อยากห้ามความรัก โถมันห้ามยากนะคุณ ปล่อยให้ผมว้าวุ่น รักคุณต่อไปเถิดหนา
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
22 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 
เขาว่ากันว่าโลกเราแท้จริงนั้น....แบน (ตอนจบ)

หวัดดีคับ กว่าจะได้ฤกษ์เข็นตอนจบของ โลกแบนออกมาได้ก็ใช้เวลาพอควร คราวนี้เป็นตอนที่ว่าด้วย อาชีพในยุคโลกสมัยใหม่ ช่องโหว่หรือจุดอ่อนที่เราต้องกำจัดและวิธีเอาชีวิตรอดในโลกยุคสมัยใหม่



อาชีพใหม่ๆบนโลกแบนๆ
มีอาชีพใหม่ๆ แปลกๆเกิดขึ้นในโลกแห่งข้อมูลข่าวสาร โลกแบนๆสมัยใหม่ใบนี้ ยกตัวอย่างเช่น Search Engine Optimizer (SEO) ที่มีหน้าที่ดูแลให้การค้นคำ keyword ด้วย search engine ต่างๆบนอินเตอร์เนท แสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของบริษัทของตนให้มากที่สุด ให้อยู่ในลำดับต้นๆของผลการค้นให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์และโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น

อาชีพของมนุษย์ที่จะอยู่รอดบนโลกแบนๆ

พวกที่ผู้เขียนถือว่าเป็นพวก untouchable หรือพวกที่ไม่มีใครกล้ามาแตะต้อง หรือห้ามแตะ จะสามารถอยู่รอดได้ในสังคมโลกสมัยใหม่นั้น ผู้เขียนได้จำแนกออกได้ 4 ประเภทหรือ 4 จำพวก อันได้แก่

1.) พวก special พวกนี้เป็นพวกไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ไม่สามารถหาคนทำแทนได้ ในโลกมีแบบเขาได้แค่คนเดียว ตัวอย่างเช่น บิล เกตต์, ไมเคิล จอร์แดน, ไทเกอร์ วู้ด, สตีฟ จ็อบ, บาร์บาร่า สไตรแซนด์ เป็นต้น และถ้าเราไม่มีความสามารถพิเศษเหมือนคนกลุ่มนี้ เราก็ยังมีอีก 3 พวกที่เหลือคือ

2.) Specialized คนกลุ่มนี้รวมถึงพวก knowledge workers ทั้งหลายด้วย เช่นพวก ทนายความ, นักบัญชีวิชาชีพ, วิศวกรซอฟแวร์, หมอเฉพาะทางหรืออาชีพที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ ที่มีลักษณะไม่ fungible คือไม่สามารถว่าจ้างแรงงานราคาถูกกว่าที่ไหนในโลกก็ได้มาทำแทน หรือใช้เทคโนโลยีมาทำแทนได้ เป็นต้น ทำให้แรงงานเหล่านี้มีความต้องการสูง ดังนั้นงานไม่ fungible เหล่านี้จึงมีความมั่นคงสูงกว่า

3.) พวก Anchored คือพวกที่ต้องทำงานที่มีความจำเป็นต้องมีเพื่อติดต่อกับลูกค้าหรือผู้รับบริการ ส่วนมากเป็นงานบริการที่ไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำแทน เพราะต้องเจอตัวเป็นๆ เห็นตัวเป็นๆกับลูกค้า งานเหล่านี้คนไทยน่าจะถนัด เพราะส่วนใหญ่คนไทยมี service mind โดยลักษณะนิสัยอยู่แล้ว

4.) Really Adaptable คนที่ไม่เข้ากลุ่ม 3 พวกข้างต้น น่าจะเป็นกลุ่มที่ 4 นี่แหละที่พวกเรามีโอกาสเข้ากลุ่มนี้มากที่สุด เป็นทางเลือกสุดท้ายคือหมายถึงว่าคุณหากต้องการมีความมั่นคงในการงานก็ต้องหมั่นเพิ่มเติมทักษะ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หาความเชี่ยวชาญ เป็นคน flexible ไม่กลัวต่อสิ่งท้าทายใหม่ๆ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง ปรับตัวทันต่อเหตุการณ์ ต่ออาชีพอยู่เสมอ เป็นการสร้างโอกาสและเพิ่มมูลค่าให้กับตนเองอย่างต่อเนื่อง หากยืนต้นเป็นไม้ตายซากก็จะสูญพันธุ์ไปในโลกแบนๆใบนี้ในที่สุด

