It's my home Vol 17: Update บ้านบานๆ..ม่านหน้าต่าง...เรื่องเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้กลับมาประจำการแล้วค่ะ บ้านบานๆ ก็จะทยอยเอามาเล่าสู่ประสบการณ์การทำบ้านกันค่ะ.....
วันนี้ขอเล่าเรื่องราวขำๆ ของ "ม่าน" ในบ้านให้ฟังค่ะ....
บล็อคก่อนหน้านี้....ติดตั้งสติกเกอร์พรางแสงและเหล็กดัดไปแล้ว ก็ถึงคราวของม่านกันบ้างค่ะ....
เราเองก็ทำงานประจำอยู่ ไม่ค่อยมีเวลา....พอติดเหล็กดัดแล้ว ก็คิดว่าจะต้องติดม่านเลยดีกว่า.....จะได้เสร็จเรียบร้อยไปอีกงาน....
ว่าแล้วก็เริ่มใช้อากู๋จัดการหาเรื่องผ้าม่าน....เอ....แค่ม่านเรื่องเดียวเนี่ย เรื่องมันเยอะเหมือนกันนะคะ
ม่านมีหลายแบบค่ะ.......อ่านเก็บข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
"ม่านจีบ" ม่านรูปแบบที่มีมา อย่างช้านาน แต่ยังคงความนิยมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยดีไซน์การเย็บจับจีบ ที่ด้านบนของม่าน ทั้งแบบ 2 จีบ หรือ 3 จีบ ตามความสวยงาม หรือ ความเหมาะสมในการตกแต่งห้อง ที่แลดู เรียบร้อย แต่เก๋ไก๋ กับระยะห่างของจีบที่มีความเท่ากันในทุกๆ ช่วงทุกจีบแลดู สวยงามและเป็นระเบียบ เรียบร้อย ต้องการความผ่อนคลาย สบายตาให้กับตนเองและคนรอบข้าง
"ม่านหลุยส์" เสริมสร้างความหรูหรา มีระดับ อย่างภูมิฐาน และ สง่างาม ให้กับบ้านของคุณด้วยการเลือกตกแต่งบ้าน กับหลากหลายดีไซน์ของม่านหลุยส์ ที่สามารถนำผ้ามาเย็บตกแต่งได้หลายรูปแบบ ตามต้องการ ม่านหลุยส์ช่วย เพิ่มความคลาสสิค เหมาะสำหรับสถานที่ ที่ต้องการความเป็นทางการ โอ่อ่า อลังการต่อผู้พบเห็น เช่น ห้องประชุม ห้องรับแขก หรือ เวทีต่างๆ ที่ใช้ในการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติระดับสูง หรือ เพื่อบ่งบอกถึงฐานะและรสนิยมสุดหรูของเจ้าของ บ้าน นอกจากนี้ ยังสามารถตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการติดผ้าโปร่งแสนหวานที่ด้านใน ช่วยเพิ่มความสวยงามนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
"ม่านห่วงตาไก่" อินเทรนด์ ไม่ตกยุคสมัย ด้วยดีไซน์การตกแต่งบ้านในรูปแบบม่านห่วงตาไก่ กับลักษณะของรางม่านที่สอดผ่านห่วงตาไก่ ที่ยึดติดกับผ้าม่าน ในลักษณะสลับไปสลับมา กับการเว้นระยะของห่วงตาไก่ที่ได้ความเท่ากันทุกช่วง พร้อมคลิปจัดระยะ เพื่อช่วยให้ ผ้าม่านในรูปแบบนี้ ดูเป็นลอนคลื่นสวยงาม ง่ายต่อการเปิด-ปิดม่านและการทำความสะอาด เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมตกแต่งบ้านให้ดูหรูหรา ร่วมสมัย และโดดเด่นกับม่านสไตล์ยอดนิยมนี้
"ม่านคอกระเช้า" รูปแบบเรียบง่าย ที่ได้รับความนิยมและคงความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง กับลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวม่านสไตล์นี้ โดยการนำผ้าม่านมาทำเป็นห่วงของม่านภายในตัว และเย็บติดกับกระดุม หรือ ผูกโบว์ เพื่อเพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับตัวม่าน แลดูเป็นธรรมชาติ มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเรียบง่าย และ ดูเป็นธรรมชาติ กับ ตัวม่านที่มีส่วนประกอบเป็นผ้าทั้งหมด
