Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
22 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
กระถางธูปสามขา กับ สมดุลแห่งอำนาจ






ตอนที่ผมยังเป็นเด็กนั้น จำได้ว่าผมเป็นคนที่เบื่อการไปไหว้เจ้ามาก

โดยเฉพาะ ถ้าต้องไปไหว้เจ้าที่โรงเจ เหตุผลก็คือ

ความหลากหลายในการจัดวางภัตตาหาร

และผลไม้ให้เหมาะกับเจ้าแต่ละองค์

จัดผิดโต๊ะ ผิดที่ ถ้าผู้ใหญ่รู้เข้า โดนบ่นหูชาแน่

ความยากอีกอย่างหนึ่งก็คือ การจุดธูปไหว้เจ้า

เพราะการไหว้เจ้าแต่ละองค์ ใช้จำนวนธูปแตกต่างกันไป

และที่สำคัญ กระถางธูปในโรงเจก็มีขาสูงกว่า

กระถางธูปตามวัด ทำให้เด็ก ๆ อย่างผม ปักธูปยาก

บางทีต้องตะกายขึ้นไป จนอดคิดไม่ได้ว่า

"ทำไมกระถางธูปถึงต้องมีขาด้วย"

การไหว้เจ้าตอนเด็กจึงเป็นสิ่งที่เหนื่อยเอาเรื่องทีเดียว

แล้วก็อดเปรียบเทียบไม่ได้ว่า ไหว้พระตามวัด เหนื่อยน้อยกว่า

เพราะกระถางธูปขาไม่สูงหรือบางที กระถางธูปก็ไม่มีขา

สำหรับผม กระถางธูปสามขา จึงเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของโรงเจ

และเป็นสัญลักษณ์ของความเหนื่อยยากในตอนเด็ก

แต่สัญลักษณ์ที่ว่านี้ กลับซุกซ่อนภูมิปัญญาอันล้ำลึกเอาไว้ด้วย

................................................................

ครับ เอกลักษณ์ของกระถางธูปจีนนั้น คือ

การมีเพียงสามขาเท่านั้น

และแต่ละขา ต่างก็อยู่ในมุมที่เหมาะสม ทำให้เกิดความสมดุล

กระถางธูปสามขา ไม่เพียงปรากฎอยู่ตามศาลเจ้าเท่านั้น

แต่ยังพบเห็นได้ที่ ศาลบรรพชน หรือ

ปราสาทพระเทพบิดรประจำราชวงศ์ในจีนยุคโบราณ

ข้อมูล จากหนังสือ "สกัดจุดยุทธจักรมังกรหยก"

เขียนโดย อ.ถาวร สิกขโกศล

กล่าวถึงกระถางธูปสามขาว่า ในภาษาจีนกลาง อ่านว่า " ติ่ง "

ถือเป็นเครื่องหมายของการตั้งราชวงศ์

และการมีอำนาจทางการเมือง

และคำว่า ติ่ง นี้เป็นคำเดียวกับ คำว่า " ลูติ่งจี้ "

ซึ่งเป็นชื่อในภาษาจีนกลางของ

วรรณกรรมกำลังภายในที่โด่งดังเรื่องหนึ่ง

นั่นคือเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ ตัวเอกของเรื่อง คือ อุ้ยเสี่ยวป้อนั้น

ไม่ค่อยจะมีบุคลิกภาพของพระเอกมากนัก วิทยายุทธ์ไม่สูงส่ง

ชอบอบายมุข ลักขโมย เจ้าเล่ห์ ฉ้อโกง โกหกสารพัด

แต่ภายหลัง อุ้ยเสี่ยวป้อกลับเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจเป็นอย่างยิ่ง

เขาคือผู้กุมอำนาจทั้งในราชสำนักและในพรรคฟ้าดิน

ซึ่งเป็นองค์กรใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด





ได้รับความไว้วางใจทั้งจากคังซีฮ่องเต้ และ ประมุขพรรคฟ้าดิน

สถานะของอุ้ยเสี่ยวป้อ จึงเพียบพร้อมทั้ง

อำนาจ ความมั่งคั่ง ชื่อเสียงเกียรติยศ

แต่ความเป็นจริงก็คือ ทั้งพรรคฟ้าดินและราชสำนักเป็นศัตรูกัน

ชนิดผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ

การที่อุ้ยเสี่ยวป้อกุมอำนาจในสองสถาบันที่ยิ่งใหญ่

จึงนำมาซึ่งความขัดแย้งเป็นอย่างสูง

ทั้งต่ออุ้ยเสี่ยวป้อเองและต่อสถาบันทั้งสอง

เพราะคังซีฮ่องเต้เป็นสหายคนสำคัญ

ส่วนประมุขพรรคฟ้าดิน...ก็เป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขา

แต่อุ้ยเสี่ยวป้อก็พยายามที่จะรักษาสมดุลเอาไว้ให้ดีที่สุด

บั้นปลายเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อสละอำนาจ

ทั้งฝ่ายราชสำนักและพรรคฟ้าดิน

กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับบรรดาหวานใจของเขา

ครับ นี่คือเนื้อเรื่องย่อของเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อ

แต่สิ่งที่ผมเห็นจากเนื้อเรื่องก็คือ

หากชีวิตอุ้ยเสี่ยวป้อเปรียบเหมือนกระถางธูปสามขา

ขาที่รองรับอำนาจเอาไว้มันโตเกินไป และมันได้ไปเบียดเอาขาอื่น ๆ

จนกระถางธูปเริ่มเสียสมดุล ดีที่อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นคนฉลาด

เขาจัดการจำกัดอำนาจตนเองโดยไม่รอให้กระถางธูปล้มเสียก่อน

................................................................

