ตุลาคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
All Blog
ภูทับเบิก เบิกบานใจ


หลาย ๆ ครั้งที่มักนั่งมองภาพสวย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่หลายๆ คนแชร์กันผ่านมาในหน้า Facebook และคิดว่า วันหนึ่งเราจะไปเที่ยวแบบนี้ให้ได้ การนั่งดูรีวิวต่าง ๆ ก็ทำให้ความอยากนั้นเพิ่มพูน ทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ อั้มจึงตัดสินใจไปตามล่า หาทะเลหมอกในครั้งนี้ หลังจากพายุหว่าก๋อ จบลง ก่อนเดินทางก็มีฝนตกตลอด แอบกลัวเหมือนกันว่าเราจะเจอทะเลหมอกไหม การตามล่าทะเลหมอก มันยากมาก ๆ มันจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่างร่วมกัน ซึ่งในครั้งนี้ ก็ถือว่า "สำเร็จ" ค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้มาเป็นทะเลอะไรมากมาย เพราะลมแรงมาก หมอกมาแป๊ปเดียว ก็ถูกลมพัดพาไปหมด  วันนี้อั้มมาเขียนรีวิวแชร์ภาพและความประทับใจในครั้งนี้ให้ทุกท่านที่กำลังอยากไปได้ตัดสินใจดูกันค่ะ มีข้อมูลดี ๆ สอดแทรกให้ด้วยนะคะ



เริ่มแรกหลังจากเหงาหงอย บนดอยอ่างขาง เพราะฝนตกตลอด ทำให้อยากไปตามล่าหาหมอกอีกครั้งที่ เพชรบูรณ์ หลังจากวันที่ 6 กันยา อั้มอยู่อ่างขางฝนตกตลอดเลย แต่ ภูทับเบิก กลับมีก้อนหมอกมหาศาลมากมาย อั้มเห็นหลายๆ คนโพสภาพทะเลหมอกอย่างเยอะเต็มหน้าเฟสบุ๊คไปหมด ก็ทำให้อั้มเริ่มโทรหาที่พัก แต่ส่วนมากเต็มไปหมด กว่าจะหาที่ว่างได้ก็ทำเอาแทบลมจับ แต่ถามว่า เหนื่อยมั้ย ขอบอกเลยว่า "ไม่"



อั้มเคยไปที่นี่มาก่อนแล้วนะคะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อเห็นภาพถ่ายจากกลุ่มคนต่าง ๆ ยิ่งทำให้เราเหมือนย้อนกลับไปและคิดถึงมันมากยิ่งขึ้น แต่การกลับไปครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อนมาก  ๆ ค่ะ ที่พักถูกสร้างใหม่ขึ้นมาเยอะมาก ข้าวของต่างๆ ก็เริ่มแพงขึ้น ไร่กะหล่ำถูกแปลงเป็นที่พักเยอะขึ้น



ความสวยใกล้จะหมดลง หากใครมีเวลา ควรแวะไปเที่ยวกันเสียแต่ตอนนี้ ถ้าให้อั้มแนะนำ ขอแนะนำวันธรรมดานะคะ อย่าไปเลยช่วงวันหยุด รถติดบนเขา ไม่ใช่เรื่องสนุก การแย่งกันกิน แย่งกันใช้ มันไม่สนุกจริง ๆ



บางครั้งเราก็ไม่ควรที่คิดหวังแค่ทะเลหมอกอย่างเดียว เพราะรอบ ๆ ตัวเรา ณ เวลานั้น มีสิ่งสวยงามมากมาย พระอาทิตย์ขึ้นก็สวยงามไม่ธรรมดา วิวทิวทัศน์ รอบตัวก็สวยจนอยากจะหยุดเวลาไว้เลยทีเดียว


ใครที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน อยากหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อยากให้ลองไปเที่ยวแบบนี้ดูสักครั้ง


คนที่ชอบความสบาย อยากอยู่แบบหรูหรา อั้มก็ไม่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เพราะมันต้องละทิ้งจริง ๆ ค่ะ บ้านพักส่วนใหญ่ทำมาแค่นอน แค่ดูลมชมวิว ไม่ได้ทำมาอำนวยความสะดวกเราเท่าไหร่นัก



เมื่ออั้มมาเที่ยวที่ภูทับเบิก อั้มแทบไม่อยากกลับ กทม. เลยค่ะ  อยากมีบ้านสักหลังอยู่ที่นี่ ชีวิตที่ไม่ว้าวุ่น ชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบ ชีวิตที่ไม่ต้องเจอรถติด ชีวิตที่ไม่ต้องเจอมลพิษ ที่นี่อั้มเจอแต่ ชีวิตที่มีอากาศเย็น สดชื่น ชีวิตที่รอบ ๆ ตัวมีวิวสวย ๆ ชีวิตที่รอบข้างเจอแต่มิตรภาพดี ๆ จากคนที่เราไม่รู้จักกัน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในเมืองหลวง



