ทำไมต้องเป็นหมอดู
โจทย์ตะพาบคราวนี้ เป็นของ คุณเป็ดสวรรค์ ว่าด้วยเรื่อง "หมอดู" พอได้ยินคำ ๆ นี้ ทีไรก็ทำให้ชั้นเกิดคำถามทุกทีว่า "ใครเป็นคนคิดคำนี้ขึ้นมานะ" แต่พอเปิดหาใน อากู๋ ก็ได้ความว่า เป็นผู้พยากรณ์ ,ผู้ทำนายโชคชะตาราศี แต่ถ้าเป็นความหมายของชั้นแล้วหล่ะก็ "นักจิตวิทยาพื้นบ้าน" ใครมีปัญหาอะไร ก็มักจะมุ่งหน้า หาหมอดูก่อนเลย น่าแปลกที่ไม่มีใครคิดจะค้นหาสาเหตุ หรือต้นตอของปัญหาเลยซักคน โดยเฉพาะคุณสาว ๆ ทั้งหลาย เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์ "หมอค่ะ จะคลอดวันไหนดีค่ะ" คุณแม่วัยทำงาน "หมอค่ะ งานที่ทำนี้ดีมั๊ยค่ะ หรือลาออกแล้วจะได้งานใหม่ดีกว่าที่ทำอยู่นี้มั๊ยค่ะ" คุณแม่สามี "ลูกสะใภ้ดิชั้นคนนี้ ดวงกินผัวมั๊ยค่ะ" คุณแม่ภรรยา "ลูกเขยดิชั้นคนนี้ ดวงช่วยส่งเสริมลูกสาวดิชั้นมั๊ยค่ะ" คุณแม่รอลุ้น "ลูกดิชั้นจะเอ็นทรานซ์คณะไหนดีค่ะ แล้วจะติดมั๊ยค่ะ " สาวโสด "ดิชั้นจะมีดวงแต่งงานมั๊ยค่ะปีนี้" สาวแก่ "ผัวอิชั้นมีเมียน้อยมั๊ยค่ะ แล้วท่านหมอพอรู้มั๊ยค่ะว่าพากันไปซ่อนที่ไหน" แม่หม้าย "ดิชั้นมีคนมาติดพันค่ะคุณหมอ ผู้ชายคนนี้ดีมั๊ยค่ะ" บลา บลา บลา หมอกำลังคิดว่า ปัญหาของกรุเองยังแก้ไม่ตก ปัญหาของพวกเอ็งยังจะมาให้กรุแก้ให้อีก แต่อยากได้ตังค์อ่ะ งั้นก็ตอบเอาใจคุณเธอหน่อยละกัน ชั้นไม่ได้ไม่เชื่อ ชั้นไม่ได้ลบหลู่ แต่ชั้นศึกษาศาสตร์นี้มาพอตัว ทั้งโปยยี่สี่เถียว (ดูดวงจีน) เลข9หลัก (ดูดวงไทย) แล้วก็สรุปว่าในตำราได้เขียนพื้นฐานดวงโดยประมาณไว้ เหมือนเป็นการทำสถิติ ตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นหล่ะ ตั้งสมมติฐาน ทดลอง บันทึกผลการทดลอง เมื่อผลนั้นได้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็เป็นอันว่าอันนี้คือทฤษฎี แต่อย่าลืมว่า ผลที่ได้ย่อมเกิดจากการกระทำ ดังนั้น หากบุคคลใดพื้นดวงไม่ดีแต่ว่าทำตนเป็นคนดี พื้นดวงก็จะเปลี่ยนไป เช่นกัน หากบุคคลใดพื้นดวงดีแต่ว่าตั้งตนเป็นคนชั่ว พื้นดวงก็จะเปลี่ยนไป ดังนั้นชั้นก็เลยไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดู แต่คนรอบข้าง มักจะชอบไปดูหมอ ส่วนชั้นชอบไปลองของ เอ้ยไม่ใช่ไปเป็นเพื่อน เพราะโดยมากหมอดูส่วนมากจะเป็นมิจฉาชีพ แค่อ้าปากก็รู้แล้วว่าชัวร์หรือมั่ว สำหรับคนที่มีสติ แต่สำหรับคนที่กำลังมีปัญหา กำลังจะจมลงในคลื่นความทุกข์ มักจะตาบอด หูอื้อ ลืมพิจารณาว่า หมอดูจริงหรือเก๊ ทำให้ถูกหลอกได้โดยง่าย มีอยู่เคสหนึ่ง สาว ๆ ชักชวนกันไปหาหมอดูไกลถึงราชบุรี โดยเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า หมอคนนี้เหมือนมีตาทิพย์ เพื่อนของเพื่อนไปดูมา เค้ารู้ว่าเพื่อนนุ่ง underware สีอะไร เง้ยยยย ชั้นเลยถามว่า ก่อนไปหาเค้าถามอะไรรึเปล่า เพื่อนบอกว่าเค้าถามบ้านเลขที่ เท่านั้นเอง ชั้นก็รู้แล้วว่า "หมอคนนี้มันเลี้ยงกุมารทองแน่ ๆ " ไม่เชื่อก็คอยดู พอไปถึงบ้านหมอดู เพื่อนก็มองชั้นเป็นตาเดียว จะอะไรซะอีกหล่ะ ทั้งกุมารทอง ทั้งลักยม ทั้งนางกวัก ผู้ชายคนนี้มีของ ข้อแนะนำสำหรับสาว ๆ หากจะไปหาหมอดู แค่ยื่น วัน เดือน ปี เกิด แล้วยิ้ม ๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น ดูซิว่าเค้าจะพ่นอะไรออกมาบ้าง ไม่จำเป็นไม่ต้องให้เวลาตกฟาก เพราะคนมีของ สามารถเล่นของใส่เราได้ ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ อีกเคสหนึ่ง แม่ชั้นเอง (คนนี้ก็ชอบดูหมอมาก) แต่ทุกครั้งลากชั้นไปด้วย แม่พอรู้ว่าชั้นหน่ะมันคนหัวแข็งโป๊ก ๆ ดื้อด้านอย่างกะอะไรดี ไปครั้งแรกดูเหมือนจะแม่น พอไปอีกครั้ง เฮ้ยมาชวนให้แม่ไปซื้อที่แถว ๆ อุดรฯ หลัง ๆ ชักเริ่มไม่ตรงซักกะอย่าง ชั้นบอกกับแม่ว่า "หมอดูผิดศีลซะแล้ว" คนเป็นหมอดู นอกจากจะอ่านดวงตามตำราเป็นแล้ว ต้องเป็นคนที่มีศีล ทำบุญบ่อย ๆ และที่สำคัญต้องเป็นคนมีสัมผัสพิเศษ เช่นมองหน้ารู้นิสัย (ตรงนี้หล่ะที่ชั้นบอกว่า เอาหลักจิตวิทยามาใช้ได้) ชั้นถึงบอกงัย ว่าหมอดู ก็คือนักจิตวิทยาพื้นบ้าน คนไทยไม่นิยมไปหาจิตแพทย์ เพราะคิดว่าคนบ้าเท่านั้นที่ไปหาหมอโรคจิต ก็เลยไปหาหมอดูแทน แต่ถ้าจะให้ง่าย ชั้นว่า แค่เรามีศีล สมาธิ และปัญญา เท่านี้เราก็ไม่ต้องไปหาทั้งหมอโรคจิตและหมอดูแล้ว เพราะเรารู้เท่าทันปัญหาและเหตุแห่งทุกข์ แค่นี้ก็หาทางออกเจอแล้ว จริง ๆ ถ้าให้พูดเรื่องหมอดูเนี่ย พูดทั้งชีวิตก็ไม่หมด เพราะคุณผู้หญิงทั้งหลายปัญหาเยอะเหลือเกิน น่าแปลกไหม ผู้ชายก็มีปัญหาชีวิตเหมือนกันแต่ทำไมไม่ยักกะเห็นผู้ชายไปหาหมอดูนะ ใครรู้ช่วยตอบที มีรางวัล ^^ ปล. โจทย์ของคุณเป็ดไม่เคยทำให้ผิดหวังจริง ๆ 555 เอ่อ ชั้นกำลังงง ว่าตัวเองมีหลานสาวหรือหลานชายกันแน่เนี่ย เลี้ยงไปเลี้ยงมาหน้าอย่างกะเด็กผู้ชายญี่ปุ่น ^^
Create Date : 05 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 5 มิถุนายน 2555 22:07:13 น. |
|
7 comments
|
Counter : 6461 Pageviews. |
|
|
|
แล้วเหมือนต้องมนต์ค่ะ
เรื่องหมอ ... เราก็ว่าคนที่เค้าดูเป็นแบบดูแล้วอ่าน
ออกมาด้วยเหตุและผลน่ะมีเยอะเหมือนกันนะค่ะ ของเราที่เจอเอง
แล้วเชื่อว่าดีจริงเลยก็คือ ครั้งสุดท้ายนี่ล่ะค่ะที่เค้าบอกเล่า
เก้าสิบเรา มีทั้งเรื่องดี ไม่ดี แต่สุดท้ายเค้าก็บอกเราว่า
ก็แค่คุณไม่สบายใจ สติหาย ก็ไปทำบุญ เหมือนต่อบุญของเรา
ออกไปอีก สวดมนต์ เจริญสติ (ปัญญา) .. จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
ง่ายๆนะค่ะ แต่ว่ามันทำเราจบล่ะค่ะ เพราะว่าเราเจอทางสว่างเข้าแล้ว
หมอคนนี้ไม่ได้เรียกอะไรด้วยนอกจากค่าดูหมอที่
ไม่กี่บาทเอง แต่ว่าเค้าอ่านเราได้ถูกหมดแม้กระทั่งบางเรื่อง
ที่แบบว่าไม่น่าถูกก็ดันถูกอีกด้วยแน่ะ แบบนี้เราว่า
เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง คงแล้วแต่คนจริงๆ ค่ะ