5 วิธีตกแต่งบ้านในช่วงหน้าร้อน วิธีตกแต่งบ้านในช่วงหน้าร้อน เริ่มมาถึงเดือน เมษายนของทุกปีอีกแล้ว ความร้อนเริ่มมาเยือนยิ่งในแต่ละปีนะครับ ร้อนขึ้นทุกปีๆไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือป่าว แต่ว่าร้อนขึ้นจริงๆ จำได้ว่าสมัยก่อนกรุงเทพฯตอนที่ยังเป็นสวน เป็นคลองอยู่เลยนั้นอากาศไม่ร้อนขนาดนี้เลยนะครับถ้าอากาศร้อนมากๆ เราก็แค่เข้าไปในสวนนอนใต้ต้นไม้ก็หลับสบายละปัจจุบันนี้ไม่ได้ละ หาต้นไม้ยังยากเลย ไหนจะฝุ่นควันรถอีก อยู่ยากครับ ทุกวันนี้ผมก็บ่นกันไปไกลละ สำหรับวันนี้ผมอยากมาแชร์ วิธีการตกแต่งบ้านในช่วงหน้าร้อนนี้ให้หน้าอยู่ช่วงลดความร้อนได้บ้าง และยังช่วยเราประหยัดค่าไฟได้อีกนะครับ ไปดูกันเลย ตกแต่งบ้านคลายร้อน 1.อันดับแรกเลยง่ายๆหน้าต่างเราถ้าหันไปทางพระอาทิตย์รับรองได้ร้อนมาก ควรติดผ้าม่านบังแสงบางๆ หรือกันสาดหรือไม้ระแนงแผงกันบังแดง ไว้บริเวณหน้าต่าง เพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้ส่องเข้ามาในบ้าน 2.ตอนกลางวันอันนี้ก็สำคัญเลย ไม่ควรเปิดหน้าต่างทึ้งไว้เวลาไม่อยู่บ้านเนื่องจากว่าบ้านจะสะสมความร้อนจากไอความร้อน และแสงแดดที่เข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้บ้านจะปล่อยความร้อนออกมา 3.สีผนังห้อง ถ้าจำเป็นต้องทาสีใหม่ ควรเลือกเป็นสีโทนอ่อน อย่างเช่นขาว ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน ครีมอ่อน เขียวอ่อน เพื่อเป็นการลดการสะสมความร้อนได้อีกวิธีหนึ่ง 4.ควรมีบ่อน้ำ ตกแต่งบ้าน ด้วยน้ำ เช่นน้ำตก น้ำพุหิน บ่อน้ำเลี้ยงปลาบ้าง น้ำช่วยให้บ้านเย็นขึ้น และยังทำให้บ้านดูสวยงามทำให้เจ้าของบ้านมีกิจกรรมยามว่างสำหรับพักผ่อนในวันหยุด 5.ปลูกต้นไม้ขนาดเล็กและใหญ่ เพิ่มเติมในสวนบ้านเราเนื่องจากว่าต้นไม้จะเป็นตัวช่วงบังแสง และในตอนกลางวันยังปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมาทำให้อากาศสดชื่น หรือปลูกต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ ไว้รอบๆ บริเวณบ้านก็เป็นการตกแต่งบ้านที่ดูสวยงามอากาศสดชื่น เจริญหูเจริญตาขึ้นด้วย จริงๆแล้วยังมีอีกหลายวิธีตกแต่งบ้านคลายร้อนให้บ้านหน้าอยู่ขึ้นอีกทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานถ้าบ้านเราเย็นขึ้นคงเปิดพัดลม หรือแอร์น้อยลงการตกแต่งบ้านให้ลดความร้อนได้นั้น สิ่งสำคัญก็คือพยายาม เก็บบ้านทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เก็บบ้านให้เป็นระเบียบ แค่นี้บ้านก็เย็นขึ้นบ้างแล้วครับโอกาศหน้าผมจะมีเรื่องไอเดียแต่งบ้านแบบไหนมาเขียนอีกรบกวนติดตามกันด้วยนะครับขอบคุณครับ ขอบคุณที่มาจาก //www.sherasolution.com |
สมาชิกหมายเลข 777799
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |