พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด กาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบุรีเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์
ที่ต.ท่าเสา อ.ไทรโยคมีพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด เป็นการรำลึกถึงส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ที่เชลยศึกถูกเกณฑ์มาขุดให้เป็นช่องเพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งผ่านไปได้ มีผู้คนล้มตายมากมายจากการก่อสร้างครั้งนี้
ที่เรียกว่า ช่องเขาขาด หรือช่องไฟนรก (Hellfire Pass ) เพราะแสงไฟจากคบเพลิงและกองเพลิงทำให้สะท้อนเห็นเงาของเชลยศึกและผู้คุมวูบวาบบนผนังนั่นเอง และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดในที่สุด
ฉันเป็นคนชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ สถานที่แห่งนี้จึงไม่อาจรอดพ้นจาก to go list ไปได้
พิพิธภัณฑ์แบ่งเป็นโซนนิทรรศการ และโซนเดินเท้าเพื่อชมเส้นทางการขุดเจาะเขาทำทางรถไฟ
รองเท้า DIY (รองเท้าทำมือ ตามมีตามเกิด) ฝีมือเชลยศึกที่ขาดแคลนรองเท้าใช้ในสมัยสงคราม
อาหารประจำวันของเชลย มีเพียงข้าวน้อยนิด ส่วนกับคือผักดองและปลาเค็มแห้งๆยืนพื้น ฉันสลดใจกับมุมนี้มาก ถ้าฉันอยู่ในค่ายนี้ คงตรอมใจตายตั้งแต่สัปดาห์แรก เพราะเรื่องกินถือเป็นเรื่องใหญ่หลวงจริงๆ
เดินมาชมมุมนี้ สลดใจยิ่งกว่า นี่คือโปสการ์ดที่แห้งแล้งที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมาในชีวิต
เชลยศึกไม่สามารถเขียนจดหมายยาวๆถึงญาติได้ นอกจากกรอกข้อมูลในการ์ดที่พิมพ์มาเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ว่า อยู่ หรือ ป่วย หรือตาย
คนชอบเขียนอย่างฉัน คงตรอมใจตาย ณ จุดนี้เช่นกัน
ออกจากพิพิธภัณฑ์โดยหอบเอาจิตหดหู่ไปด้วย ลงมาเดินตามเส้นทางประวัติศาสตร์ ยิ่งตะลึงเข้าไปอีก
1. อากาศร้อนจัด แม้ไม่ใช่หน้าร้อน 2.บนถนนเป็นหินกรวดภูเขา เดินด้วยรองเท้าผ้าใบอย่างดี ยังขรุขระเต็มที ไม่ต้องนึกถึงเชลยที่เดินเท้าเปล่าหรือรองเท้า DIY เลย 3. ขนาดเดินตัวเปล่า ยังเหนื่อยตั้งแต่กิโลเมตรแรก แล้วคนที่ต้องขนหิน ขุดเขาล่ะ...
การได้มีโอกาสเดินย้อนรอยในสถานที่จริงทำให้รู้สึก และเข้าใจสภาพความเป็นจริงของเชลยศึกอย่างที่สุด
เมื่อฉันเดินมาถึงจุดบรรยายกลางทาง บทสัมภาษณ์ของเชลยคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า เขาเหนื่อย เขาหิว เขาป่วย แต่ภาพทิวทัศน์มุมสูงบนเขาที่มุมนี้ ทำให้เขารู้สึกว่า โชคดีแค่ไหนที่ยังมีลมหายใจ
ฉันมองไปยังทิวเขาเบื้องหน้า และรู้สึกว่า ความหวังของมนุษย์ช่างมีพลัง
หากใครแวะมากาญจนบุรี และอยากสัมผัสประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่สอง แนะนำให้แวะมาที่นี่ค่ะ
คำแนะนำสำหรับเพื่อนที่สนใจอยากมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด
- เส้นทางไปอ.ไทรโยค มองหาป้ายเกษตรและสหกรณ์ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ด้านใน ต้องแลกบัตรเข้ามาหน้าประตูค่ะ
- ค่าเข้าชมฟรี แต่มีกล่องให้บริจาคเพื่อบำรุงสถานที่ เปิด 9 โมง ถึง 4 โมงเย็น แนะนำให้เผื่อเวลาอยู่ในนี้สักสองชั่วโมง เพราะเส้นทางเดินตามธรรมชาติไกลพอสมควร
- ควรเตรียมรองเท้าผ้าใบ หมวก แว่นตากันแดด น้ำดื่ม เสมือนการเดินมินิมาราธอน แต่ถ้าใครไม่ชอบเหนื่อย แค่แวะมาชมนิทรรศการก็ได้ประโยชน์มากแล้ว
- มีหูฟังพร้อมคำบรรยายฟรีที่จุดลงทะเบียน แค่แจ้งความจำนง และจ่ายค่ามัดจำ ก็นำหูฟังไปได้ ก่อนกลับค่อยนำมาคืนและรับค่ามัดจำคืน
นักท่องเที่ยวหลายคนไม่ทราบตรงนี้ เลยไม่ได้หูฟัง เวลาเดินแล้วฟังบรรยายไปด้วย (มีภาคภาษาไทย อังกฤษ และภาษาอื่นๆให้เลือก) จะซาบซึ้งถึงแก่น
เอนทรีหน้า ส่งท้ายทริปตามอำเภอใจที่กาญจน์ ด้วยภาพซึ้ง รักแรกคลิก เจอ ณเดชน์ กับพี่เบิร์ดที่น้ำตกด้วยค่ะ ตื่นเต้นมาก....จริงๆนะ
Create Date : 14 มีนาคม 2555 |
Last Update : 14 มีนาคม 2555 14:47:02 น. |
|
12 comments
|
Counter : 8739 Pageviews. |
|
|
|
โดย: psyche IP: 27.55.1.138 วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:15:38:21 น. |
|
|
|
โดย: 1 IP: 110.49.224.206 วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:16:14:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:19:11:32 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มีนาคม 2555 เวลา:19:11:55 น. |
|
|
|
โดย: diamondsky วันที่: 15 มีนาคม 2555 เวลา:6:02:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มีนาคม 2555 เวลา:6:04:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:6:19:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:8:33:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|