<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
5 มิถุนายน 2555

ทำไมต้องเป็นหมอดู

โจทย์ตะพาบคราวนี้ เป็นของ คุณเป็ดสวรรค์ ว่าด้วยเรื่อง "หมอดู"

พอได้ยินคำ ๆ นี้ ทีไรก็ทำให้ชั้นเกิดคำถามทุกทีว่า "ใครเป็นคนคิดคำนี้ขึ้นมานะ"

แต่พอเปิดหาใน อากู๋ ก็ได้ความว่า เป็นผู้พยากรณ์ ,ผู้ทำนายโชคชะตาราศี

แต่ถ้าเป็นความหมายของชั้นแล้วหล่ะก็ "นักจิตวิทยาพื้นบ้าน"

ใครมีปัญหาอะไร ก็มักจะมุ่งหน้า หาหมอดูก่อนเลย น่าแปลกที่ไม่มีใครคิดจะค้นหาสาเหตุ หรือต้นตอของปัญหาเลยซักคน

โดยเฉพาะคุณสาว ๆ ทั้งหลาย เช่น

คุณแม่ตั้งครรภ์ "หมอค่ะ จะคลอดวันไหนดีค่ะ"

คุณแม่วัยทำงาน "หมอค่ะ งานที่ทำนี้ดีมั๊ยค่ะ หรือลาออกแล้วจะได้งานใหม่ดีกว่าที่ทำอยู่นี้มั๊ยค่ะ"

คุณแม่สามี "ลูกสะใภ้ดิชั้นคนนี้ ดวงกินผัวมั๊ยค่ะ"

คุณแม่ภรรยา "ลูกเขยดิชั้นคนนี้ ดวงช่วยส่งเสริมลูกสาวดิชั้นมั๊ยค่ะ"

คุณแม่รอลุ้น "ลูกดิชั้นจะเอ็นทรานซ์คณะไหนดีค่ะ แล้วจะติดมั๊ยค่ะ "

สาวโสด "ดิชั้นจะมีดวงแต่งงานมั๊ยค่ะปีนี้"

สาวแก่ "ผัวอิชั้นมีเมียน้อยมั๊ยค่ะ แล้วท่านหมอพอรู้มั๊ยค่ะว่าพากันไปซ่อนที่ไหน"

แม่หม้าย "ดิชั้นมีคนมาติดพันค่ะคุณหมอ ผู้ชายคนนี้ดีมั๊ยค่ะ"

บลา บลา บลา หมอกำลังคิดว่า ปัญหาของกรุเองยังแก้ไม่ตก ปัญหาของพวกเอ็งยังจะมาให้กรุแก้ให้อีก แต่อยากได้ตังค์อ่ะ งั้นก็ตอบเอาใจคุณเธอหน่อยละกัน

ชั้นไม่ได้ไม่เชื่อ ชั้นไม่ได้ลบหลู่ แต่ชั้นศึกษาศาสตร์นี้มาพอตัว ทั้งโปยยี่สี่เถียว (ดูดวงจีน) เลข9หลัก (ดูดวงไทย) แล้วก็สรุปว่าในตำราได้เขียนพื้นฐานดวงโดยประมาณไว้ เหมือนเป็นการทำสถิติ ตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นหล่ะ ตั้งสมมติฐาน ทดลอง บันทึกผลการทดลอง เมื่อผลนั้นได้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็เป็นอันว่าอันนี้คือทฤษฎี

แต่อย่าลืมว่า ผลที่ได้ย่อมเกิดจากการกระทำ ดังนั้น หากบุคคลใดพื้นดวงไม่ดีแต่ว่าทำตนเป็นคนดี พื้นดวงก็จะเปลี่ยนไป เช่นกัน หากบุคคลใดพื้นดวงดีแต่ว่าตั้งตนเป็นคนชั่ว พื้นดวงก็จะเปลี่ยนไป ดังนั้นชั้นก็เลยไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดู

แต่คนรอบข้าง มักจะชอบไปดูหมอ ส่วนชั้นชอบไปลองของ เอ้ยไม่ใช่ไปเป็นเพื่อน เพราะโดยมากหมอดูส่วนมากจะเป็นมิจฉาชีพ แค่อ้าปากก็รู้แล้วว่าชัวร์หรือมั่ว สำหรับคนที่มีสติ แต่สำหรับคนที่กำลังมีปัญหา กำลังจะจมลงในคลื่นความทุกข์ มักจะตาบอด หูอื้อ ลืมพิจารณาว่า หมอดูจริงหรือเก๊ ทำให้ถูกหลอกได้โดยง่าย

มีอยู่เคสหนึ่ง สาว ๆ ชักชวนกันไปหาหมอดูไกลถึงราชบุรี โดยเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า หมอคนนี้เหมือนมีตาทิพย์ เพื่อนของเพื่อนไปดูมา เค้ารู้ว่าเพื่อนนุ่ง underware สีอะไร เง้ยยยย ชั้นเลยถามว่า ก่อนไปหาเค้าถามอะไรรึเปล่า เพื่อนบอกว่าเค้าถามบ้านเลขที่ เท่านั้นเอง ชั้นก็รู้แล้วว่า "หมอคนนี้มันเลี้ยงกุมารทองแน่ ๆ " ไม่เชื่อก็คอยดู พอไปถึงบ้านหมอดู เพื่อนก็มองชั้นเป็นตาเดียว จะอะไรซะอีกหล่ะ ทั้งกุมารทอง ทั้งลักยม ทั้งนางกวัก ผู้ชายคนนี้มีของ

ข้อแนะนำสำหรับสาว ๆ หากจะไปหาหมอดู แค่ยื่น วัน เดือน ปี เกิด แล้วยิ้ม ๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น ดูซิว่าเค้าจะพ่นอะไรออกมาบ้าง ไม่จำเป็นไม่ต้องให้เวลาตกฟาก เพราะคนมีของ สามารถเล่นของใส่เราได้ ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่

อีกเคสหนึ่ง แม่ชั้นเอง (คนนี้ก็ชอบดูหมอมาก) แต่ทุกครั้งลากชั้นไปด้วย แม่พอรู้ว่าชั้นหน่ะมันคนหัวแข็งโป๊ก ๆ ดื้อด้านอย่างกะอะไรดี ไปครั้งแรกดูเหมือนจะแม่น พอไปอีกครั้ง เฮ้ยมาชวนให้แม่ไปซื้อที่แถว ๆ อุดรฯ หลัง ๆ ชักเริ่มไม่ตรงซักกะอย่าง ชั้นบอกกับแม่ว่า "หมอดูผิดศีลซะแล้ว"

คนเป็นหมอดู นอกจากจะอ่านดวงตามตำราเป็นแล้ว ต้องเป็นคนที่มีศีล ทำบุญบ่อย ๆ  และที่สำคัญต้องเป็นคนมีสัมผัสพิเศษ เช่นมองหน้ารู้นิสัย (ตรงนี้หล่ะที่ชั้นบอกว่า เอาหลักจิตวิทยามาใช้ได้)

ชั้นถึงบอกงัย ว่าหมอดู ก็คือนักจิตวิทยาพื้นบ้าน คนไทยไม่นิยมไปหาจิตแพทย์ เพราะคิดว่าคนบ้าเท่านั้นที่ไปหาหมอโรคจิต ก็เลยไปหาหมอดูแทน

แต่ถ้าจะให้ง่าย ชั้นว่า แค่เรามีศีล สมาธิ และปัญญา เท่านี้เราก็ไม่ต้องไปหาทั้งหมอโรคจิตและหมอดูแล้ว เพราะเรารู้เท่าทันปัญหาและเหตุแห่งทุกข์ แค่นี้ก็หาทางออกเจอแล้ว

จริง ๆ ถ้าให้พูดเรื่องหมอดูเนี่ย พูดทั้งชีวิตก็ไม่หมด เพราะคุณผู้หญิงทั้งหลายปัญหาเยอะเหลือเกิน น่าแปลกไหม ผู้ชายก็มีปัญหาชีวิตเหมือนกันแต่ทำไมไม่ยักกะเห็นผู้ชายไปหาหมอดูนะ ใครรู้ช่วยตอบที มีรางวัล ^^

ปล. โจทย์ของคุณเป็ดไม่เคยทำให้ผิดหวังจริง ๆ 555

เอ่อ ชั้นกำลังงง ว่าตัวเองมีหลานสาวหรือหลานชายกันแน่เนี่ย เลี้ยงไปเลี้ยงมาหน้าอย่างกะเด็กผู้ชายญี่ปุ่น ^^

 

 




Create Date : 05 มิถุนายน 2555
Last Update : 5 มิถุนายน 2555 22:07:13 น. 7 comments
Counter : 6461 Pageviews.  

