เฉลียงสามฝ่าย ตอน มหรสพ รสต้มยำ แซ่บสุโก้ย
ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.iamyoungdee.com
ด้วยอายุอานามที่ ค่อนข้างเยาว์ ของฉัน ทำให้ต้องออกตัวก่อนว่าฉันรู้็้จักบทเพลงและตัวตนของสมาชิกวงเฉลียงในภาคPast Tense หรืออธิบายง่ายๆคือ ฉันสัมผัสตำนานของเฉลียงในแบบ ได้ยินพี่ๆเขาว่ากันว่า มาโดยตลอด
จนวันหนึ่งรุ่นพี่แสนรักคนหนึ่งเอ่ยปากชวนไปดูมหรสพพูดและเพลง เฉลียงสามฝ่าย คนจะไทย ใครจะทน ฉันซึ่งไม่ฝักใฝ่่ฝ่ายใด กลับกระตือรือล้นทั้งฝันและใฝ่กับคำชวนของรุ่นพี่ขึ้นมาทันที
เมื่อถึงวันนัดหมาย ฉันไปพบรุ่นพี่ที่เมเจอร์ เอกมัย ทีแรกเรากะกันว่าจะไปดูภาพยนตร์แอนิเมชั่นล่าสุดของ Walt Disney + PIXAR เรื่อง UP แต่เวลาไม่อำนวย เลยเปลี่ยนแผนไปนวดฝ่าเท้าแทน
ไม่น่าเชื่อว่าจาก อัพ ของ พิกซ่า กลายมาเป็น โอ๊ย ของ พฤกษา (สปา) ไปได้ เพราะคนนวดบรรเลงเพลงฝ่ามืออรหันต์ จนทั้งขา และหลังไหล่ของฉันระบมเขียวไปหมด แม้จะเอ่ยปากขอความกรุณาไปหลายยกแล้วก็ตาม
ในที่สุดครอบครัวของรุ่นพี่และฉันก็เดินทางมาถึง ธันเดอร์ โดม เมืองทองธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานจนได้ ยังไม่ทันเข้างาน พายุฝนก็ตั้งเค้ามาประชิดขอบฟ้า ไม่นานฝนก็ตกพร้อมเสียงฟ้าร้องครืนๆ ฉันหันไปรำพึงกับรุ่นพี่เบาๆว่า อืม ก็โดมนี้มันชื่อ ธันเดอร์ ( Thunder) นี่เนอะ
การแสดงเริ่มตรงเวลาเป๊ะ ซึ่งเป็นประทับใจแรกที่ฉันกาดอกจันให้คะแนนเต็มไปล่วงหน้าก่อนเลย ฉันทราบมาว่าพี่เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยมป่วยหนักจนต้องเข้ารพ.ก่อนหน้าวันงาน ขณะที่พี่แต๋ง ภูษิต ไล้ทองก็ติดหวัดมาด้วย ฉันเลยใส่คะแนนในช่องคะแนนสงสารเพิ่มทบไปอีก
และแล้ว สารพัดมุขจากพี่ๆอดีตวงเฉลียงทั้งสามก็โลดแล่นบนเวที รุ่นพี่คนสวยข้างตัวฉันซึ่งปกติจะเฮฮาในระดับน้ำสลัด( หมายถึง สุขุม) วันนี้ฉันมีโอกาสได้เห็นเธอในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และได้เห็นกับตาแล้วว่า ขำจนปวดกรามนั้นมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ส่วนรายงานสภาพความเป็นอยู่ของฉันระหว่างชมคอนเสิร์ต ความที่เก้าอี้ผู้ชมอยู่ในระนาบเดียวกันหมด และคนที่นั่งหน้าฉันตัวสูง แถมทำผมตั้งกระบัง เวลาฉันมองไปข้างหน้า เลยดูเหมือนคอนเสิร์ตเขาเล่นกันอยู่โหวกเหวกในม่านสีดำ
ฉันเลยต้องใช้วิชาคิกขุ ด้วยการเอียงคอ และเบิกตาหรี่เล็กของตัวเองให้กลมโตเข้าไว้เพื่อชมคอนเสิร์ตจนจบการแสดง สลับกับการเงยไปชมภาพจากจอสกรีนอันใหญ่ข้างเวทีเป็นระยะ
