รีวิวชีวิต
|
|||
วันเริ่มต้น...เส้นทางสู่พยาบาล ขอสวัสดีทุกคนที่(เผลอ)เข้ามาอ่านนะคะ หลายๆคนมีความฝันต่างๆมากมายแต่บางครั้งความฝันกับความเป็นจริงมักไม่ได้ไปด้วยกัน วันนี้เลยถือโอกาสตรงนี้เป็นอีกหนึ่งฝันและหนึ่งกำลังใจของคนที่ตัดสินใจเข้าสู้เส้นทางสาธารณสุขค่ะ ความฝันแรกของเราจริงๆคืออะไร?? เราก็ตอบตัวเองไม่ได้แต่เกรดมันถึงสายวิทย์ ดังนั้นตอน ม.4 เราเลยเลือกเรียนสายวิทย์เพราะเป็นสายที่เปิดกว้างกว่า และถ้าจะเปลี่ยนใจมาสายศิลป์ทีหลังก็ยังมีโอกาส(ยอมรับว่าเห็นแก่ตัว กั๊กพื้นที่คนอื่น) พอมาเรียนจริงๆ เกรดก็ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้แย่ เกรด เฉลี่ยอยู่ที่ 3 กว่าๆ ก็พอถูไถแต่เรียนิเศษหนักพอสมควร คือเพื่อนบิวท์ หนักว่าอยากเป็นหมอด้วยความที่ไม่มีความฝันเลยเอนเอียงตามไป ก็ตั้งใจเรียนต่อไป พอมา ม.5 คราวนี้เริ่มเบื่อกับพวกตรรกะ การคิดวิเคราะห์ประจวบกับช่วงนั้น เพื่อนบางส่วนเริ่มตอบโจทย์ตัวเองได้ว่าอยากเป็นอะไรคำตอบที่ว่าคืองานสายบัญชี เราก็เอนเอียงตามไปอีก เลยไปคุยกับแม่ว่าไม่อยากเป็นหมอละอยากเป็นนักบัญชีแบบแม่ (มาไม่ได้บังคับนะคะ ว่าให้เรียนหมอ หรือบัญชี)แม่ก็บอกโอเค แล้วแต่ อยากเรียนอะไรก็ตามใจ เราก็เลยลุยไปทางคณิต(ไหนว่าเบื่อคำนวณ 555) เริ่มละทิ้งวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะพอเกรดออกมา เกรดลดฮวบเลยจ้า โดนแม่จัดไปชุดใหญ่ คือให้เปลี่ยนสายแต่ไม่ได้หมายความว่าให้ทิ้งวิชาอื่น(โรงเรียนเราให้เปลี่ยนสายได้แค่ตอน ม.4 เท่านั้น) โอเค ตั้งสติใหม่ ม.5 เทอมสอง ก็กลับมาตั้งใจเรียนใหม่แล้วก็เริ่มไปสอบ SMART-I ของ ม.ธรรมศาสตร์ คะแนนก็เกือบผ่านตลอดสรุปก็คือไม่ผ่านนั่นแหละ ไปสอบอยู่ 2-3 ครั้งแม่เริ่มบอกว่า มันเปลืองค่าตั๋วละนะ เราก็เริ่มคิด หรือว่ามันไม่ใช่ทางของเรา(วะ??) แล้ว บังเอิญมีรุ่นพี่ที่จบไป มาเยี่ยมโรงเรียนเค้าบอกว่าคณะพี่เค้าจัดค่ายสนใจมั้ย ถ้าอยากไปเดี๋ยวให้ชื่อได้เลย คณะที่ว่านั่นก็คือวิศวกรรมศาสตร์ในใจนี่แบบโหผู้ชายเยอะ น่าสน เอ้ย ไม่ใช่ ที่สนเพราะว่าตอนนั้นชอบเรียนฟิสิกส์ (แต่คะแนนไม่ได้ดีอะไรเล้ยยย)แล้วบุคลิกเราคือลุยๆ นอนกลางดิน กินกลางทรายได้ ก็เลยลองไปดู สุดท้ายก็ยังลังเลก็ปล่อยไปก่อน คราวนี้ ก็ ม.6 รีเซตตัวเองใหม่เลิกตามความคิดเพื่อนๆ แล้วมาทบทวนตัวเองดู ก็ยังคิดไม่ได้แต่ก็รู้แนวทางแล้วแหละว่าคงไม่ใช่ทางสายศิลป์จริงๆ ก็เรียนๆเล่นๆ ไป (นี่ ม.6แล้วนะ ยัง ยังคิดไม่ได้อีก)จนวันนึงจุดเปลี่ยนของชีวิตก็มาถึง เพื่อนสายวิชาการห้องก็มาบอกว่านี่ ม.