ผู้เขียนได้กล่าวถึงสิ่งที่เป็นวิกฤตหรือช่องโหว่ของประเทศที่ตามไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกแบนใบนี้ไว้ว่าอย่างช้าในช่วง 15-20 ปีข้างหน้า ปัญหาของประเทศจะเกิดจากเหตุปัจจัย 3 ประการด้วยกันคือ

1.) ช่องโหว่ในเชิงปริมาณ Number gap เช่นสัดส่วนของผู้จบปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมต่อผู้จบทั้งหมด ในจีนราว 60% เกาหลีอยู่ที่ 33% และ 41%ในไต้หวัน ส่วนประเทศที่มี%ยิ่งน้อยยิ่งมีโอกาสเกิดวิกฤต นอกจากนี้สัดส่วนประชากรวัยทำงานก็มีผลกระทบมากเช่นกัน

2.) ช่องโหว่ทางความมุ่งมั่น Ambition gap ผู้คนบางประเทศมีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากประเทศอื่นเช่น มีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน เอาจริงเอาจังสูงกว่าบางประเทศเช่น จีน เกาหลี อินเดียหรือโปแลนด์ คนพวกนี้ไม่ใช่แค่อยากทำงานกับบริษัทอเมริกันหรือแค่อยากเป็นชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ถึงกับอยากเป็นเจ้านายคนอเมริกันเลยทีเดียว
คนหนุ่มสาวในชนบทของจีนหรือเวียดนาม เห็น บิล เกตต์เป็นซูเปอร์สตาร์ ในขณะที่วัยรุ่นไทยในเมืองนิยมชมชอบ บริทนีย์ สเปียรส์ หรือนางแบบดังคนอื่นๆ และนี่คือ....ปัญหา

3.) ช่องโหว่ทางการศึกษา Education gap ไม่ต้องบรรยายไรมากความ แน่นอนประเทศที่ประชากรไร้การศึกษา ไม่ต้องบอกว่าอนาคตจะไปไกลได้แค่ไหน ประเทศที่ไม่มีงานค้นคว้าวิจัย ไม่มีการจดสิทธิบัตรและเป็นแต่บริโภคเทคโนโลยี ไม่ใช่ผู้สร้าง จะเป็นปัญหาแค่ไหนในอนาคต

หากเสนอแต่ปัญหา แต่ไม่เสนอทางแก้ ก็ดูจะเป็นได้แค่เหมือนพรรคฝ่ายแค้นบางประเทศเกินไป ผู้เขียนเลยมีทางออกไว้ให้เสร็จสรรพดังนี้

1.) Leadership ผู้นำประเทศและนักการเมือง ผู้ปกครองและผู้บริหารประเทศจะต้องตระหนักและสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันไม่ใช่เอาแต่เล่นเกมการเมือง รักษาอำนาจแต่ตนเองและคอร์รับชั่นเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนบางประเทศ (อ้าวเข้าเรื่องการเมืองได้ไงเนี่ย อิอิ)

2.) Muscle Built สร้างความเข้มแข็งและมูลค่าเพิ่ม เพิ่มทักษะและความรู้ให้กับตนเอง เหมือนสร้างกล้ามเนื้อตนเองให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในอาชีพตนเอง อยู่รอดในวิชาชีพ ส่งเสริมคนให้กระตือรือร้น มีบรรยากาศการแข่งขัน ไม่ใช่เอะอะไรก็แบมือขอ หรือขอให้รัฐบาลช่วยลูกเดียว ไม่เคยพึ่งพาตนเอง

