ตอนที่ 7 พระวิหารศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอินทารามวรวิหาร บางยี่เรือ ฝั่งธนบุรี กทม.
คลิกที่นี่ย้อนกลับไปดูตอนที่ 1 ทุกวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี อุ้มจะต้องมากราบพระเจ้าตากฯ
คลิกที่นี่ย้อนกลับไปดูตอนที่ 2 วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร
คลิกที่นี่ย้อนกลับไปดูตอนที่ 3 ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดหงส์ฯ
คลิกที่นี่ย้อนกลับไปดูตอนที่ 4 สระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์วัดหงส์ฯ กทม.
คลิกที่นี่ย้อนกลับไปดูตอนที่ 5 วัดสุทธาราม ซ.ตากสิน19 ฝั่งธนบุรี กทม.
คลิกที่นี่ย้อนกลับไปดูตอนที่ 6 วัดอินทารามวรวิหาร ฝั่งธนบุรี กทม.
การเดินทางถ้าขับรถยนต์มาเองก็มาตามแผนที่ข้างบนเลยค่ะ
แต่สำหรับอุ้มนั่งรถใต้ดิน MRT จากสถานีห้วยขวางมาลงสถานีสีลม 33 บาท ต่อรถไฟฟ้า BTS จากสถานีศาลาแดงมาลงที่สถานีตลาดพลู 44 บาท ต่อมอเตอร์ไซด์รับจ้าง 15 บาท วินอยู่ตรงบันไดทางลงสถานีตลาดพลูนั่งมายังวัดอินฯ
วัดอินทาราม เป็นคำสมาส อินทร์ แปลว่า เทวดาผู้ปกครองเทวดาทั้งหลาย และเป็นคติตั้งแต่ยุคต้นรัตนโกสินทร์ที่ใช้พระอินทร์เป็นสัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์ + อาราม แปลว่า วัด = อินทาราม วัดของพระอินทร์
สำหรับบางยี่เรือ คำว่า บาง หมายถึงชุมชนที่อยู่ริมน้ำ หรืออยู่บริเวณใกล้แม่น้ำ ส่วน ยี่เรือ ก็เนื่องมาจากบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งซุ่มยิงเรือเมื่อครั้งอดีต (ย้อนไปอ่านตอนที่ 6)
วัดอินทาราม เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดบางยี่เรือนอก ที่เรียกว่าบางยี่เรือนนอกด้วยเหตุตั้งอยู่ด้านนอก เพราะนับจากเมืองธนบุรีเก่าออกมา หลักฐานเช่นนี้จึงได้รู้ว่าวัดอินทารามได้นามว่า วัดบางยี่เรือนอก
ชาวบ้านเรียกว่า วัดบางยี่เรือนอก หรือ "วัดบางยี่เรือไทย" หรือ "วัดสวนพลู" ที่เรียกว่าวัดสวนพลู เนื่องจากแต่เดิม ที่ดินใกล้เคียงกับวัดเป็นสวนปลูกพลู เพราะหากล่องเรือมาจากอยุธยาจะถึงวัดอินทารามหลังสุดในบรรดาวัดที่ตั้งเรียงกันอยู่ 3 วัด ขณะที่จะเรียกวัดราชคฤห์ว่า "บางยี่เรือใน" และวัดจันทารามว่า "บางยี่เรือกลาง"
แต่เดิมหน้าวัดจะอยู่ติดกับคลองบางกอกใหญ่ แต่เมื่อตัดถนนแล้วจึงใช้ทางหลังวัดเป็นหน้าวัดด้วย
โบสถ์-วิหารเลยกลายมาอยู่ด้านหลังของวัดอินทารามแทนติดกับคลอง
ต่อมาเมื่อการรถไฟสายมหาชัยตัดเข้ามาทางข้างหลังวัด กินเนื้อที่เข้ามาทางด้านตะวันออกจดคลองบางยี่เรือ และกรุงเทพมหานครได้ตัดถนนเข้ามาเฉียดกำแพงรอบนอกพระอุโบสถจดคลองบางยี่เรือ เพราะเหตุนี้ ที่ดินวัดจึงแยกออกเป็นสองแปลง เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ 2 งาน เป็นที่ตั้งวัดและเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ 2 งาน 90 ตารางวา เป็นที่ธรณีสงฆ์สำหรับจัดหาผลประโยชน์บำรุงวัด
