ชวนไปหอจดหมายเหตุพุทธทาส

๑.
ปลายฝนต้นหนาววีคก่อน ฉันจูงมือลูกสาวคนงามและชวนคนใกล้ตัวไปสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ตั้งใจมั่นว่าอยากจะไปเยี่ยมเยือนเสียที
ที่นั่นคือ หอจดหมายเหตุพุทธทาส
ตั้งแต่เปิดตัวให้คนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสความฉ่ำเย็นแห่งธรรม สงบเงียบ นิ่งสบายอย่างเซน ฉันยังไม่เคยได้ไป จนวันนั้นตั้งใจชวนคนใกล้ตัวไปที่นั่น
...อาคารหอจดหมายเหตุท่านพุทธทาส ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับสวนรถไฟ จตุจักร
ทางเข้าสังเกตง่ายๆ ก็คือถนนข้างบ.ปตท.วิภาวดีฯนั่นเอง



๒.
ไม่ได้มาเที่ยวสวนรถไฟซะนาน อะไรๆ เปลี่ยนไปเยอะทีเดียว
มีร้านอาหารเพิ่มขึ้น พอๆ กับผู้คนที่มาออกกำลังกายที่นี่ด้วยการขี่จักรยาน
เหมือนว่าจะเป็นสัญลักษณ์ของสวนรถไฟเลยก็ว่าได้....ขี่จักรยานชมสวน สูดอากาศจากปอดของเมืองหลวง ชมสีเขียวของต้นไม้สองข้างทาง
ที่นี่มีร้านให้เช่าจักรยานอยู่หลายร้าน วันที่ไปฉันไม่ได้เข้าไปขี่จักรยานชมสวน
เพราะตั้งใจมาหอท่านพุทธทาสมากกว่า
พวกเราแวะหาไรกินกันก่อนที่ร้านด้านหน้าสวนรถไฟ บรรยากาศในร้านน่านั่ง
ร่มรื่นเพราะร่มเงาจากต้นก้ามปู(จามจุรี)ใหญ่แผ่กิ่งก้านปกคลุม
พออิ่มสบายท้องกันแล้ว จึงเดินไปที่หอท่านพุทธทาส(เรียกย่อง่ายๆ แบบนี้ล่ะกัน) แวะถ่ายรูปเป็นหลักฐานด้านหน้ากันเสียหน่อย ตามระเบียบ...^_^



๓.
เราแวะที่ร้านหนังสือและขายของที่ระลึก ตรงจุดแรกทางเข้าสู่ส่วนต่างๆ
ในร้านมีหนังสือธรรมมะหลายหลาก หนังสือแนวเซน และรวมเล่มของท่านพุทธทาสในต่างกรรมต่างวาระที่ท่านได้เทศนาเอาไว้ในกาลก่อน
ตรงมุมห้องมีเสื้อยืด กางเกงเล กระเป๋าผ้าดิบวางจำหน่าย ราคาค่อนไปทางถูกมาก ถ้าเทียบกับแบบเดียวกันนี้ที่วางขายที่อื่น เช่น อัมพวา...ที่นั่นของทุกอย่างแพงเว่อร์นิ!
เนื่องจากที่นี่...ไม่ได้หวังค้ากำไร เพียงอยากให้ผู้มาเยือนและต้องการของฝาก ของที่ระลึกติดมือกลับไป จึงมีเสื้อสกรีนโลโก้กราฟฟิกน่ารักๆ กางเกงเลมีไซส์เดียวหลายสีให้เลือก ถุงผ้าสกรีนภาพท่านพุทธทาส บ้างก็เป็นวลีน่าคิด ภาพลายเส้น ใบละไม่กี่สิบบาท
คุณป้าที่นั่งเฝ้าข้าวของพวกนี้ บอกว่าไม่รับเงิน..."คนที่นี่ไม่รับเงินจ้ะ หนูเอาไปหยอดไว้ที่ตู้บริจาคนะ" ฉันกับลูกสาวคว้าเสื้อยืด กระเป๋าผ้า และเกงเล มาอย่างละหนึ่ง แล้วเดินไปหยอดที่ตู้ หลังจากผ่านกรรมวิธีเช็คบาร์โค้ดแบบแคชเชียร์เสร็จสรรพ อ่อ...ใครไปซื้อของที่นี่ ซื้อแล้วก็ยัดใส่เป๋าตัวเองนะ อย่าพยายามร้องหาถุงพลาสติกใส่ของ ของที่ฉันซื้อทั้งหมดก็ยัดใส่ในกระเป๋าที่ถือมานั่นแหละ ง่ายดี ไม่เปลืองถุงอะไรด้วย....บริการตัวเองทุกอย่างค่ะ