3.) Cushioning ผู้เขียนสนับสนุนให้มีการประกันค่าจ้างแรงงาน (wage insurance) ตามแนวคิดของ Kletzer and Litan (ไม่รู้รายละเอียดและไม่รู้คืออะไรเหมือนกัน) แต่โดยรวมก็คือมีหลักการที่ว่า คนทำงานจะไม่ได้ค่าแรงชดเชยที่ว่างงาน จนกว่าจะได้รับงานใหม่เสียก่อน เพื่อกระตุ้นให้คนรีบขนขวายหางานทำใหม่โดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่าทำนองเนี้ยแหละ

4.) Social Activism คือต้องมีการรวมตัวกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น IBM-Dell-HP และใช้อำนาจของการรวมตัวกันนั้นก่อให้เกิดการป้องกันการใช้แรงงานเด็กและสตรี การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การรับสินบน ฯลฯ (ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการแก้ปัญหายังไง)

5.) Parenting คือพ่อแม่ต้องสอนลูกให้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก รู้เท่าทัน และสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกสามารถอยู่รอดในโลกแบนๆนี้ได้ (คอกใครคอกมัน ดูแลกันให้ดี ทำนองนี้)

มาถึงของหวานตบท้ายวันนี้ คิดลึกนิ๊ดๆนะ คับคือว่ามีสามีภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์แก่คู่หนึ่ง พากันไปฝากท้องกับคุณหมอที่โรงพยาบาล ด้วยความที่ฝ่ายหญิงเพิ่งท้องนี้เป็นท้องแรก ก็กลัวจะเจ็บเวลาคลอดมากเลยถามหมอว่ามียาไรมั๊ยที่พอจะทำให้เวลาคลอดไม่ต้องทรมานมากกับการเจ็บท้องคลอด ด้วยความที่คนไทยเราไม่ด้อยชาติอื่นอยู่แล้วเรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยี คุณหมอเลยเสนอยาฉีดขนานนึงเพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่โดยฝีมือคนไทย โดยมีสรรพคุณคือเวลาฉีดยานี้ให้แก่แม่ของลูก ความเจ็บปวดทั้งมวลจะถูก transfer หรือถ่ายโอนไปให้แก่ผู้เป็นพ่อทันทีด้วยระบบ wireless DNA communication ด้วยหลักการนี้เอง ก็จะช่วยให้ภรรยาไม่เจ็บขณะคลอด แต่สามีต้องทนทรมานหน่อยนะ ฝ่ายสามีภรรยาคู่นี้หลังจากรับทราบสรรพคุณยาก็ปรึกษากันอยู่สักพัก ด้วยความที่สามีเป็นคนรักภรรยามากจึงตอบตกลงหมอไปในที่สุด

และแล้ววันคลอดก็มาถึง คุณหมอฉีดยาให้ภรรยาไปหนึ่งเข็ม สามีก็มารออยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าวิตก ใจหนึ่งก็รักอีกใจหนึ่งก็กลัวเจ็บ ภรรยายังเจ็บอยู่จึงฉีดยาเข้าไปอีกเข็ม แต่ดูเหมือนยังบรรเทาไปได้ไม่มาก จนคุณหมอฉีดเป็นเข็มที่ 4 นั่นแหละ ฝ่ายแม่จึงหายเจ็บและสามารถคลอดได้อย่างง่ายดาย หลังคลอดสามีเข้ามาดูแลปรนนิบัติภรรยาลูกอ่อน ซึ่งภรรยาก็ซาบซึ้งในความเสียสละของสามีเป็น อย่างยิ่ง สักพักสามีขอตัวเข้าห้องน้ำทำธุระ ขณะที่ทีวีในห้องพักคลอดรายงานข่าวการเสียชีวิตแบบแปลกประหลาดของชายข้างบ้านคู่สามีภรรยานั้น โดยคนในบ้านให้การกับตำรวจว่าดูเหมือนผู้ตายจะเจ็บปวดทรมานอย่างรุนแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุก่อนจะขาดใจตายด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก...............อย่างยิ่ง





Create Date : 22 มิถุนายน 2549
Last Update : 29 มิถุนายน 2549 22:31:03 น. 32 comments
Counter : 972 Pageviews.

 
ยังไม่ได้นอนค่ะ..เปิดอ่าน..บล็อกเก่าๆๆไปเรื่อยๆๆค่ะ.
แวะมา..goodnight..ค่ะ..



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 29 มิถุนายน 2549 เวลา:22:40:34 น.  