มาอยู่ที่นี่ ตื่นตีสี่ ตีห้า ทำได้ไม่ยาก เหมือนมีนาฬิกาปลุกส่วนตัว สามารถลุกออกจากที่นอนได้ไม่ยาก แต่ถ้าอยู่ กทม. หรอ กว่าจะลุกจากเตียงได้ มันยากเย็นเหลือเกิน


วันที่ต้องเดินทางกลับน้ำตาแทบไหล อยากจะอยู่ตรงนั้นให้นานที่สุด และหลังจากเดินทางลงมา ก็สัญญากับตัวเองว่า ฉันจะกลับมาอีกแน่นอน "ภูทับเบิกไปครั้งเดียวคงไม่พอ"



การวางแผนการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณอยากเจอทะเลหมอก การวางแผนข้ามปี ข้ามเดือน เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากมากค่ะ โอกาส มักมา พร้อมอุปสรรค แต่ถ้าคุณพร้อม หาวันหยุดยาว ๆ ติดต่อกันสัก 4 วัน แล้วมุ่งหน้าไปพักผ่อนที่นั่น มันดีสุด ๆ เลยค่ะ ตื่นมาตอนเช้า ๆ สัมผัสอากาศเย็น ๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้ กรุงเทพฯ ร้อนสุด ๆ อากาศต่างกับลิบลับ



บางครั้งระหว่างความฝันและความจริงก็กั้นอยู่แค่เส้นบาง ๆ ตื่นมาตีสี่ตีห้า ดูพระอาทิตย์ขั้น เราก็นั่งเล่นไปเรื่อย ๆ หลังจากลมพัดหมอกไปเกือบหมด หมอกก็เริ่มก่อตัวขึ้นอีกรอบ



เวลา 05.00 น. ของวันที่ 21 กันยายน 2558 หลายๆ คนเริ่มตื่นนอน แล้วทยอยกันมา รอชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น แสงแรกของวันนี้จะสวยงามขนาดไหน ทุกคนล้วนตื่นเต้น และลุ้นไปด้วยกัน



รอไปไม่นาน พระอาทิตย์ก็โผล่มาทักทายเรา ทุกคนต่างเริ่มใจคอไม่ดี หมอกจะมาไหมน่ะ แต่หลังจากนั้นไม่นาน หมอกก็เริ่มลอยขึ้นมาทักทายกันเรื่อย ๆ ผู้คนที่มารอกันอย่างใจจดใจจ่อ ก็หยิบกล้องที่ตัวเองเตรียมมา ถ่ายรูปกันอย่างไม่ขาดสาย บางคนก็มีคู่มาด้วย หวานกันสุด ๆ ก็มันโรแมนติคนี่เนอะ



นี่ฉันอยู่บนสวรรค์หรืออย่างไร พระอาทิตย์โผล่มาพร้อมทะเลหมอก มันสวยงามจับใจขนาดนี้ ถึงมันไม่ได้มากมายอะไร แต่เหมือนฉันยืนอยู่สูงกว่าหมอก เหมือนฉันอยู่บนฟ้า บนจุดที่จะอยู่ในความทรงจำไปอีกหลายเดือน



อากาศบนนี้หนาวเย็นจับใจ แต่หลายๆ  คนก็พร้อมลุกขึ้นมาดูทะเลหมอกกันอย่างใจจดใจจ่อ


เสียดายวันนี้ 21 กันยายน 2558 มีลมแรงพอสมควร ทำให้น้องหมอกมาไว ไปไว สุด ๆ แต่ก็สวยงามไม่ใช่เล่นเลยนะคะ



หากใครอยากดูทะเลหมอกสวย ๆ แน่น ๆ แนะนำให้มาหน้าฝน เพราะ โอกาสเจอทะเลหมอกเยอะที่สุดค่ะ ความชื้นจะทำให้เกิดหมอกบนยอดภูทับเบิก ถ้าตอนเช้าเกิดฝนตกโอกาสเกิดหมอกก็น้อยลงไปอีก คือจากประสบการณ์ตามล่าหมอกที่ผ่านมา อั้มจะเช็คดูจากหลาย ๆ ที่นะคะ โดยหนึ่งในนั้นคือ Apps ใน Iphone ค่ะ เป็นการดูสภาพอากาศของต่างประเทศร่วมด้วย ถ้าวันไหนความชื้น 100% ลมน้อยกว่า 3 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง แล้วก็ฝนต่ำกว่า 10% โอกาสเกิดหมอกมีแทบ 100% เลยค่ะ แต่ถ้าฝนเยอะ ความชื้นน้อย โอกาสเกิดก็น้อยตามไปด้วย หากวันไหนฝนตก แล้วอีกวันลมไม่แรง พระอาทิตย์ขึ้นแบบท้องฟ้าเปิด วันนั้นแหละ วันดี ๆ แน่นอน



