Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
โลกเป็น เท่าที่เราเห็น อย่างที่เราทำ



เคยได้ยินนิทานเรื่องคนตาบอดคลำช้างไหมครับ

ที่เขาบอกว่า.. มีคนตาบอด 3 คน คลำช้างกันคนละส่วน
คนนึงคลำงวงช้างและส่วนหัว อีกคนได้คลำลำตัว อีกคนคลำตรงหาง

แต่ละคนก็บรรยายประสบการณ์ความรู้สึก ความเข้าใจ ที่มีต่อช้างต่างกัน

วันหนึ่งในอาทิตย์ที่แล้ว ผมขับรถไปธุระ ออกจากซอยที่ผมอยู่
สังเกตดูถนนแต่ละสายๆ ที่ผ่านไป แล้วก็อมยิ้ม

ผมขับผ่านถนนวิทยุ แล้วก็อดนึกไม่ได้ว่า ถ้ามีฝรั่งมาเมืองไทย แล้วพักที่โรงแรม คอนราด โดยที่ไม่ได้ไปไหนเกินกว่านั้น

เขาคงนึกว่ากรุงเทพฯ นี่สวยมากเลย ต้นไม้เยอะ บ้านช่องสะอาดเรียบร้อย

ตรงกันข้าม ฝรั่งที่เคยไปแต่พัทยา อย่างทหารเรืออเมริกัน
ก็คงนึกว่าประเทศเราไม่มีอะไร นอกจากบาร์เบียร์ และผู้หญิงส่วนมากมีอาชีพขายของเก่า

คนที่อยู่แต่ในสภาพแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะคิดไปได้ว่าโลกทั้งโลกมันเป็นอย่างนี้หมด

ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าจะได้ยินใครพูดว่า
พวกผู้ชายไม่เคยรักใครจริง หรือผู้หญิงเลือกผู้ชายเพราะเงิน

เพราะคนส่วนมากที่แวดล้อมเขาอยู่ เขาเจอ มันชวนให้เขาคิดไปอย่างนั้น

มนุษย์มีกรรมเป็นเครื่องชี้ชาติกำเนิด
มีกรรมเป็นเรือนเกิด มีกรรมเป็นเรือนอาศัย มีกรรมเป็นเรือนตาย
เราสร้างกรรมไว้ยังไง ก็เท่ากับเราสร้างเรือนรออนาคตไว้อย่างนั้น

น่าเสียดายที่คนเราทั่วๆไปไม่มีตาทิพย์ มองย้อนไปในอดีตไม่ได้
หลายคนจึงไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด
ไม่เชื่อเรื่องกรรม คิดว่าตายแล้วก็จบกัน

ในขณะที่ อีกหลายคนก็เชื่อจนงมงาย ว่า..
คนเราเกิดมาแล้วต้องอยู่ใต้อำนาจของกรรมเก่าสถานเดียว

เพราะไม่เคยรู้จักพุทธศาสนาจริงๆ เลยไม่มีโอกาสรู้ว่า
พระพุทธเจ้า สอนให้ใส่ใจทำกรรมใหม่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด

เมื่อไม่รู้จัก ก็ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจเรื่องการกระทำกรรมใหม่ ที่สำคัญยิ่งกว่ากรรมเก่า
เพราะกรรมที่ทำ ก็จะชักนำชีวิตเขาไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะควรแก่กรรมที่ทำ

เวลาพูดว่า กรรม นี่บางท่านจะนึกถึงอะไรพิสดาร เป็นเรื่องลึกลับ แบบหนังผีๆหน่อย
แต่กรรม แปลง่ายๆว่า การกระทำ ที่อาจจะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่ว ก็ได้

แปลว่า เราทำอะไรกับชีวิตเรา ก็ขึ้นชื่อว่าทำกรรมทั้งนั้นนะครับ
เช่นสนใจเรื่องกีฬา ชอบไปดูกีฬา เล่นกีฬา ก็คือการทำกรรมอย่างนึง
ผลก็คือ ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี

สนใจเรื่องหนัง ชอบไปดูหนัง ก็คือการทำกรรมอีกอย่าง
ผลก็คือ เพลิดเพลิน แต่เงินในกระเป๋าลดลง เวลาว่างน้อยลง นอนดึก ฯลฯ

