ตอนที่ 2 : ฝันเป็นจริงเมื่อได้มาทำบุญที่อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อเมซิ่งมากค่ะ
คลิกย้อนไปอ่านตอนที่ 1 : สีสันรสชาติของชีวิต เข้าสู่ตอนที่สองเป็นเช้าวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 เป็นเช้าของวันที่ 2 ที่อุ้มมาพักผ่อนนอนเล่นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ถามว่าระหว่างที่นอนคนเดียวท่ามกลางบรรยากาศเมืองสังขละฯ เป็นอย่างไร ? อุ้มตื่นกลางดึกมาสองครั้ง ครั้งแรกตอนเที่ยงคืนตื่นมาได้กลิ่นบุหรี่เหม็นมากเหมือนใครมาสูบบุหรี่อยู่ข้างๆ แล้วอุ้มก็ลุกไปปัสสาวะ พอกลับมาก็ท่องนะโมตัสสะ 3 จบ แล้วก็บอกว่าลูกมาประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวให้ค่ะ ว่าแล้วก็นอนหลับต่อ พอรู้สึกตัวอีกทีก็ตีสี่กว่าตื่นมาเพราะเหม็นบุหรี่เหม็นบุหรี่ซิกการ์มวนโตๆ นั้นแหละ เหมือนใครมานั่งพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าเลยค่ะ ตื่นมาก็มองไปรอบๆ แล้วเปิดทีวีเปิดเพลงไว้เป็นเพื่อนถามว่ากลัวไหม ไม่กลัว เพราะเดินทางคนเดียวบ่อยครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่สงสัยเรื่องกลิ่นบุหรี่มากเลย ใจหนึ่งก็คิดว่าคงไม่เกี่ยวที่หน้าห้องหน้าประตูอุ้มติดภาพรัชกาลที่ 5 ใหญ่มากเน๊าะ แล้วก็หลับต่อ ตั้งใจจะตื่นมาตีห้ารอฟังเสียง Morning Call ก็หามีไม่ ตื่นเองตอนตีห้าครึ่งรีบอาบน้ำแล้วก็เดินออกมาที่สะพานไม้ มีหลายคนตื่นมารอใส่บาตรค่ะ ใครที่ไม่ได้เตรียมของใส่บาตรที่นี่มีชุดละ 99 บาทเตรียมให้เลยค่ะ ใส่บาตรเสร็จก็มายืนสูดโอโซนบนสะพานไม้ สุดยอดวิวสวยมากค่ะ 6 โมงกว่าแล้วมองไปทางไหนอากาศก็บริสุทธิ์สดใส คุ้ม สมใจอยากที่ได้มาตักบาตรบนสะพานไม้ที่อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากนั้นอุ้มก็ขอมาเดินบนสะพานลูกบวบที่สร้างให้คนที่นี่ได้ข้ามไปมา ระหว่างที่สะพานไม้ยังซ่อมแซมอยู่ค่ะ จนแม้สะพานเสร็จก็ไม่ได้รื้อสะพานลูกบวบเลยค่ะ แม้ว่าอุ้มจะเดินทางคนเดียว...ภาพนางก็มีเยอะเจ้าค่ะ บอกแล้วว่าที่ไหนมีนักท่องเที่ยวเยอะ...ภาพนางก็จะเยอะตามไปด้วย เพราะนางจะหน้าด้านบอกเขาว่า "ขอโทษนะคะถ่ายภาพให้หน่อยค่ะ" อิอิอิ หลังจากที่นาง Action หมุนซ้ายหมุนขวาแล้ว นางก็ตัดสินใจว่านางจะไปไหว้พระที่วัดกลางน้ำดีกว่าไหนๆ ก็มาสังขละฯ แล้ว ค่าเรือลำละ 300 บาท ไปวัดเดียว ถ้า 2 วัดก็ 500 บาท มี 4 วัดเจ้าค่ะที่จมน้ำ แต่นางเลือกวัดเดียวดีกว่าเพราะเดินทางคนเดียวไปคนเดียว เรือเขาก็เลยลดให้คิดเพียง 250 บาทค่ะ ก็เลยถามคนขับที่เป็นกะเหรี่ยงว่าได้ค่าขับเรือ/ครั้งละเท่าไหร่? เขาตอบว่าลำละ 50 บาท ด้วยเพราะอากาศฝนตกตอนดึกยันฟ้าสาง บรรยากาศของแม่น้ำซองการเรียจึงยังขมุกขมัวอยู่เลยค่ะ อำเภอสังขละบุรีเป็นอำเภอชายขอบที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ 215 กิโลเมตรของเส้นทางหลวงหมายเลข 323 เป็นถนนตัดผ่านภูเขาเลียบทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) ตัวอำเภอสังขละบุรีตั้งอยู่บริเวณที่ลำน้ำสามสายมาบรรจบกันอันได้แก่ แม่น้ำซองกะเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี รวมเรียกว่า สามประสบ แล้วไหลรวมกันเป็นแม่น้ำแควน้อย วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญร่วมกันสร้างในปี พ.