|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
19 ธันวาคม 2552
|
|
|
|
Home Made Lasagna
เนื่องจากเพิ่งไปถอย Pasta Machine มาเลยเห่อของใหม่ ทำ Home Made Lasagna กินดีกว่า
วัตถุดิบทั้งหลาย
Lasagna สูตรนี่้ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
1. Meat sauce 2. Bechamel sauce 3. Lasagna
ส่วนผสม Meat Sauce
เนื้อบด 3 pack (ประมาณ 700 g) มะเขือเทศ 20 ลูก (ประมาณ 1 กิโล) Tomato Paste 1 กระป๋องเล็ก หอมใหญ่สับ 2 หัว น้ำตาล white wine vinegar เกลือ พริกไทย Bay leaf Oregano Olive oil
ส่วนผสม Bechamel Sauce
แป้งอเนกประสงค์ 60 g เนย 60 g นม 600 ml เกลือ พริกไทย nutmeg
ส่วนผสม Lasagna
แป้งอเนกประสงค์ 250 g ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ (อาจใช้ไม่หมด ค่อยๆ ใส่) เกลือ 1/2 ช้อนชา Olive oil 1 ช้อนโต๊ะ
Mozzarella cheese สำหรับโรยระหว่างชั้น และโรยหน้า
เริ่มจากการทำตัว pasta กันก่อน
ร่อนแป้ง ใส่เกลือ ทำหลุมตรงกลาง ใส่ไข่ และน้ำมันมะกอกลงไป
ผสมทุกอย่างให้เข้ากันด้วย pastry cutter หรือส้อมก็ได้
ตอนนี้แป้งจะร่วนๆ อยู่ ค่อยๆ เติมน้ำลงไป ปริมาณน้ำอาจไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง บางครั้งใช้ไช่ฟองใหญ่ ก็เติมน้ำนิดเดียว ค่อยๆ ใส่จะดีที่สุด ดูว่าตัวแป้งรวมกันเป็นก้อนได้ก็พอแล้ว
เอาแป้งที่ได้มานวดต่อจนเนียน พับของแป้งด้านล่างเข้ามา ใช้สันมือกด แล้วหมุนแป้ง 90 องศา แล้วทำแบบเดิม เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ
พอเนียน ไม่ติดมือแล้ว ห่อพลาสติก พักแป้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง ระหว่างนี้ก็เร่ิมทำ Meat Sauce ได้
เร่ิมด้วยการสับหอมใหญ่ ใส่มากกว่า 2 ลูกก็ได้นะถ้าชอบ ซอสจะหวานขึ้นด้วย
ต่อด้วยมะเชือเทศ คว้านจุกตรงกลางมะเขือเทศออก แล้วหั่นหยาบๆ มะเขือเทศควรเลือกที่สีแดงๆ สุกๆ รสชาติจะเหมาะสำหรับการทำซอส ถ้างบประมาณเหลือเฟือจะใช้มะเขือเทศกระป๋องของอิตาลีก็ได้ รสชาติจะได้ออกมาแบบ original
จากนั้น เอาเข้าเครื่องปั่นโลด ประหยัดเวลาในการเคี่ยว หรือจะหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ ก็ได้ตามสะดวก
นำกระทะตั้งไฟ ใส่ olive oil พอน้ำมันร้อน ผัดหอมใหญ่จนใส นิ่ม
หอมสุกแล้วก็ใส่เนื้อบดลงไป ใช้ไฟแรงๆ หน่อย ผัดจนเนื้อสุก และเร่ิมเป็นสีน้ำตาล
จากนั้นก็ใส่มะเชือเทศปั่น Tomato paste Bay leaf Oregano ลงหม้อ ปิดฝา เคี่ยวไปปานกลางไปประมาณ 1 ชั่วโมง คนเป็นระยะๆ
ต่อด้วย Bechamel Sauce เร่ิมจากทำ White Roux เอาเนยใส่ sauce pan ตั้งไฟจนเดือด
ยกเนยออกจากเตา ใส่แป้งลงไปทีเดียวให้หมด แล้วรีบคน แป้งจะเป็นก้อนๆ ตอนแรก คนไปเรื่อยๆ มันจะเข้ากันเอง
นำไปตั้งไฟต่อ จนเดือด สีจะเร่ิมขาวขึ้น
ยกออกจากเตา ค่อยๆ รินนมใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ตอนแรกมันจะเป็นก้อนๆ หน่อย ค่อยๆ ใส่นมเพิ่ม แล้วคนมันก็จะเร่ิมเนียน
จากนั้นก็นำไปตั้งไฟต่อ คนตลอดเวลากันซอสไหม้ก้นหมือ ตั้งไฟจนซอสเร่ิมข้นขึ้นแปลว่าแป้งสุก ใช้เวลาประมาณสิบนาที ลองชิมดูก็ได้ ถ้ายังมีรสแป้งอยู่ก็ตั้งไฟต่อ สุกแล้วก็ปรุงรสด้วย เกลือ (ประมาณ 1 ช้อนชา) พริกไทย และ nutmeg (ไม่ชอบกลิ่น nutmeg จะไม่ใส่ก็ได้)
พักซอสไว้ คลุมด้วยพลาสติก แปะให้ติดกับตัวซอสเลยกันการเกิดผิวแห้งๆ ที่ซอส
ตอนนี้แป้งที่พักไว้ก็ได้ที่พอดี แบ่งเป็นสองส่วน จะได้รีดง่ายๆ หน่อย
จับแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วนำเข้าเครื่องรีดที่เบอร์ 1