ไปเที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นประจำ ก็คือการทำกรรมอย่างนึง
ผลก็คือสุขภาพโทรมง่าย ถ้าเมาแล้วขับ ก็มีโอกาสเสี่ยงเรื่องอุบัติเหตุมากหน่อย
หรืออาจจะมีเรื่องมีราวได้ง่ายกว่าชีวิตปกติ เพราะไปอยู่ใกล้คนเมา ก็อย่างที่รู้ๆอยู่

มาอ่านบล็อคนี้เป็นประจำ ก็เป็นการทำกรรมอย่างนึงนะครับ ดีไม่ดี ก็ไม่รู้แหละ 555

ในทางพุทธ เราเชื่อเรื่องกรรม บนหลักที่ว่า
โลกนี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ไม่มีคำว่าฟลุ๊ก

ทุกอย่างมีเหตุให้เกิด มีปัจจัยอันเนื่องมาจากกรรมอย่างใด อย่างหนึ่งเสมอ
ขึ้นกับว่า เราจะมองเห็น หรือจำได้แค่ไหน ว่าเราเคยไปทำอะไรไว้

ฉะนั้น ถ้าคุยกับใคร แล้วรู้สึกว่า เขามองโลกไม่เหมือนเรา ก็อย่าแปลกใจ
เพราะโลกสำหรับเขา ก็เป็นเท่าที่เขาเห็น และอย่างที่เขาทำนั่นแหละ

การศึกษาในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทิ้งไว้ในรูปของพระธรรม เป็นเรื่องที่เปิดโลกใหม่ของผม โดยสิ้นเชิง

เพราะความรู้ของอาจารย์ทั้งหลายในโลก ส่วนมากจะสอนให้ "คิด" หรือ "ทำ"
แต่พระพุทธเจ้า สอนให้เรา "รู้ทัน" ความคิด ให้ "เลิกคิดเอา" และ "หยุดทำ"

เพราะความรู้ ความเข้าใจเรื่องธรรมะ หรือเรียกว่า ปัญญาขั้นที่ดีที่สุด
เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยการคิดเอา แต่ใช้การสังเกต

ท่านสอนให้เราเป็นนักวิจัย ไม่ใช่นักคิด

555 ผมทำให้บางท่านเริ่มงงอีกแล้ว .. หรือเปล่านี่

ถามว่า..วิจัยอะไร คุณแอสตัน?? ตอบว่า.. วิจัยเรื่องความจริงของกายและจิตครับ

วิจัย คือการติดตามสังเกต ติดตามดู ก็ทำแบบนั้นแหละ กับกาย และจิต
กายมันยืนเดินนั่งนอนก็รู้ สัมผัสความเย็นร้อนอ่อนแข็ง ก็รู้
จิตมันไปทำงานอะไรก็รู้ เช่นสัมผัสความเย็นแล้วชอบไม่ชอบ ก็รู้ทัน

แล้วคุณจะเห็นว่า กายก็ดี จิตก็ดี มันมีธรรมะ หรือธรรมชาติเหมือนกันคือ

1. มันไม่เที่ยง มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
2. มันมีทุกข์มารบกวนเรื่อยๆ และ
3. เราบังคับมันไม่ได้จริงๆหรอก

ข้อ 3 นี่ บางคนอย่างพวกโยคี ที่นั่งบนตะปูได้ อาจจะเถียงว่าไม่จริง
แต่ต่อให้คนที่ทำสมถะ ทำสมาธิเก่งๆ อาจจะข่มมัน
หลบมันได้ชั่วครั้ง ชั่วคราวเท่านั้นแหละครับ

ออกจากสมาธิเมื่อไหร่ ทุกข์ ก็รอคิวอยู่เมื่อนั้น

ปฏิบัติธรรม จริงๆ พระพุทธเจ้าให้ทำแค่นี้แหละครับ มากกว่านี้ก็ไม่เอา
ที่ได้ยินว่า เจริญสติ ภาวนา วิปัสสนาอะไรน่ะ ใจความมีแค่นี้เอง

ที่ต่างกัน จะเป็นเรื่อง "เทคนิควิธี" การวิจัยเสียมากกว่า
จะเน้นการนั่งสมาธิ จะเน้นการเดิน หรือขยับมือ หรือดูลม หรือเจริญสติในชีวิตประจำวัน

