พูดถึงทาง West Coast ส่วนมากจะนึกถึง California .... ใช่เลยค่ะ ครั้งนี้จะไปดูสะพาน Golden Gate ที่ San Francisco ตอนแรก เราแอบคิดอยู่ในใจว่า อืม!! คงจะมีบางส่วนทำด้วยทองกระมัง ถึงได้ชื่อแบบนี้ ... และแล้ว ก็ถึงบางอ้อ .. ที่แท้ได้ชื่อนี้มาตาม State Nickname ของรัฐ California นั่นเอง คือ Golden State

บนสะพาน มือกล้องประจำครอบครัวกำลังทำหน้าที่







ที่เห็นเป็นเกาะไกลๆนั้นคือ เกาะที่เอานักโทษขั้นร้ายแรงไปปล่อย .. ที่เราเคยได้ดูในหนังสมัยก่อนๆ

ใครที่ร่างกายแข็งแรง อดทนต่อกระแสน้ำ และความหนาวเย็นได้ ก็นับว่ารอดตัวไป

แต่ส่วนมากแล้ว มักจะไม่ค่อยรอดมาถึงแผ่นดินใหญ่















555 ... อยากจะทำเก่ง เดินไปให้ถึงปลายสะพานเหมือนคนอื่นเขาบ้าง

แต่สังขารเราไม่ร่วมมือด้วยอ่ะ ได้แค่เศษหนึ่งส่วนสี่ของสะพาน ก็ต้องบอกลูกสาวว่า

เดินกันไปเถอะ แม่ขอเดินกลับไปนั่งคอยที่รถนะ ...








พักอยู่สามวัน ส่วนมากขับรถชมเมืองจนปรุ

ตอนบ่ายๆ ออกไปเดินเล่นแถว Chinatown

ตอนเย็นๆไ ปหาอาหารทะเลทานกันแถวๆท่าเรือ

มีหลากหลาย จนตัดสินใจไม่ค่อยจะถูก ว่าจะเข้าร้านไหนกันดี









ถ้านักท่องเที่ยวครอบครัวไหนต้องการประหยัดน้ำม้น ไม่อยากขับรถชมเมืองเอง

ทาง Town จะมีรถไว้บริการให้ด้วย

เป็นรถหลังคาเปิด นั่งกันบนดาดฟ้าของรถนั่นเอง

สงสัยถ้าวันไหนฝนตก คงไม่มีใครอยากจะนั่งแน่ๆ









แอบถ่ายมาจากหน้าต่างห้องนอนของโรงแรม

มีสามล้อไว้คอยบริการด้วยค่ะ เห็นแล้วนึกถึงบานโป่ง ราชบุรี

สารถีส่งผู้โดยสารถึงโรงแรมแล้ว

คงจะส่ง sms ถึงแฟน .....








สองยายหลานนั่งผิงไฟอยู่ด้านข้างๆ หน้าโรงแรมที่มาพัก

.... กำลังจะออกไปทานอาหารเช้ากัน ก่อนจะกลับบ้าน

พอดีเป็นตอนเช้า อากาศเย็นนิดหน่อย

ทางโรงแรมก่อไฟไว้ด้านนอกหลายกอง เอาไว้บริการด้วย

จะนั่งจิบกาแฟ หรืออ่านหนังสือ ระหว่างรอเพื่อนก็ได้

มาทาง East Coast, New England กันบ้างค่ะ .... จะต้องข้ามสะพานไปเที่ยวกันอีกแล้ว ไป New Port, Rhode Island .... ที่ยวนี้ ไปเช้าเย็นกลับ ไม่ค้าง ความที่มีหลานคนเล็ก อายุสิบเจ็ดเดือนไปด้วย ทำให้ไม่สะดวกในการออกจากรถ ไปเดินชมแหล่ง Shopping ทำได้แค่ขับรถตามกันไปช้าๆชมเมือง ครั้งนี้ เป็นการไปครั้งที่สองของเรา ..ไปครั้งแรกเมื่อสิบปีมาแล้ว จำอะไรไม่ค่อยได้ จำได้คลับคล้ายคลับคราแต่เพียงว่า ไปตกปลากัน และแวะเที่ยวอีกหลายแห่งแค่นั้น ถ้าเข้าเมือง Providence และ ไปสนามบิน Green Airport แล้วละก็ ไม่ต้องข้ามสะพาน เราชอบ Green Airport มากกว่า Logan Airport ใน Boston ... เพราะขับรถง่ายกว่ากัน และไม่ต้องเสียค่าทางด่วนด้วย