ต่อมาในปีพ.ศ. 2505 ทางวัดได้อนุญาตให้กระทรวงศึกษาธิการจัดสร้างโรงเรียนหนังสือไทย สังกัดกรมสามัญศึกษาในที่ดินของวัด ชื่อ โรงเรียนวัดอินทาราม ซึ่งอยู่ติดกับถนนเทิดไทย จำนวนเนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน
เข้าสู่ตอนที่ 7 ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของการมาสักการะในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 28 ธันวาคม 2558
วัดอินทารามเป็นวัดหลวงสำคัญอันดับหนึ่งในแผ่นดินกรุงธนบุรี เป็นวัดประจำรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พระเจ้าตากสินมหาราชทรงบูรณะวัดอินทารามให้เป็นพระอารามหลวงชั้นหนึ่ง สังเกตไหมคะ..ว่า พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงม้าถือดาบ แบบเดียวกับที่วงเวียนใหญ่
พระองค์ทรงสร้างหมู่กุฏิและถวายที่ดิน ให้เป็นธรณีสงฆ์เป็นจำนวนมาก แล้วโปรดให้นิมนต์พระเถระฝ่ายวิปัสสนามาจำพรรษา
เพราะมีพระราชประสงค์จะให้วัดอินฯ เป็นศูนย์กลางฝึกสมาธิทางวิปัสสนากรรมฐานของประเทศ และใช้ประกอบงานพระราชพิธีสำคัญ
เอนทรี่นี้จะยังคงอยู่ที่วัดอินทารามวรวิหาร เมื่อผ่านเข้าประตูวัดตรงเข้ามา 300 เมตร จะเห็นวิหารศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยค่ะ
โดยทั่วไปนั้นเรามักจะเห็นการนำถ้วยชามมาประดับจะต้องทุบเป็นเศษชิ้นเล็กๆ ก่อน แต่สำหรับพระอุโบสถสมัยกรุงธนบุรีที่วัดอินทารามแห่งนี้ไม่มีการทุบให้แตกดอกเจ้าค่ะ
แต่นำมาประดับบนหลังคาพระอุโบสถเลยค่ะ ถ้วยเป็นถ้วย โถน้ำก็เป็นโถน้ำตั้งเลย จานเป็นจาน
นับเป็นเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมการสร้างพระอุโบสถในสมัยกรุงธนบุรี ที่แตกต่างจากสมัยอื่นๆ โดยสิ้นเชิงค่ะ
วันที่อุ้มไปก็มีการเชิดสิงโตถวายสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชด้วยค่ะ
ศรัทธาค่ะศรัทธา
ว่าแล้วก็นำดอกไม้จุดธูปกราบสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ด้านนอกเรียบร้อยแล้ว
อุ้มก็เข้ามากราบพระองค์ท่านภายในพระวิหารค่ะ
ไปกราบพระองค์ท่านคนเดียวก็ให้พี่สาวคนนี้ถ่ายภาพให้ค่ะ วัดอินทารามเป็นวัดที่เคยปรากฏเรื่องเล่าถึงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ซึ่งชาวฝั่งธนบุรีเชื่อว่าดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่านยังสถิตอยู่ที่นี่ ดังนั้น ทุกปีในวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันตากสินมหาราช ชาวฝั่งธนบุรีจะประกอบพิธีบวงสรวงที่นี่อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงตรากตรำทำสงครามเพื่อคนไทยมาตลอดชีวิตของพระองค์ ชาวธนบุรีเคยมีเหตุการณ์ประหลาดอันเกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ
มีคนเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2498 เวลา 08.00 น. ขณะที่แม่ชีเหรียญคนดูแลวิหารน้อย เอากุญแจมาเปิดวิหารตามปกติ เพื่อให้คนมาสักการะบูชาดวงพระวิญญาณพระเจ้าตากสินฯ เมื่อแม่ชีปัดกวาดเช็ดถูเสร็จก็กลับออกไป