ธรรมะ จึงไม่ใช่เรื่องอะไรยากๆ แปลกๆ งมงาย ต้องทำอะไรที่ผิดธรรมชาติ

จะอดข้าว ไม่อดข้าวก็ได้ จะนุ่งผ้าสีขาว สีดำ ก็ทำได้
จะอยู่ในวัด ในบาร์ ในโรงหนัง ร้านอาหาร หรือที่ทำงาน ก็ทำได้

เพราะธรรมะ มันอยู่กับกาย กับจิต ตลอดเวลา ดูเมื่อไหร่ ก็เห็นเมื่อนั้น

ไอ้ที่ไปเข้าวัดเข้าวา ไหว้พระ ทำสังฆทาน ไปถือศ๊ล
อันนั้น เรียกว่าไปทำบุญสร้างกุศล
ไม่ได้เกี่ยวอะไร กับปฏิบัติ หรือไม่ปฏิบัติธรรม

ทำทาน ส่วนทำทาน ถือศีล ส่วนถือศีล ภาวนา ส่วนภาวนา นะครับ
คนละเรื่องกัน แต่เกื้อหนุนกัน ยิ่งมีครบยิ่งดี

เหมือนขบวนการเรนเจอร์ มีห้าคน แต่ละคนเก่งไม่เหมือนกัน
แต่รวมพลังกันแล้วตู้ม ตู้ม..

ส่งท้าย.. ผมมีข่าวมาบอกนะครับ สำหรับใครที่อยากรู้จักอาจารย์ผม
อยากทำบุญ อยากกราบพระดีๆสักรูป

วันอาทิตย์นี้ ตอนเช้า ท่านจะไปเทศน์ที่ ศาลาลุงชิน หมู่บ้านเมืองทอง แจ้งวัฒนะ

เข้าซอย Big C แจ้งวัฒนะ ตรงเข้าหมู่บ้านไป เจอป้อมยามให้เลี้ยวขวา
ตรงเข้าไปสุดทางตรงจะเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้าย
ศาลาลุงชิน อยู่ตรงทางเลี้ยวนั้นพอดีครับ

ท่านจะเริ่มเทศน์ตอน 8.30 น. แต่แนะนำให้ไปตั้งแต่ 7.30 ไม่งั้นจะต้องจอดรถไกล

ไม่ต้องเอาอะไรไปเลยก็ได้ครับ ท่านไม่ได้ฉันเพล ไปเห็นไปฟังท่านสอนเรื่องการปฏิบัตินี่แหละ

อยากลองฟังก่อน ก็โหลดไฟล์เสียงท่านมาฟังได้ที่นี่ครับ
//www.wimutti.net

ไม่สนใจ ก็ไม่เป็นไรนะครับ ตามอัธยาศัย ไม่ว่ากัน

สุขสันต์วันหยุดครับ




Create Date : 17 มีนาคม 2550
Last Update : 19 มีนาคม 2550 21:41:19 น. 20 comments
Counter : 1204 Pageviews.

 


โดย: Love U forever. วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:11:48:18 น.  

 
แล้วจะไยงไงนี้

อยากไปค่ะ

ตอนเช้าหนิงเพิ่งคุยกับแม่ว่า ช่วงนี้หนิงไม่ค่อยได้ทำบุญเลย ทำแต่งาน กลับดึก ๆ เวลาพักเวลาจะอยู่กับลูกแทบจะไม่มี

แม่หนิงบอกว่า...หนิงทำบุญกับพระในบ้านแล้วไงลูก
ด้วยเงินที่หนิงหามาจุนเจือครอบครัว ทำให้พ่อกับแม่ตั้งเยอะแล้ว

ไม่คิดว่าหนิงจะร้องไห้กับคำพูดของแม่นะ
มันตื้นตันใจยังไงบอกไม่ถูก ยังไงซะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ เป็นวันที่หนิงได้หยุด 1 วันเต็ม ๆ 24 ชั่วโมง แล้วก็เป็นวันพระ หนิงนัดกับแม่และจะพานับไปทำบุญที่วัดด้วยคะ



คิดถึงเสมอค่ะ...กับคำแนะนำในการดำเนินชีวิตที่ดี

ปล.ที่เชียงใหม่บ้านคุณASTON 27 ...อากาศดีขึ้นแล้วนะคะ


โดย: run to me วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:12:13:25 น.  

 
บางครั้งอยากเปลี่ยนโลกและเปลี่ยนตัวเองให้เป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น

แต่ทำไม่ได้


โดย: random-4 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:12:51:46 น.  

 
ไม่ทราบกรรมอะไรเหมือนกันที่ทำให้ได้มารู้จัก aston27 แต่คิดว่าน่าจะเป็นกรรมดีน่ะค่ะ
พี่เขียนเรื่องธรรมะให้เข้าใจ ดูสบายๆดีจัง ขอบอกว่าเข้าใจเรื่องธรรมะมากขึ้นก็จาก blog ที่พี่เขียนนี้แหละค่ะ
อนุโมทนาในบุญกุศลที่พี่ทำอยู่ด้วยนะคะ


โดย: sunny IP: 203.150.233.178 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:13:26:56 น.  

 
ทุกอย่างมันเป็นเหตุเป็นผลกันจริงๆ ล่ะคะ ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น แต่อาจจะช้าเร็วต่างกันไปแต่ระดับความแรงของการกระทำ แต่เชื่อว่า จะต้องเป็นไปตามกฏของมันอยู่เสมอ ...

แอบยิ้มเลยล่ะค่ะกับการอ่านบล็อก อาจจะเป็นกรรมอย่างหนึ่ง แต่เป็นกรรมที่เต็มใจยิ่งเลยค่ะที่จะรับมันไว้ เพราะทำแล้วสบายใจ แล้วก็สบายใจที่จะทำ (แน่นอนและอ่านด้วยค่ะ)


โดย: JewNid วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:14:34:31 น.  

 
'โลกเป็น เท่าที่เราเห็น อย่างที่เราทำ' > ตอนแรกอ่าน นึกว่าเป็นสโลแกนพวกมือถือเครือ AIS เลยครับ - -'


โดย: BAYROCKU วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:16:34:45 น.  

 
การมารู้จักบล็อกนี้ น่าจะเป็นกรรมดีนะครับ

เพลงเพราะจัง


โดย: King Of Pain วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:18:14:02 น.  

 


ถ้าจะนับเป็นกรรม

ก็กรรมดีแหละค่ะ ^^



โดย: jengly วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:22:16:09 น.  

 


มาอ่านก่อนนอนค่ะ อ่านแล้วทำให้รู้สึกดียิ่งขึ้น

พรุ่งนี้เช้า ทำบุญเผื่ออิ๊วด้วยนะคะพี่
ขอให้ผลบุญต่างๆที่พี่ทำ จงช่วยให้พี่เจอ
แต่สิ่งดีๆและคนดีๆนะคะ @^_^@

ปล..เพลงเพราะมากๆค่ะ ชอบนะ


โดย: Kimi o ai X eru วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:0:56:23 น.  

 
ทำกรรมโดยการมาเยี่ยมบล็อกนี้ ผลที่ได้ก็คือความรู้และความคิดใหม่ๆค่ะ


โดย: goldfish memory วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:15:35:19 น.  

 
เพื่อนคนนึงดูเรื่อง crash ทางยูบีซี
..เธอบอกว่าดูแล้วได้ข้อคิดอันนึง
ว่าคนบางคนดูเป็นคนโฉด หยาบโลน แต่จิตใจกลับดีงาม
ขณะที่อีกคน ภายนอกดูเป็นคนดี แต่เบื้องลึกในจิตใจกลับเลวทราม
อืมม..น่าสนใจ

ก้อเห็นจะจริง..เหมือนที่คุณแอสตั้นเล่าเรื่องฝรั่งข้างบน
บางคนเผยตนในด้านดีงาม ดูจิตใจดี อบอุ่น มีความคิด ปฏิบัติธรรม
ผู้คนที่เห็นหรือรู้จักเขาแต่ด้านนี้ต่างชื่นชม สรรเสริญ ยกย่องว่าเป็นคนดีเหลือเกิน
แต่ตัวตนในอีกด้านที่เราไม่เห็นเล่า....อาจจะตรงกันข้าม หรือไม่งดงามอย่างทีี่เราคิด

น่ากลัวจริงๆ


โดย: ปุ๊กเองค่ะ IP: 58.8.184.131 วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:21:57:15 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ
วันนี้อ่านบล๊อกไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ สมาธิไปอยู่ที่เพลงหมดเลย ก็เพลงเพราะนี่นา ฟังครั้งแรกคุ้นมาก นึกอยู่ตั้งนาน ปกติได้ยินก็แต่เวอร์ชั่น maroon 5

ได้ข้อคิดจากคุณแอสตันล่ะค่ะ
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก้อ ดับไป ทุกๆเรื่องก็ว่าได้ค่ะ


โดย: ไก่จิกด้วงตายบนปากโอ่ง IP: 203.113.15.234 วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:23:09:54 น.  