แวะเดินเล่นกันตามชายหาดที่ Jamestown ..

ให้หลานไปลุยน้ำชายฝั่งเล่น ... ก่อนจะไป Newport










อยากจะถ่ายรูปบนสะพานลงมา แต่ทำไม่ได้ เพราะรถต้องขับเร็ว

















แวะทานอาหารกลางวันกันที่ Jamestown

ไม่ใช่อาหารไทยหรอกค่ะ แต่เป็นพวก Sandwich และ Soup

ร้านที่ไปทานกัน มีแพยื่นออกไปทางด้านหลังของร้าน ให้ทานไปด้วย ชมวิวไปด้วยได้

น้ำทะเลริมฝั่งใสสะอาด เมื่อมองลงไปจากโต๊ะอาหาร
ไม่มีอะไรลอยให้รกหู รกตาจนเสียบรรยากาศ







ที่เห็นลิบๆนั้นก็คือสะพานที่ข้ามมาที่เมืองนี้

แวะกลับเข้ามา Bay State, New England ฃึ่งเป็นที่ตั้งบ้านหลังที่สองของเราบ้าง ในช่วงปิดเทิม ลูกสาวทาง West Coast จะพาหลานมาพักยู่ด้วย 3 - 4 อาทิตย์ ... ทำให้บ้านครึกครื้นดี ... อย่างที่เคยได้ยินพูดกันว่า ... เวลามีลูกหลานมาเยี่ยม ก็เหมือนกับต่ออายุให้

พอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็จะมี Cookout กัน ใครไคร่กิน ก็กิน .... ใครไคร่ดื่ม ก็ดื่ม ... ใครใคร่ฟังเพลง หรือเล่นดนตรี ... ก็ไม่ว่ากัน แถวบ้านที่เราอยู่ บ้านแต่ละหลังห่างกันพอสมควร และบ้านเรามีต้นสนที่สูงกั้นเป๊นรั้วไว้ด้วย ทั้งข้างบ้านและหน้าบ้าน จึงทำให้เสียงไม่ไปรบกวนเพื่อนบ้านนัก แต่สิ่งที่ทำให้เพื่อนบ้านต้องแวะเข้ามาเยื่ยมบ้านเราบ่อยๆคือกลิ่นหอมหวลของไก่ย่างแบบไทยๆนั่นเอง ... ขอชิมสักชิ้น ... และก่อนกลับ ขอน้ำหมักไก่ที่เหลือจะเอาไปทำไก่ย่างที่บ้านตัวเองดูบ้าง ติดใจในรสชาติสูตรของเรา ว่างั้นเถอะ

ถึงบ้านแล้วค่ะ เลี้ยวเข้ามาได้เลย








ภาพแบบนี้ที่หลังบ้าน จะมีให้เห็นในทุกๆหน้าร้อน ไร่ข้าวโพดของฟาร์มโคนมเพื่อนบ้าน

เราสังเกตุดูว่า ปีนี้ก่อนจะหว่านเมล็ดข้าวโพด จะไม่มีการไถพรวนดินเหมือนทุกปีที่เคยทำ .. สงสัยคงจะประหยัดต้นทุนกระมัง

แต่ต้นข้าวโพดก็ขึ้นงามดีไม่แพ้กัน ... มีบางกระจุกที่มีต้นสูงกว่า








ยามเช้าตรู่ ดวงอาทิตย์กำลังจะพ้นขอบฟ้า เหนือไร่ข้าวโพด

ระยะนี้ฝนตกแทบทุกวัน ท้องฟ้าเลยดูมืดครึ้ม




มาเข้าบรรยากาศ Cookout กันเลยค่ะ




Lobster เป็นอาหารพื้นบ้านที่ขาดไม่ได้ ในการมี Cookout แต่ละครั้ง ..