"ม่านพับ" เพิ่มความคลาสสิค ในสไตล์ที่ต้องการด้วยการเลือกใช้ผ้าม่านในรูปแบบม่านพับ กับเอกลักษณ์ของม่าน ที่มีลักษณะเป็นชั้นพับซ้อนกันเมื่อดึงม่านเปิดขึ้น รับแสงแดดหรือ แสงสว่างจากภายนอก กับการใช้งานที่สะดวกง่ายดาย เพียงแค่ดึงโซ่เบาๆ ที่ด้านข้างของ ตัวม่านเมื่อต้องการเปิดม่าน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความทันสมัย กับการใช้งานที่ไม่ ยุ่งยาก สลับซับซ้อน บ่งบอกถึงสไตล์ความเป็นตัวคุณได้ด้วยม่านชนิดนี้
"ม่านยก" ม่านยก หรือ ม่านระย้า มีรูปร่างคล้ายกับบอลลูน ที่มีการจับจีบและเย็บติดกัน เป็นช่วงให้ได้ระดับที่เหมาะสม ในลักษณะการเปิด ปิด ม่านที่ขึ้นลงในแนวดิ่ง ทั้งแบบที่เย็บ จับจีบที่ปลายด้านล่างของผ้า ที่เมื่อดึงม่านขึ้นเก็บจะแลดูพลิ้วไหว สวยงามกับความโค้งมน ที่ตกแต่งด้วยชายครุย หรือ เย็บระบายผ้าย่นที่ชายด้านล่างของผ้า และแบบที่เย็บจับจีบ ที่ได้ความโค้งที่เท่ากันทุกช่วงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ตลอดแนวผ้าม่าน ก็สามารถช่วยเพิ่มความโดดเด่น สะดุดตา ให้กับทุกมุมของการตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างมากทีเดียว
"ม่านแป๊บ" ที่มีสไตล์เฉพาะตัวด้วยการนำผ้ามาเย็บให้เกิดเป็นช่องว่างในด้านบน ของตัวผ้า เพื่อสอดเข้าใส่ในรางโชว์ม่าน และจับเป็นจีบย่นๆ ให้ได้ช่วงที่พอเหมาะ อันเป็น เอกลักษณ์ของม่านชนิดนี้ ซึ่งสามารถรวบม่านเก็บไว้ข้างๆ เมื่อต้องการเปิดรับแสงจาก ภายนอก หรือปิดม่านเพื่อให้เห็นลวดลายอันสวยงามของผ้าที่คุณเลือกใช้ ในยามที่ต้องการ บดบังแสงแดดจากภายนอก จึงทำให้ม่านชนิดนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมตกแต่งบ้านให้ดูมี ความคลาสสิค และเรียบง่าย ในขณะเดียวกัน
"ม่านรูปพัด" ที่มีดีไซน์เก๋ไก๋ โดดเด่น กับจีบของม่านที่ออกแบบมาให้เป็นรูปพัด เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเรียกของ ม่านสไตล์นี้ ด้วยเหตุนี้ จึงเหมาะสำหรับติดตั้งตามหน้าต่างที่มีความโค้งมน ตามรูปแบบของม่านชนิดนี้
"ม่านปรับแสง" จะทำให้บ้านและออฟฟิศของคุณดูเรียบหรู และสวยงาม อย่างทันสมัย ม่านปรับแสงมีการเคลือบผิวเพื่อรักษาคุณภาพของใบผ้าด้วยน้ำยาชนิดพิเศษที่ สามารถป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย อีกทั้งยังทำให้ใบผ้าไม่จับฝุ่น และเหมาะสมกับการใช้งาน ด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกกว่า 500 เฉดสี และวัตถุดิบที่มีคุณภาพที่แตกต่างกันออกไปโดยมีให้เลือกทั้งแบบ Fabric และ PVC สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับห้อง ยิ่งกว่านั้น ตัวใบยังมีทั้งแบบชนิดแสงผ่านได้ (dimout), ชนิดสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ (sunscreen), ชนิดทึบแสง (blackout) ซึ่งสามารถกันแสงได้ 100 % มีทั้งระบบเชือกปรับ และ ระบบแกนปรับ สามารถเปิดได้ทั้งแบบม่านเปิดข้าง และม่านแบบแยกกลางตัว สามารถปรับมุมแสงได้ถึง 180 องศา คุณจึงสามารถปรับแสงได้ตามความต้องการ ทั้งตัวม่านยังมีความสวยงาม และแข็งแรง คงทน ตลอดจนอายุการใช้งานของม่านก็ยาวนาน
