทำแบบนี้ได้ปรือ น้องเป็นของศักดิ์สิทธิ์
อยู่ด้วยกันต้องให้คุณไม่ใช่ให้โทษไม่ใช่มาทำกันแบบนี้” พยาบาลเริ่มสอนผีเด็ก
หญิงสาวหน้าเศร้าลง พูดเบาๆ “น้องเนือยยยย!!!!!! ” พยาบาลใจหายยิ่งกว่าเมื่อได้ยินคำตอบนั้น
นึกไปถึงเด็กสักคนที่หิวมากๆแล้วหาอะไรกินเองไม่เป็น ไม่มีพ่อแม่หาให้กิน
“ถ้านั้นเอาพันนี้นะ น้องน้ำมนต์อยากได้อะไรบอกไว้เดียวถ้าแม่ดีขึ้นจะให้แม่บูชาตั้งให้กิน ให้แม่ทำให้ถูกต้อง
แต่วันนี้น้องน้ำมนต์กลับไปก่อน ให้พยาบาลได้ดูอาการแม่ก่อนถ้าน้องน้ำมนต์ไม่กลับพยาบาลดูแม่ไม่ได้
แล้วแม่ก็ไปตั้งให้น้องน้ำมนต์กินไม่ได้ เธอนิ่งไปครู่ใหญ่ ไม่ยอมพูด พยาบาลหว่านล้อมอีกรอบ
การเจรจาต่อรองกับผีก็เริ่มขึ้น “อยู่ด้วยกันเค้าไม่ทำร้ายกันเค้าต้องให้คุณกันถ้าเค้าทำผิดอะไรก็บอกกัน
ไม่ใช่มาทำพันนี้แหละถ้าเราเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง อยากให้คนบูชาเราก็ต้องให้คุณไม่ใช่มาทำแบบนี้
“พยาบาลเริ่มฮึกเหิมได้ใจคิดว่าถือไฟ่เหนือกว่าผีแล้ว “น้องน้ำมนต์กลับไปก่อนน่ะเดี๋ยวพยาบาลบอกแม่ให้ว่าน้องมา
แม่จะได้ไปทำให้ถูกต้องไปหาให้น้องกิน บูชาให้น้องกินจะได้ไม่เนือยอีก
แล้วถ้าแม่บูชาดีแล้วน้องก็ควรจะให้คุณแม่ไม่ใช่มาทำกันแบบพันนี้อีก มันไม่ได้
แต่วันนี้น้องกลับไปก่อนนะ เดียวพยาบาลดูแม่ให้ ” หญิงสาวก้มหน้านิ่งสักพักพยักหน้าเบาๆหนึ่งที
ก่อนที่จะล้มลงหมดสติไปอีกรอบ ญาติคนเดิมที่อยู่ด้วยท่าทางตกใจ แล้วเดินมากระซิบข้างหูว่า
“น่าจะจริงเพราะว่าลููกกรอกไม่หอนได้รับของบูชาเลยตั้งแต่ไอเอ(นามสมมติ)ย้ายลงมาบ้าน
และก่อนมา รพ.มันก็กินข้าวเข้าไปเกือบสองโถเหมือนคนที่เนือยมากๆญาติๆเองยังสงสัยว่ากินเข้าไปได้ปรือ
กินอยู่ดีดีก็วิ่งไปอ้วกน่าว่ากินจนล้นนิ ผีลูกกรอกนั้นแหละแอบอยู่” ญาติเล่าอย่างคนที่แก้ฝันถูกหลังเบอร์ออก...
พยาบาลเข้าไปปลุกหญิงสาวอีกรอบ คราวนี้เธอตื่นดี ท่าทางเพลียๆ ในตามีแววเป็นประกายแต่ดูล้า ท่าทางงงๆ
ลองถามชื่ออีกรอบ “คนไข้ชื่ออะไรคะ” “ชื่อเอค่ะ (นามสมมติ)” น้ำเสียงของเด็กน้อยหายไป
แล้วกลายเป็นเสียงหญิงสาวสักคน พยาบาลหันไปหาญาติ ญาติพยักหน้าให้ว่าคราวนื้ชื่อถูกต้องแล้ว
พยาบาลเริ่มถามอาการว่าเป็นอะไรมา คนไข้เล่าได้แค่ว่าขณะอยู่ในงานศพญาติช่วยงานอยู่
จู่ๆก็รู้สึกหิวขึ้นมาเลยไปกินข้าวแล้วก็กินไปเยอะมาก ไม่รู้เหมือนกันว่ากินไปปรือ หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีก
“แล้วตอนนี้รู้สึกยังไงมั่ง” พยาบาลถามอาการต่อ “แค่มึนๆหัว กะแน่นท้องแล้วก็เพลียๆ นิดหน่อย”
พยาบาลเดินไปจัดยาให้คนไข้กินแล้วนอนพัก ดูอาการ
.
..ไม่นานคนไข้ขอกลับบ้าน หลังจากคนไข้กลับบ้านไปแล้วหลายปี
น้องน้ำมนต์กลับไปแล้วหรือยัง เป็นเรื่องที่ยังคงสงสัยมาตลอด!!!!! จนทุกวันนี้
Create Date : 02 สิงหาคม 2567
Last Update : 5 สิงหาคม 2567 7:55:30 น.
0 comments
Counter : 217 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
BlogGang Popular Award#21
สมาชิกหมายเลข 7582113
Location :
พัทลุง Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
พยาบาลวิชาชีพ
แบ่งปันบันทึก เรื่องราว มุมมอง เรื่องเล่า จินตนาการ
สมาชิกหมายเลข 7582113
Webmaster - BlogGang
[Add สมาชิกหมายเลข 7582113's blog to your web]
Bloggang.com