เมษายน 2553

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ณ กาลครั้งหนึ่ง - ผาด พาสิกรณ์


ณ กาลครั้งหนึ่ง
ผู้เขียน ผาด พาสิกรณ์
จำนวน 453 หน้า
สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 สิงหาคม 2547
ราคา 265 บาท

ได้ยินชื่อผาด พาสิกรณ์ครั้งแรกจาก "เสือเพลินกรง" นิยายเรื่องยาวในขวัญเรือน แต่ก็ยังไม่สบโอกาสหามาอ่านเสียที วันนี้ขอเลือกผลงานเล่มแรกของลูกไม้ใต้ต้นลูกนี้มาตอบก่อนก็แล้วกันนะคะ


((เขียนไปแล้วก็รู้สึกว่ารีวิวน่าจะสปอยด์เละเทะ ต้องขออภัยไว้ก่อนนะคะ))


ณ กาลครั้งหนึ่ง - เรื่องราวการตามหาความทรงจำวัยเยาว์อันมีความหมาย ผ่านการผจญภัยอันแสนประทับใจกับเพื่อนคนพิเศษยิ่งของวิทธนีย์ - ดาราสาวลูกครึ่ง แรง แกร่ง เฉียบของฟ้าเมืองไทย

วิทธนีย์หรือวิดนี่เลือกเขียนนิยาย แทนการเขียนหนังสือฮาวทู "...กับวิทธนีย์" อย่างที่วางขายกันเกลื่อนแผง เธอไม่ได้บอกใครว่าเธอใช้เรื่องจริงในวัยเด็กของเธอเป็นพล็อต ยกเว้นจีจี้เพื่อนสนิทของเธอ แต่ด้วยความไม่คุ้นเคยกับคำทับศัพท์ และบริบทที่มีฉากหลังเป็นเมืองไกลอย่างวินสโลว์ อริโซน่า สหรัฐอเมริกา บวกกับความสงสัยในฝีมือ ปานปรารถนา-พี่เลี้ยงที่สำนักพิมพ์ส่งมาช่วยวิทธนีย์จึงเที่ยวเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่แรกก็เพื่อทำความเข้าใจกับฉาก ศัพท์แสงภาษาอังกฤษ และสิ่งต่างๆ ที่วิทธนีย์ใส่เข้ามาในเรื่อง จนไปพบเว็บไซต์ประหลาดแห่งหนึ่งซึ่งมีเรื่องเล่าแบบเดียวกันเป๊ะกับเรื่องของวิทธนีย์ การผจญภัยในอริโซน่าของเด็กชายหญิงชาวไทยสองคน เพียงแต่เป็นเรื่องที่เขียนในภาษาอังกฤษ จากที่แต่แรกปานปรารถนาคิดว่าวิทธนีย์อาจลอกพล็อตเรื่องมาจากเว็บไซต์แห่งนี้ เมื่อได้คุยกับบรรณาธิการบริหารและกับเพื่อนเอกอังกฤษของเธอ ทั้งสองชี้ให้เธอเห็นว่า นี่อาจเป็นเรื่องเดียวกันที่เขียนโดยคนสองคน นั่นหมายความว่านิยายของวิทธนีย์เขียนจากเรื่องจริงของเธอ บก.เริ่มมองเห็นช่องทางการ "ขาย" ที่น่าสนใจ ขณะเดียวกันปานปรารถนาก็เริ่มพบสิ่งมีค่าที่เธอทำหล่นหายระหว่างการทำงาน นั่นคือมุมมองในการมองโลกและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยสองสิ่งประกอบกัน (ความคิดของบก. และความคิดของปาน) ทำให้ปานปรารถนาได้มีส่วนช่วยวิทธนีย์ตามหาเพื่อนคนพิเศษ เด็กชายคนนั้นที่อยู่ในใจเธอมาตลอดสิบสี่ปี จากเรื่องเล่าจากเว็บไซต์ขายของแปลก ที่ประกาศขายชิงช้าซึ่งมีจดหมายของเด็กชายผู้รอคอยถึงเด็กหญิงในเรื่องเล่าแปะไว้ข้างใต้ บวกกับข้อมูลล่าสุดว่า เด็กชายผู้เติบโตเป็นหนุ่มแล้วนั้น อาจได้เสียชีวิตไปแล้ว วิทธนีย์ตัดสินใจเดินทางกลับไปที่อริโซน่า เพื่อค้นหาความจริง กลับไปเพื่อทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับเด็กชายคนนั้น คนที่เธอเฝ้าคิดถึงทุกนาทีตลอดสิบสี่ปีที่่ผ่านมา

