ผื่นคันในเด็กสาเหตุและวิธีป้องกัน
อาการผื่นคันในเด็กนั้นเป็นอีกปัญหาหนึ่งของลูกน้อยที่ทำให้คุณแม่ทั้งหลายต้องมาปวดหัวและรู้สึกเจ็บปวดไปกับลูกน้อยมาดูกันค่ะว่าผื่นคันในเด็กทารก หรือผื่นผ้าอ้อมนั้นมีสาเหตุจากอะไรบ้างและวิธีป้องกันอย่างไร
อาหารที่เด็กน้อยรับประทาน หรือแม้กระทั่งอาหารที่คุณแม่รับประทานในระหว่างให้นมบุตร ก็สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ในรูปแบบของผื่นคันและมักจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเด็กได้ค่ะ
ผื่นคันในเด็กนั้นสามารถทำให้ทั้งทารกและคุณแม่นอนไม่หลับและเครียดมาก ดังนั้น จึงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขทันที แต่แนวทางที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นการป้องกันเท่าที่จะสามารถทำได้
ฉะนั้น คุณแม่ทราบไหมคะว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นคันจนเป็นผื่นผ้าอ้อมในเด็กได้ เรารวบรวมสาเหตุที่ทำให้ก้นลูกน้อยของคุณต้องมาพบกับผื่นผ้าอ้อม รวมทั้งวิธีป้องกันที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้ด้วยค่ะ
1.ความเปียกชื้น
การปล่อยให้ผิวบริเวณก้นที่แสนจะบอบบางของลูกน้อยอยู่ในความชื้นเป็นเวลานานเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังจนเป็นผื่นคันได้
หากก้นของทารกสัมผัสกับความชื้นบ่อยและนานจนเกินไป เด็กจะเป็นผื่นคันเนื่องจากแอมโมเนียสารที่อยู่ในปัสสาวะและแม้กระทั่งเอนไซม์ที่พบในอุจจาระของทารกสามารถทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อมได้ ปัสสาวะปนกับอุจจาระเป็นส่วนผสมที่ไม่ดีต่อผิวหนังลูกน้อยของคุณเลยค่ะ
การป้องกัน : วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันผื่นคันในทารกและรักษาผื่นผ้าอ้อม คือ การดูแลผิวของลูกน้อยให้แห้งและสะอาดที่สุด
คุณแม่ต้องเลือกผ้าอ้อมให้ลูกน้อยโดยพิจารณาว่าผ้าอ้อมสามารถดูดซับความเปียกชื้นได้ดีจากผิวของลูกน้อย เพื่อที่ลูกน้อยจะได้ไม่ต้องอยู่กับความอับชื้นนานเกินไป ต้องดูว่าผ้าอ้อมสามารถดูดซับความอับชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ผ้าอ้อมที่ดีควรมีระบบรองรับความเปียกชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ความไวของผิว
ทารกมีผิวที่บอบบางมากอยู่แล้ว ซึ่งอาจมีปฏิกิริยาต่อต้านสิ่งที่มากระทบ เนื้อผ้าและสารเคมี อาจก่อให้เกิดผดผื่นในทารกได้ในบางครั้ง
การป้องกันผดผื่นแดงในเด็ก คุณแม่ควรตรวจสอบรายการส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ก่อนให้สัมผัสกับผิวลูกน้อยของคุณอยู่เสมอ ควรเลือกผ้าอ้อมที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติและปราศจากสบู่ น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ และยังต้องปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่ายของเด็กทารกอีกด้วย
และสิ่งสำคัญ อย่าลืมดูแลผิวลูกน้อยอย่างระมัดระวังและอ่อนโยนเสมอนะคะ อย่าขัดถูผิวของลูก ให้ใช้วิธีซับให้แห้งเท่านั้น เนื่องจากแรงเสียดสีอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ค่ะ
3. การให้ลูกเริ่มรับประทานอาหารชนิดใหม่
ส่ิงที่ลูกน้อยของคุณรับประทานอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ได้ เพราะในอุจจาระมีเอนไซม์จากอาหารที่อาจทำให้ก้นของทารกระคายเคืองและเป็นผื่นคันได้
การป้องกัน : วิธีที่ดีที่สุด คือ การปรึกษากุมารแพทย์ของคุณอย่างสม่ำเสมอเรื่องอาหารที่จะให้ลูกรับประทาน โดยเฉพาะหากลูกน้อยของคุณเพิ่งจะเริ่มรับประทานอาหารเสริม นอกจากนี้ คุณยังต้องคอยสังเกตปฏิกิริยาแพ้อาหาร ดูว่าลูกจะมีผื่นผิวหนังหรือไม่ แล้วบันทึกข้อมูลไว้เมื่อให้ลูกรับประทานอาหารชนิดใดบ้างเป็นครั้งแรก
4. ผ้าอ้อมที่แน่นเกินไป
ผ้าอ้อมที่คับแน่น เล็กเกินไปทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัว และเนื่องจากผ้าอ้อมคับแน่นเกินไป จึงไม่ค่อยมีพื้นที่ให้อากาศถ่ายเททำให้ผิวไม่แห้งอับชื้น นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่วัสดุจะเสียดสีกับก้นของทารกหรือรัดผิวแน่น ทำให้เกิดการระคายเคืองและผื่นคันในเด็ก
การป้องกัน : ต้องแน่ใจว่าคุณได้เลือกผ้าอ้อมมีขนาดที่พอดีตัวลูกน้อยไม่แน่นจนเกินไป โดยเลือกผ้าอ้อมที่มีแถบยางยืดทำจากวัสดุที่นุ่ม ซึ่งจะช่วยห่อผ้าอ้อมอย่างนุ่มนวลรอบเอวเจ้าตัวน้อยของคุณ
5. ยารักษา
ยารักษาปฏิชีวนะสามารถฆ่าแบคทีเรียชนิดดีที่ปกป้องผิวลูกน้อยของคุณ ทำให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีและเชื้อราเติบโต ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคเชื้อราหรือผื่นผ้าอ้อมได้ค่ะ
การป้องกันผื่นคันและผื่นผ้าอ้อมในทารก : หากลูกหรือคุณแม่ที่ให้นมต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ งานวิจัยของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยน็อตติ้งแฮมแนะนำว่าควรให้ก้นของทารกมีอากาศถ่ายเท การให้บริเวณดังกล่าวสัมผัสกับอากาศจะช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีและจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ เติบโต
อีกทั้งการเลือกผ้าอ้อมที่มีอากาศถ่ายเทก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันค่ะ ผ้าอ้อมที่ไม่มีอากาศถ่ายเทจะไม่ยอมให้อากาศผ่านเข้าไปและกักเก็บความชื้นเอาไว้ สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้อาการผื่นคันแย่ลง และในที่สุด ผื่นอาจแพร่ไปยังบริเวณท้องและสะโพกของลูกน้อยได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผื่นในเด็ก ผื่นผ้าอ้อมได้ที่เว็บไซต์ Huggies
อันนี้เป็นบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำความสะอาดให้กับผิวของลูกน้อย เพื่อลดผื่นค่ะ สำหรับใครที่บ้าน มีเจ้าตัวน้อย หรือเด็กๆอยู่ แล้วมีอาการผื่น ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