จากนั้นก็พับมุมซ้าย ขวาเข้าหากัน
นำเข้าเครื่องรีดอีกครั้ง โดยให้ด้านที่เป็นรอยพับขนานไปกับตัวเครื่อง ทำซ้ำแบบนี้ประมาณ 5-6 ครั้ง จนเนื้อแป้งเนียน เหนียว
นำเข้าเครื่องรีดต่อให้แป้งบางขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ เพิ่มที่ละเบอร์ จนถึงเบอร์ 6
ตัดแผ่นแป้งให้ได้ขนาดของถาดที่จะอบ โรยแป้งกันไม่ให้แป้งติดกัน
นำแผ่น Lasagna ไปต้มในน้ำเดือดที่ใส่เกลือ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที ตักขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำ แล้วคลุกน้ำมันไม่ให้แป้งติดกัน อย่าใส่แป้งต้มทีละเยอะ ๆ แป้งจะติดกัน
กลับมาดู Meat Sauce กันบ้าง เคี่ยวได้ที่แล้ว ปรุงรสด้วย White wine vinegar (ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ) น้ำตาล (ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ) เกลือ (ประมาณ 3-4 ช้อนชา) ถ้าใช้มะเขือเทศกระป๋องของอิตาลีก็แทบไม่ต้องใส่น้ำตาล กับน้ำส้มเลย เพราะมะเชือเทศเค้าเปรี้ยวจัด และหวานกว่ามะเขือเทศบ้านเรา แต่เอาแบบประหยัด ใช้มะเขือเทศบ้านๆ ก็ได้ แล้วก็ปรุงรสเอา ซอส pasta สำเร็จรูป อ่านส่วนผสมดูเค้าก็ใส่น้ำส้มสายชูกันน้ำตาลกันทั้งนั้นแหละ ทำเองก็ได้ ไม่มีสารกันบูด ปลอดภัยกว่ากันเยอะ ดีต่อสุขภาพ
เตรียมส่วนผสมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มนำมาประกอบกันได้ อุ่นเตาอบไว้ที่ 200 C ทาถาดด้วยน้ำมัน
เรียงแป้ง ราดด้วย Meat sauce ทับด้วย Bechamel sauce แล้วโรย Mozzarella Cheese ทำสลับชั้นแบบนี้ไปประมาณ 4 ชั้น
ชั้นสุดท้ายปิดด้วยแป้ง โรยชีสเยอะๆ หน้าจะได้ไม่แห้งเวลาอบ หรือจะราด Meat Sauce อีกทีก็ได้
ปิดฟอยล์ ยัดเข้าเตา อบประมาณ 25 นาที แกะฟอยล์ออก อบต่อจนหน้าเกรียม (แต่ฟอยล์ที่บ้านหมด เลยอบมันทั้งยั้งงี้แหละ ออกมาแป้งชั้นบนเลยแห้งๆ)
จากนั้นก็กินได้เลย รีบตัดตอนเพิ่งออกจากเตา ไหลเยิ้มเลย ยังไม่ทัน set ตัวดี
ผ่านไป 2 นาที เกลี้ยงจาน แปลว่าสูตรนี้ผ่าน
ถ้าใครชอบแบบแห้งๆ ก็เคี่ยว Meat sauce ให้ค่อนข้างแห้งหน่อย เวลาอบจะได้ไม่มีน้ำเยิ้มๆ ออก วันนี้หิว เลยรีบทำ ปกติจะเคี่ยวนานกว่านี้
อันตอนเร่ิม set ตัว ชั้นจะสวยกว่าค่ะ เสิร์ฟพร้อมสลัดแก้เลี่ยน
Create Date : 19 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 20 ธันวาคม 2552 11:52:50 น. |
|
8 comments
|
Counter : 4180 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ตู่ IP: 61.90.16.201 วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:21:39:54 น. |
|
|
|
โดย: marabout วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:2:10:46 น. |
|
|
|
โดย: yanipa IP: 114.128.100.198 วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:10:04:15 น. |
|
|
|
โดย: may-indy วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:11:20:06 น. |
|
|
|
โดย: Navy Family วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:17:33:13 น. |
|
|
|
โดย: ooyporn วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:18:56:13 น. |
|
|
|
โดย: be bie IP: 203.156.36.29 วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:14:40:47 น. |
|
|
|
โดย: nooaew (badminton_aew ) วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:21:11:02 น. |
|
|
|
| |
|
|
dsmatty |
|
|
|
|
ที่เห็นเป็นจานแรก
ส่วนจานที่สองก็สภาพไม่ต่างกัน ^ ^