คุณผาดวางโครง เล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ เหมือนเราได้อ่านเรื่องซ้อนเรื่อง แล้วยังซ้อนไปในอีกเรื่อง แถมยังขนานกับอีกเรื่องเหมือนเงาสะท้อนให้ย้อนมอง เรื่องการผจญภัยในวัยเด็กของวิดนี่และท็อดเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น และอบอุ่นหัวใจ การเขียนนิยายของเธอทำให้ได้ย้อนคิดถึงความทรงจำอันมีค่าโดยละเอียด ได้คิด ได้ใคร่ครวญ และค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ขณะเดียวกันการร่วมทำงานชิ้นนี้กับวิดนี่ก็ได้ทำให้ปานปรารถนาได้พบสิ่งที่มีค่าของเธอเช่นกัน คุณผาดเล่าเรื่องทั้งสองช่วงเวลาสลับกันไปมาอย่างสอดผสาน รอยเชื่อมระหว่างเหตุการณ์สองช่วงใช้เทคนิคความต่อเนื่อง ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวก็เหมือนก้าวข้ามประตูจากปัจจุบันแล้วไปโผล่ในอดีต หรือตัวละครในอดีตตั้งคำถามแล้วตัวละครในปัจจุบันก็เหมือนตอบคำถามเดียวกันนั้นเอง คุณผาดใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษในการบรรยายเหตุการณ์และในบทสนทนามากพอสมควร มากจนเกือบรู้สึกออึดอัดนั้นตอนแรก ส่วนหนึ่งอาจเพราะมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในต่างประเทศด้วย และอีกอย่างหนึ่งอาจเป็นด้วยเจตนา เจตนาที่จะทำให้เกิดความสมจริงกับตัวละครอย่างปานปรารถนา ที่อ่านนิยาย(อาจจะ)เรื่องเดียวกันของวิทธนีย์แล้วต้องลุกขึ้นมาหาซื้อดิคชันนารีและเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม (จนตอนแรกคิดว่า คุณผาดสร้างตัวละครตัวนี้เพื่อเป็นตัวแทนคนอ่าน รู้สึกหรือพูดแทนคนอ่าน)

นอกจากความน่าสนใจของการเล่าเรื่อง คุณผาดยังมีลีลาการบรรยายภาพที่น่าประทับใจ เช่น

ตะวันล้าแรงสีแดงก่ำ กำลังนวยนาดหย่อนร่างคล้ายอมยิ้มอันใหญ่หลบลงหลังผาลึก แสงสีแดงตกกระทบชั้นหินไล่ระดับ เหลือบระยับระยิบ กระพริบพรายไปทั้งหุบ เหยี่ยวสองสามตัวแผ่ปีก หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ไหลเอื่อยร่อนเรื่อยไปตามแรงลม ไร้การขยับไหวอันใด เชื่องช้่ารอตะวันคล้อยคลาค่อยลับขอบฟ้าไป

เบื้องล่าง สุดปลายเหวลึกลิบตา แม่น้ำที่เคยไหลอยู่เชี่ยวกราก ถูกกลืนหายไปกับความมืดสนิท

สวนแสงตะวันไปในทิศทางเดินลาดลงเขา เงาของล่อสองตัวเดินต้วมเตี้ยมตามกัน ตัวที่อยู่หน้าแบกสองเด็กผมเปีย กอดเอวกันส่งเสียงหัวเราะคิกคักมาไม่ขาดระยะ ส่วนตัวที่สองเดินโยกเยกตามมา แบกเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ขี่ซ้อนมากับ...เป็ด (ตุ๊กตา) ตัวใหญ่

หรือ

ปานปรารถนาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าเธอหยิบแว่นกรอบสีเงินที่เคยใส่สมัยเป็นนักเรียนมาใส่ มันเบาสบาย จนทำให้เธอลืมมันเสียสนิท ไม่เหมือนกับแว่นกรอบหนาที่เธอใช้อยู่เป็นประจำ ที่ทั้งหนัก ทั้งกดจมูก ความหนาของกรอบแว่นยังแผ่ผ่านเข้ามาให้เห็นในรัศมีสายตา เหมือนมีอะไรดำๆ มาตีกรอบมุมมองของเธอ ให้แคบจำกัด ทักของวิทธนีย์ตอกย้ำว่า เธอเคยทรมานตัวเองแค่ไหน