 
ของหวาน...ต้องคิดลึกก่อนเหรอเนี่ยถึงจะรู้ว่าหวาน555
อืมม...แล้วสามีเค้าจะรู้มั๊ยเนี่ย

แล้วเรื่องข้างบน...เราจะอยู่รอดมั๊ยน๊อ...ในโลกแบนๆอ่ะ
คิดหนัก คิดหนัก


โดย: เสือจ้ะ วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:0:44:17 น.  

 
เหงาๆไป2วันที่ไม่มีบอลเตะ คืนนี้จะคึกคักอีกทีแล้ว เย่ๆ เสาร์นี้หวังว่าอังกฤษจะชนะ
have a nice week-end นะ


โดย: ปลาสวย (pp_b23 ) วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:9:43:02 น.  

 
555 สรุป...

wireless DNA communication นี่ร้ายกาจจริงๆ

ดีนะ สามีเค้าไปเข้าห้องน้ำ

ไม่งั้นละเคลียร์กันยาววววววว


โดย: Ta Pling วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:9:44:16 น.  

 
คล้ายคล้าย Only the strongest will survive...
ว่าแล้วก็...นึกถึงเพลง
...
...
ส่วนของหวาน เนี่ย
...
...
Have a nice day na kha



โดย: Serendipity_t วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:10:13:40 น.  

 
โอเย ดีใจจัง ตอนใหม่มาแล้ว :D :D :D

ยังอ่านได้แค่ครึ่งเล่มเองค่ะ เพราะตอนนี้บังเอิญไปเจอเวบวิเคราะห์ข่าวน่าสนใจมาดูดแย่งความสนใจไป ^^"

แปลว่า ทางเดียวที่จะทำให้อยู่รอดได้ พูดสรุปก็คือ หาจุดเด่นของตัวเองมา สร้างความแตกต่างจะได้ "ขาย" ตัวเองสู่ตลาดสู่โลกได้นะคะ

จริง ๆ ลุง Friedman แกเป็น neo-liberal จัดมากเลยเนอะ ตอนอ่าน Lexus and the Olive Tree ยังไม่ค่อยรู้สึก .. หรือ เพราะตอนเมื่อก่อนยังไม่เข้าใจหว่า ^^"


โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:13:19:06 น.  

 


โดย: นางฟ้าตกสะพาน วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:13:25:27 น.  

 
ตอนจบของโลกแบนนี่ กำลังเข้ากะชีวิตเราช่วงนี้พอดี
อาชีพของมนุษย์ที่จะอยู่รอดบนโลกแบนๆ

ขอบคุณมากค่ะ


ว่าแต่...ของหวานตบท้ายนี่ ^^;;; ....


โดย: ล ม ห า ย ใ จ ...อุ่ น อุ่ น วันที่: 30 มิถุนายน 2549 เวลา:22:59:14 น.  

 
ง่ะ ให้คิดลึกๆ เกือบจะคิดไม่ถึงซะแล้นน

wireless DNA communication เหอ เหอ น่าสนใจ ..ซะงั้น .


โดย: Niobean วันที่: 1 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:38:50 น.  

 


โดย: เสือจ้ะ วันที่: 1 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:47:12 น.  

 
แล้วเราจะโทษใครดีละ!..ถ้าเราจะต้องมองหาคนผิด.....????



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:18:58 น.  

 
โลกใบนี้หมุนเร็วขึ้นรึเปล่านะ?

รึว่าเราเองต่างหากที่ช้าลง


โดย: azamiya วันที่: 1 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:00:08 น.  

 
มะ วันนี้เชียร์อังกฤษกันคะ


โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:26:13 น.  

 
แพ้ซะแล้ว แต่ยังเหลือ Italy


โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:27:32 น.  

 
อีก 4 ปี ไม่รู้ว่าตอนนั้นอังกฤษจะเป็นยังไง


โดย: ปลาสวย (pp_b23 ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:35:13 น.  

 
แวะมาดูหนังสือ


โดย: mungkood วันที่: 3 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:03:03 น.  