เพราะเป็นของโปรดของทุกคน









เวลาฃื้อ ต้องบอกกับคนขายว่า เราต้องการแบบ Soft shell เพราะเนื้อจะนุ่มนวล และไม่เหนียว








ถ้าไม่มี Lobster ... ก็ต้องมีกุ้งเผา และน้ำจิ้มรสจัดถึงใจแบบไทยๆ








Steamer (คือ Steamed Clams นั่นเอง)
อาหารทะเลพื้นบ้านที่ขาดไม่ได้อีกเช่นกัน

จิ้มกับเนยที่ละลายแล้วอุ่นๆเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับ Lobster










ไก่ย่าง ... สูตรแบบไทยๆทีเราคิดค้นขึ้นมาเอง ลูกสาวตั้งชื่อให้ว่า
C and N Chicken ...








ข้าวโพดหักมาจากฟาร์มข้างบ้านใหม่ๆ ทั้งนุ่มลิ้น ทั้งหวานกลมกล่อม

จะเอาแบบย่าง ...







หรือจะเอาแบบต้ม ...

เมื่อหลายปีก่อน เราเอาที่ต้มแล้วขึ้นเครื่องไป 2 - 3 ฝัก หมายจะไว้แก้หิวระหว่างทาง

แต่ลืมทาน พอถึงบ้านที่เมืองไทย พี่ๆน้องๆได้ชิมกัน ติดใจกันมากมาย

เราเลยสั่งเมล็ดส่งให้ลองเอาไปปลูกดู ... ผลปรากฏว่า ไม่ขึ้นค่ะ ที่ขึ้นก็ไม่โต











ตกกลางคืน งานเลี้ยงยังไม่เลิกลา นั่งกันในเต้นท์บ้าง

ฟังเพลงกันบ้าง ที่มีหน้าที่เผาฝืน ก็เผากันไป ..

ฟืนไม่ได้ไปฃื้อมาหรอกค่ะ ใช้กิ่งต้นสนที่หักลงมาจากพายุหิมะปีที่แล้วนั่นเอง

ส่วนใบจะใช้เผาไฟใกล้ๆบ้านไม่ได้ เพราะจะประทุ เป็นเปลวไฟที่รุนแรง






ของหวานล้างปากปิดท้ายรายการค่ะ







สองภาพสุดท้ายของ Blog หน้านี้ เป็นมุมที่เงียบเหงาชองบ้าน

ผู้ที่เคยนั่งมุมนี้เป็นประจำได้จากพวกเราไปแล้ว

สมาชิกในบ้านตกลงกันโดยเอกฉันฑ์ว่า จะเก็บมุมนี้ไว้เป็นทีระลึก






















งานเลี้ยง ถึงเวลาก็ต้องเลิกลา ไม่เฉพาะแต่งานเลี้ยงเท่านั้น

ดอกไม้กลีบอ่อน สีสวยหวานริมรั้วข้างบ้าน เมื่อบานเต็มที่แล้ว ก็ต้องโรยลาหลุดร่วงไปจากต้น ....

สิ่งต่างๆในโลกนี้ ... ก็เฉกเช่นกัน ไม่มีละเว้น







Credit ภาพ ... wikipedia
Google
Macmillan School Dictionary 1

ขอบคุณของแต่ง Blog จากคุณยายเก๋า และ เพื่อนๆชาว Bloggang ด้วยค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่แวะข้ามาเยี่ยมเยียนกัน ... รักษาสุขภาพ และมีความสุขมากๆกันด้วยค่ะ