จากนั้นเวลา 09.00 น.เศษ ก็มีหญิงแปลกหน้าวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าชุดแดงทั้งชุด เดินเข้ามาในวิหารน้อย เมื่อมาถึงก็ก้มลงกราบที่หน้าพระแท่นบรรทม จากนั้นก็ก้าวขึ้นไปนั่งหลับตาทำสมาธิเป็นเวลานาน ทำให้สตรีที่เห็นเหตุการณ์ผู้หนึ่งไม่พอใจ ตรงเข้าไปต่อว่าที่หญิงชุดแดงทำตัวไม่เหมาะสม
แต่พอหญิงคนนั้นได้เห็นแววตาและใบหน้าของหญิงในชุดแดงจังๆ ถึงกับเข่าอ่อน ต้องทรุดลงนั่งกราบอยู่ตรงนั้น เธอเล่าว่า เธอมองเห็นใบหน้าของคนโบราณไว้หนวดยาวเฟื้อยซ้อนอยู่กับใบหน้าหญิงชุดแดงคนนั้น และยังตวาดเธอดังลั่นว่า
"เมิงบังอาจมาก ก็ที่ของ KU เคยประทับ KU จะขึ้นมามิได้รึ เมิงจงรู้เถิดว่า KU พระเจ้ากรุงธนบุรีได้มาอาศัยร่างของ E คนนี้ มาพบปะกับพวกเมิง เพราะวันหนึ่งๆ พวกเมิงพากันร่ำร้องถึงความเดือดร้อน จน KU อยู่ไม่เป็นสุข..KU จึงต้องมาพบพวกเมิง"
กิตติศักดิ์ขจรกระจายไปผู้คนมากันมากราบไหว้สักการะจนการจราจรที่หน้าวัดติดขัด จนสุดท้ายตำรวจต้องมาพาหญิงชุดแดงไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ ได้ความว่า หญิงชุดแดงนั้นชื่อ นางเพี้ยน ลิ้มลาย อายุ 35 ปี ขายยาเส้นอยู่ใกล้วัดอินทาราม สติไม่ดี อ่านและเขียนหนังสือไม่เป็น ไม่เคยมีความรู้ในประวัติศาสตร์มาก่อน และยังไม่รู้ตัวด้วยว่าเข้ามาในวิหารน้อยได้อย่างไร แถมยังพูดจาฉะฉาน ตอบคำถามในเรื่องประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดีและถูกต้อง เป็นความเชื่อและศรัทธาน่ะค่ะก็เลยเล่าสู่กันฟังค่ะ
สำหรับพระวิหารศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งนี้ พระแท่นบรรทมและพระบรมรูปจำลองแบบทรงพระกรรมฐาน นายต่าง บุญยมานพ ได้จ้างช่างปั้นตู้กระจกครอบกับพระแท่น ท่านเจ้าคุณทักษิณคณิศร ได้ช่วยออกสมทบทุนห่างจากเขื่อนริมคลองบางกอกใหญ่ มา 40 เมตร กว้าง 16 เมตร ยาว 16 เมตร ได้ซ่อมแซมขึ้นอีกเมื่อ พ.ศ. 2481
สำหรับพระแท่นบรรทมนั้นพระองค์ท่านเคยใช้เป็นที่ประทับแรมทรงธรรมและกรรมฐาน เป็นไม้กระดาน 2 แผ่น กว้างแผ่นละ 80 เซนต์ ยาว 2 เมตร 48 เซนต์ กว้าง 1 เมตร 76 เซนต์ มีลูกกรงงา 112 อัน (หลุดหายไปเสีย 4 อัน) กับแผ่นสลักลายงาวิจิตรด้วยดอกไม้คั่นอยู่ภายในลูกกรงงา มี 30 แผ่น (หลุดหายไปเสีย 4 แผ่น) ที่สุดของลูกกรงงามีหัวเม็ดและโคนรวมเป็นงารวม 6 อันหายไป 3 อัน มีเสาสำหรับพระวิสูตร 4 เสา 2 เสา
หน้าพระแท่นที่แผ่นงาสลักลายวิจิตรประกอบเสาเบื้องบนทั้งซ้ายขวาดังรวงผึ้งรวม 4 เสา หายไป 2 แผ่น แต่ก่อนพระบรมรูปจำลองเท่าพระองค์จริงในแบบทรงพระกรรมฐานอยู่บนพระแท่น ต่อมาในปี พ.ศ.2509 ทางวัดได้ย้ายออกมาจากพระแท่นไปไว้อีกข้างหนึ่ง โดยทำที่ประดิษฐานใหม่อย่างสวยงาม
วิหารนี้เปิดให้ถวายสักการะได้ทุกวันไม่มีวันหยุดนะคะ