ถ้าปาฐกถาไฮด์ปาร์กของคนยุโรปจะใช้เพื่อการวิพากษ์สังคม การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมแล้วละก็ วันที่ 13 มิย. 2552 ที่ผ่านมา ธันเดอร์โดมที่บรรจุคนฟังกว่าสี่พันคนก็เหมือนจะขะลอเอาบรรยากาศ ไฮด์ปาร์กแบบยุโรปมาไว้ที่นี่เช่นกัน ฐานะที่พี่ดี้ พี่เจี๊ยบ พี่แต๋งเขาตั้งตนเป็น เฉลียงสามฝ่าย ฉันก็ขอจำแนกเรื่องราวบนเวทีของพี่ๆเขาเป็นความคิดรวบยอดสามฝ่ายบ้างคือ
ฝ่ายวิพากษ์สังคม ผสมการเมือง ฝ่ายเหน็บแนมศิลปะ วัฒนธรรม พร้อมยำการเมือง และ ฝ่ายวิจารณ์การเมือง และการเมือง
สรุปคือไม่ว่ามุขของพี่ๆเขาจะกล่าวอ้างถึงประเด็นไหน ล้วนต้องวกมาเข้าเรื่องการเมือง ทุกอณูของความคิดบนเวทีจะมีกลิ่นอายการเมืองเข้าไปเสริม บ้างก็เจ็บจี๊ดๆ บ้างก็กะหวังให้คนที่ถูกพาดพิงสั่งพวกมาบอมบ์บ้านกันเลยทีเดียว
เหมือนที่เวลาเรากินอาหารอินเดีย ที่ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศเจืออยู่ทุกจานไป
แต่ทั้งพี่ดี้ (นิติพงษ์ ห่อนาค) พี่เจี๊ยบ และพี่แต๋ง ก็เกริ่นไว้แต่ต้นแล้วว่าเขาต้องการนำเสนอความเป็นไปของสังคม มากกว่าจะมาร้อง เล่น ทำหน้าเป็นกับดนตรี แบบเฉลียงที่ทุกคนคุ้นเคยและชื่นชอบ ผู้ชมที่หวังเข้ามาแล้วจะได้ย้อนรอยรำลึกดความทรงจำในแบบ เฉลีัยง เฉลียงก็อาจไม่ถูกใจนัก
ในมุมมองของคนดูคนหนึ่ง ฉันว่าในเมื่อพวกเขาปวารณาตัวไว้ว่าจะอุทิศผลึกความคิดแบบปัญญาชนเพื่อพูดในเรื่องที่หลายคนคิด แต่ไม่กล้าพูด ดังนั้นถ้าเราเปิดใจรับฟังและมองโลกตามความเป็นจริง เราจะพบว่าเรื่องต่างๆที่พี่ๆเขาหยิบยกขึ้นมา มันก็น่าขัน น่าเศร้า น่า ฯลฯ อย่างเขาว่าจริงๆ
มันทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นมาเหมือนกันว่า เวลาเราพูดว่า นี่มันช่างไท๊ย ไทย
พวกเรามีนัยยะอะไรในคำสร้อยนี้ แง่ดีหรือแง่ลบ
มหรสพครั้งนี้ของพี่ๆทั้งสามอาจเป็นต้มยำรสจัดจ้าน ประสาปัญญาชนรสเจ็บๆ ซึ่งคนที่หวังจะได้ชิมต้มจืดรสกลมกล่อมแบบตำนานเฉลียงที่เคยเป็นมา อาจไม่ชอบใจ ซึ่งก็มั่นใจว่าถ้าพี่ดี้ พี่เจี๊ยบและพี่แต๋งได้ยินคำวิพากษ์ทำนองนี้จากผู้ชม พี่ทั้งสามก็คงเต้นท่า nobody ( ที่จำเป็นต้องปิดไฟพรางเวลาเต้น เพื่อสวัสดิภาพทางสายตาของผู้บริโภค) แล้วหันมาทำหน้าทะเล้นบอกด้วยเสียงประชดว่า
แล้วแต่...
Create Date : 17 มิถุนายน 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 9:41:38 น. |
Counter : 3214 Pageviews. |
|
|
|
...แต่ "ยังไงก็บ้านเรา" และ "ยังไงก็ชอบ"
...ว่าแต่"รุ่นพี่คนสวย"นี่ใครเหรอ?