บ้านนิทาน อ่านแล้วเพลิน เชิญมาอ่าน มีสุขบ้าง เหงาบ้าง ตามประสา อาจไม่ดี ค่าจ้อย ด้อยราคา แต่ออกมา จากใจ เล่าให้ฟัง

<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 กรกฏาคม 2552
 

เด็กชายรุ้งกินน้ำ กับ เด็กหญิงรุ้งกินลม

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กชายรุ้งกินน้ำคนหนึ่ง เขาทำหน้าที่เลี้ยงวัวอยู่บนยอดรุ้งกินน้ำอันไกลโพ้น

ทุกวันเด็กชายจะพาวัวของเขาลงมากินน้ำที่ปลายรุ้ง เด็กชายพาวัวเดินผ่านท้องฟ้าสีสดใส ผ่านภูเขาอันสูงตระหง่าน ผ่านพื้นดินหลายสี เด็กชายรุ้งกินน้ำทักทายก้อนเมฆและร้องเพลงข้ามขอบฟ้าอย่างมีความสุข

ทุกวันเช่นกันที่เด็กชายรุ้งกินน้ำจะเห็นปลายรุ้งกินลมอยู่ไกลๆ เขาได้แต่สงสัยและปล่อยมันผ่านไป

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กหญิงรุ้งกินลมคนหนึ่ง เธอทำหน้าที่เลี้ยงแกะ ณ ปลายรุ้งกินลมอันไกลโพ้น

ทุกวันเด็กหญิงจะต้อนแกะขึ้นไปกินหญ้าบนยอดรุ้งกินลม เด็กหญิงพาแกะเดินผ่านดวงอาทิตย์อันอบอุ่น ผ่านสายน้ำอันชุ่มชื่น ผ่านทะเลสาบอันกว้างไกล เด็กหญิงรุ้งกินลมทักทายดวงอาทิตย์และบรรเลงเพลงด้วยเครื่องดนตรีแสนรักข้ามขอบฟ้าอย่างมีความสุข

ทุกวันเช่นกันที่เด็กหญิงรุ้งกินลมจะเห็นปลายรุ้งกินน้ำอยู่ไกลๆ เธอได้แต่สงสัยและปล่อยมันผ่านไป

วันหนึ่ง ขณะที่เด็กหญิงรุ้งกินลมกำลังต้อนแกะของเธอขึ้นไปกินหญ้าบนยอดรุ้งกินลม เด็กหญิงได้ยินเสียงอันไพเราะที่ดังมาจากสถานที่ไกลโพ้น

...เพียงเพราะฉัน คนเดียว ไร้หัวใจ
เพียงเพราะฉัน สิ้นไร้ คนเคียงข้าง
เพียงเพราะฉัน คนเดียว ที่อ้างว้าง
เพียงเพราะฉัน แตกต่าง ไปจากเธอ...

เด็กหญิงรุ้งกินลมสงสัยเป็นอย่างยิ่งจึงร้องตะโกนทักทายเสียงลึกลับนั้น
“สวัสดี มีใครมีใครอยู่อีกฟากมั๊ย” ... ผ่านไปเนิ่นนานไม่มีเสียงตอบกลับมาเด็กหญิงรุ้งกินลมจึงหันไปเลี้ยงแกะของตัวเองต่อ

ในวันเดียวกัน ขณะที่เด็กชายรุ้งกินน้ำกำลังร้องเพลงขับกล่อมฝูงวัวของเขาอยู่นั้น เด็กชายได้ยินเสียงร้องทักทายของใครสักคนดังมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น และเขาก็ร้องตะโกนกลับไป
“สวัสดี มีคนอยู่อีกฟากด้วยหรือ” ...ผ่านไปเนิ่นนานไม่มีเสียงตอบกลับมา เด็กชายรุ้งกินน้ำจึงหันไปเลี้ยงวัวของตัวเองต่อไป

ตกเย็น ดวงอาทิตย์เริ่มลับลา เมฆดำทะมึนเคลื่อนตัวจับกลุ่มกันเป็นก้อนใหญ่ ลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ความเย็นจากไอน้ำแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ไม่นานฝนก็ตกลงมาราวฟ้ารั่ว