เรื่องที่เกี่ยวกับกระถางธูปสามขายังมีอีก นั่นคือ ซีรี่ส์ดังจากเกาหลี

เรื่อง "อิมซังอ๊ก ยอดพ่อค้า" เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่โดนใจผมมาก

ตัวเอกเป็นพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง บนฐานคติที่ว่า

การค้าคือ "การได้ใจของลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่การได้กำไร"





อิมซังอ๊กจึงได้ใช้หลักการนี้เฉลี่ยความสุข

ให้แก่คนรอบข้างเขาและคนในสังคม

กระทั่งราชสำนักเห็นความสามารถ

แต่งตั้งให้เป็นขุนนางเพื่อให้ไปแก้ปัญหาบ้านเมือง

ในที่สุด อิมซังอ๊ก ก็กลายเป็นทั้งพ่อค้าที่มั่งคั่งที่สุด

และขุนนางที่ทรงอำนาจที่สุด

แต่ด้วยปริศนาที่อาจารย์ผู้เป็นบรรพชิตทิ้งเอาไว้ก่อนตาย

นั่นคือ...กระถางธูปสามขา ทำให้อิมซังอ๊ก

เฝ้าเพียรแสวงหาความหมายตลอดมา

จนกระทั่งคนรู้จักของเขามาอธิบายถึง

ความหมายของกระถางธูปสามขาว่า

มันหมายถึง ขาแห่งอำนาจ ขาแห่งความมั่งคั่ง

และขาแห่งศรัทธาและความนิยม

อิมซังอ๊ก จึงได้เข้าใจถึงความหมายที่อาจารย์ตั้งใจจะบอกเขา

อำนาจ ความมั่งคั่ง ศรัทธา เป็นสภาวะที่ควรแยกกันอยู่

โดยไม่ก้าวล่วงไปอีกขา และทำหน้าที่ตามที่มันเป็น

ซึ่งจะทำให้เกิดความสมดุล

หาก อำนาจ ความมั่งคั่ง ศรัทธา มารวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ย่อมเป็นเช่นกระถางธูปสามขา ที่แต่ละขามารวมกันเป็นขาเดียวกัน

ในที่สุดมันก็จะเสียสมดุล และล้มลง

ด้วยเหตุนี้ อิมซังอ๊กจึงได้สละตำแหน่งขุนนาง

กลับไปเป็นพ่อค้าธรรมดาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเป็นมาแต่เดิม

แน่นอน คนรอบข้างเขาย่อมไม่เห็นด้วย

แต่เขาก็อธิบายว่า วันนี้...เขาเป็นเพียงพ่อค้า

เขาสามารถควบคุมตนเองได้

แต่หากเขามีพร้อมทั้ง อำนาจ ความมั่งคั่ง

และความศรัทธาจากคนทั่วไป

ไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า เขายังจะเป็นอิมซังอ๊กคนเดิมหรือไม่

ข้อสรุปของอิมซังอ๊กก็คือ

เขากลัวสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองมากกว่ากลัวสูญเสียอำนาจ

................................................................

สัญลักษณ์กระถางธูปสามขา

จึงมีนัยยะที่ลึกซึ้งมากกว่าการเอาไว้ปักธูป

ผมเชื่อว่า มันอธิบายปรากฏการณ์หลายอย่าง

เกี่ยวกับการเมืองไทยได้...โดยเฉพาะ

การอธิบายความล้มเหลวของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ถ้าอาศัยแนวคิดเรื่องกระถางธูปสามขา

ก็สามารถอธิบายได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ

พยายามรวบขาแห่งอำนาจ ขาแห่งความมั่งคั่ง

และขาแห่งศรัทธาและความนิยม เข้าด้วยกัน

จนกลายเป็นขาเดียวกัน ซึ่งสำเร็จเสียด้วย

แต่ผลก็คือ มันเกิดการเสียสมดุล

เมื่อประกอบกับ พื้นที่รองรับกระถางธูปมันไม่ค่อยจะราบเรียบนัก

ผลก็คือ ตั้งอยู่ได้ไม่นาน และในที่สุดก็ล้มลง

ปัญหาก็คือ กระถางธูปของพ.ต.ท.ทักษิณ มันมีขนาดใหญ่มาก

การล้มของมันจึงมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสังคมไทย

................................................................







Create Date : 22 มิถุนายน 2556
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2556 23:14:55 น. 0 comments
Counter : 4202 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ART19
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]





ความเสมอภาคที่แท้จริง คือ
การที่ทุกคนต้องมีหน้าที่
การทำหน้าที่ของตนเอง
จะเป็นสิ่งที่กำหนดว่า
เราควรได้รับอะไร แค่ไหน
Friends' blogs
[Add ART19's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.