ศ.2496 ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาปี พ.ศ.2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า วัดวังก์วิเวการาม โดยตั้งตามชื่ออำเภอเดิม คือ อำเภอวังกะ-สังขละบุรี ซึ่งต่อมาถูกยุบเป็นกิ่งอำเภอก่อนที่จะยกฐานะเป็นอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีในปี พ.ศ.2508 ว๊าวววว ตรงกับอุ้มเกิดเลยค่ะ 2508 ต่อมาปี พ.ศ. 2527 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำแล้ว น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดและอาคารบ้านเรือน ปัจจุบันอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำ ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งยามใดที่น้ำได้ลดระดับลง วัดบ้านเก่าที่จมอยู่เป็นเมืองบาดาลทั้งเมืองโบราณสถานก็ปรากฏแก่สายตาชาวโลก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็คือระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่น้ำในเขื่อนลดลงต่ำสุด ตอนอุ้มไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ค่ะ วัดบ้านเก่าเป็นวัดแรกเลยค่ะ ถ้าลงเรือมาก็มักจะมาวัดนี้กัน อุ้มรู้งี้ไปวัดอื่นดีกว่าภาพจะได้แตกต่างมั่งเน๊าะ บรรยากาศหน้าพระอุโบสถที่จมน้ำค่ะ จะมีเด็กๆ ชาวกะเหรี่ยงมาขายดอกไม้ไหว้พระ กำละ 10 บาทค่ะ เรือเขาจอดให้เราได้ถ่ายภาพตามสบายเลยค่ะ คุณนายอุ้มเลยถ่ายภาพจากมือถือกระหน่ำ ขนาดที่อุ้มเป็นเที่ยวแรกของเช้าวันเสาร์ คนยังเยอะ ยิ่งช่วงสายๆ เรือไม่พอ ต้องมีการรอคิวเลยนะคะ แต่ก็คิดลำละ 300 บาท ไม่มีโก่งราคาแต่ประการใด นอกจากขายดอกไม้แล้วเด็กยังเป็นไกด์ประวัติของวัดนี้ให้ฟังด้วยค่ะ แต่สำหรับอุ้มยกหน้าที่ช่างภาพประจำตัวอีกตำแหน่งหนึ่งให้ค่ะ สาธุ อุ้มไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาสังขละ แถมไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาวัดใต้น้ำ ที่โผล่ขึ้นมาให้เห็น อเมซิ่งจริงๆ สำหรับตัวเอง ได้มาที่นี่ถือเป็นไฮไลต์ของชีวิตในปี 57 ค่ะ ถือเป็นการทำบุญไปในตัว โยนเหรียญลงบาตรพระ กว่าจะลงก็เหรียญที่ 5 น่ะค่ะ ส่วนไกด์อุ้มเป็นสาวน้อยผ้าถุงเขียวนี่แหละ ชอบภาพนี้ที่สุด แต่จะว่าไปชอบภาพเด็กทุกภาพเลยค่ะ ไว้ค่อยส่งเป็นโปสการ์ดมาให้เน๊าะ ภาพเด็กเด็กน่ารักตรงแป้งทานาคานี่แหละ อิอิอิ ปีใหม่ที่ผ่านมาใครได้รับโปสการ์ดภาพเด็กสองภาพนี้บ้างเอ่ย ชอบค่ะ น่ารักจริงๆ จบตอนที่สองแต่เพียงเท่านี้ ไว้ว่างๆ จะไปแปะหัวใจให้ต่อนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะVIDEO ขอขอบคุณ BG : น้องญามี่ / เพลง : คนแบกเป้ : น้าแอ๊ด คาราบาว กรอบ : น้อง KungGuenter / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย ของแต่ง BLOG : คุณชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2558
119 comments
Last Update : 5 มีนาคม 2561 22:41:39 น.
Counter : 3708 Pageviews.
เเผ่นะโมไปเลยค่ะ
ว่ากลิ่นบุหรี่ที่ทำให้ตื่นขึ้นมากลางดึก
คือฝันไป บรื้อ .......
เข้ามาเเปะเเละโหวตท่องเที่ยวให้นะคะ
โดย : Quel
วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:23:30:15 น.