 


โดย: strawberry machine gun วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:10:06:15 น.  

 
เรื่องตาบอดคลำช้าง
แม่พี่เล่าให้ฟังตั้งแต่เด็กๆ

แม่พี่มีนิทานเย๊อะชอบเล่าให้ลูกฟัง
เชื้อติดจนถึงพี่

ชอบเล่าให้หลานฟัง

พ่อของเค้าก้อจะเล่านิทานก่อนนอนเกือบทุกคืน
แต่เดี๋ยวนี้จะเล่านิทานผีซะมากกว่า

หลานพี่ก้อจะช๊อบชอบ
นี่ขนาดพ่อเขาจบเพาะช่างนะคะ
ถ้าจบการละคงละคร
สงสัยมีหวาดเสียวกว่านี้แหงม

มาบ้านคุณเอ็ด เป็นกรรมดีค่ะ

อ้อ...เมื่อคืนลุ้นแอสตันซ๊า

เห็นขวัญใจพี่สมัยสาวๆ

น้องแพท เบอร์เกอ
โห....ผมร่วงไปเยอะเชียว
สังขารน๊อสังขาร


โดย: ฟอ รอ ฟัน..โช๊ะๆ IP: 58.8.11.59 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:11:15:31 น.  

 
//2f4263ac35f548dd4718349aff6d4e96-t.fb4pfgd.info 2f4263ac35f548dd4718349aff6d4e96 [url]//2f4263ac35f548dd4718349aff6d4e96-b1.fb4pfgd.info[/url] [url=//2f4263ac35f548dd4718349aff6d4e96-b2.fb4pfgd.info]2f4263ac35f548dd4718349aff6d4e96[/url] [u]//2f4263ac35f548dd4718349aff6d4e96-b3.fb4pfgd.info[/u] 57d12818c724def9553d777cb035c034


โดย: Jarrett IP: 201.208.122.78 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:15:56:06 น.  

 

เป็นกรรมดีๆ ที่ได้เข้ามาอ่านบล๊อกพี่ค่ะ จากคนที่ไม่ค่อยจะสนใจธรรมะซักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ ทำให้ซึมซับไปเรื่อยๆ เป็นการเรียนธรรมะได้ทางอ้อมค่ะ


โดย: Melody of You IP: 203.155.105.41 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:16:18:43 น.  

 
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเลยค่ะ เผลอแป๊บเดียวมีบลอคอันใหม่แล้ว

ขอบคุณที่เอาลิงค์มาฝากนะคะ กำลังคิดจะหาฟังพอดี
ได้ลองฟังแล้วมีประโยชน์มากค่ะ หลวงพ่อท่านเทศน์ได้ไม่น่าเบื่อ และเข้าใจง่ายกว่าอ่านในหนังสือทั่วๆไปเยอะเลย แต่ก็มีหลายจุดที่ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน คงต้องฝึกอีกนานอยู่เหมือนกันนะนี่


โดย: Hobbit (Hobbit ) วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:18:01:55 น.  

 


โดย: law of nature วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:20:33:18 น.  

 
ขอบคุณที่นำเสนอสิ่งดีๆให้อ่าน
และแนะนำให้กราบพระอาจารย์นะครับ
อยากไปมากครับ แต่พอดีเมื่อวันอาทิตย์ไม่ว่าง คงต้องไว้โอกาสหน้า

ตะกี้พึ่ง Click เข้า website ที่แนะนำครับ
ได้อ่าน+ได้ฟัง Clip เสียงแล้ว 1 วัน
ดีมากๆเลยครับ ตั้งใจว่าจะนำไปปฏิบัติ
ขอบคุณมากครับ


โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:22:57:29 น.  

 
ขอบคุณนะคะ


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:12:51:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.