 
ถ้าแบนจริง

เดินไปเรื่อยๆ ก็มีสิทธิ ตกโลก ตายแน่ๆ




โดย: ช้อนชาสีน้ำเงิน วันที่: 4 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:26:06 น.  

 
คืนนี้ละน๊อะ รู้กัน ระหว่าง อิตาลิ กับเยอรมัน อิตาลิสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:54:17 น.  

 


โดย: เสือจ้ะ วันที่: 4 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:07:32 น.  

 
ขอบคุณที่อวยพรเรื่องงานค่ะ
แต่ว่า ด้อยปัญญาจริงๆ หาตัวเองยังไม่เจอ


โดย: mungkood วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:08:08 น.  

 
นอนไม่หลับ...
เบียร์ 2 ลัง หมดยังอ่ะ...ยื้มขวดดิ


โดย: เสือจ้ะ วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:0:40:53 น.  

 
พี่จ๋า ไม่เสมอแล้วคะ 5555555555555 อิตาลิ ชนะแล้ว 2 : 0 คะ


โดย: ชาจัง (สุรัสวดี ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:7:36:32 น.  

 
ยังหาหนังสือไม่เจอจริงเหรอค๊ะ

เศร้าจัง

ลองสั่งจากทางร้านดูก็ได้ค่ะ
เผื่อว่า เขาจะได้ไปสั่ง ที่โรงพิมพ์มาขายอีก


อยากบอกว่า เวลาไปร้านหนังสือ ก็จะไปเดินดู
หนังสือตัวเอง
ปรากฎว่า ไม่เจอเหมือนกัน

ถ้ายังหาไม่ได้อีก
บอกนะคะ
ที่ช้อนมี ^^


โดย: ช้อนชาสีน้ำเงิน วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:06:42 น.  

 





โดย: เสือจ้ะ วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:56:10 น.  

 
รักครั้งแรก..มันย่อมเป็นอะไรที่ประทับใจ
มากกว่า..รักในครั้งต่อๆๆไป.....
เราต้องไม่หรอกใจตัวเองนะ.....

ขอให้สมหวังและเจออะไรที่ประทับใจ
เหมือนรักครั้งแรกนะค่ะ..



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:59:58 น.  

 


มาล่าไปหลายวัน

คิดว่าตัวเองคงอยู่ในกลุ่มที่สาม แบบกระท่อนกระแท่น

ว่าแต่ของหวานนี่เล่นเอาคิดอยู่นานเชียวค่ะ



โดย: jengly วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:10:48 น.  

 
แล้วเรา....

อืม....


ไม่มีกลุ่มไร้คุณภาพให้เลือกเหรอคะ


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:22:13 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ

ตลอดวีคนี้ ก็ มีความสุขตามอัตภาพ

ดูหนังก่อนนอน มีความสุขมั่กๆ ค๊า


โดย: ช้อนชาสีน้ำเงิน วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:10:17 น.  

 
ขอบคุณมากๆนะคะ


โดย: azamiya วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:21:30:22 น.  

 
Really Adaptable อืมมที่พอจะเข้ากลุ่มก็คงจะเป็นจำพวกนี้แหละครับ หุๆ


โดย: นายเบียร์ วันที่: 7 กรกฎาคม 2549 เวลา:4:11:05 น.  

 
เจ้าของบล็อกหายไปไหนค่ะ..????

เอา..catt..สวยๆๆๆมาฝากค่ะ...



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:37:17 น.  

 
สวัสดีครับ
ลุงกล้วยมาอ่านอาชีพคนบนโลกใบนี้ด้วยครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 5 มิถุนายน 2550 เวลา:11:09:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หากผมรักคุณจะผิดมากไหม
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนบางคนอยากมีเงินเท่าทะเล
เขาจึงมีความทุกข์เท่าทะเล......
เพียงเพราะต้องดิ้นรน........
หาเงินให้เท่ากับทะเล

คนบางคนอยากมีเพียงเบ็ดสักคัน
เพียงเพื่อหาปลาตัวนึง....จากทะเล
กลับไปเป็นอาหารเย็น
และมีความสุขกับ....การนอนนับดาว
ยามค่ำคืนบนชายหาดที่สงบเงียบ

Friends' blogs
[Add หากผมรักคุณจะผิดมากไหม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.