ที่มาของข้อมูลในเอนทรี่นี้มาจากหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้ แจกฟรีไม่มีจำหน่ายค่ะ มีวางให้หยิบได้ฟรีที่วิหารศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หากสนใจจะสั่งพิมพ์เพื่อถวายแก่วัดอินทารามวรวิหาร สามารถติดต่อได้ที่
พระครูสุวิมลธรรมโสภิต เจ้าอาวาสวัดอินทารามวรวิหาร เลขที่ 256 ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 โทรศัพท์ : 08-1732-6586
มาชมความงามของพระอุโบสถเก่าที่สร้างตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาโน้นแน่ะ
เป็นพระอุโบสถที่เป็นศิลปะแบบจีน ไม่มีช่อฟ้า ไม่มีใบระกา ไม่มีหางหงส์ โครงสร้างก่ออิฐถือปูน
ลักษณะเด่นก็คือ หลังคาพระอุโบสถจะประดับตกแต่งด้วยถ้วย ชาม แจกัน ที่วาดลวดลายสวยงาม นับเป็นพระอุโบสถที่แปลกตา อเมซิ่งค่ะ
มีพระเจดีย์กู้ชาติคู่หนึ่ง ตั้งอยู่หน้าพระอุโบสถหลังเก่า ภายในเชื่อกันว่าบรรจุพระบรมอัฐิ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระอัครมเหสี
ลักษณะเป็นพระบรมธาตุทรงกลีบดอกบัวสีทอง 2 องค์
องค์แรกเป็นพระบรมธาตุของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อีกองค์ที่ตั้งคู่กันเป็นพระบรมธาตุของพระมเหสีของพระองค์
มีป้ายบอกไว้อย่างชัดเจนค่ะ
ป้ายข้อมูลหน้าประตูวิหารศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเยื้องพระเจดีย์กู้ชาติค่ะ
อุ้มขอใช้คำว่าต้องเข้ามากราบสักการะภายในเลยนะคะ ที่นี่จะมีคนนำกล่าวด้วยนะคะเป็นลุงดูแลพระอุโบสถ-วิหารนี้ ลุงรู้ประวัติละเอียดมาก
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปจำนวน 25 องค์ โดยมีทั้งพระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทร์ พระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นสังเกตได้จากลักษณะองค์พระพุทธรูป จะไม่เหมือนคนจริง
ลักษณะพระพักตร์ลักษณะเป็นทรงเหลี่ยม แกะสลักจากศิลาที่เป็นหินทรายแดง และฐานพระพุทธรูปจะมีลักษณะเป็นรูปทรงเรือสำเภา
ณ พระอุโบสถหลังเก่าแห่งนี้มีพระพุทธรูปปางตรัสรู้เป็นพระประธานของพระอุโบสถ มีการบรรจุพระบรมราชสรีรังคาร หรือ เถ้ากระดูกของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เวลาผู้คนมาสักการะจะรู้สึกเหมือนว่าได้สักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินด้วยค่ะ
ที่นี่คือโบสถ์มหาอุตม์ คือมีแต่ประตูไม่มีหน้าต่าง ซึ่งความหมายในทางธรรม การปิดช่องทวารทั้งหกหมายถึง ประเสริฐดีเลิศ ส่วนทางโลก คือ หนังเหนียว คงกระพันชาตรี
ท่านเจ้าคุณพระทักษิณคณิศร ได้เจาะเปิดผนังทำหน้าต่าง เมื่อท่านมาอยู่พระพุทธรูปในพระอุโบสถเดิมพระเศียรหักพังหลุดไปเป็นส่วนมาก คุณนายเลียบ มารดาท่านผู้หญิงสุธรรมมนตรี (กิมไล้ สุจริตกุล) ได้ถวายเงิน 14,000.- บาท จึงได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นกับพระวิหารไว้พระแท่นของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี และกำแพงรวมทั้งสองหลังพระอุโบสถเดิมเดี๋ยวนี้ใช้เป็นพระวิหาร ประดิษฐานพระรูปฉลองสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี บนหลังคา และหน้าบันประดับเครื่องลายคราม ระยะล่างจากเขื่อนริมคลองบางกอกใหญ่มา 33 เมตร ยาว 27 เมตร