๔.
ลองเข้าไปดูด้านใน โถงชั้นล่างของอาคารเป็นลานกว้าง สำหรับทำกิจกรรม
ลานโล่งขวามือ ประดิษฐานรูปพระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร และโดยรอบลานเป็นปฎิมากรรมแลชิ้นงานศิลปะแนวปริศนาธรรม....
ด้านซ้ายเป็นกองแท่นหิน ตัวอาคารตั้งอยู่ในบึงน้ำด้วย จุดนี้เลยเย็นสบาย ด้วยสงัด-ร่มเย็น
ขึ้นไปที่ชั้นสองเป็นส่วนของหอจดหมายเหตุ มีห้องติดแอร์ทันสมัยสวยงามด้วยการจัดวางและตกแต่งพื้นที่ภายในด้วยภาพบอกเล่าเรื่องราว จอ LED และมัลติทัชสกรีนบอกเล่าเรื่องของท่านพุทธทาส รวมเอาวลีหรือพุทธภาษิต คติธรรมเตือนใจสอดแทรกไว้ตามจอต่างๆ ที่ติดตามผนังห้อง ภายในห้องโถงโล่งที่พื้นมีอาสนะให้นั่งทำสมาธิกันด้วย...ฉันเห็นหลายคนนั่งทำสมาธิหลับตา แต่จะมีสมาธิจริงหรือเปล่า เข้าฌาณดิ่งลึกแค่ไหน-ไม่รู้ มันก็คือรูปแบบหนึ่งของการมาที่นี่ก็แล้วกัน





๕.
มีหลายส่วนน่าสนใจ สำหรับฉัน-ชอบสวนหิน และการจัดสวนเซนของที่นี่
หิน=ความหนักแน่น
ไม่ว่าทำอะไรในชีวิตนี้ ถ้าเราหนักแน่นได้เช่นหินผาคงจะดี
บางครั้งอาจอ่อนไหวพลิ้วตามลมบ้างอย่างใบไผ่ แต่ไม่ล้ม ยังหยัดยืนอยู่ได้เหมือนลำไผ่ที่ตั้งตรงสง่างาม....นี่คือธรรมในสวนเซนที่ฉันเห็น





๖.
เราเดินชมภายในห้องจนทั่วแล้วออกมาสูดอากาศปกติภายนอก
การตกแต่งอาคารที่นี่ดูเรียบง่าย เน้นความโล่งโปร่งสบายตา และสะอาดตา
จากตัวอาคาร เราลงมาที่ทางเดินเลียบบึง เข้าไปสู่บริเวณสวนรถไฟ
มันมีทางเชื่อมถึงกันได้ สะดวกดี
หลายคนหลบมานั่งพักรับสายลมเย็นในสวนหลังอาคาร
เราถ่ายรูป- แวะไปเซ็นสมุดเยี่ยมเยือน และกลับออกมา
ฉันคิดว่าที่นี่เหมาะทำกิจกรรมอะไรที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ นะ
และเหมาะกับคนที่อยากหามุมสงบปลีกวิเวกในระหว่างวัน--คงจะดี
แต่อย่าไปคิดว่าจะเหมือนสวนโมกข์ที่ไชยา สุราษฎ์ฯ นะ
คนละอารมณ์กันเลยทีเดียวเชียว
เพราะที่นี่คือ หอจดหมายเหตุค่ะ ผู้คนที่ไปก็จะได้เก็บเกี่ยวเอาสิ่งละอันพันละน้อยจาก 'แสงธรรม' และเรื่องราวของท่านพุทธทาสไปจากที่นี่...ลองแวะไปเที่ยวชมที่นี่กันนะเธอ....

----กลับบ้านล่ะนะ ----

Create Date : 20 ตุลาคม 2553 Last Update : 20 ตุลาคม 2553 11:10:41 น. Counter : 2069 Pageviews.		2 comments
Share Tweet