"ม่านม้วน" เลือกความทันสมัยในสไตล์ที่ เรียบง่าย แต่โมเดิร์นและโดดเด่นกับม่านรูปแบบ ม่านม้วน ที่จะสร้างสีสันให้บ้านของคุณด้วยความหลากหลาย ของลวดลายผ้า และวัสดุที่แตกต่างเพื่อเพิ่มฟังก์ชันให้คุณเลือกความเป็นส่วนตัวได้หลายรูป แบบ รองรับการใช้งานได้ทั้งระบบโซ่ดึง ระบบสปริง และรีโมทคอนโทรล หากคุณกำลังมองหาม่านที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากกับการดูแลรักษาบนพื้นที่ที่จำกัด ต้องการความโปร่งโล่ง แต่ยังคงความโมเดิร์นและดูดี ม่านม้วนคือคำตอบที่ดีของคุณ
"ม่านไม้ไผ่" ม่านไม้ไผ่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของรูปแบบการตกแต่งบ้านของท่านที่รักความเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงต้องการอรรถประโยชน์ในการบดบังความร้อนและแสงแดด มากกว่าเป็นของตกแต่งเพื่อความสวยงามเท่านั้น ม่านไม้ไผ่ผลิตจากไม้ไผ่และวัสดุธรรมชาติ 100% เช่น ใยป่าน เส้นด้าย ผ่านกระบวนการอบแห้งด้วยความร้อนในอุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อรา ที่เกิดจากความอับชื้นของไม้ไผ่ ม่านไม้ไผ่สามารถทำได้ทั้งแบบม่านพับ เหมาะสำหรับท่านที่ชอบสไตล์คลาสสิก ช่วยตกแต่งบ้านให้ดูอบอุ่น ด้วยรูปแบบที่เรียบง่าย หรือแบบม่านม้วนเหมาะสำหรับท่านที่ชอบสไตล์โมเดิร์น ช่วยตกแต่งบ้านของคุณให้เหมือนรีสอร์ทที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
ขอบคุณความรู้ดีๆจากเวป //www.jatuphongcurtain.com มากค่ะ
พอหาความรู้แล้ว ก็ถึงหาความเห็นร่วมกันค่ะ....คุณชายที่บ้าน....พอเอาแบบม่านต่างๆให้ดู....ก็เกิดอาการ...
"ม่านม้วนและม่านพับ" ไม่เอา.......น่าจะพังง่าย...รูดๆไป พังแน่นอน..... "ม่านไม้ไผ่" ไม่เอา....เชื้อราในอนาคต.... "ม่านปรับแสง" ไม่เอา.....ไม่ใช่ Office.... "ม่านหลุยส์" ไม่เอา...บ้านนะ ไม่ใช่วัง... "ม่านจีบ" ไม่เอา....เก็บฝุ่น..... "ม่านโปร่งแสง (ซึ่งเราชอบมาก)" ไม่เอา....จะมีม่านไว้ทำไม....ถ้ามันต้องยังเห็นได้อยู่ .... เฮ้อ...ซะงั้น....แล้วจะเอาม่านแบบไหน!!!!!! ไปที่ร้านผ้าม่านกันเลยดีกว่า......จะได้เลิกจินตนาการกัน....
พอไปถึงร้านผ้าม่าน....ผ้าแต่ละชิ้นสวยมากๆ แต่พอประเมินราคามา....รวมทั้งบ้าน...ลมแทบจับ...ผ้าม่านราคาสูงขนาดนี้เลยเหรอ !!!! ไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะ...(เพราะไม่ได้เดินสำรวจราคามาก่อน) และที่สำคัญ รอคิวอีก 1 เดือน.....โจทย์ต่างๆ เลยต้องหันกลับมาใหม่...ตามคอนเซปของบ้าน "บ้านอยู่สบายใจ สบายกระเป๋า" ค่ะ
ครั้นจะเย็บม่านเอง...ฝีมือไม่มี....และหาไม่เจอแน่นอน..... สุดท้ายก็ต้องหันกลับมาพึ่งผ้าม่านสำเร็จรูป...ด้วยเหตุผลที่ว่า..."ไม่แพงมากเกินไป ซื้อง่าย ไม่ต้องรอนาน"....
