มืดมน อนธการ
มืดมนอนธการ
คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม นี่คือความจริง ช่วงที่มีการจลาจลในกรุงเทพ ในชุมชมที่ผมอยู่กลับเงียบเชียบ จะเป็นว่าคนหนุ่มคนสาวส่วนใหญ่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดก็อาจเป็นไปได้ คนที่อยู่ในชุมชนส่วนใหญ่ก็เป็นคนวัยกลางคนกับคนแก่ ชุมชนนี้มีครัวเรือนอยู่ประมาณหนึ่งพันเจ็ดร้อยกว่าครัวเรือน ประชากรก็ประมาณเจ็ดพันกว่าคน ในแต่ละเดือนมีผู้สูงอายุเสียชีวิตอย่างน้อยก็สองสามคน ที่ทราบก็เพราะว่ามีการเก็บเงินค่าสมาชิกฌาปนกิจศพของตำบลเป็นรายศพ ถ้าคนตายเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันต้องเสียค่าช่วยเหลือการจัดการศพเพิ่มต่างหากอีกเสมือนการช่วยเหลือญาติ ทุกๆวันตอนเช้าคนในชุมชนก็ตื่นไปไร่ไปนากัน บ้างก็ไปไถนา (ช่วงนี้เริ่มมีฝนบ้างแล้ว) บ้างก็ไปสูบน้ำตามแหล่งน้ำที่ยังพอมีอยู่บ้างเข้าที่นาของตน ตกเย็นก็กลับเข้าบ้านกันเป็นทิวแถว ผมไม่ทราบว่าเขาสนใจปัญหาการบ้านการเมืองมากน้อยแค่ไหน เขาอาจจะติดตามข่าวสารนั้นทางวิทยุ ทีวี ในตอนค่ำก็เป็นได้ แต่ที่ผมแน่ใจอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เขาไม่เชื่อว่าการเมืองจะช่วยอะไรเขาได้มากมายนัก ที่เห็นเป็นรูปธรรมหน่อยก็ การประกันราคาพืชผลทางการเกษตร และโครงการประชานิยมอื่นๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็เหมือนกันหมด คือไม่ได้ช่วยให้เขาสามารถพึ่งตนเองได้อย่างแท้จริง ต้องพึ่งรัฐอยู่ร่ำไป ดังนั้นใครจะเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้นสักเท่าไร เผลอๆเป็นหนี้สถาบันการเงินมากยิ่งขึ้น แล้วก็ต้องหาเงินใช้หนี้กันตัวเป็นเกลียว มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานไหม ผมไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่านักการเมืองส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนก็ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่ได้คิดถึงของผลประโยชน์ของชาติโดยรวมสักเท่าไร มาถึงตรงนี้ผมขอเปิดเผยเลยว่าในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนฯที่ผ่านมาครั้งหลังๆนี้ผมกาในช่องไม่เลือกใครมาโดยตลอด หมดศรัทธากับการเมืองน้ำเน่าของบ้านเรา
รับไม่ได้กับ นักการเมืองที่เห็นแต่ประโยชน์ของพรรคและพวกของตน
เบื่อพรรคเฉพาะภูมิภาค จะทำอะไรสักอย่างกลัวไปหมด ขาดภาวะผู้นำ
เบื่อพรรคนักธุรกิจนายทุน รับไม่ได้กับคำพูดที่ว่าใครไม่เลือกพรรคตนจะได้รับการดูแล(จัดสรรงบประมาณ)ทีหลัง
รับไม่ได้กับคำพูดที่ว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วอดอยากปากแห้ง พวกผู้แทนเฉพาะจังหวัดไม่ได้เป็นผู้แทนของคนทั้งประเทศ
รับไม่ได้กับพรรคเฉพาะกิจ(พร้อมแปรพรรคได้ตลอดเวลา โดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์ทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น ขอให้ได้ร่วมรัฐบาลเป็นพอ)
ผมมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เลยสักนิด มันมืดมนอนธการจริงๆครับ สรณะของผมตอนนี้มีอยู่อย่างเดียวคือ พระรัตนตรัย พยายามตามดูจิตดูใจของตนเอง พยายามมีสติอยู่กับตัวให้ได้ตลอดเวลาเท่าที่จะสามารถทำได้ ทำใจให้สบายๆเหมือนพระอุปัชญาย์ของผมท่านสอนบ่อยๆว่า ทำใจให้สบายยยยยยย สบายยยยยยยยยยยย



Create Date : 20 พฤษภาคม 2553
Last Update : 20 พฤษภาคม 2553 17:24:36 น.
Counter : 819 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุษา
Location :
แพร่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



พฤษภาคม 2553

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
20 พฤษภาคม 2553
All Blog