Woody the Alzheimer conqueror - โชคดีไหมที่เราได้อยู่ด้วยกัน
เพลง Shooby Doing นำร้องวงประสานเสียงโดย วูดดี้ ไกส์ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์อายุ 82 ปี ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้สาวป้ำเป๋อ ผู้มักจำในสิ่งไม่ควรจำ และลืมในสิ่งไม่ควรลิม...อย่างฉัน สองเดือนก่อน ฉันเปิดทีวีและไล่ช่องหารายการถูกใจไปเรื่อยๆ จนพบรายการสารคดีชิ้นหนึ่งโดยบังเอิญชื่อ The Alzeimer Project สารคดีชิ้นนี้นำเสนอเรื่องราวของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์เป็นตอนๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีเกร็ดชีวิตน่าสนใจต่างกันไป แต่ตอนที่ฉันประทับใจมากจนต้องคว้าปากกามาจดรายละเอียดเก็บไว้คือตอนของคุณลุงวูดดี้ ไกส์ (Woody Geist) วัย 82 ปี วูดดี้ทรมานด้วยโรคหลงลืมมากว่า 14 ปีแล้ว เวลาภรรยาและลูกๆไปเยี่ยมเขาที่ศูนย์ดูแลฯ บ่อยครั้งต้องทบทวนความสัมพันธ์และเล่าเรื่องในอดีตให้วูดดี้ฟังซ้ำๆ แต่ดูเหมือนพวกเขากลับกลายเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันในทุกครั้งที่พบ โรสแมรี่ ภรรยาของวูดดี้เอาภาพสมัยยังหนุ่มของเขามาอวด พร้อมบอกเล่าลักษณะนิสัยสุภาพและเป็นสุภาพบุรุษของสามี ทั้งยังเล่าถึงกิจกรรมร้องเพลงประสานเสียงที่วูดดี้เคยโปรดปรานให้ฟังแอย่างภาคภูมิใจ ภาพในอดีตของหนุ่มวูดดี้หล่อเหลา ดวงตามีประกายสดใสเหมือนจะประกาศให้รู้ว่า ชายผู้นี้มีความสุขตลอดเวลา โรสแมรี่มองภาพนั้นนิ่ง นาน ก่อนจะบอกเบาๆว่า - ฉันประมาณไม่ได้เลยว่าฉันสูญเสียอะไรไปมากแค่ไหน - ช่วงต่อมา สารคดีพาเราเดินทางพร้อมวูดดี้ ภรรยาและลูกเพื่อไปร่วมปาร์ตี้พิเศษงานหนึ่งนอกศุนย์ดูแลผู้ป่วยฯ ระหว่างทาง วูดดี้เอ่ยถามภรรยาและลูกตลอดเวลาว่าเรากำลังจะไปไหนกัน ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงงาน สมาชิกของวงประสานเสียงเดอะ กรันยอนส์ ( The Grunyons) กลุ่มเพื่อนเก่าที่วูดดี้รักใคร่รอเขาอยู่บนเวทีแล้ววูดดี้ไม่รู้ว่าตัวเขาถูกพามาที่นี่ทำไม และผู้คนที่กำลังรายล้อยเขาอยู่เป็นใคร แต่เมื่อเขาได้รับเชิญขึ้นเวที และพิธีกรบอกเขาเพียงว่า 'ต่อไปนี้เราจะร้องเพลงShooby Doing กันละนะครับ' เพียงดนตรีขึ้นไม่กี่วินาที วูดดี้ก็สามารถร้องเพลงนำวงประสานเสียงนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันนั่งดูมินิ คอนเสิร์ตเฉพาะกิจของวูดดี้และเพื่อนอย่างทึ่ง ผู้ชมในฮอลล์วันนั้น คงรู้สึกไม่ต่างกับฉัน แม้วูดดี้จะสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของตัวเอง แม้เขาจะไม่สามารถรำลึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างในอดีต แต่ก็น่าอัศจรรย์ที่ว่าในรอยหยักความทรงจำของเขายังเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงโปรดไว้ครบถ้วน และสามารถเรียกคืนความทรงจำทั้งมวลส่งผ่านมาสู่ปากของวูดดี้ได้ในทันทีที่ได้ยินเสียงคอรัสเริ่มต้น ตอนสุดท้ายของสารคดี ขณะที่ภรรยาและลูกนำวูดดี้มาส่งที่ศูนย์ดูแล วูดดี้เฝ้าพูดแต่คำว่า 'WE are lucky. Aren't we nice to be together' - เราโชคดีจริงๆ มันเยี่ยมเลยนะที่เราได้อยู่ด้วยกัน... ก่อนนี้ ฉันเคยยืมหนังสือThe Notebook สำนวนหวานหยดโดยนิโคลาส สปาร์ค เจ้าพ่อนิยายรัก มาอ่านแก้เบื่อช่วงปิดเทอม มันเป็นหนังสือที่กล่าวถึงหญิงชราคนหนึ่งที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และกิจวัตรของเธอคือการนั่งฟังชายแปลกหน้า คนหนึ่งอ่านบันทึกรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งให้เธอฟังทุกวัน โดยหารู้ไม่ว่าชายแปลกหน้าคนนั้นคือสามีของเธอเอง ระหว่างอ่าน ฉันมักอุทานในใจบ่อยๆว่า เฮียสปาร์คเขียนได้เว่อร์มั่กๆ.... ใครมันจะรักแท้แน่เหนียว เหมือนเคี่ยวน้ำเชื่อมหมดโรงงานน้ำตาลขนาดนั้น ต่อเมื่อฉันนั่งดูสารคดีชีวิตจริงของคุณลุงวูดดี้และภรรยาใน The Alzheimer Project นี้ ฉันก็พอจะเห็นเค้าลางของความเป็นไปได้ และเห็นด้วยกับพวกเขาเหลือเกินว่าYes, YOU are so lucky. คุณลุงวูดดี้และลูกสาว - ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ล หมายเหตุ : จากการสืบค้นเพิ่มเติม อากู๋ ( google) บอกฉันว่าคุณลุงวูดดี้เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อหกเดือนก่อน ในงานศพของเขา มีการนำสารคดีชุดนี้มาเปิดเพื่อรำลึกถึงคุณลุงวูดดี้ด้วย นับเป็นชายผู้โชคดีที่ได้ร้องเพลงกล่อมแขกในงานศพของตนเองอ่านเรื่องราวบางส่วนของคุณลุงวูดดี้เพิ่มเติมได้ที่นี่ (ขอบคุณพี่ yyswim ที่ส่งวิธีทำลิงค์แบบข้างบนมาให้เป็นวิทยาทานค่ะ ทำเป็นแล้ว ดีใจจัง )
Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
23 comments
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 13:58:36 น.
Counter : 1150 Pageviews.
ขอบคุณมากค่ะ