คนจากหลากหลายพื้นที่ ต่างจับจองพื้นที่ในการชมทะเลหมอกกัน มาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะความสวยงามจากธรรมชาติ เป็นตัวรวบรวมพวกเราให้มาที่นี่



สำหรับใครที่อยากรับบรรยากาศในวันนั้น อั้มก็ถ่ายคลิปมาให้ชมด้วยนะคะ ใครที่ไม่ได้ไป ก็เหมือนได้ไปยืนชมอยู่ตรงนั้นด้วยกันเลย




อาหารการกิน :: มีหลายร้านพอสมควร โดยเฉพาะแถว วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก จะมีร้านค้าเยอะอยู่ค่ะ ล่าสุดมีร้านใหม่คือ แตะขอบฟ้า ภูทับเบิก ร้านนี้ก็วิวดี น่านั่งนะคะ กาแฟก็อร่อยดี อาหารยังไม่เคยรับประทาน เห็นคนเยอะอยู่ค่ะ บนภูทับเบิกมีหมูกะทะบริการด้วยนะคะ ส่วนมากเห็นมาสั่งกันที่ร้าน ภูการ์เด้นค่ะ เขามีบริการส่งถึงที่ ให้ยืมกะทะ กับ เตาปิ้งย่างด้วยค่ะ ร้านอื่น ๆ ก็มีนะคะ น้ำจิ้มเห็นเป็นน้ำจิ้มสุกี้ขวด ๆ มาเทให้อีกทีนะคะ ถ้าอยากได้แซ่บ ๆ ให้ทำไปเองก็ดีค่ะ ชุดเล็ก 300 บาท ชุดใหญ่ 500 บาท อั้มแนะนำถ้าไป 2-3 คนชุดเล็กก็พอค่ะ เยอะพอสมควร ผักที่นี่สดอร่อยดีค่ะ



ภูทับเบิกควรไปฤดูไหน :: ไปได้ทุกฤดู ความสวยแตกต่างกันค่ะ ในทุก ๆ ฤดู ทุก ๆ วัน ต่างกันนะคะ ไม่เคยเหมือนกันเลยสักวัน บนภูทับเบิก ความประทับใจบนนั้นมันลึกจนอยากจะไปทุกวันเลยค่ะ



ถ้าไปเที่ยวภูทับเบิกฉันควรไปเที่ยวที่ไหนบ้าง :: แนะนำเลยคือ ภูหินร่องกล้า , เขาค้อ , อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ค่ะ ที่เขาค้อจะที่เที่ยวเยอะกว่า "ภูทับเบิก" นะคะ ถ้ามาภูทับเบิก แนะนำให้ไปเขาค้อด้วย เขาค้อจะมีไหว้พระวัดผาซ่อนแก้ว ไฮไลท์หลัก ๆ ของที่นั่น แล้วก็ร้านกาแฟสวย ๆ ที่เขาค้อเยอะค่ะ คนชอบถ่ายภาพคงชอบ ร้านกาแฟยอดฮิตตอนนี้คือ Pino Latte อยู่เลยไปจากวัดผาซ่อนแก้วค่ะ ถือเป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอกงามๆ  อีกที่หนึ่งเลยค่ะ จากจุดนี้ จะมองเห็นวิววัดผาซ่อนแก้วจากด้านหลัง สวยงามสุด ๆ ขอฝากเพื่อน ๆ คอยรอชมรีวิวเพิ่มเติมได้บล็อกหน้าค่ะ จะทำรีวิวเขาค้อให้ชมนะคะ


เมนูแรกไก่ย่าง มาถึงเมืองนี้ไม่กินไก่ย่าง เหมือนมาไม่ถึง จัดไก่ไปสักจาน

ข้าวเหนียวห่อใบตองเก๋มาก ๆ ค่ะ ห่อมาอย่างดี แกะออกมามี 2 สีด้วย

ตำหลวงพระบาง คือ เห็นชื่อก็ต้องสั่งแล้ว หากินใน กทม. ยาก มาถึงนี่ทั้งที ตำปูปลาร้า ตำไทย ตำแตง งดไปก่อน

