พฤศจิกายน 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เรื่องย่อ "กี่เพ้า" << จบบริบูรณ์ >>
“กี่เพ้า”


บทประพันธ์ : พงศกร
บทโทรทัศน์ : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ - ตุลย์
กำกับการแสดง : โชติรัตน์ รักเริ่มวงษ์
แนวละคร : ดราม่า - ทริลเล่อร์
ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ออกอากาศ : พุธ -พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม พฤหัสบดีที่ 1 พฤศิกายน พ.ศ. 2555 -
จำนวนตอนออกอากาศ : 14 /+/-

“รอยรัก แรงแค้นจากปรภพ ฝังลึกในกี่เพ้าชุดงาม
ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด
โบตั๋นกลีบบาง...ยังคงรอวันหวนกลับคืน”

       เพกา หรือ พิ้งค์ เป็นภัณฑารักษ์สาวไทย อยู่ที่สถาบันเสื้อผ้าแห่งเอเซียที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย เธอเป็นสาวไทยรูปร่างสูงระหง ทำงานเก่ง เป็นที่ชื่นชมของ แฮโรลด์ ผู้อำนวยการสถาบัน

       วันหนึ่งเพกาได้พบกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ดวงหน้าหล่อเหลา ดวงตาเรียวยาวแบบหนุ่มจีนผู้สง่างาม เจ้าหมิงเทียน หรือ แดเนี่ยล บุตรชายของ เจ้าเหวินเยี่ย ผู้เป็นเจ้าของกี่เพ้าโบราณสามสิบชุดที่ถูกส่งมาจัดแสดง ณ สถาบันแห่งนี้ เจ้าหมิงเทียนเดินทางมาดูแลกี่เพ้าเหล่านั้นแทนบิดาที่เป็นเจ้าของบริษัท ‘เจ้าเจิ้นเหวิน’ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายยารายใหญ่ของฮ่องกง

       เจ้าเหวินเยี่ยร่วมกันกับ หวางลี่ผิง ภรรยาที่เป็นเภสัชกรเหมือนกัน พัฒนากิจการร้านยาเล็กๆ จนกลายเป็นบริษัทใหญ่ ครอบครัวของเขากลายเป็นผู้มีอันจะกิน เจ้าของคฤหาสน์ใหญ่บนเกาะฮ่องกง

       บิดาของเจ้าหมิงเทียนมีงานอดิเรกคือสะสมเสื้อผ้าโบราณ แฮโรลด์รู้ว่าเจ้าเหวินเยี่ยมีกี่เพ้าล้ำค่าในคอลเลคชั่นจำนวนมาก ก็พยายามอ้อนวอนขอยืมมาจัดแสดงที่สถาบัน จนเจ้าเหวินเยี่ยยอมใจอ่อนในที่สุด
       เพการู้สึกประทับใจกับใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางสง่างาม และบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดของเจ้าหมิงเทียน แต่เพการู้สึกได้ว่าเจ้าหมิงเทียนเป็นคนอมทุกข์ เก็บตัวจนเกือบเย็นชา หลายครั้งเจ้าหมิงเทียนแอบมองเธอด้วยความไม่พอใจ และบางครั้งถึงกับหงุดหงิดใส่เพกา

       เพกาช่วยกันกับ เดซี่ ผู้ช่วยของเธอ ตรวจรับกี่เพ้าที่บรรจุอยู่ในกล่องโลหะแต่ละกล่องของเจ้าเหวินเยี่ยด้วยความตื่นตะลึง เพราะกี่เพ้าแต่ละชุดที่เจ้าเหวินเยี่ยส่งมาให้นั้นมีอายุเก่าแก่นับร้อยปี อยู่ในสภาพสวยสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งมาถึงกี่เพ้ากล่องสุดท้ายกล่องที่สามสิบ ก็ปรากฏว่าขณะที่เพกาหยิบห่อกี่เพ้าออกมาจากกล่องนั้น มีห่อผ้ากำมะหยี่อีกหนึ่งห่อตกออกมาจากกล่องโลหะด้วย เมื่อเพกาค่อยๆ เปิดห่อผ้าออกด้วยความระมัดระวัง หญิงสาวก็ต้องตื่นตะลึง เมื่อพบว่าในห่อผ้านั้นมีกี่เพ้าตัดเย็บด้วยฝีมือระดับมาสเตอร์พีซ เป็นกี่เพ้าที่ทำขึ้นใหม่ สีแดงสดปักลวดลายดอกโบตั๋นสีชมพู ที่น่าแปลกคือ ที่บริเวณอก มีร่องรอยการถูกกรีดแทงจนเสียหาย

       แฮโรลด์ตัดสินใจสั่งเพกาให้นำกี่เพ้าชุดพิเศษนี้ขึ้นแสดงเป็นชุดไฮไลต์ในนิทรรศการด้วย เพกาเริ่มรู้สึกลุ่มหลงในกี่เพ้าชุดนั้น เธอแอบนำกี่เพ้าชุดที่สามสิบเอ็ดมาสวม

       เพกาพบความประหลาดใจว่าเธอสวมกี่เพ้าชุดนั้นได้พอดีราวกับเป็นชุดของตนเอง และก่อนที่เธอจะทันรู้สึกตัว เพกาก็เกิดอาการหน้ามืดไปชั่วขณะ ท่ามกลางความรู้สึกกึ่งมีสติ กึ่งสลึมสลือ เธอก็บังเกิดนิมิตได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากนั้นก็มองเห็นมือของใครคนหนึ่งถือมีดปลายแหลม จ้วงแทงลงมาที่หน้าอกของเธอจนสุดแรง!

