someday we write , someday we wrong









หงสาจอมราชันย์ : ความลักลั่นย้อนแย้งจึงอยู่ตรงที่...





หงสาจอมราชันย์ : เฉินเหมา (เรื่องและภาพ) : ม.ประภา (แปล) : บุรพัฒน์ คอมมิคส์



ด้วยความที่หงสาจอมราชันย์มีพื้นเพมาจากนวนิยายสามก๊ก
ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยกลการศึกชิงไหว อุดมไปด้วยเล่ห์กลการเมืองชิงพริบ และชุกชุมไปด้วยพิชัยยุทธ์สงครามซ่อนเงื่อน
หนำซ้ำยังเต็มไปด้วยชื่อตัวละครทั้งนายทหาร แม่ทัพ และกุนซือนับร้อยพัน ชื่อเมือง ตำบล ถนนสายน้ำนับหมื่นแสนที่มีให้จดจำ
จนหลายต่อหลายคนตั้งแง่กับหงสาฯว่า “มันจะยากแก่การอ่านไหม” หรือในภาษาชาวบ้านก็คือ “แล้วมันจะอ่านรู้เรื่องไหมเนี่ย!!!”

ปัญหาที่ว่าท้าตีท้าต่อยวางมวยกับความรู้สึกคนที่ยังไม่เคยอ่านอยู่พักนึง...สุดท้ายกลุ่มคนที่เคยอ่านแล้วจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
ด้วยวิธีให้คำแนะนำว่า “ก่อนอ่านหงสาฯ ควรลองฝึกซ้อมอ่านนิยายสามก๊กมาบ้างสักไฟต์สองไฟต์เพื่อสร้างความคุ้นเคย”
ฟังดูเหมือนจะเป็นทางแก้ที่ดี แต่หลังจากวิธีการนี้ถูกแปะโปสเตอร์ลงประกาศในหลายเว็บบอร์ด
มันก็ก่อให้เกิดศึกมวยนอกรอบขึ้นด้วย 2 กระแสความคิดที่ขัดคานกัน

กระแสแรกมาจากมุม(แดง)ของคนที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้
พวกเขามองว่าลำพังการจะเสพความสุขจากการ์ตูนนั้นไม่ควรที่จะยุ่งยากขนาดนั้น...ไม่ควร...ไม่เว้นแม้กับหงสาจอมราชันย์
เหตุผลของฝ่ายนี้อธิบายว่า เราจะเกี่ยงงอนว่าเนื้อหาของการ์ตูนจะซับซ้อนหรือวกวนไปทำไม?
ในเมื่อการ์ตูนมันก็มีเนื้อหาที่สมบูรณ์พร้อม มีบทสรุปความเป็นมาครบถ้วนกระบวนความ และมีส่วนอ้างอิงในตัวของมันเอง
มันไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องไปอ่านนิยายเพื่อหาคำตอบที่การ์ตูนเก็บงำซักกะหน่อย
ปริศนาที่การ์ตูนก่อ การ์ตูนมันก็พร้อมที่จะอธิบายและแก้ปมให้ในหน้าต่อๆไป(หรือบางครั้งก็ในเล่มต่อๆไป)อย่างมีความรับผิดชอบ