เข้าเวปอีกครั้ง มีขายเยอะนะคะ แต่ว่า ชอบเลือกเองมากกว่า....และแล้วก็ต้องกลับไปพึ่ง HP ค่ะ......
ดีนะที่บ้านเราเป็นหน้าต่างแบบมาตรฐาน ไม่ได้เป็นหน้าต่างทรงสูง ทำให้หาซื้อได้ง่าย แต่แล้วก็ลำบากอีกหน่อย เพราะผ้าที่เหมือนกันทั้งบ้าน หน้าต่างครบ 7 ชุด 14 ชิ้น ไม่มี.......เลยหันกลับมาตั้งหลักที่บ้าน คุยกันใหม่.....และแล้ว เด็กแนว 2 คนก็ลงความเห็นว่า "บ้านเรา ไม่จำเป็นต้องมีม่านหรือมีคอนเซปเหมือนกันทั้งบ้านนี่นา" ถ้าเป็นอย่างนั้น จัดไป....ห้องละสีไปเลย!!!!
กลับไปเดิน HP ด้วยโปรโมชั่นจูงใจ....ซื้อครบ 10,000 บาท ติดตั้งฟรี.....นี่แหละดึงดูดสุดๆ ถ้าเอาไปติดเอง ช่างในโครงการคิ 100 บาท/จุด รวมๆก็ 2,000 บาทในการเจาะบ้านเราได้ ดังนั้น....เลือกที่นี่แหละ.... ก็ได้มาหน้าตาแบบนี้ค่ะ
มีวิธีการเลือกผ้าม่าน ตามที่เค้าแนะนำไว้ด้านหลังด้วยค่ะ....หลักๆ ก็ดูว่า หน้าต่างเรากว้างและยาวขนาดไหน แล้วเผื่อให้มีระยะย่นให้ได้ค่ะ.....ไม่ยากเท่าไหร่ แต่กะให้สวยเนี่ย อีกเรื่องนึงนะคะ ^^
ส่วนราง เราก็เลือกใช้รางสำเร็จแบบนี้ค่ะ ราคาไม่แพง ยืดได้ตามขนาดที่ต้องการ...
ลูกสาวมาช่วยลุ้นค่ะ.....อ่านออกไหมลูก
และอีก 1 วันหลังจากนั้น HP ก็โทรมาค่ะ นัดเข้ามาติดช่วงบ่าย ซึ่งเราอยู่ที่บ้านกำลังดูงานอื่นๆอยู่พอดี...และแล้วน้องม่านก็เข้าประจำที่ตามห้องของเค้าค่ะ....
ห้องนอนใหญ่ของเรา ด้วยความชอบม่านตาไก่เป็นทุนเดิม ขอหน่อยเหอะ....ถึงแม้งบจะบานกว่าห้องต่างๆไปหน่อย 55555
ห้องต่อไปก็เป็นม่านสีต่างๆ ตามใจและตามงบของเจ้าของบ้าน 5555
ส่วนห้องนั่งเล่น คุณชายเลือกสีเองค่ะ....ม่วงมาเลย....ได้ใจ.....
เราก็หาเหตุผลดีๆให้ม่านสำเร็จได้นะคะ....
ข้อแรก....ราคารับได้ ไม่แพงมากนัก ....จริงๆแล้ว ในเมืองตรังยังมีร้านที่ตัดม่านสำเร็จขายอีกต่างหาก....แต่หาไม่เจอตอนแรกค่ะ... ข้อสอง....เปลี่ยนง่าย เมื่อเบื่อ เพราะราคาไม่แพงเกินไปนี่แหละค่ะ....ไม่เสียดายเท่าไหร่ ถ้าตัดมาแพงๆ จะเปลี่ยนก็เสียดายตังค์เนอะ ข้อสาม...ติดตั้งสะดวก ถอดซักก็ง่าย..... ข้อสี่....โหลไปบ้าง ก็ธรรมดาค่ะ ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันได้มาก นอกจากทำเองนะ...ซึ่งแน่นอนค่ะ เก็บเงินไว้ DIY อย่างอื่นต่อดีกว่า...
คราวหน้าจะมีเรื่องอื่นๆมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ...มีความสุขมากๆค่ะ
Create Date : 01 มีนาคม 2556 |
Last Update : 1 มีนาคม 2556 10:37:52 น. |
|
21 comments
|
Counter : 8954 Pageviews. |
|
|