       ดวงตาของเธอพร่าพรายราวจะหมดสติ เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่แทงเธอนั้นคือใคร แต่สิ่งเดียวที่เพกาจำได้ก็คือ เธอพยายามต่อสู้ และเห็นว่ามือที่จ้วงแทงลงมานั้นสวมกำไลหยกลวดลายมังกร การต่อสู้ทำให้กำไลหยกนั้นหักเป็นสองท่อน จากนั้นเพกาก็หมดสติไป

       ในที่สุดวันเปิดนิทรรศการกี่เพ้าโบราณก็มาถึง เจ้าหมิงเทียนมาถึงงาน โดยมีสาวทันสมัย หน้าตาสวยงามอยู่ข้างกาย เจ้าหลินเพ่ย ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเจ้า ซึ่งแฮโรลด์แอบกระซิบว่าเจ้าหลินเพ่ยไม่ใช่ลูกสาวจริงๆ ของเจ้าเหวินเยี่ย แต่เป็นลูกติดของ หลินเหม่ยอิง ภรรยาคนที่สองของเจ้าเหวินเยี่ย เจ้าหลินเพ่ยไม่ชอบหน้าเพกาในทันทีที่ได้พบกัน

       เมื่อครอบครัวของเจ้าหมิงเทียนได้เห็นกี่เพ้าชุดแดงลายโบตั๋นสีชมพู พวกเขาโกรธมาก พวกเขาไม่รู้ว่ากี่เพ้าชุดนี้มาปรากฎขึ้นที่นี่ได้อย่างไร เจ้าเหวินเยี่ยตบหน้าเจ้าหมิงเทียนเพราะเข้าใจว่าเขาเป็นผู้นำมา เจ้าเหวินเยี่ยโวยวายให้ปิดการแสดงทั้งที่เพิ่งเปิดขึ้นได้เพียงวันเดียว

       แฮโรลด์เดือดร้อนมาก เขาให้เพกาตามเจรจากับเจ้าหมิงเทียนเพื่อขอจัดแสดงต่อ เจ้าหมิงเทียนที่ยังมีภารกิจติดต่อธุรกิจด้านยาในเมืองไทยอีกสามสัปดาห์ เมื่อถูกเพกาตามตอแยมากๆ ไล่ก็ไม่ไป เจ้าหมิงเทียนเลยให้เพกาเป็นเลขาส่วนตัว พาเขาขึ้นเหนือล่องใต้เพื่อเสาะหายาสมุนไพรไทยมาจัดจำหน่ายที่ฮ่องกง ระหว่างนั้นเจ้าหมิงเทียนแสดงอาการหงุดหงิดเพกาหลายครั้ง เพกาเองก็เข้าใจผิดไปว่า เจ้าหมิงเทียนคิดจะฮุบเอายาสมุนไพรไทยไปเป็นของเขา ทั้งสองมีเรื่องมีราวถึงขั้นออกปากไล่กันบ่อยๆ ในระหว่างการเดินทางอันแสนโกลาหล กับคนขับรถชาวไทยจอมเซ่อซ่าชื่อ นายเขียว และคนสนิทของเจ้าหมิงเทียนชาวฮ่องกงจอมวุ่นวายชื่อ อาตง

       เพกาไม่รู้ว่า สาเหตุแห่งความหงุดหงิดนี้เกิดขึ้นเพราะ เจ้าหมิงเทียนเคยรักกับผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็มาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้ชายหนุ่มจมอยู่กับความหม่นเศร้า และให้บังเอิญเหลือเกินเพกามีอะไรหลายอย่างเหมือนผู้หญิงไทยผู้เป็นที่รักของเขา นิสัยจริงจัง ตรงไปตรงมา รักความถูกต้อง ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน เปิ่นซ่า ขยันหาความเดือดร้อน ทั้งหมดทั้งปวงเหล่านี้ทำให้เจ้าหมิงเทียนหงุดหงิด ไม่ชอบอยู่ใกล้ แต่ในทางตรงกันข้าม เขาก็อดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยความห่วงใยไม่ได้

       ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ลุ่มๆ ดอนๆ เพกาเริ่มสนิทสนมกับเจ้าหมิงเทียน จนได้รู้ว่ากี่เพ้าชุดนั้นเป็นของ เมย์ลี...หรือ สุคนธา หญิงไทยผู้เป็นที่รักของเขา เจ้าหมิงเทียนขอร้องให้เพกาช่วยซ่อมแซมกี่เพ้าชุดแดงให้กับเขา แล้วเขาจะพูดกับเจ้าเหวินเยี่ยเรื่องเปิดนิทรรศการให้ อากาศคืนนั้นหนาวมาก เพกาสวมเสื้อบางๆ ไม่ได้นำเอาเสว็ตเตอร์มาด้วย เจ้าหมิงเทียนจึงถอดเสื้อของเขาสวมให้เธอ และทันใดนั้นเองแขนเสื้อของเจ้าหมิงเทียนก็เผยอขึ้น เผยให้เห็นกำไลหยกแบบเดียวกันกับที่เพกาเห็นในนิมิต!

       กำไลหยกของชายหนุ่มหักกลางและมีลวดทองคำถักร้อยเชื่อมกำไลสองท่อนเข้าด้วยกัน! เจ้าหมิงเทียนอธิบายว่าผู้ชายจีนหลายคนก็สวมกำไลหยกเป็นเรื่องปกติ เพราะหยกมีพลังอำนาจที่จะสร้างเสริมบารมีให้กับผู้สวมใส่ สำหรับกำไลหยกที่เขาสวมนี้ เจ้าเหวินเยี่ยได้หยกก้อนใหญ่มาเมื่อหลายสิบปีก่อน จึงทำให้กับสมาชิกครอบครัวตระกูลเจ้าทุกคนสวม เพื่อเตือนใจว่ากำไลหยกทุกอันสลักมาจากหยกก้อนเดียวกัน เหมือนกับทุกคนเป็นสายเลือดในตระกูลเดียวกัน จึงสมควรจะต้องรักใคร่กลมเกลียวกันเอาไว้ให้ดี

       เพการู้สึกกังวลยิ่งกว่าเก่า นั่นหมายความว่า มีผู้ต้องสงสัยเป็นฆาตกรฆ่าเจ้าของชุดกี่เพ้าแดงในตระกูลเจ้าหลายคน เพกากลับบ้านไปด้วยความรู้สึกค้างคาใจ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า ผู้ชายท่าทางอ่อนโยน มีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จะเป็นฆาตกรใจโหดไปได้...