 
จะเม้นท์อะไรเลยลืมเลย เจอหน้าตาของหลานสาว
แล้วเหมือนต้องมนต์ค่ะ

เรื่องหมอ ... เราก็ว่าคนที่เค้าดูเป็นแบบดูแล้วอ่าน
ออกมาด้วยเหตุและผลน่ะมีเยอะเหมือนกันนะค่ะ ของเราที่เจอเอง
แล้วเชื่อว่าดีจริงเลยก็คือ ครั้งสุดท้ายนี่ล่ะค่ะที่เค้าบอกเล่า
เก้าสิบเรา มีทั้งเรื่องดี ไม่ดี แต่สุดท้ายเค้าก็บอกเราว่า
ก็แค่คุณไม่สบายใจ สติหาย ก็ไปทำบุญ เหมือนต่อบุญของเรา
ออกไปอีก สวดมนต์ เจริญสติ (ปัญญา) .. จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
ง่ายๆนะค่ะ แต่ว่ามันทำเราจบล่ะค่ะ เพราะว่าเราเจอทางสว่างเข้าแล้ว

หมอคนนี้ไม่ได้เรียกอะไรด้วยนอกจากค่าดูหมอที่
ไม่กี่บาทเอง แต่ว่าเค้าอ่านเราได้ถูกหมดแม้กระทั่งบางเรื่อง
ที่แบบว่าไม่น่าถูกก็ดันถูกอีกด้วยแน่ะ แบบนี้เราว่า
เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง คงแล้วแต่คนจริงๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:22:27:52 น.  

 
เห็นด้วยครับ หมอดูที่เก่งคือคนที่มีจิตวิทยาเยี่ยม หรือมีสกิลนักสืบผู้สาวตรรกะอย่างมีหลักการ
ในหนังสือพิมพ์บางหมอก็พูดคลุมๆอ่านยังไงก็ตรง ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันศุกร์ มะรืนจะต้องเป็นวันเสาร์อย่างแน่นอน ...อะไรแบบนี้

แล้วก็เห็นด้วยว่าผู้หญิงชอบดูหมอ กับโหราศาสตร์คือเรื่องของสถิติ
อันที่จริงถ้าปัจจัยทุกอย่างถูกกำหนดขึ้นมาอย่างตายตัว เหมือนที่กลุ่มคนที่เชื่อว่า free will ไม่มีจริง ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงและส่งผลถึงกันจากอดีตถึงอนาคต แม้แต่การพิมพ์บล็อกนี้ก็ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่จักรวาลถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว การใช้ศาสตร์ทำนายความเป็นไปได้ของทุกอย่างก็เป็นไปได้ ถ้ามนุษย์เข้าใจวิธีการทำนายดวงและกลายเป็นวิทยาศาสตร์สมบูรณ์แล้วศาสตร์นี้อาจจะเหนือกว่าศาสตร์ไหนๆเท่าที่เคยมีมาก็ได้นะ


โดย: ชีริว วันที่: 6 มิถุนายน 2555 เวลา:7:51:53 น.  

 
อ๊ะชอบทีมเดียวกันอีกละ ผมเชียร์ฮอลแลนด์ตั้งแต่ปี 98 เพราะสีเสื้อสวย แถมปีนั้นเก่งซะด้วย เบิร์กแคมป์-โอเวอร์มารส์-ไครเวิร์ต สุดยอด เสียดายที่แพ้ลูกโทษบราซิลเฉียดฉิว
ฮอลแลนด์ช่วงหลังๆฟอร์มไม่เก่งเท่าไหร่ ยูโรหนก่อนรอบแรกสุดหรู แต่รอบ 8 ทีมดันแพ้รัสเซีย
บอลโลกที่ผ่านมาทรงบอลไม่สวยเลยครับ เน้นเอาความแน่นอนมากกว่า แล้วก็ไปได้ไกลจริงๆด้วย แต่ก็ยังแพ้รอบชิงซะอีก


โดย: ชีริว วันที่: 6 มิถุนายน 2555 เวลา:23:44:55 น.  