แต้มต่อของฝ่ายนี้ก็คือ การที่พวกเขาไม่สนับสนุนให้คนที่อยากลองอ่านหงสาฯไปหานิยายมาอ่านก็เป็นเพราะ...
พวกเขาไม่เชื่อว่านิยายจะอ่านง่ายกว่าการ์ตูน ด้วยมันทั้งไม่มีภาพ ทั้งยังเรียกร้องความอดทนและการตีความมากกว่าการ์ตูนหลายเท่า
เราจะจินตนาการใบหน้าของโจโฉจากตัวอักษรได้ชัดเจนเท่ากับการที่เราเห็นภาพการ์ตูนของโจโฉได้อย่างไร?
มันจะไม่เป็นการง่ายกว่าหรือ หากบรรดานายทหารและกุนซือทุกเหล่าทัพมี “ภาพหน้าตา” คอยช่วยให้เราจดจำได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ยังไม่นับจุดบอดที่ใหญ่ที่สุดของวิธีการนี้ ก็คือหากเราเลือกที่จะอ่านนิยายก่อน
...นั่นก็เท่ากับเราไปเสียเวลาอ่านนิยายเพื่อที่จะ “สปอย” ตัวเอง!!!
เพราะหงสาฯนั้นมีพื้นเพมาจากนิยาย แม้จะมีการต่อยอดความคิดเพิ่มเติม แต่ก็ยังต้องบอกว่ากว่า 80% ยังยืนอยู่บนพื้นเดิม
ฉะนั้นหากเราไปอ่านนิยายก่อน...เราก็จะรู้ล่วงหน้าเลยว่าใครจะแพ้ใครจะชนะในแต่ละสมรภูมิ
รวมไปถึงใครจะต้องตาย ใครจะเป็นฆ่า ใครจะย้ายฝั่งไปอยู่กับใคร อะไร ยังไง และทำไม...จะรู้ทั้งหมดไหม? คงไม่...แต่รู้ราว 80%
และมันจะเป็นไปได้ไหมที่ไอ้ 80% ที่ว่า มันจะทำให้การย้อนกลับมาอ่านการ์ตูนภายหลังมีรสชาติกร่อยๆ






กลับกัน แง่มุม(น้ำเงิน)ของกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับวิธีการอ่านนิยายก่อนการ์ตูนก็มีเหตุผลของตัวเองเช่นกัน
ด้วยเกจิอาจารย์จากเวอร์ชั่นนิยายเหล่านี้มักมองว่า “หงสาฯคือสามก๊กยกระดับที่กลับชาติมาเกิดในยุคของตัวเอง”
เพราะการ์ตูนเรื่องนี้เติมเต็มจินตนาการที่ขาดหายไปจากเวอร์ชั่นนิยาย ช่วยอุดช่องโหว่ของทุกเนื้อหาปีกย่อย
และเพิ่มเติมความสมจริงของทุกการตัดสินใจของตัวละคร

แถมเมื่อเฉินเหมาผู้แต่งเลือกที่จะจงรักกับเนื้อหาเดิมของสามก๊กและภักดีกับจินตนาการของตัวเองไปพร้อมๆกัน
หงสาฯจึงเปี่ยมไปด้วยแง่มุมใหม่ๆชวนตระการตา ทั้งชีวิตความเป็นอยู่คนผู้คน มวลหมู่พ่อค้าวาณิช
ความรักความแค้น และการปัดฝุ่นอุดมการณ์ของตัวละครที่เคยเก่าเก็บให้ดูทันสมัยมากขึ้นกว่าที่เคย
เมื่อนำปัจจัยเหล่านี้มาประกอบกับสำนวนการแปลของม.ประภา ซึ่งแปลได้คมคายไม่ยิ่งหย่อนกว่านิยายแปลข้ามชาติดีๆ
การ์ตูนหงสาจอมราชันย์ในสายตาของคนที่เคยอ่านนิยายจึงถูกจัดขึ้นหิ้งว่าเป็น “ของสูง” ที่มือสมัครเล่นควรเตรียมตัวก่อนรับชม
เตรียมตัว...ทั้งเพื่อให้พร้อมรับกับเนื้อหาและเพื่อให้ไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์อ่านการ์ตูนดีๆพลาดจนเสียของ...