       หลังจากนิทรรศการสิ้นสุดลง ทางสถาบันเสื้อผ้าแห่งเอเซียก็เตรียมส่งกี่เพ้ากลับคืนบ้านตระกูลเจ้า เพกาคิดหนักว่าจะหาทางสืบเรื่องกี่เพ้าสีแดงนั้นอย่างไร ก็พอดีกับที่ ไบรอัน เด็กนักศึกษาฝึกงานบังเอิญทำกี่เพ้าสีชมพูปักลวดลายนกยูงขาด กี่เพ้าชุดนี้เป็นของล้ำค่ามาก เนื่องจากเป็นกี่เพ้าของมาดามซุนยัดเซ็น เสียหายไปแล้วต่อให้มีเงินร่ำรวยล้นฟ้าก็ไม่สามารถหาได้ที่ไหนอีก

       แฮโรลด์ตกใจแทบช็อค ไบรอันโดนเอ็ดจนแทบจะไปฆ่าตัวตาย เพกาตรวจดูความเสียหายแล้วก็พบว่าสามารถจะซ่อมแซมให้เหมือนเก่าได้ แต่ต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่าห้าหรือหกเดือน เนื่องจากกระบวนการซ่อมละเอียดอ่อน เธอจำเป็นจะต้องเสาะหาเส้นไหมที่มีสีและลักษณะใกล้เคียงกับของเดิมมาทอเสริมเข้าไป

       เจ้าเหวินเยี่ยรู้ข่าวกี่เพ้าจากแฮโรลด์ด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่พอเขารู้ว่าเพกาสามารถซ่อมกี่เพ้าได้ก็รู้สึกพอใจ เขายอมตกลงให้เพกาซ่อมกี่เพ้ามาดามซุนยัดเซ็นให้เหมือนเดิม แต่มีข้อแม้ว่าเพกาจะต้องเดินทางไปซ่อมกี่เพ้าที่คฤหาสน์ตระกูลเจ้าที่ฮ่องกง

       เพกาตัดสินใจรับงานชิ้นนี้ เธอต้องการเดินทางไปสืบประวัติของกี่เพ้าชุดที่สามสิบเอ็ดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมย์ลี...เจ้าของกี่เพ้าชุดนี้กันแน่ และเจ้าหมิงเทียนคือฆาตกรที่ฆ่าเธอใช่หรือไม่...

       เมื่อมาถึงฮ่องกง เจ้าหมิงเทียนพาเพกาไปไหว้พระที่วิหารหว่องไทซินหรือวิหารหวังต้าเซียน ขณะกำลังไหว้พระอยู่นั่นเอง เพกาก็ถูกผู้ชายหนุ่มชาวจีน รูปร่างผอมสูงคนหนึ่งวิ่งมาชนอย่างตั้งใจ ขณะที่เธอกำลังตกใจ ผู้ชายคนนั้นก็ยัดกระดาษแผ่นหนึ่งใส่ในมือของเพกา เมื่อเธอเปิดออกดูก็ต้องประหลาดใจ เพราะในกระดาษนั้นมีตัวหนังสือภาษาจีนอยู่หนึ่งคำ ตัวอักษรนี้อ่านว่า “สื่อ แปลว่า ความตาย”!

       ที่คฤหาสน์ตระกูลเจ้า เพกาได้พบกับ เป่าหลิน และ ซิ่วหลาน เป่าหลินเป็นสาวใช้ของหลินเพ่ยอิงและเจ้าหลินเพ่ยสองแม่ลูก ท่าทางของเธอเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโสเหมือนกับเจ้านายของตัวเอง เป่าหลินรู้สึกไม่ชอบหน้าเพกาตั้งแต่แรกพบ ขณะที่ซิ่วหลานเป็นสาวใช้วัยกลางคน มีท่าทางเป็นมิตรและชื่นชมเพกาเป็นอย่างมาก เธอคือพี่เลี้ยงของเจ้าหมิงเทียน ทำงานรับใช้บ้านตระกูลเจ้ามาหลายสิบปี จนเจ้าเหวินเยี่ยไว้วางใจถึงกับมอบกำไลหยกลายมังกรให้กับซิ่วหลาน
เพกาได้รู้เพิ่มเติมว่า หวางลี่ผิงมีบุตรชายสองคนคือ เจ้าหมิงซาน และเจ้าหมิงเทียน แต่เจ้าหมิงซานประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ในอดีต เจ้าเหวินเยี่ยได้พบกับหลินเพ่ยอิงซึ่งเป็นนักร้องในไนต์คลับแห่งหนึ่ง เขารับเธอมาเป็นภรรยาคนที่สอง สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับหวางลี่ผิงมาก บุคลิกของหวางลี่ผิงจึงดูห่างเหินและชาเย็นอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้ามาเป็นภรรยาของเจ้าเหวินเยี่ย หลินเพ่ยอิงมีสามีแล้ว แต่สามีเป็นนักเลงหัวไม้ ถูกตัดสินลงโทษให้จำคุกตลอดชีวิต หลินเพ่ยอิงมีลูกสาวกับสามีเก่าติดมาด้วยคนหนึ่ง ซึ่งก็คือเจ้าหลินเพ่ยนั่นเอง ต่อมาเจ้าเหวินเยี่ยก็รับเจ้าหลินเพ่ยเป็นลูกสาวบุญธรรม หวางลี่ผิง – คุณนายใหญ่ และหลินเพ่ยอิง – คุณนายสอง จึงไม่ถูกกัน เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด

        หวางลี่ผิงจัดห้อง ‘ดอกไม้’ ให้เพกาพัก ท่ามกลางความไม่สบายใจของเจ้าหมิงเทียน เพราะมันเคยเป็นห้องพักของสุคนธามาก่อน

        พ่อของสุคนธากับเจ้าเหวินเยี่ยเป็นเพื่อนรักกัน เคยให้สัญญากันว่า หากมีลูกคนแรกเป็นเพศเดียวกัน ก็จะให้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่ถ้าหากลูกคนโตของทั้งสองฝ่ายเป็นคนละเพศ ก็จะให้แต่งงานกันเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล ดังนั้นเมื่อบุตรชายคนโตของเจ้าเหวินเยี่ยคือเจ้าหมิงซาน สุคนธาและเจ้าหมิงซานจึงเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันมาตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายยังเป็นเด็ก

        อยู่มาวันหนึ่งพ่อและแม่ของสุคนธาเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตทั้งคู่ เจ้าเหวินเยี่ยจึงเดินทางไปรับตัวเด็กสาวมาอุปการะดูแลที่ฮ่องกงราวกับเป็นลูกสาวของเขาคนหนึ่ง