 

เพิ่งดูหมอ (ไพ่ยิปซี) ข้างบ้านเมื่อกี้
เพราะทักข้างบ้านว่าเป็นไรเนี่ย
ทำไมเหมือนคนนอนไม่หลับ
ชีก็เลยบอกว่าไม่รู้เมื่อคืนนอนไม่หลับ
พอดูไพ่ก็เลยบอกว่า
เนี่ยไม่เคยเอาพวงมาลัยไหว้ที่ทำงานเลยชิมิ
ชีก็เลยบอกว่าใช่
ก็เลยบอกว่าว่า
ณ BUT NOW ให้นำพวงมาลัยไปไหว้ที่ทำงาน
แล้วก็ให้ทำบุญกับน้ำด้วยการปล่อยปลาไหล
ปล่อยเต่าเป็นคู่แล้วทุกอย่างจะดี
คิดค่าดูเป็นกาแฟเย็น 1 แก้ว
(เฉพาะคนที่อยากดูให้)
จบเรื่องราวของหมอดูทะแม่งๆๆๆ อิอิอิ



โดย: อุ้มสี วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:7:53:27 น.  

 
ใช่เลยครับ หมอดูนี่ นักจิตวิทยาพื้นบ้านชัดๆ

เอิ้กๆ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:10:56:05 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โอ๋ อุ๊เองก็ไม่ค่อยได้มา
เพราะเที่ยวบ่อย 5555 เที่ยวบ่อย เลยไม่มีเวลามาหา

ยังไงก็คิดถึงเสมอค่ะ
เหนื่อยยังไงแค่ไหน ก็ต้องทนนะคะ
หลานเรายังไงก็ต้องเลี้ยงก็ดูกันต่อไปค่ะ

พี่โอคะ ไม่เคยมีแม่หมอคนไหนที่ไม่ถามก่อนที่จะพ่นค่ะ

เห็นถามทั้งนั้น แล้วจะไม่แม่นได้ไงกัน เอ้อ


โดย: maitip@kettip วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:16:34:52 น.  

 
คุณโอ๋พูดว่าหมอดูที่แบบว่าจริงจังต้องมีเรื่องสัมผัสที่หก
พูดแล้วเลยนึกได้เลยค่ะว่า ช่วงก่อนที่ไปดูไพ่ยิปซีนี่เค้าก็
เล่าให้ฟังเหมือนกันค่ะเรื่องนี้ เค้าบอกว่าเมื่อก่อนนี้
เค้าไม่เป็นนะค่ะ เรียกว่าก็ไม่มีความสามารถทางด้านการดูหมอ
อ่านไพ่เลยค่ะ แต่พอเกิดอุบัติเหตุ .. ใกล้ตายน่ะค่ะ
เค้าก็บอกว่าอยู่ๆ มันก็เหมือนว่ามีอะไรเกิดกับเค้าเองแล้วก็
มาเริ่มดูหมอจริงจัง ก็เลยเป็นแบบนี้ล่ะค่ะคือ มีองค์
แม่นและก็คนดูเยอะ

เสียดายเลยค่ะว่าเค้าหายไปหลังจากที่ห้างแบบว่าปรับปรุงซ่อมแซม
ไม่งั้นจะไปเยือนอีกครั้งค่ะ ...


โดย: JewNid วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:23:47:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

rosebay
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




เป็นเด็กผู้หญิงหน้าหมวยมาตั้งแต่เกิด
แต่ถือ Passport ไทย
เวลาไปไหนมาไหน
ตม.ก็คอยแต่จะมองหน้าสลับกับ Passport
พร้อมกับตั้งคำถามว่า ใช่คนไทยแน่เหรอ
แต่ที่แน่ ๆ พูดไทยคล่องปร๋อก็แล้วกัน
ภาษาอื่น อย่าถามนะ
[Add rosebay's blog to your web]