|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
การดูแลผู้ที่กำลังจะสิ้นใจ
เมื่อบุคคลอันเป็นที่รักของเรากำลังจะจากไป
หากว่าก่อนหน้านั้นเราได้ดูแลเขาอย่างดีที่สุดแล้ว
และมิอาจกระทำอันใดเพื่อขัดขวางมัจจุราชได้อีก
คงไม่มีสิ่งใดจะดีไปกว่า การทำใจยอมรับสภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในอนาคตอันใกล้ ทว่า อาจมีบางสิ่งที่เราอาจพอจะทำได้
เพื่อผู้ที่กำลังจากไปและอาจเป็นสิ่งสุดท้าย นั่นคือ
การทำให้ผู้นั้นจากไปโดยมีสุคติเป็นที่หมาย
ท่านพุทธทาสเรียกง่าย ๆ ว่า "ศิลปะแห่งการตาย"
ซึ่งหากผู้ที่กำลังจะตายสามารถทำได้ด้วยตนเอง
ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากเขายังไม่พร้อม
ท่านพุทธทาสก็ได้แนะวิธีที่ทำให้ผู้นั้นจากไปอย่างสงบ
หัวใจสำคัญก็คือการทำให้ผู้ที่ใกล้จะตายรู้สึกว่า
"ไม่มีอะไรควรเอา ไม่มีอะไรควรเป็น ไม่มีอะไรควรมี "
ไม่ว่า ร่างกาย ครอบครัว ทรัพย์สิน ฯ ท่านพุทธทาสกล่าวว่า
จิตของคนใกล้ตายที่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องนั้น
อาจเข้าสู่ภาวะนิพพานได้เพราะสภาวะจิตของคนใกล้ตายนั้น
มีแนวโน้มปล่อยวางง่ายกว่าสภาวะจิตของคนปกติ
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจใช้ได้กับบางคน
ที่เคยฝึกคิดแบบนี้มาบ้างและมีสภาพพอจะรับรู้ได้ในขณะนั้น
แต่ถ้าผู้นั้นไม่เคยฝึกมาก่อน หรือมีกำลังสติอ่อน
ผมคิดว่าแนวคำสอนของ พระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ)
ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง ข้อแนะนำของท่านก็คือ
1.ถ้าป่วยใหม่ ๆ หลวงพ่อท่านแนะนำให้นำพระพุทธรูป ผ้าไตร จีวร
พร้อมอาหารและของใช้ที่จำเป็น นำไปให้ผู้ป่วยเห็น
และให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า
"ของทั้งหมดนี้ ขอถวายเป็นสังฆทานแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลทั้งหมดนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วย
ได้อนุโมทนาและอโหสิกรรมให้ผู้ป่วยด้วย"
แล้วให้ญาตินำของทั้งหมดไปถวายพระเป็นสังฆทาน
จิตใจของผู้ป่วยจะได้สบายเพราะได้เห็นพระพุทธรูปและได้ทำบุญ
2.ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีก ก็ควรนำเงินจะมากหรือน้อยตามแต่ศรัทธา
ให้ผู้ป่วยถือเงินไว้และให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า
"เงินจำนวนนี้ ขอถวายชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ถ้าเคยไปหยิบของสงฆ์หรือนำของสงฆ์มาโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม"
3.ในระหว่างที่นอนป่วยอยู่ ควรนำพระพุทธรูปมาตั้งไว้ให้ผู้ป่วย
ได้มองเห็น อย่าไปตั้งไว้ในที่ผู้ป่วยเห็นไม่ถนัด
ผู้ป่วยลืมตาขึ้นมาเมื่อใดก็จะเห็นพระทันที
จิตของผู้ป่วยจะได้จับอยู่ที่พระ ใจจะสบาย
ช่วยให้คลายจากทุกขเวทนาได้บ้าง
และถ้าตายเมื่อใดจะได้ไม่ลงอบายภูมิ
4.คำภาวนามีส่วนช่วยได้มาก อาทิ "นิพพานัง สุขัง" หรือ "พุทโธ"
ให้บอกสั้น ๆ อย่าบอกยาว
5.ถ้าผู้ป่วยภาวนาไม่ไหว ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้
หรือจะนึกถึงพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ได้
อย่าไปแนะนำยาว ๆ เพราะเวลานั้นทุกขเวทนามาก
จะทำให้กลุ้ม ดีไม่ดี จิตใจเขาดีอยู่แล้ว ถ้าแนะนำไม่ดี พูดมากไป
เขาจะกลุ้ม จะทำให้ลงอบายไป
ให้ดูตาคนป่วย ถ้าตาลอย ๆ ปรือ ๆ อย่าไปพูดมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานั้นคนรอบข้างก็เพียงช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น
ถึงที่สุดทุกคนก็ต้องพึ่งตนเองทั้งสิ้น ผมเคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน
กับคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องบุญ บาป นรก สวรรค์
แต่ครั้นรู้ว่าตนเองป่วยเป็นโรคร้ายหรือต้องตายแน่นอน
ก็ชักกระวนกระวายหรือเริ่มจะลังเลว่า มันอาจจะมีก็ได้
แต่อกุศลกรรมที่เคยทำมามันสะสมจนยกจิตไม่ขึ้น
มีนายแพทย์บางท่าน เคยกล่าวว่า สภาพคนใกล้ตายนั้น
แทบจะไม่สามารถควบคุมความคิดได้เลย ภาพความทรงจำในอดีต
จะผุดขึ้นมาราวกับกำลังชมภาพยนต์ยังไงยังงั้น
ปัญหาก็คือ เราไม่รู้ว่าจังหวะที่เราตายนั้น มันตายตอนเห็นภาพไหน
ถ้าเป็นภาพที่เกี่ยวกับอกุศล ภพแห่งอบายภูมิก็คงรอเราอยู่
ท่านอาจารย์ดูล อตุโล พระอาจารย์ฝ่ายอรัญวาสี เคยกล่าวว่า
การปฏิบัติธรรมทั้งหมดที่บำเพ็ญมานั้นก็เพียงเพื่อชั่วพริบตา
ก่อนที่จะหลับตาละสังขารในขณะนั้นเท่านั้น
Create Date : 14 กันยายน 2552 |
Last Update : 24 มิถุนายน 2556 21:30:32 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1907 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อัสติสะ วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:8:48:04 น. |
|
|
|
โดย: tempopo วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:9:04:53 น. |
|
|
|
โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:13:23:36 น. |
|
|
|
โดย: ภิมย์ IP: 125.26.82.215 วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:20:37:57 น. |
|
|
|
โดย: อรัญน้อย IP: 118.173.186.116 วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:20:30:39 น. |
|
|
|
โดย: คนคนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือ IP: 27.55.128.151 วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:22:20:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|