        เจ้าหมิงซาน เจ้าหมิงเทียน สุคนธา และเจ้าหลินเพ่ย เด็กทั้งสี่จึงเติบโตมาในคฤหาสน์ตระกูลเจ้าด้วยกัน มีความรักและความแค้นผูกพันกันมาตั้งแต่ยังเยาว์ สุคนธาถูกวางตัวให้แต่งงานกับเจ้าหมิงซาน แต่เธอกลับไปชอบพอกับเจ้าหมิงเทียน ขณะที่เจ้าหมิงซานชอบแกล้งเจ้าหลินเพ่ย หรือเพ่ยเพ่ยบ่อยๆ โดยมีเจ้าหมิงเทียนคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ เพ่ยเพ่ยจึงหลงรักพี่ชายรองของเธอ และคอยอาละวาดผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เจ้าหมิงเทียนจนชายหนุ่มรู้สึกรำคาญ

        เจ้าหมิงเทียนไม่อยากให้เพกาอยู่ในห้องนี้ เพราะสุคนธาถูกคนร้ายแทงตายที่หน้ากระจกในห้องดอกไม้นี่เอง และชายผู้ต้องสงสัยคือ เหลียงเหว่ยเหอ ที่บุกเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลเจ้า แล้วเกิดทะเลาะกับสุคนธาอย่างรุนแรง ใครๆ ก็ว่าเหลียงเหว่ยเหอทำเช่นนี้เพราะเขาแอบรักเจ้าหมิงซาน ที่แท้จริงแล้วเป็นเกย์

        ในวันเดียวกับที่สุคนธาเสียชีวิต เจ้าหมิงซานมีปากเสียงกับเจ้าเหวินเยี่ยและขับรถออกไปด้วยความโมโห เขาประสบอุบัติเหตุขับรถตกเขา เสียชีวิตไปอย่างน่าอนาถ

        ในบ้านตระกูลเจ้ายังมีสมาชิกอีกสองคนคือ หวางจิ้นเจิน และ หวางอวี้เหลียน น้องชายและน้องสะใภ้ของหวางลี่ผิงอาศัยอยู่ด้วย ทั้งสองช่วยงานของบริษัทเจ้าเจิ้นเหวินอยู่ และแน่นอนว่าทุกคนล้วนมีกำไลหยกแบบเดียวกันกับที่เพกามองเห็นในนิมิต...และที่สำคัญคือ กำไลหยกของหวางจิ้นเจินหักกลาง และมีร่องรอยถูกซ่อมแซม!

        คืนวันนั้นเพกาเข้านอนด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า กลางดึกเธอต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้อยู่หน้าประตู เมื่อหันไปมองก็พบมีเงาของใครคนหนึ่งยืนเลือนรางอยู่ที่หน้าห้อง เพการีบลุกขึ้นแล้วออกไปดูว่าเสียงร้องไห้และเงาของผู้หญิงคนนั้นคือใคร หากตลอดทางเดินเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

        เพการู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ในคฤหาสน์ที่มีแต่คนเย็นชา กราดเกรี้ยว สำหรับหล่อนแล้ว ทุกๆ คนดูเหมือนจะเป็นฆาตกรได้ทั้งหมด เพกาทำงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์กี่เพ้าขนาดเล็กภายในคฤหาสน์ นอกไปจากนี้เจ้าหมิงเทียนชักชวนหล่อนไปที่บริษัทเพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องสมุนไพรไทยที่บริษัทเขากำลังสนใจ ความสับสนที่มีต่อเจ้าหมิงเทียนมีมากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งเจ้าหมิงเทียนหลงใหลเธอ แต่เพียงไม่กี่นาทีก็กลายเป็นความโกรธ หงุดหงิด บางครั้งความสัมพันธ์ก็ดูคืบหน้าด้วยความอ่อนโยนลึกๆ ที่มีอยู่ในนิสัยของเจ้าหมิงเทียน แต่ในวันต่อมาเขาก็กลายเป็นคนเย็นชา ทำหมือนโกรธเธอมาตั้งแต่ชาติปางไหน

        เจ้าหมิงเทียนรู้ตัวดี ทั้งหมดทั้งปวงเกิดจากเขาเริ่มหลงรักเพกา ทั้งที่เขายังไม่ลืมสุคนธา อีกทั้งเขายังห่วงว่าเพกาจะได้รับอันตราย และถูกฆ่าตายเหมือนกับสุคนธา เขาเองรู้เช่นกันว่าในคฤหาสน์ตระกูลเจ้ามีสิ่งผิดปรกติอยู่มากมาย ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าหมิงเทียนทุกข์ทรมานจากความคิดถึง และอาการหลอนฝันร้ายจากฆาตกรรมครั้งนั้น จนชีวิตของเขาไม่เหมือนเดิม

        เมื่อเพกาก้าวเข้ามาพร้อมความสดใส เพกาเหมือนแสงสว่างในชีวิตของเขา เขากลัวใจตัวเอง เขารู้สึกผิดต่อสุคนธา ทำให้เขาพยายามผลักเพกาออกไป ทั้งที่ใจของเขาอยากอยู่ใกล้ชิดเพกาทุกนาที

        แม้จะอึดอัดเพียงใด เพกาก็ไม่ลดละที่จะสืบเรื่องของสุคนธา หล่อนตามตอแยเจ้าหมิงเทียน เพื่อถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ ในที่สุดเขาก็พาเพกาไปยัง ฮวงซุ้ยฝังศพของเจ้าหมิงซานพี่ชายของเขา

        เพการู้สึกตกใจเพราะที่จริงแล้วฮวงซุ้ยของเจ้าหมิงซานซ่อนอยู่ในบริเวณบ้านตระกูลเจ้านั่นเอง ฮวงซุ้ยสร้างขึ้นที่เชิงหน้าผาใต้จากคฤหาสน์ตระกูลเจ้าลงไป และศพของสุคนธาก็ถูกฝังอยู่ในสุสานนั้นด้วย ความที่เจ้าหมิงซานตายกะทันหันพร้อมๆ กันกับสุคนธา งานศพจึงจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าเหวินเยี่ยตัดสินใจให้ฝังเจ้าหมิงซานและสุคนธาไว้ในฮวงซุ้ยด้วยกัน เพราะชายหนุ่มหญิงสาวทั้งสองถูกกำหนดแล้วว่าจะต้องแต่งงานกัน เมื่อทั้งสองเสียชีวิตไปในวันเดียวกัน สุคนธาจึงถูกฝังรวมกับเจ้าหมิงซานเพื่อเป็นเจ้าสาวผีตามประเพณีจีนโบราณที่เรียกว่า หมิ่งฮั่ง!