แต่ในลีลาอันน่าตื่นตาตื่นใจนั้นก็มีบางข้อแปลกๆ ให้ติดขัดในใจอยู่เหมือนกันค่ะ เช่น การที่เด็กทั้งสองผจญภัยตลอดหลายวันในชุดนอน หรือสถานการณ์ที่นำพาให้ทั้งคู่ได้ออกเดินทาง คุณผาดได้อธิบายเฉลยในตอนหลังถึงความบังเอิญอย่างเหลือเชื่อที่ทำให้พ่อแม่ของเด็กทั้งสองไม่เอะใจ (ต่างคนต่างคิดว่าลูกของตัวเองอยู่กับอีกครอบครัวหนึ่ง) แต่ความพิกลอยู่ตรงที่ พ่อแม่จะยอมฝากลูกคนเดียวของตัวเองไว้กับคนที่เพิ่งพบหน้าได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยเชียวหรือ และมีการบรรยาย 2-3 จุดที่ใช้สรรพนามที่ทำให้รู้สึกว่าแปลกดี คือ ไม่ได้รู้สึกว่าผิด หรือไม่ถูกต้อง เพียงแต่รู้สึกว่าแปลก เช่น ใช้ "เขา" เป็นบุรุษที่สามพูดถึงปานปรารถนา

สรุปแล้วชอบงานชิ้นแรกของคุณผาด พาสิกรณ์ค่ะ น่าสนใจทั้งประเด็นที่ฝากให้คิด ทั้งจังหวะการเล่าเรื่อง และลีลาที่ใช้ คงจะติดตามงานชื้นอื่นๆ อีกค่ะ

ผลงานรวมเล่มอื่นๆ ของคุณผาด (ไม่แน่ใจว่าครบถ้วนหรือเปล่า)
- รวมเรื่องสั้น สำเนียงของเวลา
- ฝัน...ที่แยกราชประสงค์
- นางแมวยาง
- เสือเพลินกรง



Create Date : 19 เมษายน 2553
Last Update : 19 เมษายน 2553 21:25:05 น.
Counter : 2353 Pageviews.

6 comments
  
สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วสงสัยในจุดเดียวกันเลย กับการที่เด็กสองคนผจญภัยในโลกกว้างได้ขนาดนั้นได้ไง แต่ก็พอจะหยวนๆ ได้คล้ายกับว่าดูหนังเด็กฝรั่งของฮอลลีวู๊ดที่ผจญภัยหาความหมายและความสุขของชีวิตน่ะค่ะ

แต่ว่าเป็นอีกคนที่ชอบงานคุณผาดค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยได้ติดตามอ่าน มีหยุดๆ ขาดหายไปบ้าง งานเขียนของคุณผาดลงประจำที่นิตยสารขวัญเรือนด้วยน่ะค่ะ
โดย: อิมาอิซัง วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:10:53:47 น.
  
เป็นหนังสืออีกเล่มที่เราได้ซื้อเก็บไว้ ..แต่ยังไม่ได้อ่าน
โดย: นัทธ์ วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:22:41:31 น.
  
อ่านเรื่องนี้มาได้สักพักแล้วค่ะ(หลายปีอยู่ค่ะ) เนื้องเรื่องอ่านแล้วชวนติดตามดีค่ะ จะสะดุดก็ตรงจุดเดียวกับคุณเที่ยงวันนั้นแหละค่ะ.....ส่วนเรื่องที่ลงใขขวัญเรือนอยู่ตอนนี้ ยังไม่ได้ตามอ่านเลยค่ะ
โดย: ทะเลสวย IP: 119.42.68.123 วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:16:15:55 น.
  
ขอแทรกหน่อยนะคะ.. ใครที่อ่านเรื่อง ฝัน...ที่แยกราชประสงค์ แล้ว... อยากทราบความรู้สึกหน่อยค่ะ ว่ารู้สึกเหมือนกันรึเปล่า? คือแบบว่ามันไม่น่าจะจบแบบนี้เลย มันเหมือนว่าพี่ต้นเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ แล้วไม่มีโอกาสออกมาแก้ไขในสิ่งที่กระทำไว้ เพราะผู้แต่งต้องการให้เป็นแบบนี้ ซึ่งผู้อ่านก็รู้สึกหดหู่ใจยังไงบอกไม่ถูก ใครมีเมล์หรือเบอร์โทรคุณผาด รบกวนช่วยส่งมาที่ เมล์Nco_13@hotmail.com ได้มะคะ คือแบบว่าข้องใจสุดๆๆๆ
โดย: Akera Koi IP: 192.168.4.83, 203.114.106.13 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:15:00:32 น.
  
คือ หนังเล่มแรกของพี่ผาด แกชื่อ สำเนียงของเวลา ไม่รู้ยังหาชื้อได้อยู่ไหมนะ
โดย: @naynarajitt IP: 58.137.15.98 วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:18:27:04 น.
  
ยอมรับผิดครับคุณเที่ยงวัน

มันเป็นงานเขียนชิ้นแรก ผมคงใช้สรรพนามผิดจริงๆ นั่นแหละ เสียดายที่ บก. ไม่ทันเห็น

พิมพ์ครั้งต่อไป ผมจะแก้ไข

ขอบคุณมากครับ

โดย: ผาด พาสิกรณ์ IP: 124.120.49.121 วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:6:59:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เที่ยงวัน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]