หมูแดดเดียวทอด คือดีน่ะ กินหมดไวสุดเลยจานนี้


ก่อนขึ้นเขา ควรทานอาหารก่อนขึ้นนะคะ ตัวเมืองเพชรบูรณ์มีร้านดังๆ  หลายร้าน ส่วนมากจะต้องทานไก่ย่างกัน ไก่ย่างดัง ๆ คือไก่ย่างวิเชียรบุรี ค่ะ ร้านดังมีหลายร้านเลย ก็รับประทานกันไปก่อนเลยเพราะเป็นทางผ่านตรงอำเภอวิเชียรบุรี อยู่แล้ว อั้มเลือกทานที่ร้าน ไก่ย่างบัวตอง เพราะเห็นว่าดังแล้วคนเยอะมาก ๆ



การท่องเที่ยวที่ดี ก่อนออกเดินทาง ควรวางแผนทุกอย่างให้รอบคอบ จะไปกี่วัน จะแวะที่ไหนบ้าง จะพักที่ไหน มันต้องไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ถ้าเราอยากไปเขาค้อ เราอยากชมทะเลหมอกจุดไหน ก็ควรหาที่พักแถวนั้น การเดินทางต้องออกล่าหมอกกันตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งก่อนพระอาทิตย์ขึ้น จะเป็นช่วงเวลาที่สวยมาก


การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเพชรบูรณ์ โดยรถยนต์ส่วนตัวใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะขับเร็ว ขับช้า หรือแวะเที่ยวที่ไหนหรือป่าว ควรเผื่อเวลาไว้บ้างนะคะ อั้มเลือกวิ่งเส้นดอนเมือง ไปออกปทุมธานี , สระบุรี , ลพบุรี , เพชรบูรณ์ นะคะ ซึ่งคิดว่าเป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ใช้กันและเป็นสายหลักสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ค่ะ แต่ก็มีอีกเส้นทางหนึ่งที่อั้มชอบใช้เป็นเส้นทางกลับ คือ เพชรบูรณ์ , พิษณุโลก , พิจิตร , นครสวรรค์ , อุทัยธานี , ชัยนาท , สิงห์บุรี , อ่างทอง , อยุธยา , ปทุมธานี แล้วก็ กทม. ค่ะ เส้นทางขากลับ จะมีร้านขายของฝากเยอะ แล้วก็มีทริปไหว้พระเพิ่มขึ้นมาได้อีก หากออกจากเพชรบูรณ์เช้า ๆ





จากประสบการณ์ขึ้นเขามาหลากหลายที่แล้วขอบอกว่า ภูทับเบิก นี่ก็ไม่ใช่ธรรมดา การขึ้นไม่ได้ยากเท่าไหร่ แต่การลงนี่ยากยิ่งกว่า หากขึ้นลงทางตัวหล่มเก่า ไม่เชื่อเวลาขับรถขึ้น เปิดกระจกไว้นะ แล้วพอรถที่เขาสวนมา ผ่านไปลองสูดหายใจยาว ๆ จะได้กลิ่นไหม้เบา ๆ ลอยมาแตะจมูก โค้งที่นี่เยอะมาก แล้วโค้งหักศอกก็เยอะ โค้งแบบชัน ๆ ก็มี ถนนหลายจุดก็มีปัญหา ถ้าแนะนำจริง ๆ สำหรับผู้ขับรถไม่เก่ง อยากให้ขึ้นทางพิษณุโลกค่ะ ขับง่ายกว่ากันเยอะเลย รถจะใหม่จะเก่าส่วนมากไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ ปัญหาอยู่ที่ประสบการณ์คนขับมากกว่า อั้มใช้ Altis รุ่นปี 2003 ซึ่งอยู่มานานกว่า 10 ปีแล้ว อั้มอัดคลิปทางขึ้นลง ภูทับเบิกเส้นหล่มเก่ามาให้ชมด้วย ใครที่อยากเห็นทางก่อนขับขึ้นจริง คลิ๊กชมได้จากคลิปด้านล่างนะคะ




คนเมารถ :: แนะนำทานยาก่อนเดินทางนะคะ


แวะไหว้พระเกจิดัง ๆ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ด้วยนะคะ เอาฤกษ์เอาชัยก่อนขึ้นเขา หรือ จะไหว้ก่อนกลับก็ได้ค่ะ แนะนำไหว้พระ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน แต่หลวงพ่อทบมรณะภาพแล้วนะคะ เก็บสังขารท่านไว้ที่วัดช้างเผือก