เด็กชายรุ้งกินน้ำพาวัวลงไปกินน้ำตามปกติ แต่วันนี้เด็กชายพบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังต้อนแกะอยู่อีกฟากของท้องฟ้า มือข้างหนึ่งของหนึ่งของเธอถือเครื่องดนตรีแสนรักเอาไว้
เด็กชายรุ้งกินน้ำร้องทักด้วยความดีใจ
“สวัสดี เธอคือเด็กหญิงเลี้ยงแกะเหรอ”
“ใช่แล้ว เธอรู้จักฉันได้อย่างไร” เด็กหญิงรุ้งกินลมร้องตะโกนตอบกลับไป
“ฉันไม่รู้จักเธอหรอก แต่ฉันเคยได้ยินเสียงของเธอ” เด็กชายบอก
“ฉันเองก็เคยได้ยินเธอร้องเพลงเช่นกัน” เด็กหญิงยิ้มให้เพื่อนใหม่อย่างเป็นมิตร

หลังจากนั้นเด็กชายรุ้งกินน้ำก็ต้อนวัวของเขาข้ามฟากไปหาเด็กหญิงรุ้งกินลมทุกครั้งที่มีลมพายุเกิดขึ้นพร้อมฝนตก เสียงดนตรีของเด็กหญิงรุ้งกินลมบรรเลงควบคู่ไปกับเสียงร้องเพลงอันละมุนของเด็กชายรุ้งกินน้ำ กลิ่นไอความรักอบอวลไปทั่วคุ้งฟ้า

เด็กชายรุ้งกินน้ำกับเด็กหญิงรุ้งกินลมไม่รู้หรอกว่าพวกเข้าได้สร้างความอิจฉาให้กับก้อนเมฆและดวงอาทิตย์เป็นอย่างมาก

ทุกครั้งที่รุ้งกินน้ำกับรุ้งกินลมบรรจบพบกัน ดวงอาทิตย์จะแผดแสงไล่รุ้งกินน้ำและก้อนเมฆจะบดบังรุ้งกินลม ทำให้เด็กชายรุ้งกินน้ำและเด็กหญิงรุ้งกินลมมีเวลาพบกันน้อยลง

เมื่อเป็นเช่นนี้เด็กชายรุ้งกินน้ำจึงตัดสินใจทิ้งฝูงวัวของตัวเองและข้ามฟากไปหาเด็กหญิงรุ้งกินลม ทำให้ดวงอาทิตย์และก้อนเมฆโกรธยิ่งขึ้น

รุ้งกินน้ำค่อยๆจางหายไปเนื่องจากทนทานความร้อนของแสงอาทิตย์ไม่ไหว ส่วนรุ้งกินลมเองก็ค่อยๆจางหายไปเช่นกันเพราะทนการบดบังของก้อนเมฆไม่ได้

เมื่อเด็กชายรุ้งกินน้ำก้าวย่ำเข้าไปบนรุ้งกินลม ก้อนเมฆและดวงอาทิตย์ต่างช่วยกันสร้างลมพายุขนาดใหญ่ทำให้เด็กชายรุ้งกินน้ำต้านแรงลมไม่ไหว อีกอย่างร่างกายของเด็กชายก็สร้างขึ้นมาจากน้ำเป็นส่วนหนึ่ง เมื่อถูกแสงแดดร้อนจากดวงอาทิตย์ทำให้น้ำละเหยขึ้นสู่ท้องฟ้า

เด็กชายรุ้งกินน้ำยกมือขึ้นมามองและเห็นมามือของเขากำลังเลือนหายไป และส่วนต่างๆก็กำลังจะหายไปเช่นกัน
“เด็กหญิงรุ้งกินลม ฉันทนไม่ไหวแล้ว ร่างกายของฉันกำลังจากสูญสลายไป” เด็กชายรุ้งกินน้ำร้องครางด้วยความเจ็บปวด
“เด็กชายรุ้งกินน้ำ เธอไม่ต้องอดทนเพื่อฉันหรอก กลับไปยังรุ้งกินน้ำของเธอเสียเถิด” เด็กหญิงรุ้งกินลมใช้ตัวเองป้องกันแสงจากดวงอาทิตย์ ในใจก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน
“แต่ฉันกลัวว่าจะไม่ได้พบเธออีก เราสองคนอาจไม่ได้พบกันตลอดไป”
“จะมีประโยชน์อะไร หากเธอไม่มีชีวิตอยู่ กลับไปยังรุ้งกินน้ำเสียเถิด ฉันขอร้อง รักษาตัวให้ดี สักวันเราจะได้พบกันอีก” เด็กหญิงรุ้งกินลมรีบผลักเด็กชายรุ้งกินน้ำลงจากรุ้งกินลมก่อนที่รุ้งกินน้ำจะจางหายไป สร้างความสะใจให้กับดวงอาทิตย์และก้อนเมฆเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ค่อยเห็นรุ้งกินน้ำสองอันซ้อนกันบ่อยนัก หรือหากเห็นก็มักจะมีเมฆหรือแสงแดงแรง ทำให้มองเห็นอันใดอันหนึ่งไม่ชัด ฉะนี้แล...