        เจ้าหมิงเทียนยังยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้กับเพกาฟังด้วยว่า ที่จริงแล้วเจ้าหมิงซานเป็นเกย์ และคนรักของเจ้าหมิงซานก็คือเหลียงเหว่ยเหอ ครอบครัวคนจีนยอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ เวลานั้นเขาเป็นห่วงสุคนธา เขารู้ว่าถ้าเธอถูกบังคับให้แต่งงานไปกับเจ้าหมิงซานก็เท่ากับต้องตกนรกทั้งเป็น เจ้าหมิงเทียนจึงตัดสินใจวางแผนจะพาสุคนธาแอบไปแต่งงานด้วยกัน จากนั้นจึงค่อยบอกความจริงกับพ่อและแม่ในภายหลัง

        อาซัน พ่อของซิ่วหลานเป็นช่างกี่เพ้าฝีมือดี อาซันซ่อนตัวที่หมู่บ้านชาวประมงที่ฮ่องกง ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่เปิดเผยตัว ซิ่วหลานมาขอร้องพ่อ เขาจึงบรรจงตัดกี่เพ้าสำหรับให้สุคนธาสวมในวันแต่งงานกับเจ้าหมิงเทียนอย่างสุดฝีมือ เป็นกี่เพ้าสีแดงสด ปักลวดลายโบตั๋นสีชมพูอ่อนหวาน เมื่อตัดชุดนี้เสร็จ อาซันก็ตาบอดเพราะโรคที่รุมเร้า

        วันเกิดเหตุเจ้าหมิงเทียนเดินทางไปอเมริกา สุคนธาหยิบกี่เพ้าชุดนี้มาลองสวมใส่อยู่หน้ากระจก ด้วยความฝันว่าอีกไม่กี่วัน เธอจะได้หนีออกไปใช้ชีวิตกับคนที่เธอรัก

        เมื่อสุคนธาถูกฆาตกรรมและถูกฝังลงในฮวงซุ้ย ซิ่วหลานแอบนำเอากี่เพ้ามาเก็บไว้ จนกระทั่งถึงวันที่กี่เพ้าสามสิบชุดถูกส่งไป พี่เลี้ยงของเจ้าหมิงเทียนจึงแอบใส่กี่เพ้าของสุคนธาลงไปในกล่องใบสุดท้าย เธออยากให้กี่เพ้าชุดนี้ได้มีโอกาสอวดความงามกับสายตาของผู้คนทั้งหลาย เนื่องจากเป็นกี่เพ้าชุดมาสเตอร์พีซ ฝีมือชิ้นสุดท้ายในชีวิตของพ่อเธอ

        เรื่องราวในคฤหาสน์ยิ่งทวีความสับสน ชายลึกลับที่เธอเจอที่วิหารหวังต้าเซียนพยายามติดต่อเธอด้วยสาเหตุบางประการ ไม่ว่าไปไหนเหมือนมีเงาของเขาคอยติดตาม ไหนจะเสียงร้องไห้ที่ตามรบกวนเธอในตอนกลางคืน ไหนจะความริษยาของเจ้าหลินเพ่ยที่สมคบคิดกับเป่าหลินคอยหาเรื่องเธอไม่เว้นวัน ทั้งที่เจ้าหลินเพ่ยเองก็กำลังทุกข์ทรมานกับโรคประสาทหลอนเห็นผีของสุคนธาอยู่รอบตัวเธอ จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบ่อยๆ

        ตลอดเวลาที่ยังทำงานซ่อมกี่เพ้าอยู่บ้านตระกูลเจ้านั้น เพกาต้องประสบกับเหตุการณ์ร้ายแรงหลายหน เริ่มตั้งแต่โคมระย้าบนเพดานเหนือโถงทางเดินหล่นใส่จนได้รับบาดเจ็บ บันไดไม้หักจนเพกาเสียหลักตกลงมา ก้อนหินใหญ่บนหน้าผาถล่มลงมาขณะที่เพกากำลังไปเดินเล่นแถวฮวงซุ้ย เป็นต้น ทุกครั้งเจ้าหมิงเทียนจะบังเอิญมาช่วยเพกาได้ทันท่วงที สร้างความประหลาดใจให้กับหญิงสาวยิ่งนักว่าทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ ทำไมเจ้าหมิงเทียนจะต้องอยู่ในเหตุการณ์เสมอ...

        วันหนึ่งเพกาขอให้เจ้าหมิงเทียนพาไปพบกับอาซันที่หมู่บ้านชาวประมง เพื่อสอบถามเรื่องการซ่อมแซมกี่เพ้าชุดสีแดงลายโบตั๋นให้งดงามดังเดิม ที่นั่นโดยบังเอิญเธอได้พบกับ อาจือ มารดาของเหลียงเหว่ยเหอ ที่แท้ชายลึกลับที่คอยติดตามเธอก็คือเหลียงเหว่ยเหอนี่เอง เหลียงเหว่ยเหอพยายามบอกเพกาให้เดินทางกลับประเทศไทยเสีย เพราะกลัวว่าเพกาจะได้รับอันตรายเหมือนสุคนธา

        อาจือกำลังป่วย ไข้ขึ้นสูง เธอไม่มีเงินไปหาหมอ เพกาและเจ้าหมิงเทียนจึงช่วยกันพาอาจือไปหาหมอรักษาตัวจนหาย อาจือเล่าให้เพกาฟังว่าเหลียงเหว่ยเหอไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าสุคนธาตาย วันนั้นเขามีปากเสียงกับสุคนธา เพราะสุคนธาไม่ยอมแต่งงานกับเจ้าหมิงซาน ทำให้ทั้งเจ้าหมิงซานและเหลียงเหว่ยเหอโกรธมาก ถ้าสุคนธายอมเสียสละเพียงคนเดียว ทุกคนจะอยู่ได้อย่างมีความสุข แต่สุคนธากลับไม่ยอม ทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยาก เหลียงเหว่ยเหอจึงแอบเข้าไปในบ้านตระกูลเจ้าเพื่อขอร้องสุคนธา แต่เธอไม่ยอมจึงเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะได้ข่าวว่าเจ้าหมิงซานขับรถตกเขา เหลียงเหว่ยเหอจึงรีบไปยังสถานที่เกิดเหตุ โดยไม่รู้เลยว่าสุคนธาจะถูกคนทำร้ายจนเสียชีวิตและโยนความผิดมาให้เขา