และด้วยความเชื่อนี้เองที่ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่แคร์ว่าการอ่านนิยายก่อนจะไปสปอยการ์ตูน
เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่า แม้เราจะรู้เนื้อหามาก่อนแต่ด้วยการเล่าเรื่องอันเฉียบคมและเนื้อหาที่ถูกจินตนาการของผู้แต่งเติมเต็ม
มันจะช่วยให้เรายังสนุกสนานไปกับหงสาฯได้อย่างคุ้มค่าการ์ตูนดี
มิหนำซ้ำ หากเรารู้เรื่องมาก่อนจะได้ไม่เกิดอาการ “หน้ามึน” ระหว่างอ่าน ว่าตัวละครตัวนี้กำลังพูดถึงใคร
หรือใครเป็นใครทำอะไรลืมไปแล้ว รวมไปถึงเราจะรับรู้ถึงความช่างคิดของเฉินเหมาผ่านเนื้อหาที่เพิ่มเติมมาจากต้นฉบับนิยาย
ในแบบที่คนที่ไม่เคยอ่านนิยายจะไม่มีทางได้รู้(เพราะอ่านสามก๊กเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นแรก)...และไม่มีวันได้รู้...






ทุกครั้งเมื่อผมพบเห็นคนที่ยังไม่เคยอ่านสามก๊กนึกอยากจะลองอ่านหงสาฯ แล้วมาตั้งกระทู้ถามว่าตนควรจะอ่านนิยายก่อนดีไหม
ผมมักจะพบเจอกับเหตุผลทั้ง 2 ข้างต้นวางมวยแลกเข่าตีศอกกันกลางกระทู้ชนิดความเห็นต่อความเห็น
เรียกได้ว่า ไม่มีใครยอมถอยให้ได้พักหายใจ และไม่คิดจะอยู่ให้ครบยกแล้วนับคะแนนกันเลยทีเดียว
และเมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีหมัดเด็ดเป็นอาวุธคู่กายแบบนี้ ผลที่ได้ส่วนใหญ่จึงมักจบลงด้วยการเสมอกัน...
ให้เจ้าของกระทู้และคนที่อยากลองอ่านต้องกลับบ้านไปนั่งกุมหัวต่อไปว่าตกลงแล้วตูจะเอายังไงกับชีวิตดี

เห็นเข้าบ่อยๆ...ผมก็พลันนึกถึงสำนวนที่ม.ประภาเคยเอ่ยไว้ในการ์ตูนเรื่องนี้ว่า “ลักลั่นย้อนแย้ง”
เพราะเจ้าปัญหาที่ว่า “ควรอ่านนิยายก่อนไหม” นี้มันช่างแสนจะลักลั่นย้อนแย้งสิ้นดี!!!


เคยทราบที่มาของสำนวน “ลักลั่นย้อนแย้ง” นี้ไหมครับ ผมเองก็เพิ่งทราบมาจากเว็บบอร์ดของพันทิปมาอีกที
เรื่องมันมีอยู่ว่า ณ ตลาดแห่งหนึ่ง มีพ่อค้า 2 คนต่างกำลังร้องป่าวประกาศเร่ขายสินค้าของตน
โดยพ่อค้าคนแรกพูดบรรยายสรรพคุณว่า “หอกของร้านตนนั้นคือหอกวิเศษที่สามารถเจาะทะลุบุกทะลวงได้ทุกสรรพสิ่ง”
ส่วนถัดไปไม่ไกลพ่อค้าอีกคนก็กำลังโอ้อวดว่า “โล่ของตนนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเพชรและสามารถป้องกันศาสตราวุธได้ทุกชนิด”
เล่นพูดใส่กันแบบนี้ก็เลยลำบากคนเดินตลาดที่ต้องมานั่งสับสนว่าตกลงแล้วคนไหนพูดจริง – คนไหนโกหกกันแน่
และเมื่อความจริงเลือกที่จะเล่นตลกร้ายแบบนี้เอง...จึงเป็นที่มาของสำนวน “ลักลั่นย้อนแย้ง”