ดั่งคำพระราชปณิธาน ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อันตัวพ่อ ชื่อว่า พระยาตาก ทนทุกข์ยาก กู้ชาติ พระศาสนา ถวายแผ่นดิน ให้เป็น พุทธบูชา แด่ศาสนา สมณะ พระพุทธโคดม
ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี สมณะพราหมณ์ ปฏิบัติ ให้พอสม เจริญสมถะ วิปัสสนา พ่อชื่นชม ถวายบังคม รอยบาท พระศาสดา
คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา พระพุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตรา พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน
ซึ่งคำพระราชปณิธานนี้ก็จะเห็นที่ด้านหลังของพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ องค์สีทองที่ประดิษฐานที่ข้างพระอุโบสถหลังใหม่ด้วยนะคะ
มหากาพย์การมาสักการะ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวันจันทร์ที่ 28 ะันวาคม 2558 ก็จบลงด้วยภาพนี้นะคะ
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล 1. ประวัติอินทารามโดยสังเขป ของท่านเจ้าคุณพระวิเชียรมุนี พิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2497 2. ประวัติวัดอินทาราม ของพระใบฎีกาสด สิงหเสนี พิมพ์ครั้งที่ 1 ที่โรงพิมพ์ยิ้มศรี 3. ประวัติวัดอินทาราม ของพระใบฎีกาสด สิงหเสนี พิมพ์ครั้งที่ 2 ที่โรงพิมพ์ศรีหงส์ 4. พงศาวดารภาคที่ 64 ฉบับพันจนานุมาศ (เจิม) 5. จากจารึกสยามภาคที่ 1 ตอนจารึกสุโขทัย 6. อนุสรณ์กระถิน ของกรมสวัสดิ์การทหารเรือ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2502 7. คำบอกเล่าของผู้อาวุโสในพื้นที่ 8. เอกสารจากหอสมุดแห่งชาติ 9. เอกสารจากหอสมุดกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
พอดีเหลือบไปเห็นกุฏิเจ้าอาวาสที่อยู่ไม่ไกลจากอุโบสถเก่าก็เลยมีภาพสวยๆ มาฝากเพิ่ม
สีสวยและงดงามมากเลยค่ะหมู่กุฏิ
อย่าลืมแวะไปชมด้วยตาตัวเองค่ะ
เดี๋ยวจะหาว่าอุ้มไม่บอกค่ะ
บล็อกหน้าก็จะเป็นภาพวัดจันทารามวรวิหาร ขอบคุณทุกเม้นท์นะคะว่างจะไปเม้นท์คืน
ขอขอบคุณ ...BG : คุณป้าเก๋า ชมพร / กรอบ : น้อง KungGuenter ดุ๊กดิ๊ก : คุณชมพร & คุณญามี่ / กล่องคอมเม้นท์ : คุณ lozocat โค้ดแต่ง Blog : ป้ามด & คุณเนยสีฟ้า : คุณป้าเก๋า ชมพร
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2559 |
|
49 comments |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2559 0:00:33 น. |
Counter : 7158 Pageviews. |
|
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
อุ้มสี Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
"""""""""""""""
เจิมจ้าาาา