        เหลียงเหว่ยเหอจำต้องหลบหนีตำรวจ มีชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะความผิดที่เขาไม่ได้ทำ เพการู้ทันทีเหลียงเหว่ยเหอคือคนเดียวที่รู้ว่าฆาตกรคือใคร เพราะอยู่ในห้องนั้นในเวลาที่คนร้ายกำลังจะฆ่าสุคนธา แต่การพบเหลียงเหว่ยเหอนั้นมักมีแต่อุปสรรคและอันตราย เพราะเขาก็ถูกปองหมายเอาชีวิตจากฆาตกรตัวจริงเช่นกัน

        วันหนึ่งเพกาพบสมุดบันทึกของสุคนธาซ่อนอยู่ในเตียงภายในห้องดอกไม้ บันทึกทำให้รู้ว่าที่แท้หวางจิ้นเจินและหลินเหม่ยอิงแอบเป็นชู้กัน เมื่อหวางจิ้นเจินจับได้ว่าสุคนธารู้ความลับของเขากับหลินเหม่ยอิง เขากับคุณนายรองของบ้านก็พยายามข่มขู่สุคนธาต่างๆ นานา เขาบอกว่าถ้าเรื่องรู้ไปถึงหูของเจ้าเหวินเยี่ยเมื่อไหร่ล่ะก็ สุคนธาก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดอีกต่อไป
ต่อมาเมื่อหวางอวี้เหลียนเกิดทะเลาะกับสามีอย่างรุนแรง เพกาจึงรู้เรื่องว่าที่กำไลหยกของหวางจิ้นเจินหักกลางนั้น เป็นเพราะถูกภรรยาทุบทำลายด้วยความเจ็บใจที่เขาแอบไปเป็นชู้กับหลินเหม่ยอิง แม้จะรู้ความจริงเช่นนั้น หวางอวี้เหลียนก็เหมือนน้ำท่วมปาก เธอไม่สามารถบอกความจริงนี้กับเจ้าเหวินเยี่ยหรือแม้แต่หวางลี่ผิงพี่สามีได้ เพราะถ้าหากสองคนนั้นรู้เข้า แปลว่าเธอกับสามีจะต้องถูกอัปเปหิออกจากตระกูลเจ้าอย่างแน่นอน นั่นหมายถึงผลประโยชน์ที่พวกเธอได้รับมาตลอดจะต้องเสียไป หวางอวี้เหลียนจึงต้องยอมหวานอมขมกลืน ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นคนขี้หงุดหงิด บุคลิกร้ายกาจ อารมณ์แปรปรวน...

       เป็นอันว่าเหลือแค่เจ้าหมิงเทียนเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องสงสัย เพกาคิดว่าจะเป็นไปได้ยังไงที่เจ้าหมิงเทียนจะฆ่าสุคนธา เพราะในวันที่สุคนธาตายนั้นเจ้าหมิงเทียนก็ยังไม่กลับมาฮ่องกง เธอแอบให้เดซี่ช่วยเช็คเที่ยวบินย้อนหลังให้ ก็พบว่าที่จริงแล้วเจ้าหมิงเทียนออกเดินทางจากอเมริกาก่อนหน้าที่เขาบอกหล่อนหนึ่งวัน!

       เขาโกหกทำไม...นั่นหมายความว่า มีความเป็นไปได้ที่เขาจะกลับมาถึงฮ่องกงก่อนกำหนดหนึ่งวัน และลงมือสังหารสุคนธาด้วยเหตุผลบางอย่าง...เขาทำไปทำไมกันนะ...เพกาได้แต่ครุ่นคิดกลับไปกลับมา หรือเพราะเขาต้องการช่วยเจ้าหมิงซานปิดบังความลับเรื่องเป็นเกย์ เพราะจากสมุดบันทึกของสุคนธาเขียนเล่าว่า เธอต้องการจะพูดความจริงเรื่องเจ้าหมิงซานออกไปให้ทุกคนในตระกูลเจ้ารู้ แต่เจ้าหมิงเทียนห้ามไว้อย่างเด็ดขาด ก่อนจะจากไปด้วยความโมโหที่สุคนธาไม่ยอมเชื่อฟัง สุคนธาคิดว่าความจริงก็คือความจริง สักวันหนึ่งทุกคนต้องรู้จนได้ การบอกความจริงออกไปจะทำให้ทุกคนไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการหลอกลวง หรือทำในสิ่งที่ตนเองไม่มีความสุข...

       ขณะที่เพกาคิดไม่ตกว่าเจ้าหมิงเทียนคือฆาตกรตัวจริงละหรือ เจ้าหมิงเทียนก็มีธุระต้องเดินทางไปอเมริกาอีกครั้ง คืนวันที่ชายหนุ่มออกเดินทาง เหลียงเหว่ยเหอก็โทรศัพท์มาหาเพกา เขาไม่มีเบอร์มือถือของเธอ ก็เลยโทรเข้ามาในห้องดอกไม้ และนัดให้เพกาออกไปพบที่ฮวงซุ้ยของเจ้าหมิงซาน เขากำลังจะเดินทางกลับไปที่จีนแผ่นดินใหญ่ และได้ทราบว่าเพกาช่วยพาแม่ของเขาไปหาหมอจนหายดี จึงต้องการขอบคุณและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังว่าเหตุใดเธอจึงไม่ควรซ่อมกี่เพ้าของสุคนธา...ที่เป็นเช่นนี้ เพราะจะทำให้ฆาตกรไม่พอใจ และอาจจะทำร้ายเธอด้วยอีกคนหนึ่ง...

       เพกากระสับกระส่ายพยายามจะหาทางออกไปพบเหลียงเหว่ยเหอตามนัด แต่ หย่งซัน ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ของตระกูลขอความช่วยเหลือให้เพกาช่วยทำความสะอาดกำไลหยกของเจ้าเหวินเยี่ยและหวางลี่ผิง เพราะกำไลทั้งสองวงจะถูกนำไปแสดงในนิทรรศการเครื่องประดับที่เซี่ยงไฮ้ เพกาพบด้วยความประหลาดใจว่ากำไลวงของหวางลี่ผิงมีขนาดใหญ่ ขณะที่ข้อมือของเธอเล็กนิดเดียว