ดังนั้นผมจึงมองว่า “ปัญหาที่ว่าควรอ่านนิยายก่อนดีไหม” เป็นเรื่องที่ลักลั่นย้อนแย้ง...
เพราะหากเรามองที่มาของสำนวนดูดีๆ เราจะพบว่า หากพ่อค้าทั้ง 2 ไม่ได้มาขายอยู่ตลาดเดียวกัน
ทั้งคู่คงจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ส่วนคนเดินตลาดคงจะได้มีหอกที่ทรงพลังและโล่ที่ทนทานใช้สอยกันทุกครัวเรือนไปแล้ว
แต่เมื่อเรานำมันมาเปรียบเทียบกัน “ข้อดีที่เป็นความจริง” ของสินค้าทั้งสองจึงฆ่ากันเอง
และไม่มีใครได้ประโยชน์ทั้งพ่อค้า 2 คนและคนซื้อที่อยากได้

...ไม่มีใครได้ประโยชน์ทั้งคนแนะนำทั้ง 2 เหตุผลและคนที่กำลังนั่งกลุ้มอยากลองอ่านหงสาฯใจจะขาด...

ทำไมเราไม่คิดเสียว่า ในเมื่อทั้งสองก็ต่างเป็น “ข้อดี” ในตัวมันเองอยู่แล้ว (เพียงแต่เป็นข้อดีคนละแบบ)
จะ(ยิ่ง)ดีแค่ไหน หากเราได้ถือทั้งหอกที่ทรงอณุภาพในมือขวา และถือโล่ที่แข็งแกร่งทนทานในมือซ้าย
หรือไม่อย่างน้อยๆ เราก็ยังได้ถือหอกหรือโล่เอาไว้สักอย่าง ดีกว่าไม่ถืออะไรเลย
เราควรจะอ่านนิยายมาก่อนไหมไม่ใช่คำถาม ไม่ใช่คำตอบ และไม่ใช่ทางออกของการตัดสินใจ

เหมือนกับที่เหตุผลแรกนั้นสมเหตุและเหตุผลที่สองนั้นสมผล
ความลักลั่นย้อนแย้งที่แท้จริงจึงอยู่ตรงที่...ทำไมคุณยังไม่อ่านมันสักที...






Create Date : 07 มีนาคม 2551
Last Update : 15 เมษายน 2553 15:26:20 น. 11 comments
Counter : 3489 Pageviews.

 
"เหมือนกับที่เหตุผลแรกนั้นสมเหตุและเหตุผลที่สองนั้นสมผล
ความลักลั่นย้อนแย้งที่แท้จริงจึงอยู่ตรงที่...ทำไมคุณยังไม่อ่านมันสักที..."
เห็นด้วยค่ะ....อย่างเราเป็นต้น
ไม่เคยอ่าน.....ทั้งสองอย่างเลยค่ะ
แต่ไม่ใช่เพราะมัวคำนึงว่าอ่านแล่มไหน...จะดีกว่ากันหรอกนะคะ
เพียงแต่ไม่ใช่แนวที่ถูกตาต้องใจเท่านั้นเอง







โดย: nikanda วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:0:55:42 น.  

 
โอ๊ะ!
อืม...

เพราะเคยติดตาม สามก๊ก อย่างจริงจังเกินไป...
ทั้งดู ทั้งอ่าน พร้อมทั้งเพ่งบทวิเคราะห์เรื่องและ
ตัวละครทั้งหลาย ชนิดเอาเป็นเอาตาย... ทำให้
ความน่าสนใจของ The Ravages of Time ลด
ทอนไปในสายตา... แต่ก็นะ แอบอ่านตอนต้น ๆ
นิดหน่อย


โดย: ปลิวตามลม วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:10:26:04 น.  

 
รีวิวการ์ตูนเรื่องนี้ผมเขียนเอาไว้นานแล้ว (ก่อนที่เด็กๆในร้านจะตีจาก T-T)
แต่ตอนนั้นทำใส่ Blog ไม่ได้เพราะเน็ตเกิดดื้อและเต่ามาก โหลดอะไรไม่ค่อยขึ้น
ผ่านไปนานๆเข้าเลยตัดสินใจไปโพสต์ลงในเว็บบอร์ดพันทิปแทน
บ้านผมตอนนี้เงียบเหงา (เพราะขนาดเจ้าของบ้านก็ไม่ค่อยแวะมา)
แวะไปแลกเปลี่ยนความคิดที่กระทู้ดีกว่าครับ

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6394240/A6394240.html


โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:19:10:48 น.  