อั้มพักที่นี่ค่ะ ภูการ์เด้น มีที่จอดรถหน้าบ้านพักด้วยค่ะ


ที่พัก หลัก ๆ ที่คนนิยมไปมีที่ใดบ้าง

1. ริมผา

2. เดอะม้ง

3. ไร่ภูทะเลหมอก

4. ภูการ์เด้น ทะเลหมอก

5. ไร่ต้นมุก

6. อิงฟ้า

7. ภูนับดาว

8. ไร่มะลิหอม

9. ไร่ตายาย

10. ซากุระ

11. ภูสวรรค์

12. คานาอัน

13. ทับเบิกฮิลล์

14. ไร่สุวิทย์

15. ไร่ลุงหั่ง

16. ไร่ริมผา

ถ่ายจากหน้าห้องพัก

(จริง ๆ มีที่พักเยอะนะคะ แต่เอามาที่รู้จัก ๆ แล้วก็ดูวิวสวย หลาย ๆ ที่ก็จะมีให้บริการ กางเต้นท์นอนด้วยค่ะ สถานที่นอนที่เห็นทะเลหมอกแจ่ม ๆ แบบที่กำลังโด่งดังและฮิต อั้มก็ยกให้เป็นของ ไร่ริมผา คือ ไร่ริมผาจริง ๆ จุดที่เห็นภาพสวย ๆ จากหลาย ๆ คนนั่นแหละ คือถ่ายจากที่นี่กัน แล้วก็เดอะม้งค่ะ มีอีกหลายที่กำลังสร้างอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งก็มีวิวสวยไม่แพ้กันค่ะ แต่เดอะม้ง กับ ริมผา เขาอยู่ติดจุดชมทะเลหมอกเลยได้เปรียบ ณ จุดนี้ ถ้าใครอยากขึ้นไปชมทะเลหมอกจุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิก หรือ ตรงวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ก็สามารถหาที่พักใกล้เคียงได้ค่ะ มีหลายที่เลย อีกที่แนะนำคือ ภูการ์เด้นค่ะ)



ตอนนี้ภูทับเบิกกำลังฮิต หากอยากมาเที่ยว อยากแนะนำให้จองล่วงหน้าสักหน่อยนะคะ หรือถ้าอยากกางเต้นท์จริง ๆ มีที่ให้กางเต้นท์หลายที่มาก ๆ เลยค่ะ เปิดเต้นท์มาแบบเจอทะเลหมอกเลย มีทั้งที่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก (อาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิ) ตรง จุดชมวิวภูทับเบิก แล้วก็ตามรีสอร์ทต่าง ๆ ด้วย ที่แนะนำคือ "ริมผา" วิวแจ่มเว่อ


อาคารหอดูดาว และ วัดอุณหภูมิ





ที่หอวัดอุณหภูมินี้ ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วยนะคะ แต่อาจไม่ได้เห็นตอนดวงอาทิตย์กำลังตกเลย ถ้าอยากได้แบบนั้น ต้องขับรถไปอีกหน่อย ตรงภูแผงม้า อันนั้นจะเห็นแบบสวยงามกว่าค่ะ



เดี๋ยวทริปหน้าจะพาไปเที่ยวเขาค้อกันต่อนะคะ รอติดตามด้วยนร้าาา หากใครชอบเรื่อง กิน เที่ยว และความสวยงาม มาติดตามอั้มได้ทาง Facebook :: Aum Bellezza ขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่อ่านกันจนจบ


Follow or Contact me 

Facebook   : Aum Bellezza

❀ Instagram ❀ aum_bellezza

❀ Website  www.aumbellezza.com www.sanook.com

❀ Blog ❀ : aumbellezza.blogspot.com

❀ E-mail ❀ : aumbellezza@gmail.com 





Create Date : 28 ตุลาคม 2558
Last Update : 28 ตุลาคม 2558 13:05:25 น.
Counter : 6259 Pageviews.

1 comments
  
nice pics
โดย: Kavanich96 วันที่: 30 ตุลาคม 2558 เวลา:2:33:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

AUM BELLEZZA
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 74 คน [?]



Aum BellezZa

หมายเหตุ ::
ด้วยสภาพผิวที่ต่างกัน ไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตที่ต่างกัน กรรมพันธ์ สภาพสีผิว สีผม รูขุมขน อาหารการกิน และความชอบที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลิ่น สี รสสัมผัส ฯลฯ ล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล เพราะฉะนั้น ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่รีวิวนั้น ดีไหม จะเหมาะกับตัวเองหรือไม่ อั้มอยากแนะนำให้ลองด้วยตัวเองนะคะ จะเป็นคำตอบ ที่ดีที่สุดค่ะ