       “กำไลใหญ่แบบนี้น่ะเอง คุณหวางลี่ผิงถึงไม่ยอมใส่”
       “กำไลวงนี้ใช่ของคุณหวางลี่ผิงเมื่อไหร่กัน” หย่งซันหัวเราะชอบใจ ก่อนจะเล่าว่า “เป็นของคุณหมิงเทียนต่างหาก”
       “อะไรนะคะ” เพกาใจหายวาบ “แล้วกำไลที่คุณหมิงเทียนสวม...”
       “วงนั้นก็คือของคุณหวางลี่ผิงยังไงล่ะ” หย่งซันเล่าอย่างคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ “คุณนายใหญ่ทำกำไลหัก คุณหมิงเทียนเลยยกวงของตัวเองให้คุณแม่เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนวงที่หักผมนำมาซ่อมให้คุณหมิงเทียนนำไปสวมติดข้อมือจนทุกวันนี้”

       ราวกับแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด เพกาใจหายวาบเมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน เธอรีบไปยังสุสานริมทะเลเพื่อพบกับเหลียงเหว่ยเหอตามนัด เธอมั่นใจว่าคนที่เข้ามาในห้องดอกไม้วันที่สุคนธาตายก็คือหวางลี่ผิงอย่างแน่นอน...

       เมื่อเพกาไปถึงสุสานของเจ้าหมิงซาน เธอก็ต้องตกใจที่พบเหลียงเหว่ยเหอถูกใครบางคนวางยาพิษจนนอนเสียชีวิตอยู่หน้าสุสาน ก่อนตายเขาพยายามกระเสือกกระสนมาหาเพกาพร้อมกับกระซิบคำว่า “หวางลี่ผิง” ตรงตามที่เพกานึกสงสัย แต่แล้วเธอยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อไป เพกาก็ถูกใครบางคนตีเข้าที่ท้ายทอยจนหมดสติ

       เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีนั้น เพกาพบว่าตนเองถูกขังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ รอบกายเธอมีแต่ความมืดมิด เมื่อพยายามคลำไปรอบๆ ก็พบเทียนและไม้ขีด พอจุดสว่างเพกาก็พบด้วยความตกใจว่า ในห้องแคบๆ ที่เธอถูกขังไว้นั้นมีโลงศพตั้งอยู่สองโลง ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าหมิงซานและสุคนธา...

       เธอถูกหวางลี่ผิงตีจนสลบแล้วจับมาขังในฮวงซุ้ยตระกูลเจ้า ที่จริงแล้วฮวงซุ้ยตระกูลเจ้าไม่ใช่หลุมศพเล็กๆ แต่ถูกสร้างให้เป็นห้องใหญ่ สามารถตั้งโลงศพภายในได้หลายโลง หวางลี่ผิงวางแผนจะฝังให้เพกาตายทั้งเป็น สุสานนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมา ไม่เคยมีใครเปิดเข้ามาดูห้องข้างใน ด้วยวิธีนี้กว่าจะมีคนมาพบ...เพกาจะต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน แสงเทียนเริ่มริบหรี่ลงทุกขณะ พร้อมกับที่เพกาเริ่มหมดหวังว่าจะมีใครมาช่วย เธอทั้งทุบทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครผ่านมา...

       ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะหวางลี่ผิงดักฟังโทรศัพท์เพกา รู้ว่าเหลียงเหว่ยเหอกำลังจะเปิดเผยความจริง เธอจึงมาพบเขาก่อนเพกาเพื่อฆ่าปิดปากชายหนุ่ม เธอหลอกว่าจะช่วยให้เหลียงเหว่ยเหอไม่ต้องหลบหนีตำรวจอีกต่อไป และหลอกให้เขากินน้ำชาที่ผสมพิษจนตาย...

       ที่หวางลี่ผิงจำเป็นต้องปิดปากเหลียงเหว่ยเหอ เป็นเพราะวันนั้นเขาอยู่กับสุคนธาเป็นคนสุดท้าย จึงเห็นว่าเธอเดินเข้ามาบอกสุคนธาว่าเจ้าหมิงซานขับรถตกเขาด้วยความเกรี้ยวกราด หวางลี่ผิงเชื่อว่าที่ลูกชายของเธอต้องตายไปเป็นเพราะสุคนธานั่นเอง หวางลี่ผิงโกรธแค้นจนฆ่าสุคนธาตายด้วยมีดปลายแหลม ก่อนตายสุคนธาพยายามต่อสู้ดิ้นรนจนทำกำไลหยกของหวางลี่ผิงหัก

       เสียงคลื่นกระทบหาดทรายดังให้ได้ยินแว่วมาแต่ไกล อากาศในฮวงซุ้ยเริ่มน้อยลง แล้วก่อนที่เธอจะหมดสติไป ใครบางคนก็เปิดประตูฮวงซุ้ยเข้ามาทันท่วงที เจ้าหมิงเทียนนั่นเอง!

       เขารีบตรงเข้ามาช่วยเพกา เขากอดเธอเอาไว้แน่น พรมจูบบนดวงหน้าสวยหวาน เจ้าหมิงเทียนบอกกับเพกาว่า สุคนธาตามไปขัดขวางไม่ให้เขาขึ้นเครื่องบิน เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นดวงวิญญาณของสุคนธา เขามั่นใจว่าต้องเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแน่แล้ว เมื่อรีบกลับมาถึงบ้านตระกูลเจ้าก็พบมารดา หวางลี่ผิงบอกบุตรชายและทุกคนว่าเพกามีธุระด่วน ทำให้ต้องบินไปเมืองไทยเมื่อช่วงหัวค่ำ แต่เจ้าหมิงเทียนเช็คไปที่สนามบินก็ไม่พบมีชื่อของเพกาจองตั๋วเครื่องบินจะไปไหนในช่วงนี้ เขารีบขึ้นไปที่ห้องดอกไม้ด้วยความเป็นห่วง แล้วก็พบกับร่างเลือนรางของสุคนธา

       “เมย์ลี...” เจ้าหมิงเทียนขนลุกซู่ เขาพึมพำพร้อมกับรีบเดินตามสุคนธาไปเรื่อยๆ เธอพาเขามุ่งหน้าไปยังฮวงซุ้ยของตนเอง ก่อนจะหายตัวไป เมื่อเจ้าหมิงเทียนตัดสินใจงัดประตูฮวงซุ้ยเข้าไป เขาก็พบว่าเพกาถูกขังอยู่ในนั้น...