 
หวัดดีค่ะ
ขอบคุณที่ยังแวะไปทักทายกัน
ทั้งที่เจ้าของบล็อคไม่ค่อยได้มีโอกาสดูแลบล็อคของตัวเองได้ดีเท่าไหร่
และขอบคุณสำหรับข้อความดีๆที่ยังส่งให้กำลังใจกันนะคะ

คราวนี้ก็เอาเรื่องดีๆมาโพสต์ไว้ให้หลายๆคนได้อ่านอีกแล้ว
ก็จริงอย่างที่คุณขอรบกวนทั้งชุดนอนบอกนั้นแหละค่ะ ไม่ว่าเหตุผลไหนก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน
เฉพาะก็ขึ้นอย่างกับว่าใครจะเลือกหยิบยกข้อดีข้อไหนขึ้นมาก็เท่านั้นเอง (จริงป่ะคะ)


โดย: ดุจเดือน วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:22:42:13 น.  

 
การ์ตูนเรื่องนี้ พูดถึงกันมาในแวดวงคอการ์ตูน
แต่เราก็ยังไม่เคยอ่านซะที
ไม่ใช่ เพราะไม่ชอบแนวเรื่องหรอกนะ
คงเป็นเพระ ลายเส้น การ์ตูน เรื่องนี้ "มันไม่เข้าตา" อ่ะ

สามก๊ก ฉบับเต็มๆ หมายถึงที่เดินเรื่องไปตามลำดับ
ไม่ว่าจะสำนวนเจ้าพระยาพระคลัง (หน) รึว่าสำนวนใครๆ ก็ไม่เคยอ่านอีกนั่นแหละ

เรารู้จัก วรรณคดีสามก๊ก เพราะเรียนในวิชาภาษาไทย -ประวัติวรรณคดี นั่นแหละ
แต่ที่ได้อ่านและรู้เรื่องสามก๊ก ก็เป็นเพราะอ่าน
สามก๊กฉบับวณิพกของ "ยาขอบ" ได้จบครบชุด
แล้วก็ได้อ่านบางเล่ม บางตอนของ "เล่าชวนหัว"
รวมทั้งหนังสือคำคม ที่ตัดบางวรรคบางตอนของสามก๊ก ยกมาอรรถาธิบาย ขยายความ เท่านั้นเอง

เคยคิดว่า จะอ่านสามก๊ก ให้จบซักรอบนึง
แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มต้นซะที

ส่วนเรื่องการ์ตูนกับนิยาย
มันก็อีหรอบเดียวกับ นิยายและละคร นั่นแหละ
สุดแท้แต่ คนอ่าน คนดู จะยึดติดกับจิตนาการของตนเอง รึของผู้สร้างสรรค์มากกว่ากัน

โดยส่วนตัว แล้วจะแยกออกจากกัน
อาจจะเอามาเทียบกันบ้าง ก็เพียงในใจตัวเอง เท่านั้น


โดย: นัทธ์ วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:19:58:33 น.  

 
อ่านสามก๊กมาก่อน

พอมาอ่านหงสาแล้วทึ่งนะ
ทั้งอ่านแล้วสนุก แถมตอบโจทย์เรื่องราวพิสดารในเรื่องได้อย่างลงตัว

ปรกติชอบอ่านหนังสือทุกแนว

แต่แปลก ตั้งแต่อ่านหงสา
มันสนุกจนต้องอ่านกลับไปกลับมาไม่รู้กี่รอบ

เป็นเรื่องที่คิดว่าใช่เลยนะ ^_^
อ่านแล้วทำให้ เบิกบานดุจทะยานเหินทุกที เหอ ๆ เวอร์ซะ


โดย: kazim IP: 124.121.23.73 วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:9:42:27 น.  

 
แวะมาเยี่ยมบ้านคุณขอรบกวนทั้งชุดนอนค่ะ

เรื่องอะไรๆ ก็มักจะมี 2 ฝ่ายเสมอ
แต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลดีๆ กันทั้งนั้น
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า เหตุผลของเรา อยู่ฝ่ายไหนมากกว่ากัน

ตาลยังไม่เคยอ่านทั้ง 2 เล่มเลยค่ะ ^^"
ไม่รู้จะเข้าข้างฝ่ายไหน


โดย: หนูตาล IP: 58.9.167.143 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:15:19:35 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ


โดย: beerled IP: 203.154.187.189 วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:12:50:48 น.  

 
พลาดบล็อกนี้ไปได้อย่างไรหว่าเรา


สั้นๆ

"ชอบมากค่ะ"


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:25:29 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

อ่านสามก๊กมาก่อนที่จะมาอ่านหงสา ยังงงเลยค่ะ
คือพอดีอ่านฉบับพระยาพระคลัง (หน) แต่จะชอบอ่านแต่ตรง เล่ม 2 อ่ะค่ะ ที่นี้เล่มแรกที่มี 10 ขันที ตั๋งโต๊ะ ลิโป้ ก็เลยจำไม่ค่อยได้ อิอิ

ขออยู่มุมน้ำเงินนะคะ เพราะมองว่า ความสนุกของหงสา ไม่ได้อยู่ที่ว่า ลิโป้จะตายยังไง แต่อยู่ที่ว่า ลิโป้ในแบบของเฉินเหมาจะตายยังไง

แต่ส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านสปอย์ก่อนดู เพราะว่าบางทีไม่ได้มีเวลามานั่งดูอะไรหลายๆรอบ พอรู้เรื่องคร่าวๆก็จะตั้งใจดูฉากสำคัญมากขึ้น หรือมีเวลาคิดตอนดูมากขึ้น ไม่งั้นตอนดูจบแล้วก็จะมางงว่า ทำไมตอนนั้นเป็นแบบนั้นล่ะ


โดย: Girl in Pink วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:10:51:13 น.  

 
ขออภัยที่มีส่วนเพิ่มเติมความ 'ย้อนแย้งลักลั่น'

เพราะนิยายหงสาจอมราชันย์ภาคพิเศษ เตียงหุย 1 ลิโป้ 1 คลิดออกมาแล้ว

ต่อจากนี้อาจมีมุมสีม่วงน้ำเงิน ที่แนะนำว่า ควรอ่านสามก๊กก่อน ตามด้วยการ์ตูนหงสาฯแล้วตามอีกทีด้วยนิยายหงสา

กับมุมม่วงแดง ที่แนะนำให้อ่านการ์ตูนหรือนิยายก่อน แล้วกลับไปอ่านสามก๊ก ฯลฯ

แต่ผมติดว่าในเมื่เรื่องราวของสามก๊กเป็นที่กล่าวขานและยอมรับในระดับนานาชาติ ย่อมแปลว่ามันต้องมีส่วนที่ดีในตัวมันเอง ดังนั้นไม่ว่าเริ่มจากแบบไหนก่อน ขอเพียงเสฟแล้วกรอง รองรับสิ่งดี ๆ มา ถ้ายังเห็นคุณค่าก็ทวนซ้ำเจียรนัยความคิด มันก็มีแต่จะยิ่งเพิ่มความเฉียบคมแก่ผู้อ่านมากขึ้น

ขอชื่นชมบล๊อคนี้ในฐานะกระตุ้นให้วิญญูชนเข้าสัมผัสสิ่งดี ๆ

ข้าน้อยขอคารวะสิบจอก...



โดย: ม. ประภา IP: 49.230.81.235 วันที่: 1 เมษายน 2558 เวลา:9:55:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอรบกวนทั้งชุดนอน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ขอรบกวนทั้งชุดนอน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.