มหิดลเค้าเปิดรับสมัครแล้วนะ เราก็ลองไปสมัครดูแต่เกรด กับคะแนนที่ยื่นมันไม่ถึงเกณฑ์หมอ (พลาดไปก็ตอน ม.5 นั่นแหละฉุดเกรดลง)เลยยื่นพยาบาลของศิริราชไป** แล้วก็รอประกาศผล แต่ตอนนั้นก็สอบตรงของมหาวิทยาลัยใกล้บ้านไป ปรากฏว่า...... ยื่นคะแนนได้ของสายวิทย์ได้ไม่กี่คณะแต่สุดท้ายก็ได้คณะอุตสาหกรรมการเกษตร ไปสัมภาษณ์ดิบดี สรุปคือมีที่เรียนแล้ว เย่ ก็นอนรอเลยตอนนั้นคิดอย่างเดียวเรียนอะไรก็ได้ ขอแค่ให้มีที่เรียนก็พอ !!! แต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ก็มาถึง ไม่ได้มีดอกกุหลาบ9,999 ดอก หรือช็อกโกแลตรูปหัวใจใดๆเพียงแต่มหิดลประกาศผลลลลล แล้วคือติดไง!! ทำไงละคราวนี้ตอนยื่นไม่ได้บอกแม่ด้วยนะ ก็ถึงเวลาเปิดเผยความจริงคราวนี้คิดหนักทั้งบ้าน พ่อกลัวการที่ลูกสาวต้องไปอยู่ไกล แม่กลัวว่าลูกสาวจะเหนื่อยเมื่อเป็นพยาบาลเต็มตัวเราก็ไม่ได้ชอบอะไรคณะนี้เป็นพิเศษเลยไม่มีความคิดเห็นอะไรแต่ยังไงทุกคนในครอบครัวก็ลงความเห็นว่ายังไงก็ต้องไปสัมภาษณ์(เดี๋ยวค่อยว่าเล่าต่อเรื่องการสัมภาษณ์และการใช้ชีวิตแต่ละชั้นปี)สรุปผ่านหมดทุกขั้นตอน เหลืออย่างเดียวตอนนั้นรุ่นเราต้องทำเรื่องยืนยันว่าจะเรียนที่ไหนผ่านระบบที่มีชื่อว่า Clearing House (ดักแก่สุดๆ)จนวันสุดท้ายเลยเลือกที่จะมาเรียนที่มหิดล เพราอยากโลดแล่นในเมืองกรุง(ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป) และแล้วชีวิตในรั้วมหาลัยก็ได้เริ่มต้นขึ้น ติดตามไปได้ที่ //diary.campus-star.com/view/698.html ดีใจด้วยน่ะค่ะ
โดย: Great IP: 223.207.241.45 วันที่: 1 มกราคม 2560 เวลา:3:56:18 น.
|
สมาชิกหมายเลข 1215930
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ขอให้ประสบความสำเร็จ สมปรารถนานะคะ
พยาบาล ไม่เหนื่อยเกินกำลังแต่ละคนหรอกค่ะ
แถมมีความสุข เป็นอาชีพช่วยเหลือผู้อื่น
" อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุราลัย สู่แดนดิน"
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สมาชิกหมายเลข 1215930 Diarist ดู Blog