       เจ้าหมิงเทียนประคองร่างอันอ่อนระทวยของเพกากลับมาที่บ้านตระกูลเจ้าด้วยความโมโห เขารู้แล้วว่าเขารักและเป็นห่วงเพกามากเพียงใด เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าหวางลี่ผิงคือคนที่ฆ่าสุคนธา แต่เหลียงเหว่ยเหอก็คือพยานคนสำคัญ...แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เขากลับระบุชื่อของหวางลี่ผิงอย่างชัดเจน...

       เมื่อหวางลี่ผิงรู้ว่าความลับที่ตนเองคือฆาตกรฆ่าสุคนธาถูกเปิดเผย เธอจึงฆ่าตัวตาย ก่อนตายเธอสารภาพกับเจ้าเหวินเยี่ยว่าที่ทำลงไปทั้งหมด ก็เพื่อรักษาเกียรติยศของตระกูลเจ้าที่จะเปิดเผยให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเจ้าหมิงซานเป็นเกย์ เมื่อสุคนธาไม่ยอมแต่งงาน ซ้ำยังขู่ว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้ทุกคนได้รู้ ประกอบกับเจ้าหมิงซานตาย...เธอจึงโกรธแค้นสุคนธามาก จนเกิดปากเสียงกัน และเธอพลาดแทงสุคนธาด้วยมีดจนตาย หวางลี่ผิงฉลาดมากพอจะป้ายความผิดให้กับเหลียงเหว่ยเหอ เป็นวิธีกำจัดเขาอย่างดีที่สุด เพราะการที่เหลียงเหว่ยเหอกับสุคนธาทะเลาะกัน มีสายตาของคนในบ้านหลายคนเห็น สอดคล้องกับการที่เหลียงเหว่ยเหอจะฆ่าสุคนธาด้วยความโกรธแค้น และวิธีนี้ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นไม่อาจจะออกมาเปิดเผยความลับเรื่องเจ้าหมิงซานเป็นเกย์ให้ใครรู้ได้ เหลียงเหว่ยเหอต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาจนทุกวันนี้

       อุบัติเหตุทั้งหมดที่เกิดกับเพกาก็คือฝีมือของเธอ เพราะเธอไม่อยากให้เพกาซ่อมกี่เพ้าของสุคนธา เธอมีกล้องวงจรปิดซ่อนในห้องดอกไม้ หวางลี่ผิงจึงเห็นและได้ยินความเป็นไปทั้งหมดของเพกา ยิ่งเธอซ่อมกี่เพ้าใกล้เสร็จเพียงใด หลางลี่ผิงยิ่งคิดว่าตนเองตกอยู่ในอันตรายเพียงนั้น

       สำหรับสุคนธาเมื่อตายไปพร้อมกับเจ้าหมิงซาน เธอก็พยายามโน้มนำให้สามีมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรฝังสุคนธาไปเป็นเจ้าสาวผีของเจ้าหมิงซานเสียเลย เพราะไหนๆ ก็ต้องแต่งกันอยู่แล้ว เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่เจ้าหมิงเทียนจะกลับมาถึงฮ่องกง เขาเล่าให้เพกาฟังว่าออกเดินทางมาก่อนหน้านี้หนึ่งวันจริงอย่างที่เดซี่สืบมาได้ แต่เครื่องที่เขาบินมาต้องลงจอดกะทันหันเนื่องจากมีคนป่วยบนเครื่อง ทำให้เครื่องมาถึงล่าช้ากว่ากำหนดไปหนึ่งวัน ทั้งๆ ที่มีหลักฐานว่าเขาได้เดินทางออกมาจากอเมริกาก่อนหน้านี้ไปแล้ว

       เรื่องราวทั้งหมดคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังงานศพของหวางลี่ผิง หวางอวี้เหลียนก็ขอหย่ากับสามี เจ้าเหวินเยี่ยอนุญาตให้หลินเพ่ยอิงแต่งงานไปกับหวางจิ้นเจินได้ตามที่เธอปรารถนา ส่วนเจ้าหลินเพ่ยนั้นประสาทเสียจนต้องเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลโรคจิตเป็นการถาวร เป่าหลินสารภาพว่าที่เพกาเห็นผู้หญิงปลอมเป็นปีศาจไปหลอกด้วยการแกล้งส่งเสียงร้องให้ในเวลากลางคืนนั้น เป็นฝีมือของเธอกับเจ้าหลินเพ่ยเอง

       เจ้าหมิงเทียนตัดสินใจนำศพของสุคนธาขึ้นมาสวดและเผาตามแบบพุทธ เขาฝังเหลียงเหว่ยเหอคู่กับพี่ชายในสุสาน โดยเจ้าเหวินเยี่ยเองก็ยอมรับความจริงในที่สุด และอนุญาตให้เจ้าหมิงเทียนทำเช่นนั้นได้ตามที่ปรารถนา

       คืนวันนั้นเอง เจ้าหมิงเทียนและเพกาก็ฝันพร้อมกัน ทั้งสองเห็นสุคนธามาลาพร้อมกับฝากให้เจ้า หมิงเทียนรักและดูแลเพกาให้ดีที่สุด ให้สมกับที่เพกาเป็นคนดีและรักเจ้าหมิงเทียนอย่างจริงใจ...ส่วนตัวเธอนั้นขอลาไปก่อน และหวังว่าวันหนึ่งทุกคนคงได้พบกันอีกครั้ง

       หลายปีผ่านไป หลังจากที่เจ้าหมิงเทียนและเพกาแต่งงานกัน เพกาก็คลอดลูกสาวที่ใครๆ ซึ่งเคยรู้จักกับสุคนธาต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวว่า ด.ญ. เจ้าเหม่ยลี่ มีดวงหน้าสวยหวานเหมือนกับสุคนธาไม่มีผิดเพี้ยน


จ บ บ ริ บู ร ณ์

ที่มา //www.manager.co.th



Create Date : 15 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2555 21:14:12 น.
Counter : 1189 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

AUM BELLEZZA
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 74 คน [?]



Aum BellezZa

หมายเหตุ ::
ด้วยสภาพผิวที่ต่างกัน ไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตที่ต่างกัน กรรมพันธ์ สภาพสีผิว สีผม รูขุมขน อาหารการกิน และความชอบที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลิ่น สี รสสัมผัส ฯลฯ ล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล เพราะฉะนั้น ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่รีวิวนั้น ดีไหม จะเหมาะกับตัวเองหรือไม่ อั้มอยากแนะนำให้ลองด้วยตัวเองนะคะ จะเป็นคำตอบ ที่ดีที่สุดค่ะ