ในยุคที่เชื้อโรคและไวรัสยังคงเป็นภัยเงียบ เครื่องอบโอโซน จึงได้รับความนิยมทั้งในบ้าน รถยนต์ และธุรกิจบริการ บทความนี้จะพาไปดูความต่างระหว่าง Master Ozone (ผ่านการทดสอบโดย Intertek UK) กับเครื่องโอโซนทั่วไป ว่ารุ่นไหน ฆ่าเชื้อได้ดีกว่า และคุ้มค่าสำหรับคุณ
เครื่องอบโอโซน คืออะไร?
เครื่องอบโอโซน (ozone generator) หรือที่หลายคนเรียก เครื่องผลิตโอโซน / เครื่องทำโอโซน เป็นอุปกรณ์ที่สร้างก๊าซโอโซน (O3) ซึ่งมีคุณสมบัติออกซิไดซ์สูง สามารถทำลายไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วย กำจัดกลิ่น เช่น กลิ่นอับชื้น กลิ่นบุหรี่ และกลิ่นอาหาร
การใช้งานที่พบบ่อย
- ภายในบ้านและสำนักงาน: ฆ่าเชื้อพื้นที่ปิด ห้องนอน ห้องประชุม
- ยานพาหนะ: ใช้เป็น เครื่องอบโอโซนรถยนต์ เพื่อลดเชื้อและกลิ่น
- ธุรกิจบริการ: โรงแรม ร้านอาหาร ฟิตเนส สปา เพื่อคุณภาพอากาศและความมั่นใจของลูกค้า
จุดเด่นของ Master Ozone
1) ผ่านการทดสอบจาก Intertek UK
เป็น เครื่องโอโซนฆ่าเชื้อ ที่ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการมาตรฐานสากลของ Intertek UK ยืนยันประสิทธิภาพการทำลายเชื้อโรคได้จริงและสม่ำเสมอ
2) ความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
โครงสร้างและระบบทำงานถูกออกแบบตามแนวทางความปลอดภัย เมื่อใช้งานตามคู่มือจะไม่ทิ้งสารตกค้างอันตราย และสามารถระบายอากาศกลับสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็วหลังจบรอบอบ
3) ฟังก์ชันทันสมัย ใช้งานง่าย
- ตั้งเวลาอัตโนมัติ
- ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
- เหมาะทั้งบ้าน ธุรกิจ และงานกำจัดกลิ่นเชิงพาณิชย์
ข้อจำกัดของเครื่องโอโซนทั่วไป
- หลายรุ่นไม่มีผลทดสอบจากห้องแล็บที่เป็นที่ยอมรับ
- ประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อไม่สม่ำเสมอและวัดผลยาก
- มาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพวัสดุแตกต่างกันมากตามผู้ผลิต
- การกำจัดกลิ่นอาจครอบคลุมน้อยกว่าในพื้นที่ใหญ่หรือกลิ่นหนัก
เปรียบเทียบ Master Ozone vs เครื่องโอโซนทั่วไป
| คุณสมบัติ | Master Ozone | เครื่องโอโซนทั่วไป |
| การรับรองมาตรฐาน | ทดสอบโดย Intertek UK | ส่วนใหญ่ไม่มี/ไม่ชัดเจน |
| ประสิทธิภาพฆ่าเชื้อ | สม่ำเสมอและยืนยันผลจากแล็บ | ขึ้นกับรุ่น ไม่การันตีผล |
| ฟังก์ชัน | ตั้งเวลาอัตโนมัติ ดีไซน์กะทัดรัด | พื้นฐาน บางรุ่นปรับตั้งได้น้อย |
| ความปลอดภัย | ออกแบบตามแนวทางความปลอดภัย/มีคู่มือชัดเจน | แตกต่างกัน ขึ้นกับผู้ผลิต |
| การกำจัดกลิ่น | ครอบคลุมกลิ่นอับ บุหรี่ อาหาร ได้มีประสิทธิภาพ | ผลลัพธ์แปรผันในพื้นที่กว้าง/กลิ่นหนัก |
สรุป: รุ่นไหนฆ่าเชื้อได้ดีกว่า?
เมื่อเปรียบเทียบทุกมิติ Master Ozone เด่นกว่าอย่างชัดเจนทั้งด้านมาตรฐานการทดสอบ ความปลอดภัย และผลลัพธ์การฆ่าเชื้อ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการยับยั้งเชื้อและการ กำจัดกลิ่น ในบ้าน รถยนต์ และธุรกิจบริการ