ป.ล. ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ



Create Date : 16 กรกฎาคม 2552
Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 0:41:16 น. 11 comments
Counter : 852 Pageviews.  
 
 
 
 
เรื่องดี ชื่อเรื่องก็เก๋ แบล็กกราดน์ก็น่ารัก ดีไปหมด อิอิ
 
 

โดย: ม้าสว่าง วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:57:25 น.  

 
 
 
ตามมาหานิทานฟังครับ
 
 

โดย: Psycho man IP: 119.31.27.149 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:6:30:33 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากนะค่ะที่แวะเวียนเข้ามาอ่านนิทาน



src=https://www.bloggang.com/emo/emo15.gif>


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... นานเสียจนจำแทบไม่ได้
และสุดท้ายฉันก็ลืม

เหอะๆๆๆๆๆๆๆ (กร๊ากกกกกก)
 
 

โดย: คนเล่านิทาน (อศิธารา ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:30:45 น.  

 
 
 
สวยดีนะแอน

ทำได้ไง

เก่งนะเนี้ย
 
 

โดย: วุดดี้ IP: 125.26.73.223 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:26:00 น.  

 
 
 
อ่านแล้วเรื่องน่ารักจังค่ะ
 
 

โดย: โสดในซอย วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:50:38 น.  

 
 
 
เก่งจางเลยนะ ดีดีดี
 
 

โดย: คนเลี้ยงม้า IP: 124.120.139.16 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:20:32 น.  

 
 
 
วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันอยากจะเล่านิทาน
เล่าให้ทุกคนที่เดินผ่าน
ฉันอยากเล่านิทานหลายๆเรื่อง...
เรื่องที่ฉันอยากจะเล่า

วันนี้ฉันผ่านความวุ่นวายของชีวิตมามากซะจนคิดอะไรไม่ออก
ในทางตรงกันข้าม ฉันกลับดีใจเมื่อมีคนมาถามฉันว่า...
ช่วยเล่านิทานให้ฟังหน่อยสิ

และแล้ว...สิ่งที่ฉันเล่าข้างบนก็ไม่เป็นความจริง
...เพราะมันเป็นแค่จินตนาการของคนเล่านิทานบ้าๆคนหนึ่ง
 
 

โดย: คนเล่านิทาน IP: 119.42.76.253 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:23:53 น.  

 
 
 
วันนี้เป็นอีกวันอีกแล้วที่ฉันใช้ชีวิตเรื่อยๆเอื่อยๆแบบไร้สาระ

ฉันอาจเป็นแค่นักเล่านิทานตัวเล็กๆที่ชอบเดินทางไปเรื่อย ไร้จุดหมาย เดินทางไปเพื่อตามหาสักคนที่จะยินดิฟังนิทานที่ฉันเล่า...และเมื่อเขาฟังแล้วเขามีความสุข

แต่ฉันกลับลืมหันหลังกลับมามองว่ามีใครอีกหลายๆคนยังรอให้ฉันกลับไปทำงานที่คั่งค้างอยู่มากมาย

ไม่ใช่จมอยู่กับจินตนาการไร้จุดหมาย





 
 

โดย: คนเล่านิทาน (อศิธารา ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:01:25 น.  

 
 
 
 
 

โดย: คนเล่านิทาน (อศิธารา ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:04:19 น.  

 
 
 
เข้ามาทักทายขอเป็นเพื่อนครับผม
 
 

โดย: ปฐพีหอม วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:15:27:16 น.  

 
 
 
แอนถามหน่อยดิ

ทำไมเรื่องส่วนใหญ่ของแอนต้องมีองค์และองค์ชายล่ะ

แต่ว่าพี่ก้อชอบนะ

อิอิ

คนช่างฝันที่ไม่อยากตื่นมาพบความจริง
 
 

โดย: พี่ไนซ์ IP: 222.123.212.77 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:02:08 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

อศิธารา
 
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อาจเป็นเพราะฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ
ที่จะเสกปราสาทงามให้เธอได้
จึงได้แต่เล่านิทานจากหัวใจ
ด้วยความสุขสบายใจมอบให้เธอ
[Add อศิธารา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com